เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 135 บทคนชั่วนางขอเล่นเอง (4)/ตอนที่ 136 ใส่ยาพิษ? (1)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 135 บทคนชั่วนางขอเล่นเอง (4)/ตอนที่ 136 ใส่ยาพิษ? (1)
ตอนที่ 135 บทคนชั่วนางขอเล่นเอง (4)
“อาหารที่ข้าเตรียมมาไม่เหมือนกับครัวบ้านท่าน ท่านป้า ท่านเชื่อใจข้าสักครั้งได้หรือไม่ หากท่านกลัวว่าข้าใส่ยาพิษเข้าไป ท่านจะหาคนมาตรวจดูก่อนก็ได้”
อาหารบำรุงสุขภาพแม้ว่าจะมีส่วนผสมของยา แต่มันก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ อีกทั้งครั้งนี้นางก็แค่ปรุงอาหารบำรุงสุขภาพเพื่อบำรุงเลือดลม คนธรรมดากินแล้วไม่มีโทษอะไร
แต่ว่า…นางไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องยาวิเศษ ดังนั้นในอาหารบำรุงสุขภาพที่ทำมาคราวนี้ นางจึงไม่ได้ใส่ยาวิเศษลงไป
ขณะที่ฉินอี๋กำลังลังเลอยู่นั้น ไต้เอ๋อร์ไม่รู้ไปเอาชามกับตะเกียบมาจากไหน นางเปิดสำรับอาหารออกแล้วคีบเนื้อไก่ดำลงในชาม
“ไต้เอ๋อร์!”
ฉินอี๋ตกใจหน้าซีด นางอยากจะเข้าไปห้ามแต่ก็ไม่ทันแล้ว
ไต้เอ๋อร์เคี้ยวเนื้อไก่ กินอย่างเอร็ดอร่อย
“ท่านแม่ ท่านกับท่านน้ารีบกินสิ อร่อยนะเจ้าคะ”
เฟิงหรูชิงประหลาดใจ “ไต้เอ๋อร์ เจ้าไปเอาชามกับตะเกียบมาจากไหน”
ไต้เอ๋อร์กะพริบตา “ตอนท่านพี่ตุ๋นไก่…ข้าแอบหยิบมา กลัวว่าพวกท่านจะไม่ให้ไต้เอ๋อร์กิน”
พี่สาวบอกไว้ว่านี่เป็นอาหารทำไว้สำหรับท่านน้า ถ้าหากพี่สาวไม่ให้ไต้เอ๋อร์กินล่ะจะทำอย่างไร ดังนั้นนางจึงแอบพกชามและตะเกียบมาด้วย ถ้าไม่ยอมให้นาง นางจะคีบกินเอง
“ไต้เอ๋อร์ ทำแบบนี้เสียมารยาทนะ รู้หรือเปล่า” เฟิงหรูชิงลูบหัวไต้เอ๋อร์
ไต้เอ๋อร์เอียงคอ “แต่…ท่านไม่…ไม่ยอมกิน ไต้เอ๋อร์เลยกินให้ดู”
เฟิงหรูชิงอึ้ง นางเพิ่งเข้าใจว่า ไต้เอ๋อร์กลัวว่าท่านป้ากับท่านน้าเหยาไม่ยอมกินอาหารบำรุงสุขภาพที่นางทำให้ ก็เลยกินให้พวกนางดูก่อน
“ไต้เอ๋อร์” ฉินอี๋จ้องเขม็ง “เจ้า…ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”
ไต้เอ๋อร์หน้าแดง ผิวนวลเนียนน่าเอ็นดู “อร่อย ท่านแม่ กินด้วยกันสิเจ้าคะ”
เมื่อเห็นว่าไต้เอ๋อร์ปลอดภัยดี ฉินอี๋รู้สึกโล่งอก สายตาที่รู้สึกผิดของนางมองไปที่เฟิงหรูชิง
“ขอโทษด้วยเพคะ องค์หญิง หม่อมฉันเข้าใจท่านผิดไป”
เฟิงหรูชิงยิ้ม “ท่านป้ารู้สึกกังวลก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อก่อนข้าทำเรื่องผิดๆ ไว้มากจริงๆ ทำให้ท่านป้าไม่อาจไว้วางใจข้า อีกอย่าง ท่านป้าเป็นห่วงสุขภาพของท่านน้าเหยา ข้าเข้าใจ”
…
บนเตียงไม้แกะสลัก เว่ยผิ่นเหยาลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แววตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจและตกตะลึง แทบไม่เชื่อเลยว่าคำพูดแบบนี้จะออกจากปากของเฟิงหรูชิง
แต่ไรมามีครั้งไหนที่นางจะไม่พูดจาเย้ยหยัน มีหรือ…ที่จะเข้าอกเข้าใจคนอื่นเช่นนี้
“ท่านพี่…” เว่ยผิ่นเหยาเงยหน้ามองฉินอี๋ เหมือนต้องการรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ฉินอี๋ปลอบเว่ยผิ่นเหยาด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่ออาหารนี่กินแล้วท้องไม่เสีย เจ้าก็กินให้เต็มที่เถอะ จะได้ไม่เสียน้ำใจนาง”
ไม่ว่าในใจนางจะให้อภัยเฟิงหรูชิงจริงหรือไม่ แต่เพื่อน่าหลานฉางเฉียนแล้ว นางเลือกที่จะยอมรับน้ำใจจากเฟิงหรูชิง
แต่ภาพจำอันเลวร้ายที่อยู่ในใจนั้นมีมากมายเหลือเกิน จะให้ลบทิ้งทั้งหมด มันยากแสนยาก
“ใครก็ได้ ไปเอาชามกับตะเกียบมาให้ฮูหยินรองหน่อยซิ”
“เจ้าค่ะ”
สาวใช้รับคำสั่งแล้วถอยออกไป
สักครู่หนึ่งนางก็ถือชามกับตะเกียบเดินเข้าห้องมา แล้วตักน้ำแกงเต็มชาม เดินมาที่เตียงของเว่ยผิ่นเหยา
“แค่กๆ !”
เว่ยผิ่นเหยาไออีกแล้ว ใบหน้าของนางดูซีดเซียว ร่างกายของนางดูซูบผอมจนอาจถูกลมพัดปลิวได้ทุกเวลา
แต่เว่ยผิ่นเหยาเมื่อเปรียบกับเว่ยเมิ่งเจี๋ยที่แต่งหน้าฉูดฉาด นางกลับมีความงามบางอย่างที่ทำให้คนรักและเห็นใจ
มิน่าล่ะฉินซวินจึงรักนางขนาดนี้ เพื่อไม่ให้นางต้องเสียใจ เขายอมไม่มีอนุไปชั่วชีวิต
…………………………………..
ตอนที่ 136 ใส่ยาพิษ? (1)
ตุ๋นไก่ดำกลิ่นหอมรัญจวน ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของยา ทำให้อาการไอของเว่ยผิ่นเหยาบรรเทาลง ไม่ไอหนักเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“น้ำแกงนี่…” เว่ยผิ่นเหยาซดน้ำแกงที่สาวใช้ป้อนให้อีกช้อน นางรู้สึกประหลาด เงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ แววตาแสดงถึงความตะลึง “ท่านใส่ยาลงไปตุ๋นด้วยหรือ”
ฉินอี๋ตกใจ ทุกคนต่างรู้ดีว่ายาจะกินซี้ซั้วไม่ได้ นางไม่เคยได้ยินว่าอาหารจะใส่ยาลงไปปรุงด้วยได้ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของเว่ยผิ่นเหยา ใจที่รู้สึกเบาก็กลับมาเป็นกังวลอีกครั้ง
“ถูกต้อง” เฟิงหรูชิงยิ้ม “ข้าได้ยินท่านลุงบอกว่าท่านน้าเหยาไม่ค่อยสบาย ข้าเลยตั้งใจปรุงอาหารบำรุงสุขภาพเพื่อนางโดยเฉพาะ อาหารบำรุงสุขภาพนี่ช่วยบำรุงเลือดลม ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่เพราะในนั้นมียาเป็นส่วนประกอบ จะกินมากๆ ไม่ได้ วันหนึ่งกินแค่ครั้งเดียวก็พอ”
ต่อให้ยาเหล่านี้ไม่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ คนธรรมดาต่างกินได้ แต่ยาก็คือยา กินมากเกินไปย่อมมีผลกระทบต่อร่างกาย
“มิน่า มิน่าพอหม่อมฉันซดน้ำแกงเข้าไป ถึงรู้สึกมีแรงขึ้นมา ไม่รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพียงแรงเหมือนตอนแรก” เว่ยผิ่นเหยายิ้มใบหน้าที่เคยซีดขาวก็เริ่มดูมีน้ำมีนวล นางยิ้มแล้วพูดว่า “แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าอาหารบำรุงสุขภาพ”
อาหารบำรุงสุขภาพที่ทำมาครั้งนี้ เฟิงหรูชิงไม่ได้ใส่ยาวิเศษลงไปปรุงด้วย ดังนั้นเว่ยผิ่นเหยาจึงรู้สึกเพียงว่าเริ่มมีแรงขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่เห็นผลรวดเร็วขนาดลุกขึ้นนั่งเองได้ แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น สำหรับเว่ยผิ่นเหยาที่นอนติดเตียงมานานหลายปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นอีกความหวังหนึ่งของนาง
“ผิ่นเหยา ข้าจะแมะชีพจรให้เจ้า” ฉินอี๋ยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วจับเส้นชีพจรของเว่ยผิ่นเหยา นางเงียบไปครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน นางลุกขึ้นช้าๆ นางจึงถอนหายใจออกราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
“ชีพจรของผิ่นเหยาดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก องค์หญิงข้าหลงตำหนิท่านไป”
นางยังไม่ลืมตอนที่เฟิงหรูชิงเสแสร้งทำดีแล้ววางยาใส่ฉางเฉียน เพราะเหตุนั้นต่อให้ครั้งนี้เฟิงหรูชิงจะทำตัวเป็นคนดีอย่างไร นางก็ไม่อยากเชื่อใจเฟิงหรูชิงให้มากนัก
เฟิงหรูชิงเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านป้ากับท่านน้าเหยาไม่ตำหนิที่ข้าเคยทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้ก็ดีมากแล้ว เรื่องอื่นๆ ไม่สำคัญหรอก”
เมื่อเห็นเฟิงหรูชิงเปลี่ยนไปเช่นนี้ เว่ยผิ่นเหยารู้สึกดีใจ
จวนแม่ทัพกับสามตระกูลใหญ่สนิทสนมกันมาหลายชั่วคน เว่ยผิ่นเหยาเป็นเพื่อนสนิทของน่าหลานฮองเฮามานานหลายปี หากเฟิงหรูชิงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ นับเป็นเรื่องดีสำหรับแคว้นหลิวอวิ๋นและสกุลน่าหลาน
“คนธรรมดาหาใช่ปราชญ์เมธี มีใครบ้างไม่เคยผิดพลาด บัดนี้องค์หญิงรู้ว่าสิ่งใดถูกควรก็เพียงพอแล้ว สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้วก็ให้แล้วกันไป ท่านพี่ ท่านก็ปล่อยวางเรื่องอดีตไปเถอะนะ ถือว่าเห็นแก่พี่เขยกับน่าหลานฮองเฮา อย่าเก็บสิ่งผิดพลาดในอดีตของนางไว้ในใจอีกเลย”
ฉินอี๋หัวเราะฝืดๆ อย่างจนใจ “เจ้าน่ะ เอาบทคนดีไป เหลือบนคนชั่วให้ข้าเล่นใช่หรือไม่ ขอแค่นางไม่ทำร้ายคนในสกุลน่าหลานก็ดีถมเถแล้ว”
แม้นางจะไม่โกรธแค้นเฟิงหรูชิงอีก แต่…จะให้กลับไปสนิทสนมเหมือนเมื่อครั้งสิบกว่าปีก่อน คงทำไม่ได้ เว่ยผิ่นเหยายิ้ม พี่สาวสามีนางเป็นคนปากแข็งแต่ใจอ่อน นางไม่เคยบอกว่าจะยกโทษให้องค์หญิงทั้งหมด เพราะการจะให้นางลบรอยแผลออกจากใจนั้นมันยากเสียเหลือเกิน
แต่นางเชื่อว่า หากองค์หญิงทำแบบวันนี้ไปได้ตลอด ต้องมีสักวันที่ฉินอี๋จะกลับไปรักใคร่นางเหมือนเช่นเมื่อก่อนได้
นิสัยเดิมขององค์หญิงไม่เลวร้าย นางแค่…ถูกทำให้เสียคนเท่านั้น
……………………………………….