เพราะเป็นเทพมังกรเลยไม่มีระบบพิเศษเหมือนเขาอ่ะ! - ตอนที่ 41 การกำเนิดองค์หญิงสีเลือด
บทที่ 41 – การกำเนิดองค์หญิงสีเลือด
เบื้องหน้าของทั้งสามคนคือหน้าจอโฮโลแกรมของเควสที่พวกเธอได้รับมาซึ่งขึ้นมาที่ชั้นนี้ทันที แน่นอนว่าคนอื่นไม่สามารถได้รับเควสนี้ได้
เพราะเควสนี้จะได้รับก็ต่อเมื่อผ่านด้วยการช่วยเหลือเจ้าทราฟจากชั้นที่แล้ว ซึ่งเนื้อหาภายในหน้าต่างเควสนั้นไม่ได้อธิบายละเอียดมากนัก
ถ้าจะให้พูดก็คงเป็นเควสที่ค่อนข้างยาวนั่นแหละนะ..
[แจ้งเตือนเควส]
ตามหาบุคคลน่าสงสัย เธอสวมหน้ากากปกปิดใบหน้า สวมชุดแปลกประหลาดที่ดูไม่ใช่ชุดของคนในโลกนี้ [ระยะเวลาภายใน 24 ชั่วโมงเมื่อเริ่มเควส]
[ของรางวัล]
เควสลับ
….
ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละนะ มันคือเควสที่ต้องตามหาคนเพื่อปลดล็อคเควสลับ นับวันยิ่งเหมือนเกมเข้าไปใหญ่
แต่ทว่าสำหรับมิวในตอนนี้เธอไม่ได้มีอารมณ์ต่างๆ ขนาดนั้น.. เพราะในหัวของเธอในตอนนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายจนเกินไป
มิวไม่ได้เลือกที่จะเริ่มเควสทันที.. ในหัวของเธอมีทั้งความรู้สึกเจ็บปวดที่แก้ไขอะไรไม่ได้สักอย่าง
แถมทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นเพราะตัวเธอเองอีก.. ยังไม่พอจู่ๆ ก็มีคำถามเกี่ยวกับเอริเนียหรือแม้แต่ดาบที่อยู่กับผู้กล้าเอริเนีย
ข้อมูลที่เกิดขึ้นมันมากเกินไปสำหรับมิว.. แม้มิวจะยอมรับความจริงที่ว่าเหตุการณ์การตายของเธอมันเป็นเพราะเธอเองได้
แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องให้คิด… ต่อให้จะฉลาดถ้าเจออะไรมาขยาดนั้นก็คงต้องมีอาการพูดไม่ออกหรือย่อยข้อมูลบ้าง
นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงมิวที่ตามเรื่องทันนี่ก็นับว่าบุญแล้ว.. แต่ทว่าในตอนนั้นเองรินนะที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พี่…”
รินนะดูลังเลเล็กน้อย แต่ก็เหมือนจะตัดสินใจได้ในเวลาต่อมาทันที.. เธอหันมามองมิวแน่นอนว่ามิวเองก็หันไปมองรินนะเช่นกัน
“ไม่รู้ว่าพี่รู้หรือยัง.. ฉันได้รับพรจากเทพธิดาเหมือนกับพี่ เลยทำให้ฉันเป็นผู้ใช้อารยธรรมได้แล้วพี่”
“แถมในตอนนั้นเทพธิดายังให้อารยธรรมแก่ฉันด้วย ถึงจะเป็นอารยธรรมที่ไม่เหมาะกับฉันเท่าไหร่”
“แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ได้รับเนมในระดับองค์หญิงมาแล้วค่ะ”
สำหรับรินนะแล้วความจริงเธอไม่มีทั้งพรสวรรค์หรือแม้แต่สิทธิ์ที่จะเป็นผู้ใช้อารยธรรมด้วยซ้ำ แต่ทว่าในตอนนี้มันต่างออกไป
แน่นอนว่าแม้เทพธิดานั้นจะไม่ได้ให้เธอขอออกมาเอง.. แต่ไม่มีใครหรอกที่จะไม่ใฝ่ฝันถึงการเป็นองค์หญิง
หนึ่งในผู้ที่ถือครองอารยธรรมที่ทรงพลังที่สุดในโลก.. ในความจริงแล้วการจะกลายเป็นผู้ใช้อารยธรรมนั้นต้องมีหลายขั้นตอน
เช่น.. ทดสอบความเข้ากันได้กับแร่.. พอได้แล้วก็ต้องมาทดสอบระดับที่สามารถใช้อารยธรรมอะไรได้บ้าง
แล้วถ้าใช้ได้แล้วใช้ระดับไหน แต่ที่รินนะได้รับคือพรที่จะมอบความปรารถนาให้เป็นจริงหนึ่งอย่าง
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอารยธรรมแบบไหนหรือต้องเป็นระดับองค์หญิง พรนั้นก็สามารถบันดาลให้ได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าความสามารถของอารยธรรมตัวเองนั้นไม่มีใครคิดจะอยากพูดเท่าไหร่ และสำหรับรินนะที่ได้รับของจากนั้นมาจากความปรารถนาในจิตใจ
บางทีอารยธรรมที่เธอได้รับมามันคงทรงพลังมาก.. บางทีอาจจะทรงพลังยิ่งกว่าองค์หญิงและองค์ชายหลายๆ คนด้วยซ้ำ
“เพราะงั้นแหละพี่.. ฉันเลยคิดว่าจะไปตามหาน้องชายด้วยตัวเองน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่ เควสนี้ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว พี่ทำคนเดียวได้เลย”
“อีกอย่างเพราะพี่ฉันถึงได้รับโอกาสนี้มา เพราะงั้นฉันจะตอบแทนพี่ในสักวันให้ได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณมากเลยนะพี่”
รินนะก้มหัวให้มิว.. มิวเองก็มองเธอด้วยสายตาที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เหมือนกัน การเดินทางครั้งนี้ของรินนะดูเหมือนจะประสบความสำเร็จอย่างมาก
“ขอให้เธอตามหาน้องชายให้เจอนะ”
มิวตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เหมือนปกติ รินนะเองจึงตอบกลับขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า ‘ค่ะ’ แน่นอนว่าสาเหตุที่เธอแยกจากมิวตอนนี้ก็ไม่ใช่อะไร
อย่างแรกคือน้องชายเธอน่าจะอยู่ที่ชั้นสามนี้แน่ๆ แต่เควสที่ขึ้นมาของมิวนั้นเป็นเควสระยะเวลาต่อเนื่องแค่ 24 ชั่วโมง
เมื่อเดินเข้าไปในซากปรักหักพังเวลาก็จะเริ่มถอยหลังเลย.. ซึ่งมิวคิดว่าต่อให้เป็นมิวที่สามารถตามหาคนในเมืองชั้นสองได้ก็ตาม
ทว่าตอนนั้นรินนะก็เห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของมิวด้วย
แต่ที่นี่มันใหญ่กว่านั้น ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามีจะต้องเหนื่อยขนาดไหนที่ต้องตามหาคนสองคนพร้อมกันในเมืองที่ใหญ่ขนาดนี้
นอกจากนี้สำหรับรินนะแล้วการอยู่กับมิวมันคือเรื่องที่สบายเกินไปสำหรับเธอ.. ความแข็งแกร่งของมิวนั้นรินนะรู้ซึ้งดีกว่าใคร
บางทีคนคนนี้คงแข็งแกร่งกว่าองค์หญิงไร้เสียงเลยด้วยซ้ำ ซึ่งสำหรับรินนะนั้นมันค่อนข้างน่าเบื่อเกินไปหน่อย
เธอเป็นคนชอบความตื่นเต้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว.. ไม่ว่าจะเป็นการรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดหรือดิ้นรนจนต้องตายกันไปข้าง
อะไรแบบนั้นมันถูกจริตเธอยิ่งกว่าอะไร.. แน่นอนว่าเมื่อเธอได้รับพลังมาแล้วเธอก็สามารถที่จะต่อสู้ได้แล้ว
ในตอนแรกเพราะเธอไม่มีพลังเลยทำให้เธอไม่สามารถพาตัวเองไปต่อสู้แล้วอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายได้
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว.. และทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามาก็เลยเป็นเหตุผลในการตัดสินใจของรินนะที่จะตามหาน้องชายด้วยตัวคนเดียว
แน่นอนว่าหากเป็นตอนที่รินนะไม่มีพลัง… มิวไม่มีทางยอมหรอกเพราะว่าไปก็เท่ากับไปตาย มิวไม่ใช่คนเย็นชาที่จะปล่อยคนวิ่งตายขนาดนั้น
แต่ในตอนนี้เด็กนี่มีพลังแล้ว เธอจึงไม่ห้าม.. อีกอย่างมิวเองก็ยังคิดว่าต้องพักสักหน่อยก่อนด้วย ถ้าให้เธอมารอในระหว่างที่น้องชายอาจจะตกในสถานการณ์อันตรายละก็.. มิวคงรู้สึกผิดมากกว่า
เธอจึงได้แต่ยอมรับ.. รินนะที่เลิกก้มหัวก็มองหน้ามิวหนึ่งครั้งเธอหันหลังแล้วเดินจากไป แม้รินนะจะไม่ได้พูดออกมาแต่เธอก็ยังพึมพำว่า
“สักวันคงได้เจอกันอีก.. ถ้าฉันมีชีวิตรอดกลับไปนะพี่”
อันที่จริงแล้ว.. เธอโกหกมิวมาตลอดอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่สิ ถ้าให้นับตั้งแต่พบกันครั้งแรกรินนะก็โกหกมิวมาตลอดนั่นแหละ
ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าของเธอ.. ความเป็นห่วงน้องชาย ทุกอย่างที่รินนะแสดงออกมาล้วนเป็นแค่การปรุงแต่งให้ตัวเธอดูไม่มีพิษไม่มีภัย
ความจริงนั้น.. น้องชายของเธอตายไปแล้ว ตายไปตั้งแต่ห้าวันก่อนแล้ว… แม้ความจริงที่ว่าน้องชายหายตัวไปเมื่อห้าวันก่อนจะไม่ใช่เรื่องโกหก
แต่รินนะไม่ได้บอกว่าเธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าน้องชายเธอตายเพราะพวกนักล่าผู้ใช้อารยธรรมที่อยู่ชั้นสาม
เธอตามบล็อกเกอร์ด้านมืดของผู้ใช้อารยธรรมอยู่บ้าง.. บล็อกเกอร์ด้านมืดของผู้ใช้อารยธรรมก็คงเหมือนกับดาร์คเว็บสมัยก่อน
ขายของเถื่อน.. ขายของที่ปล้นฆ่ามาจากผู้ใช้อารยธรรม.. และหนึ่งในการค้าขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ
ค้าผู้ใช้อารยธรรม.. แน่นอนว่ามันไม่ได้สวยหรูอย่างการค้าเป็นทาสอะไรทำนองนั้น เพราะที่นี่ไม่มีปลอกคอทาสที่สามารถควบคุมทาสเหมือนในการ์ตูนต่างโลก
แต่..หมายถึงเอาอารยธรรมจากอีกคนมา อารยธรรมที่มีคนใช้แล้วหากได้รับอารยธรรมนั้นต่อมันจะเหมือนการสืบทอดมากการกลายเป็นผู้ใช้อารยธรรม
หากพูดให้ดิบเถื่อนกว่านั้นก็คือ…
มันทำให้แกสามารถครอบครองอารยธรรมสองอันได้โดยไม่มีข้อเสียอะไร กลับกันอารยธรรมที่สืบทอดมาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเหมือนการวิวัฒนาการ
คำถามคือ.. หากผู้ใช้อารยธรรมได้รับอารยธรรมมา การจะเอาอารยธรรมไปจากเขานั้นต้องทำอย่างไร
อารยธรรมนั้นเป็นเหมือนชื่อของตัวตน.. จะพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณและจุดที่ใกล้เคียงกับวิญญาณมากที่สุดก็คือหัวหรือสมอง
ใช่แล้ว.. แม้จะอยู่ในถุงดำที่มองไม่เห็น.. แต่อารยธรรมที่น้องชายเธอใช้นั้นแตกต่างไม่เหมือนใคร แถมยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาหายตัวไป
คงไม่มีใครสามารถจินตนาการออกของความรู้สึกผู้เป็นพี่ที่เห็นหัวน้องชายตัวเองถูกขายในตลาดมืดเหมือนกับข้าวของเครื่องใช้
ความโกรธ ความแค้น.. ความบ้าคลั่งของเธอแทบจะระเบิดออกมาในวินาทีนั้น เธอเอาเรื่องนี้ไปบอกใครก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้
แม้แต่แม่ของเธอที่ได้รู้เรื่องที่ลูกชายตัวเองถูกขายในตลาดมืดเธอก็เป็นลมล้มพับไปไม่สามารถช่วยอะไรรินนะได้
ความเกลียด โกรธ อารมณ์ทุกอย่างนั้นสะสมมากขึ้นทุกวินาที ทุกวินาที.. กลายเป็นความแค้นที่พร้อมจะพลีชีพเพื่อฆ่าพวกแม่งให้หมด
รินนะค่อยๆ ถอดเสื้อออกหลังจากออกมาจากมิว.. ด้านในเสื้อของเธอมีก้อนระเบิดผูกมัดอยู่เต็มไปหมด
“ไม่ต้องการพวกแกแล้ว”
หลังจากตามเรื่องมานานทำให้เธอรู้ว่า..ที่ชั้นสามนั่นแหละที่เป็นที่กบดานของพวกที่อยู่ในตลาดมืดผู้ใช้อารยธรรม
เธอ…จะต้อง…
ฆ่าพวกมันให้หมด!
ต่อให้ต้องแลกชีวิตนี้ก็ตามที น้องชายเพียงคนเดียวของเธอ…
อ้อ ยังไม่ทันบอกงั้นสินะ
อารยธรรมของรินนะ.. อารยธรรมที่ประหลาดที่สุด
‘องค์หญิงสีเลือด’