เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 879 เรื่องมงคลมาเยือนต่อเนื่อง / ตอนที่ 880 มองดูลูกชายโง่เง่าแล้วอายุสั้น
- Home
- เพราะรักสลักใจ
- ตอนที่ 879 เรื่องมงคลมาเยือนต่อเนื่อง / ตอนที่ 880 มองดูลูกชายโง่เง่าแล้วอายุสั้น
ตอนที่ 879 เรื่องมงคลมาเยือนต่อเนื่อง
สุดท้ายลูกศิษย์ที่ส่งมาก็มิใช่ลูกศิษย์ธรรมดาแต่เป็นศิษย์เอก ศิษย์ก้นกุฎิสืบทอดบาตรไตรจีวร ถึงขั้นมีอาจารย์ผู้อาวุโสของสำนักมาด้วยตนเอง
เดิมทีล้วนเป็นวิชามรดกตกทอด ทุกคนต่างปิดผนึกไว้แน่นหนา ทว่าเห็นพวกซูเซียงเดินหน้าไม่ยึดติด ขอรับคำสอนอย่างถ่อมตน ห่วงใยเพื่อนมนุษย์ ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็อดมิได้ที่จะแอบปาดน้ำตา บอกว่าตัวเองอายุเยอะปูนนี้แล้วยังใจกว้างสู้ผู้อื่นเป็นดรุณีน้อยคนหนึ่งไม่ได้ น่าละอาย!
ต่อมาก็ทยอยนำวิธีการและข้อมูลล้ำค่าที่แต่ละตระกูล แต่ละสำนักบ่มเพาะมาอย่างดีออกมาร่วมสมทบ ให้ทุกคนร่วมวิจัยศึกษาด้วยกัน
ระบบที่ซูเซียงใช้ก็คือระบบแยกสาขาเฉพาะทาง หากท่านต้องการรักษากระดูกก็ศึกษาเวชกรรมกระดูก ต้องการรักษาอายุกรรมก็เรียนอายุรศาสตร์ ไม่ผสมปนเปกัน ไม่อย่างนั้นแม้มีความรู้มาก ทว่าท่านไม่ถนัดสักด้าน เกิดเจอโรคหายากอะไรขึ้นมาจริงท่านก็คงจับต้นชนปลายไม่ถูก รักษาไม่หายแล้วผู้อื่นยังพูดว่าท่านไม่มีจรรยาบรรณแพทย์จงใจทำคนตาย เช่นนั้นไปพบท่านยมบาลแล้วก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจนตาย
แผนงานชุดนี้ของซูเซียง ตอนแรกเริ่มทุกคนยังวางตัวเป็นกลางแต่สุดท้ายก็ได้รับการพิสูจน์ผ่านการปฏิบัติจริงครั้งแล้วครั้งเล่า บัดนี้ซูเซียงจัดตั้งแผนกเฉพาะทางแห่งแรกขึ้น ไม่นานอาจมีแผนกกระดูกและแผนกวิจัยอื่นๆ ตามมา
วันนี้สำนักวิจัยโรคหัวใจของพวกเขาจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านราษฎรดีขึ้นล้วนซาบซึ้งน้ำใจของพวกซูเซียง และมีหลายคนที่ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือทางสังคมและตัวเองก็ได้รับการช่วยชีวิต ต่างทยอยกันมาอวยพรให้ซูเซียง แพรแดงผืนใหญ่ ผ้าลายดอกผืนกว้าง ประทัดชุดใหญ่ จุดโคมไฟเชิดระบำสิงโต ครึกครื้นรื่นเริง
“ฉุนเอ๋อร์อยากกินอะไร ให้ท่านพ่อซื้อให้เจ้าหมดเลยดีไหม?” ซูเซียงแซวเด็กน้อยที่อุ้มอยู่ในมือจ้าวเซิง
แม้ลูกแยกจากพวกเขาสองสามีภรรยาไปตั้งแต่แรกเกิด ทว่าเด็กไม่เขินอายคนแปลกหน้าแม้แต่น้อย น่ารักว่านอนสอนง่ายอย่างยิ่ง คำก็เรียกท่านพ่อ คำก็เรียกท่านแม่ ยังมีท่านย่าอีก ทำเอาหัวใจคนอ่อนยวบ
โดยเฉพาะช่วงนี้ กระพรวนน้อยไม่ติดหนึบกับชิงสือแล้ว ทั้งวันเอาแต่เล่นกับน้องชายคนนี้ไม่ยอมปล่อยมือ ทำเอาชิงสือสีหน้ามืดครึ้มไปหลายวัน สิ่งนี้ทำให้คู่สามีภรรยาจับสังเกตเห็นอ ที่จริงจ้าวเซิงไม่ค่อยพอใจนัก รู้สึกว่าฐานะชิงสือต้อยต่ำไปหน่อย
ซูเซียงจึงถามว่า “ความสุขของลูกสำคัญกว่าหรือหน้าตาสำคัญกว่า?”
ต่อมาจ้าวเซิงก็เป็นใบ้ไปเสียดื้อๆ สองสามีภรรยาเองก็ปรึกษากันแล้วว่าลูกยังเด็ก ค่อยๆดูกันไปก่อน ไม่ต่อต้านและมิได้สนับสนุนชัดเจนเปิดเผย ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตา
“โอ๊ะ จวิ้นจู่จวิ้นหม่าพาคุณชายน้อยมาเที่ยวชมตลาดหรือขอรับ มาๆ คุณชายน้อยกินถังหูลู่สักไม้ ถังหูลู่ที่ปู่ทำนี่อร่อยมากเชียวล่ะ” ชายชราคนหนึ่งที่ภรรยาเคยป่วยเป็นโรคหัวใจอักเสบ อับจนหนทางแล้วจึงมาขอความช่วยเหลือจากซูเซียง เห็นพวกซูเซียงอุ้มลูกมาเดินเที่ยวตลาดก็รีบเข้ามาทักทาย
ฉุนเอ๋อร์เองก็มิได้กลัวคนแปลกหน้าแม้แต่น้อย รับถังหูลู่ที่ชายชราคนนั้นส่งมาให้ ยิ้มหวานเอ่ยหนึ่งเสียง “ขอบคุณขอรับท่านปู่” เลียถังหูลู่หนึ่งคำแล้วยิ้มตาหยีกล่าว “ท่านปู่ ถังหูลู่ของท่านหวานดีจริงๆ”
ไม่ใช่เด็กไม่เคยกินของดีอะไร ครานั้นตอนพวกหมอเตี๋ยอุ้มเขาไปก็ปกป้องเลี้ยงดูประคมประหงม แม้เป็นของที่จักรพรรดิรัชทายาทยังไม่มีวาสนาได้กิน ฉุนเอ๋อร๋ก็มีมิได้ขาด
กอรปกับกลับมาหลายวันนี้องค์หญิงเต๋อฮุ่ยกับซูเซียงย่อมห่วงแหนเขาเหมือนแก้วตาดวงใจ ไม่ว่าของดีอะไรล้วนได้กิน ทว่าฉุนเอ๋อร์เป็นเด็กดีรู้ประสาคนหนึ่ง รู้ว่าผู้อื่นมีน้ำใจ เขาก็ขอบคุณอย่างรู้ความมีมารยาท เห็นได้ว่าคราแรกนั้นพวกหมอเตี๋ยเลี้ยงดูเด็กได้ดีมากเพียงใด
ทีแรกบนหน้าชายชรายังแขวนความกังวลใจอยู่บ้าง ด้วยกลัวว่าสิ่งของข้างทางของตนจะไม่อยู่ในสายตาของคุณชายน้อยเขา กลับคิดไม่ถึงว่าคุณชายน้อยรับไปอย่างดีอกดีใจ ซ้ำยังกล่าวขอบคุณ จวิ้นจู่เหนียงเนี่ยงและชนชั้นสูงข้างกายหลายคนล้วนยิ้มแย้มให้เขา
สิ่งนี้ทำให้บุรุษชราปลาบปลื้มดีใจ ผู้คนกล่าวขานว่า จวิ้นจู่กับจวิ้นหม่าเป็นกันเองเข้ากับคนง่าย
ลับหลังยังมีบางคนซุบซิบบ้างเป็นครั้งคราว “นี่ คิดไม่ถึงเลยว่าบุรุษที่คราแรกนั้นเย็นชาอย่างกับพญายม ตอนนี้ถึงกับรู้จักพูดรู้จักยิ้มเป็นแล้ว”
ตอนที่ 880 มองดูลูกชายโง่เง่าแล้วอายุสั้น
“ตาทึ่ม ตอนแรกเจ้าก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ อย่างกับหุ่นไม้ ตีแล้วก็ยังไม่ผายลมสักแอะ”
“ฮิฮิ ที่รัก ข้าก็พูดไปอย่างไรนั้นแหละ อีกอย่างข้าตีแล้วไม่ผายลมเมื่อใดกัน เจ้าไม่ตีลมนั่นก็ออกมาได้… ”
ภรรยาสาวคนนั้นถลึงตาดุบุรุษของตน “ชิ่ว ไสหัวไปเลยไป!”
และมีบางคนยังวิจารณ์ลับหลังอย่างปลงอนิจจัง ไม่ว่าบุรุษแกร่งกระดูกแข็งเป็นเหล็กอย่างไรได้พบเจอคนแสนดีอย่างจวิ้นจู่เหนียงเนี่ยงคงมีหลอมละลายอ่อนยวบได้บ้างล่ะนะ
พระพันปีเห็นว่าในที่สุดลูกชายโง่เง่าของตนก็ยอมรามือแล้ว รวมถึงจารีตการสืบสันติวงศ์บ้านเมือง บุตรชายเป็นคนอายุห้าสิบกว่าแล้ว นางคงไม่อาจว่าราชการหลังม่านได้ตลอดหรอกกระมัง?
กอรปกับช่วงนี้จักรพรรดิกับรัชทายาททำตัวดีมากทีเดียว ไม่ได้ก่อเรื่องออกอุบายอะไร จักรพรรดิถึงกับยังเขียนจดหมายมาขอโทษกับพระองค์ ถ้อยคำจริงจังตั้งใจ พระพันปีเองก็รับรู้ได้ว่าในที่สุดเจ้าลูกโง่งมก็ตื่นรู้ได้สติกลับมาแล้ว มากน้อยก็ยังพอโอบอุ้มความหวังไว้ได้บ้าง
อีกทั้งคนฝ่ายนิยมจักรพรรดิเหล่านั้น เหตุด้วยจักรพรรดิเปลี่ยนแปลงทัศนคติทำให้พวกเขารู้สึกพึงพอใจ ดังนั้นจึงกดดันทางพระพันปีให้ส่งมอบอำนาจคืน
ถึงที่สุดแล้วตอนนั้นจักรพรรดิกับรัชทายาทกระทำไม่ถูกต้อง พระพันปีริบอำนาจกลับไปย่อมเป็นการสมควร มิเช่นนั้นบ้านเมืองคงวุ่นวาย ทว่าบัดนี้องค์จักรพรรดิทรงสำนึกผิดแล้ว เปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่แล้ว รัชทายาทเองก็ถูกปล่อยออกมาจากศาลบรรพชนแล้ว สงบเสงี่ยมเรียบร้อยไม่เกิดเหตุใดอีก พระองค์เป็นพระพันปีชราคงไม่อาจกุมอำนาจไปได้ตลอดหรอกกระมัง แม่ไก่ขันยามเช้าสวรรค์จะลงทัณฑ์!
ดังนั้นพระพันปีจึงเรียกจักรพรรดิเข้าเฝ้าในตำหนักบรรทมของตน คืนอำนาจกว่าครึ่งกลับลงในมือเขา ทั้งยังตบไหล่ของเขาชี้แนะอย่างจริงจังจริงใจ “ลูกเอ๋ย อย่าได้ตำหนิแม่ใจร้ายถึงเพียงนี้ บัดนี้เจ้ารู้ผิดแล้ว เช่นนั้นแม่เองย่อมไม่กล่าวโทษเจ้าแล้ว ล้วนกล่าวกันว่าไม่มีสิ่งใดดีกว่ารู้ผิดแล้วแก้ไข หลายๆเรื่องแม่ไม่ให้เล่าลือไปถึงราษฎร มิได้ส่งผลต่อชื่อเสียงเจ้ามากนัก รวมถึงเวลาก็ผ่านมานานมากแล้ว ขอเพียงเจ้าขยันหมั่นเพียรก็จะไม่เป็นไร…”
“ลูกเอ๋ย เจ้าต้องเชื่อฟังนะ อย่าทำเรื่องโง่งมเช่นนั้นอีก ในมือแม่ยังถืออำนาจเกือบครึ่งหนึ่งของเจ้าไว้ ขอเพียงในปีสองปีนี้เจ้าอยู่ในโอวาท ปฏิบัติราชกิจเพื่อชาติเพื่อปวงชนอย่างแท้จริง ไม่นานก็จะมอบคืนให้เจ้าทั้งหมด แม่ชราแล้ว มิได้คิดอยากสะสางเรื่องไร้สาระพวกนี้ ฉะนั้นเจ้าต้องสู้พิสูจน์ตัวเอง… ”
จักรพรรดิคุกเข่าโขกศีรษะคำนับด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก ขอบพระทัยพระพันปีทรงเมตตาเขา และรับอำนาจเหล่านั้นกลับมา “พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่ ลูกรู้ผิดแล้ว ภายภาคหน้าลูกจะปรับปรุงตัวใหม่ ไม่ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้นอีก”
“เฮ้อ ไปเถิด ไปเถิด อายเจียเองก็เหนื่อยแล้ว ราชกิจรัดตัว ต่อไปห้าวันมาถวายบังคมทีก็ได้” พระพันปีตรัสแล้วก็โบกมือ
ก่อนหน้านี้นางไม่ยอมให้จักรพรรดิมาเข้าถวายบังคมมาโดยตลอดเพราะไม่อยากเห็นหน้าลูกชายโง่เง่าคนนี้ เห็นหน้าลูกชายโง่คนนี้ทีไรแล้วรู้สึกอายุสั้นทุกที เฮ้อ ลูกชายตัวดี นับตั้งแต่เกิดเรื่องอี้เมิ่งกุ้ยเฟย สติสตังนับวันยิ่งไม่เข้าที่เข้าทาง
ตอนนี้เห็นจักรพรรดิเชื่อฟังทำตามซ้ำยังรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว นางผู้เป็นมารดาย่อมปลาบปลื้มยินดี ยอมผ่อนปรนให้จักรพรรดิเข้าถวายบังคมนางทุกๆห้าวัน แม้ตนเห็นว่าลูกชายคนนี้ยังดูไม่เข้ารูปเข้ารอยนัก ทว่าคงไม่อาจปล่อยให้ประชาชนติฉินนินทาออกไปว่าจักรพรรดิไม่เคารพหลักกตัญญูหรอกกระมัง?
“พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่ ลูกทูลลา” จักรพรรดิรับสิ่งของเหล่านั้นมาแล้วก็โขกคำนับลาพระพันปี
เพียงแต่รอจนกระทั่งถึงตำหนักบรรทมของตัวเองแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนผัน “ยายแก่น่าตาย บังอาจช่วงชิงอำนาจของเจิ้น ไม่ดูตัวเองบ้างแก่จะลงโลงอยู่แล้ว หนังเหนียวจริงๆ…”
คราก่อนจักรพรรดิกับรัชทายาทเอ่ยคำไม่สมควรในพระตำหนัก ขันทีผู้นั้นก็ถูกรัชทายาทปิดปากตั้งแต่แรกเริ่ม ต่อมาจักรพรรดิคิดว่ามีแต่คนตายเท่านั้นที่พูดไม่ได้ ดังนั้นการปิดปากจึงเปลี่ยนเป็นการฆ่าปิดปาก
เรื่องนี้เหล่าคนสนิทข้างกายจักรพรรดิย่อมทราบดี ดังนั้นแม้บัดนี้ฮ่องเต้ตรัสวาจาเนรคุณเช่นนี้พวกเขาก็เพียงก้มหน้าแสร้งทำหูหนวกเป็นใบ้ หากบนหน้าเกิดปรากฏความรู้สึกเพียงครึ่งส่วน ก็ไม่แน่ว่าอาจรักษาชีวิตของตัวเองไว้ไม่ได้