เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 309 หมาป่าจวนองค์หญิงบ้าไปแล้ว (4) / ตอนที่ 310 หมากัดกัน (1)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 309 หมาป่าจวนองค์หญิงบ้าไปแล้ว (4) / ตอนที่ 310 หมากัดกัน (1)
ตอนที่ 309 หมาป่าจวนองค์หญิงบ้าไปแล้ว (4)
“ไปเถอะ”
เฟิงหรูชิงสะบัดมือไล่
เพื่อขุนนางผู้ภักดีแล้ว เฟิงหรูชิงไม่รู้สึกเสียดาย
ถ้าหากกำลังความสามารถของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งสามารถช่วยนางปกป้องแคว้นหลิวอวิ๋นได้!
“หลังจากนั้นพวกเจ้าเอาเหล้าบรรจุไห ทยอยไปส่งให้จวนแม่ทัพ บ้านสกุลฉิน บ้านสกุลเว่ย และบ้านสกุลเจี่ยงที่ละหนึ่งไห เดี๋ยวข้าจะเข้าวังไปเยี่ยมเสด็จพ่อ พวกเจ้าส่งเหล้าแทนข้าด้วย”
ฉิน เว่ยและเจี่ยงเป็นสามตระกูลใหญ่ของแคว้นหลิวอวิ๋น เป็นตระกูลที่ท่านตาให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ
นางเชื่อมั่นในสายตาของท่านตา จึงให้ความไว้วางใจสามตระกูลนั้นด้วย
ผู้เฒ่าสกุลฉินบรรลุฌานระดับหลิงอู่แล้ว เหลือเพียงอีกสองตระกูลที่ยังไม่บรรลุ เชื่อว่าผลของเหล้าวิเศษนี้จะช่วยให้อีกไม่นาน ทั้งสามตระกูลจะมีผู้มีฌานระดับหลิงอู่คอยเป็นเสาหลักช่วยเหลือ
เมื่อแคว้นหลิวอวิ๋นโดยรวมมีกำลังความสามารถสูงขึ้นเมื่อไร เมื่อนั้นนางก็เดินทางออกจากแคว้นหลิวอวิ๋นไปล้างแค้นให้เสด็จแม่ได้อย่างไร้กังวล!
“เพคะ องค์หญิง”
สายตาของหลิวลี่ที่มองดูองค์หญิงเต็มไปด้วยความปีติ ตอนนี้องค์หญิงมีความเก่งกล้า หากน่าหลานฮองเฮายังอยู่จะต้องดีพระทัยเป็นแน่
แต่สุดท้าย การจากไปของน่าหลานฮองเฮาได้กลายเป็นความเจ็บปวดใจของทุกคน และเป็นความเสียดายอันยิ่งใหญ่ของแคว้นหลิวอวิ๋น
…
จวนเสนาบดี
เสนาบดีหลิ่วฟังลูกน้องมารายงานอย่างอึ้งๆ เขาหายใจแรง กำหมัดแน่น “เจ้าพูดว่า องค์หญิงประทานรางวัลให้ขุนนางพวกนั้นหรือ รางวัลที่ให้มียาวิเศษระดับสามห้าต้นด้วยอย่างนั้นหรือ”
ยาวิเศษระดับสามห้าต้น ระดับสองสิบต้น และระดับหนึ่งอีกร้อยต้น!
แค่ได้ยินเขาก็หัวใจเต้นแรง
เขาอดลุกขึ้นยืนไม่ได้ สีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น “แล้วรู้หรือไม่ว่าเหตุใดองค์หญิงถึงประทานของรางวัล”
ทหารยามที่ยืนอยู่ด้านล่างตอบด้วยความนอบน้อม “ข้าน้อยได้ยินสาวใช้ขององค์หญิงพูดว่า ของรางวัลเหล่านั้นมอบให้บรรดาขุนนางใหญ่ที่ลุกขึ้นต่อสู้กับคนของแคว้นหลงอ้าวในงานเลี้ยงเมื่อคืนขอรับ”
ตุบ!
เสนาบดีหลิ่วขาอ่อน นั่งพับลงบนเก้าอี้ เขาหน้าซีดขาว มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่น
คืนวาน…เขามัวแต่ทำอะไรอยู่
ขุนนางมากมายที่ไม่ห่วงชีวิตของตน แม้รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเก่งกว่าแต่ยังลุกขึ้นสู้
แต่เขา…กลับหดหัวอยู่ในกระดอง หลบซ่อนอยู่ในมุมไม่กล้าขยับเขยื้อน กลัวว่าคนของแคว้นหลงอ้าวจะจับจ้องมาที่เขา!
เสนาบดีหลิ่วไม่คิดว่าตัวเองทำผิดอะไร คนเราย่อมรักตัวกลัวตายเป็นธรรมดา เขาผิดตรงไหน
เพล้ง!
เสียงชามกระเบื้องแตกดังมาจากด้านนอก
เสนาบดีหลิ่วเงยหน้าขึ้น เห็นหลิ่วฮูหยินยืนอยู่หน้าประตู ตรงหน้านางมีชามหล่นแตกอยู่ที่พื้น
น้ำแกงหกกระจายไปทั่วพื้น แต่นางกลับไม่รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้า นางเดินย่ำน้ำที่นองบนพื้นเดินตรงเข้ามา ใบหน้าอันงดงามแสดงถึงความตกใจ
“ท่านพี่ เมื่อครู่ข้าฟังผิดไปหรือไม่ ยาวิเศษระดับสามห้าต้น ระดับสองสิบต้น และระดับหนึ่งอีกร้อยต้น! และขุนนางที่ได้รับรางวัลไม่ได้มีเพียงคนเดียว? เฟิงหรูชิงเอายาวิเศษมากมายขนาดนี้มาจากที่ใด หรือว่าฝ่าบาทพระราชทานให้นาง?”
การมียาวิเศษมากมายกับการให้ยาวิเศษมากมายขนาดนี้ มันเป็นคนละเรื่องกัน
ต่อให้ฝ่าบาทเป็นผู้พระราชทานยาวิเศษมากมายขนาดนี้ให้นาง แต่การที่นางกล้าให้คนอื่นมากขนาดนี้ แสดงว่านางต้องมีมากกว่านี้แน่นอน!
เสนาบดีหลิ่วขมวดคิ้ว “ฮูหยิน เจ้าอย่าล้ำเส้น นางเป็นองค์หญิง การเรียกชื่อนางตรงๆ แสดงถึงความไม่เคารพ อีกอย่าง ยาวิเศษของแคว้นหลิวอวิ๋นเก็บอยู่ในพระคลังหลวง ในพระคลังหลวงมีปริมาณเท่าไร ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร ยาวิเศษขององค์หญิงไม่ใช่ของที่ฝ่าบาทพระราชทาน แต่เป็นของนางต่างหาก”
หลิวฮูหยินอึ้ง นางเสียงสั่น “แต่เฟิงหรูชิง…เป็นคนไม่เอาถ่านไม่ใช่หรือ นางเอายาวิเศษมาจากไหนกัน หรือว่านางไปซื้อมาจากร้านขายยาวิเศษ มันต้องใช้เงินมากแค่ไหน”
ตอนที่ 310 หมากัดกัน (1)
ถ้า…ถ้าเฟิงหรูชิงยังเป็นสะใภ้ของสกุลหลิ่ว ยาวิเศษพวกนั้นจะไม่ตกเป็นของนางทั้งหมดหรอกหรือ
“คนไม่เอาถ่าน?” เสนาบดีหลิ่วมองหลิ่วฮูหยินและเบ้ปากแกมดูถูก “เจ้าพูดว่านางเป็นคนไม่เอาถ่าน แต่นางหักคอผู้มีฌานระดับหลิงอู่จนหัวหลุดออกมาได้ในพริบตา แถมนางยังมีหมาป่าสัตว์วิเศษระดับสี่ ในทัพเลือดเหล็กของนางมีคนบรรลุฌานระดับหลิงอู่แล้วสองคน ในสายตาเจ้า กำลังความสามารถกับพรสวรรค์เช่นนี้ ยังถือเป็นคนไม่เอาถ่านอีกหรือ”
หลิ่วฮูหยินอึ้ง หักคอผู้มีฌานระดับหลิงอู่จนหัวหลุดออกมาได้ในพริบตา?
เฟิงหรูชิงเป็นคนไม่เอาเรื่องเอาราวสักอย่างมิใช่หรือ แล้วนางไปเอาความสามารถแบบนี้มาจากไหน
“อีกอย่าง ไม่รู้ว่านางเอายาวิเศษมาจากไหนมากมายขนาดนี้” เสนาบดีหลิ่วยิ้มเยาะ
“เมื่อก่อนพวกเจ้าคัดค้านไม่ให้อวี้เฉินแต่งงานกับนาง มีข้าที่ยืนกรานจะให้แต่ง แต่สุดท้ายพวกเจ้าทำอะไรลงไป พวกเจ้าทำให้นางโมโหจนออกจากบ้านเราไป ทำให้จวนเสนาบดีต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้”
ยังไม่ต้องพูดถึงฐานะของเฟิงหรูชิง ลำพังแค่ยาวิเศษที่นางมี ก็ทำให้ฌานของเขาก้าวหน้าขึ้นได้มากกว่าหนึ่งระดับแล้ว
หลิ่วฮูหยินรู้สึกจุกและอับอาย “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่านางมียาวิเศษมากขนาดนี้”
หากรู้แต่แรก นางคงไม่บอกให้อวี้เฉินหย่ากับเฟิงหรูชิงแน่นอน
“พอได้แล้ว เจ้าไปบอกอวี้เฉินว่า เขาต้องมัดใจของเฟิงหรูชิงเอากลับคืนมาให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลับมาที่บ้านสกุลหลิ่วอีก” เสนาบดีหลิ่วสะบัดมือไล่ด้วยสีหน้าเซ็ง แววตาไม่สบอารมณ์
“ส่วนถานซวงซวง…ข้าให้นางอยู่ที่บ้านสกุลหลิ่วได้ แต่ห้ามนอนกับอวี้เฉินเด็ดขาด ต่อให้รับนางเป็นอนุข้าก็ไม่อนุญาต!”
สมัยก่อนเฟิงหรูชิงไม่ยอมให้อวี้เฉินรับอนุ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ หากถานซวงซวงนอนกับอวี้เฉินละก็ เฟิงหรูชิงกับเขาก็ต้องจบกัน
เมื่อพูดถึงถานซวงซวง หลิ่วฮูหยินก็รู้สึกโมโห
สมัยก่อนนางเห็นแก่ที่ถานซวงซวงเป็นลูกสาวของไท่ฟู่ ฐานะทัดเทียมกับอวี้เฉิน ทั้งยังอ่อนโยนจิตใจงดงาม กริยามารยาทดี นางจึงชอบถานซวงซวงมาก
แต่วันนั้นที่อยู่ในร้านขายยาของหอแห่งแรก ถานซวงซวงให้อวี้เฉินเลือกปกป้องนาง แล้วปล่อยให้แม่บังเกิดเกล้าของเขาถูกโบยอย่างออกหน้าออกตา!
หลิ่วอวี้เฉินออกมาจากท้องของนาง ไม่รู้ว่าถานซวงซวงเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าหลิ่วอวี้เฉินจะเลือกตัวเอง!
แถมนางยังทำเป็นพูดว่ายินดีที่จะถูกโบยร้อยที
หากนางยินดีจริงๆ เหตุใดไม่พูดเสียแต่แรก ต้องรอให้หลิ่วอวี้เฉินเลือกก่อน นางถึงทำฟูมฟาย ไม่รู้ว่าเล่นละครให้ใครดูกันแน่
“ท่านพี่ เมื่อก่อนข้ามีตาหามีแววไม่ เดี๋ยวข้าจะให้อวี้เฉินไปหาองค์หญิง จะต้องมัดใจองค์หญิงกลับมาเป็นของเขาให้ได้”
นัยน์ตาของหลิ่วฮูหยินมีประกายชั่วร้าย
สำหรับองค์หญิงแล้ว การจัดการผู้มีฌานระดับหลิงอู่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แสดงว่ากำลังความสามารถของนางต้องอยู่ในระดับหลิ่งอู่เช่นกัน
อีกทั้งนางยังมียาวิเศษมากมายนับไม่ถ้วน
ส่วนถานซวงซวง…ถานไท่ฟู่ถูกถอดยศไปแล้ว นางไม่คู่ควรกับอวี้เฉินอีกต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้ เฟิงหรูชิงจึงเหมาะสมที่จะเป็นฮูหยินของบ้านสกุลหลิ่วที่สุด
…
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หลิ่วฮูหยินจึงไม่หยุดอยู่ที่เดิม นางกลับหลังและเดินออกจากโถงรับแขก มุ่งตรงเข้าไปที่เรือนด้านใน
ไกลออกไปนางได้ยินเสียงของหล่นแตกดังมาจากเรือนด้านใน เหมือนกับมีคนกวาดถ้วยและกาน้ำชาบนโต๊ะให้หล่นลงพื้น เสียงแตกดังเพล้ง
หลิ่วฮูหยินหยุดเดิน นางขมวดคิ้ว สายตาดูหงุดหงิด ในที่สุดนางก็เปิดประตูห้องเข้าไป
ในห้องอันสวยงามถานซวงซวงนอนอยู่บนโต๊ะ นางร้องไห้ฟูมฟาย สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ พยายามเกลี้ยกล่อมนางไม่หยุดแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
นางร้องไห้ราวกับใจจะขาด เสียงร้องนั้นแสดงถึงความโกรธแค้นและเจ็บใจ
“พวกเจ้าออกไปได้” หลิ่วฮูหยินพูดอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด