เพราะรักสลักใจ - ตอนที่ 891 ท่านไม่รำคาญจะพูดแต่เจ๊รำคาญจะฟัง / ตอนที่ 892 ความขัดแย้งเพิ่มระดับอีกขั้น
- Home
- เพราะรักสลักใจ
- ตอนที่ 891 ท่านไม่รำคาญจะพูดแต่เจ๊รำคาญจะฟัง / ตอนที่ 892 ความขัดแย้งเพิ่มระดับอีกขั้น
ตอนที่ 891 ท่านไม่รำคาญจะพูดแต่เจ๊รำคาญจะฟัง
ซูเซียงเพียงหัวเราะเย็นชาสองเสียง ไม่ได้พูดอันใด
แม้ในใจนางยังมีความกังวลอยู่บ้าง ที่ห่วงไม่ใช่ชีวิตของตัวเอง แต่ดูจากท่าทางของจักรพรรดิ เป็นไปได้ว่าอาจคุกคามไปถึงคนในครอบครัวนาง?
ยังมีคนข้างกายเหล่านี้ อย่างไรก็เป็นคนสนิทของเสด็จย่า นางก็อยากรับเป็นญาติพี่น้องของตน หรือไม่ก็เลี้ยงดูพวกเขาไปจนแก่เฒ่าล่วงลับ แต่ไม่ใช่มาเสียสละอย่างเปล่าประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้!
ขณะที่ซูเซียงกำลังคิดหาหนทาง จักพรรดิกลับรอไม่ไหว ไม่รู้มุดออกมาจากรอยแยกไหน มายืนยื่นมือชี้หน้าซูเซียงเหมือนพวกหญิงปากร้าย “นางคนชั่ว บังอาจให้วิชาปีศาจมาล่อลวงโอรสของเจิ้น วันนี้เจิ้นจักสับเจ้าออกเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้น จากนั้นก็จะประหารครอบครัวเจ้าเก้าชั่วโคตร นางปีศาจจิ้งจอก คนชั่วช้าสมควรตาย…”
หัวคิ้วซูเซียงขมวดแล้วชูนิ้วแคะๆ หู หญิงร้ายกาจเอย ปีศาจจิ้งจอกเอย ประหารเก้าชั่วโคตรเอย คำพวกนี้นางได้ยินจนหูงอกรังไหมได้มาตั้งนานแล้ว
พอได้ยินเข้าหูอีกครั้งจากปากฮ่องเต้เอง นางแค่รู้สึกว่าตลกดี ท่านไม่รำคาญจะพูด แต่เจ๊รำคาญจะฟังแล้ว!
ทุกคนมัวแต่สนใจจักพรรดิกับซูเซียงทะเลาะกันทางนี้ ไม่ได้สังเกตเลยว่าข้าหลวงคนหนึ่งที่เฝ้าวิญญาณให้พระพันปี ถอยออกไปทางมุมประตูเล็กๆ อย่างเงียบเชียบ
คนผู้นี้มิใช่ใครอื่น พอดีเป็นบัณฑิตโง่เง่าที่พวกซูเซียงช่วยกลับมาเมื่อครานั้น ซ่งมู่
เมื่อแรกเริ่ม เขาสอบติดแค่จวี่เหริน ต่อมาก็สอบเข้าได้เป็นจิ้นซื่อ เขาอยากกลับมาตอบแทนบุญคุณ แต่เห็นสถานการณ์ในบ้านของพวกซูเซียงนับวันยิ่งดีขึ้น อีกทั้งความสัมพันธ์ของพระพันปีกับซูเซียงก็ดี ถ้าตอนนี้เขาตามติดขึ้นมาอีกก็คงมีความคิดผิดๆ หน้าไม่อายประเภทหนึ่ง ดังนั้นจึงแค่ส่งคนในอิทธิพลของตนเข้ามาแอบคุ้มกัน หรือไม่ก็บอกเล่าส่งต่อความดีของซูเซียงกับชาวบ้านเท่านั้น
บัดนี้เห็นสถานการณ์ไม่ถูกต้อง แม้ไม่เคยเห็นจักพรรดิกี่ครั้ง แต่เพราะซูเซียงเคยสอนเรื่องต่างๆ ให้เขาไม่น้อย และด้วยเข้าเมืองหลวงมาสอบพบเจอเรื่องราวมามาก ขึ้นลงวงราชการก็หลายปี เขาย่อมมองความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ออก
ซ่งมู่รู้สึกว่าสถานการณ์ท่าไม่ดี จึงแอบเปลี่ยนชุดเครื่องแต่งกายของขันที มุ่งออกจากวังส่งคนไปแจ้งข่าวให้จ้าวเซิง และยังแอบไปจวนองค์หญิงเต๋อฮุ่ย ให้กองหนุนเหล่านั้นแจ้งรายงาน
โดยรวดเร็ว คนในครอบครัวซูเซียงที่เข้าเมืองหลวงทั้งหมดนี้ก็ถูกเคลื่อนย้ายอย่างลับๆ ซ่อนตัวอยู่ในเส้นทางลับ จวนองค์หญิงเต๋อฮุ่ยเองก็โยกย้ายกำลังทหารประจำการ ชาวบ้านเองก็เห็นท่าไม่ดี พากันส่ายหน้า พูดว่าคงเป็นทรราชนั่นชักใยอยู่เบื้องหลังอีกเป็นแน่
ประกอบกับการเข้าเมืองหลวงของสามีภรรยาสกุลหวังครั้งนี้เป็นความลับ มีเพียงองค์หญิงเต๋อฮุ่ยที่กลับมาอย่างโจ่งแจ้งและหลีกเลี่ยงสายตาของจักรพรรดิได้ ดังนั้นจึงช่วงชิงเวลาได้ไม่น้อย
อีกด้านหนึ่ง ซ่งมู่ยังส่งคนไปบ้านเก่าของซูเซียงที่มณฑลชิงเหอ รับญาติคนอื่นในบ้านของซูเซียงอย่างเช่นพวกแม่เฒ่าซูมาหลบซ่อนอย่างดี ดังนั้นกว่าที่คนของฮ่องเต้จะไปถึง จวนเซียงหรงจวิ้นจู่และบ้านเก่าของซูเซียงในหมู่บ้านตระกูลซ่งก็ว่างเปล่า แม้กระทั่งพ่อบ้านสาวรับใช้ก็ยังไม่มี
คนของจักพรรดิย่อมไม่พอใจ ออกค้นทุกสารทิศ ทว่าชาวบ้านไม่ได้โง่เขลา จักรพรรดิเป็นคนเช่นไร ส่วนซูเซียงช่วยเหลือทุกคนอย่างไร ไม่ว่าในใจของผู้ใดก็ล้วนมีคันชั่ง แม้กระทั่งคนในหมู่บ้านตระกูลซ่งพวกนั้นยังถูกกล่าวเตือนไว้ก่อนแล้วว่าถ้าผู้ใดเปิดเผยความลับ คนของจักรพรรดิไม่ฆ่าพวกเขา หรือต่อให้จวิ้นจู่ไม่กลับมา แต่คนของจวิ้นจู่ก็ไม่ปล่อยพวกเขาไปเด็ดขาด
ดังนั้นแม้คนของจักพรรดิยัดเงินให้พวกเขา ก็ไม่มีคนกล้ารับ หรือไม่ก็ทำหน้าทะเล้นรับมาแล้วแกล้งทำโง่เง่าหัวเราะฮี่ฮี่ฮ่าฮ่า สุดท้ายแล้วแม้แต่หญิงรับใช้ในบ้านซูเซียงสักคนพวกเขาก็ยังหาไม่เจอ
แต่ว่าเรื่องนี้ล้วนกล่าวถึงในภายหลัง มาพูดถึงทางนี้ จักรพรรดิกับซูเซียงทะเลาะกันใหญ่โตแล้ว
ทีแรกซูเซียงยังคิดจะถอยให้หนึ่งก้าว ตนกับจ้าวเซิงลดขั้นเป็นสามัญชน ออกจากเมืองหลวงไปก็ได้
ใครจะรู้ จักรพรรดิต้องการฆ่านาง ไม่เพียงเท่านั้น ยังขู่ว่าเขาส่งคนไปมณฑลชิงเหอไล่ฆ่าบิดามารดาลูกหลานญาติพี่น้องของนางแล้วด้วย
ล้วนกล่าวกันว่า โทษไม่ทันผู้อาวุโส ภัยไม่ถึงเด็กน้อย การกระทำครานี้ของจักรพรรดิซูเซียงได้แต่ส่ายหัวไม่เปิดปาก คนของทางพระพันปีนั้นโกรธจนพองขนแล้ว
“ฝ่าบาท เราเคารพพระองค์ในฐานะโอรสของพระพันปี จึงยอมอดยอมทน แต่ก่อนสิ้นพระชนม์พระพันปีมีราชโองการลับ เราจำเป็นต้องคุ้มครองความปลอดภัยของเซียงหรงจวิ้นจู่ แม้เป็นพระองค์… ”
ตอนที่ 892 ความขัดแย้งเพิ่มระดับอีกขั้น
คนสนิทของพระพันปียังพูดไม่ทันจบ ฮ่องเต้ก็พุ่งพล่านทันที “เจ้านับเป็นสิ่งของอะไรกัน เจิ้นเป็นมังกรโอรสสวรรค์ เป็นเจ้าของใต้หล้าแห่งนี้! เจิ้นพูดอะไรก็เป็นตามนั้น ราษฎรกระจ้อยร่อยอย่างเจ้าไม่มีสิทธิมาพูด! เหอะๆ พวกเจ้ายังไม่รู้กระมัง ตรามังกรที่ไท่โฮ่วเหนียงเนี่ยงซ่อนไว้นั้นอยู่ในมือเจิ้นแล้ว ฮ่าๆ พวกเจ้ายังจะทำอะไรได้?”
“ขอเตือนพวกเจ้าให้สำเนียกหน่อย รีบส่งคนชั่วผู้นี้ออกมา ไม่แน่ว่าเจิ้นอาจยังพอเห็นแก่ที่พวกเจ้ารับใช้เสด็จแม่มานานหลายปี จะเหลือศพพวกเจ้าไว้ให้ครบทั้งร่าง!”
จบกัน ประโยคนี้แหย่รังแตนเข้าแล้ว!
คนสองฝ่ายลากบทสนทนาอยู่สองสามประโยค สุดท้ายจักรพรรดิสั่งการพลธนูให้ระดมยิงคนของพระพันปีรวมถึงซูเซียงให้ตาย
เดิมทีคนของพระพันปียังซ่อนตัวอยู่ในเส้นทางลับ บัดนี้เห็นท่าไม่ดี ทันใดนั้นคนกว่าหนึ่งพันคนก็ออกมาจากเส้นทางลับ ลมหายใจมากมายขนาดนี้หลบซ่อนอยู่ในวังหลวง จักรพรรดิกลับไม่ค้นพบ
เห็นคนพุ่งออกมาเป็นฝูงผึ้ง ในมือแต่ละคนถืออาวุธชั้นยอด บนร่างล้วนสวมเกราะถักเส้นไยทองคำหลายชั้น จักรพรรดิพลันหัวใจเต้นระทึก
แต่ตอนนี้ลูกธนูพาดขึ้นสายแล้ว ไม่ปล่อยไม่ได้ เขาต้องสั่งการคนของตนให้ลงมือ
กลายเป็นพายุฝนคาวโลหิตห่าหนึ่ง คนของจักพรรดิเข้าปะทะกับคนของพระพันปี และยังปะทะกันในเวลาที่พระพันปีเพิ่งลาโลก และปะทะกันตรงนอกโถงพิธีศพ นี่มันน่าขำขันสะเทือนโลกหล้าแล้ว!
รัชทายาทอยู่นิ่งในวังบูรพาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เขาผู้เป็นหลานชายคนนี้ก่อนสิ้นมิได้เคารพกตัญญูให้ดี เป็นต้นเหตุให้เสด็จย่าเหนื่อยหน่ายระอาใจก็เป็นความอกตัญญูอันใหญ่หลวงแล้ว บัดนี้เสด็จย่าลาโลกไปแล้ว เขาจะทำตัวไม่เคารพหลักกตัญญูต่อพระองค์เฉกเช่นก่อนหน้าได้อย่างไร?
ทว่า ตอนที่เขาเลี้ยวพ้นรั้วล้อมแถวหนึ่งก็ได้ยินเสียงเลือนรางแว่วๆ ตรงหลังภูเขาจำลอง เสียงนั้นฟังดูคุ้นมาก เหมือนกับ เหมือนกับ…
รัชทายาทยิ่งฟังยิ่งชอบกล เข้าไปใกล้อย่างเงียบเชียบ จึงได้ยินบทสนทนาเช่นนี้เข้า
“ท่านแม่ ท่านว่าฝ่าบาทจะฆ่านางคนชั่วนั่นได้จริงไหม ถ้าคนชั่วนั่นตายแล้ว ท่านพี่เซิงจะแต่งกับข้าไหม?”
“เด็กดี เจ้าวางใจเถิด หลายปีนี้เจ้าล่อลวงรัชทายาทจนลุ่มหลงไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ขอเพียงไม่มีนางคนชั่วซูเซียงนั่นอยู่ มีรัชทายาทคอยช่วยเจ้า มีหรือจะแต่งเข้าจวนอ๋องสงครามไม่ได้?”
“อื้มอื้ม ตัวโง่เง่าพรรค์นั้นยังคิดจะเป็นกษัตริย์ครองแคว้น เหอะๆ ลูกแค่กระดิกนิ้วก็วิ่งส่ายก้นดุ๊กดิ๊กมาแล้ว”
“เขายังชอบพอลูกอีกแหนะ คราก่อนตอนอยู่ในตำหนักของเขา ลูกเกือบทำเรื่องแบบนั้นกับอ๋องสงครามแล้ว เขาก็ยังเฝ้าอยู่ตรงประตู ท่านแม่ ท่านว่าเจ้าคนโง่นั่นซื่อบื้อหรือไม่?!”
“พอแล้วๆ อย่าพูดมาก คนในวังสายตาซับซ้อน ระวังกำแพงมีหู วันนี้คนชั่วซูเซียงผู้นั้นมีอันเป็นไปแน่แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องเค้นหัวสมองหาทางใส่ยาหยอดตา[1]ให้รัชทายาทโง่เง่านั่นแล้ว แต่หลังจากนี้เจ้าต้องใช้มารยาสักหน่อย ล่อลวงรัชทายาทไว้ให้ดีๆ ขอเพียงมีรัชทายาทคอยช่วยเจ้าคิดอยากจะทำอะไรก็ย่อมได้ เฮ้อ ข้าว่าเจ้านี่ก็โง่เง่า ไท่จื่อเฟยไม่เป็น ฮองเฮาไม่เป็น อยากเป็นแต่จ้านหวังเฟยอะไรนั่น”
“ท่านแม่ ก็ลูกชอบท่านอ๋องนี่นา ครานั้นลูกได้เห็นเรือนร่างของเขาแล้ว กล้ามเป็นหมัดๆ เชียวล่ะ ฮิฮิ ชั้นเชิงทางด้านนั้นคงไม่เลวแน่ อนาคตถ้ามีโอกาสจะให้ท่านแม่ได้ลอง ขอเพียงท่านแม่ใช้งานได้ดี ภายภาคหน้าก็ไว้ชีวิตเขาหน่อยแล้วกัน”
“ดีอย่างที่เจ้าพูดจริงหรือ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว ลูกเคยหลอกท่านเมื่อใดกัน? นายบำเรอที่มอบให้ท่านคราก่อนก็เป็นลูกเคยลองมาแล้วกับตัว รู้สึกว่าไม่เลว ท่านแม่เองก็ใช้สำราญดีมิใช่หรือ? ได้ข่าวว่าเขาปรนนิบัติท่านสุขสบายทีเดียว เมื่อไรจะให้เขากลับมาปรนนิบัติลูกบ้าง…”
“เจ้านี่มันไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ ยังคิดหมายปองคนของแม่ เอาเถิด เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เจ้าอยากเอากลับไปก็ได้ เออใช่ เรื่องที่พูดกับเจ้าคราก่อนจัดการเป็นอย่างไรบ้างแล้ว? ได้ข่าวว่าความลับนั่นเคลื่อนย้ายถึงมือรัชทายาทแล้ว เจ้าคงรู้ทางไปแล้ว?”
“หลายวันนี้ปั่นป่วนวุ่นวาย ท่านเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ใครจะมาสนใจเรื่องพวกนี้เล่า? พูดอีกอย่าง รัชทายาทโง่เง่านั่นต่อให้เขาชอบลูกยิ่งกว่านี้ก็คงไม่นำความลับของบ้านเมืองมาบอกลูกหรอกกระมัง? ไม่ต้องรีบร้อน ลูกจะค่อยๆ หาทาง”
——
[1] ใส่ยาหยอดตา (上眼药) หมายถึง ใส่เสริมเติมแต่ง แสดงละครต่อหน้าเพื่อประจบเอาใจหรือวางแผนชั่วร้าย
Comments for chapter "ตอนที่ 891 ท่านไม่รำคาญจะพูดแต่เจ๊รำคาญจะฟัง / ตอนที่ 892 ความขัดแย้งเพิ่มระดับอีกขั้น"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Srp
รู้แล้วน้าาา ห้ามโง่อีกต่อปั้ยยย!