เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 367 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (1)/ตอนที่ 368 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (2)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 367 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (1)/ตอนที่ 368 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (2)
ตอนที่ 367 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (1)
“ลูกชายลูกสาวของนาง…ไม่อยู่แล้วหรือ?”
เฟิงหรูชิงก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าเหตุใดจึงอยากรู้เรื่องนี้ แต่กลับเอ่ยถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
ถังอิ่นส่ายหน้า “ข้าไม่รู้แน่ชัด แต่ว่าถังลั่วพูดว่าดูเหมือนสตินางจะไม่ปกตินัก ดังนั้นไม่อนุญาตให้คนตระกูลถังไปที่หลังเขา”
หรงเยียนมาอยู่ตระกูลถังสิบปีแล้ว นางไม่เคยเห็นสักครั้งก็ด้วยเหตุผลนี้ ผู้เฒ่าตระกูลถังไม่อนุญาตให้นางไปหลังเขา
คิดๆ ดูแล้วก็น่าเสียดาย…
ใจเฟิงหรูชิงสั่นสะเทือน หลุบตาลงมุมปากยกยิ้มขมขื่น
“นางไม่มีลูกชายลูกสาว ส่วนข้าก็ไม่มีแม่ ดูเหมือนจะหัวอกเดียวกัน”
ดังนั้นนางจะไม่มีพ่ออีกไม่ได้!
เฟิงหรูชิงไม่ได้อาลัยอาวรณ์อีกต่อไป นางละสายตาจากหรงเยียนกลับมาหันหลังเดินออกนอกตระกูลถังไป
วินาทีที่นางหันหลังกลับ ดวงตาคู่นั้นเย็นไปถึงกระดูก
ตระกูลถังติดค้างถังจือ ไม่ช้าก็เร็วนางจะกลับมาเอาคืน!
นางจะพาถังจือเดินเข้าตระกูลถังอย่างเปิดเผย! ทวงคืนหนี้เมื่อตอนนั้น!
…
บนยอดเขาเหนือเมฆ หญิงชุดขาวหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดหุบเขา
หงส์สีขาวข้างๆ เงยหน้ามองนางเป็นครั้งคราว นัยน์ตาหงส์คู่งามแฝงด้วยความอาลัยอาวรณ์และความอบอุ่น
ในเวลานี้เอง…
รู้สึกถึงกลิ่นอายที่ลอยมาไม่ไกล หงส์ขาวโกรธขึ้นมาในทันใด มันลุกขึ้นยืนแววตาโกรธเคืองจ้องมองไปร่างที่เหมือนเทพเซียนนั้น
หญิงชุดขาวก็สังเกตได้ถึงบางอย่าง นางลืมตาขึ้นรอยยิ้มบางๆ หันไปทางหนานเสียน “เจ้าจะลงเขาวันนี้ใช่หรือไม่?”
หนานเสียนพยักหน้าเล็กน้อย “อื้อ ชิงเอ๋อร์กำลังรอข้าอยู่”
“เช่นนั้นเจ้าก็รีบไป อย่าให้ผู้หญิงต้องรอนาน”
“ขอรับ” คิ้วหนานเสียนขมวดเบาๆ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ตั้งใจใช้น้ำเสียงนิ่งเรียบเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ข้าต้องไปจากยอดเขาเซินอวิ๋นก็เพราะชิงเอ๋อร์เจอเรื่องยุ่งยาก”
หญิงชุดขาวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยุ่งยาก?”
“ตระกูลถังมีคนคิดแตะต้องชิงเอ๋อร์” สายตานิ่งเรียบของเขามองไปยังหญิงชุดขาว
นิ้วมือของหญิงชุดขาวลูบหงส์ขาวที่อยู่ด้านข้าง ราวกับรําพึงรําพันกับตัวเอง “ตระกูลถังหรือ?”
ดูเหมือนคนคนนั้นคู่หมั้นที่จะหาให้หนานเสียนก็เป็นคนตระกูลถัง…
ตอนนี้ตระกูลถังก็คิดจะแตะต้องแม่นางผู้นั้นของหนานเสียน…
“หนานเสียน” ท่าทีของหญิงชุดขาวอ่อนโยน สงบนิ่ง งดงามดั่งเทพเซียน “ตู้โตว[1]นี้เจ้านำไปให้นาง”
สายตาหนานเสียนมองไปยังมือหญิงชุดขาวช้าๆ
บนมือของนางมีตู้โตวสีแดงนอนนิ่งอยู่
“ผ้าไหมที่ตัดเย็บนี่ข้าใช้ใยไหมวิเศษแล้วให้จิ้งจอกไฟใช้ไฟเผา สุดท้ายก็แช่ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกครึ่งเดือน ในช่วงเวลาคับขันที่สุดสามารถช่วยชีวิตนางได้ มีผลสามครั้ง”
พูดถึงตู้โตวนี้แล้วแววตาหญิงชุดขาวก็มืดลงหลายส่วน นัยน์ตาเย็นยะเยือก
“ตอนแรกหลังจากข้าตัดเย็บตู้โตวเสร็จเขาคิดจะเอาไปให้คนรู้ใจของเขา ข้าไม่ยอมก็เลยเก็บเอาไว้ เดิมตั้งใจว่าชีวิตนี้จะไม่เอาออกมาอีก แต่ตอนนี้กลับไม่มีทางเลือก”
หนานเสียนยื่นมือไปรับตู้โตวมาไว้ในมือ
เขายิ้มบางๆ “ข้าขอบคุณท่านแทนชิงเอ๋อร์ด้วย”
หญิงชุดขาวยิ้ม “ของชิ้นนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับข้า ให้นางไปก็ถือเป็นการใช้ของให้คุ้มค่า”
หนานเสียนไม่พูดอะไรอีก สายตาเขาหันไปทางหงส์ขาว
“ขนของหงส์ขาว…งามมาก”
หากดึงมาทำชุดให้ชิงเอ๋อร์ละก็ชิงเอ๋อร์จะต้องดีใจมาก
“แกว๊ก!”
หงส์ขาวตกใจรีบหนีไปแอบหลังหญิงชุดขาว ใช้แววตาเศร้าสร้อยนั้นจับจ้องไปที่หนานเสียน
……………………….
ตอนที่ 368 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (2)
หนานเสียนไม่เคยชมมันมาก่อน!
เพราะฉะนั้นทันทีที่ได้ยินคำนั้นก็รู้เลยว่าเจ้าคนชั่วนี่คิดไม่ดีแน่!
“หนานเสียนเจ้าอย่าเอาแต่รังแกหงส์ขาว” หญิงชุดขาวยิ้มอย่างจนใจ “มิเช่นนั้นมันจะร้องไห้อีก”
หงส์ขาวพยักหน้าสุดชีวิต
ใช่แล้ว ใช่แล้ว หากหนานเสียนรังแกมันอีกมันจะร้องไห้ให้เขาดู!
เดิมหนานเสียนที่ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หลังจากจบประโยคสุดท้ายของหญิงชุดขาวนัยน์ตาที่เรียบนิ่งก็มีแสงประกายออกมา
ร้องไห้?
เช่นนั้น…ต้องนำน้ำตาไปให้ชิงเอ๋อร์เยอะอีกหน่อยหรือไม่?
ขุมสมบัติของหงส์ขาวเขาขนไปจนหมดแล้ว หากจะทำให้มันร้องไห้เกรงว่าคงจะมีแต่ขนบนตัวที่ทำให้มันภูมิใจ…
“อื้อ” หนานเสียนขมวดคิ้วน้อยๆ “ข้าไม่รังแกมันก็ได้ แต่ชิงเอ๋อร์ถูกคนรังแกข้าอารมณ์ไม่ดี”
สายตาหญิงชุดขาวมองไปยังหงส์ขาวแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ
“หนานเสียนพูดก็ไม่ผิด หงส์ขาว นังหนูถูกคนรังแกแล้ว เจ้าในฐานะคนในครอบครัวไม่ควรจะนำของมีค่าอะไรออกมาปกป้องนังหนูเสียหน่อยหรือ?
หงส์ขาวโกรธจนเท้าไม่ติดพื้น
ของมีค่าของมัน ของมีค่าของมันถูกหนานเสียนเอาไปหมดแล้ว!
จะเอาอะไรมาแสดง?
ทว่า…
ประโยคสุดท้ายของหญิงชุดขาวกลับเข้าไปในใจของหงส์ขาวในทันใด ทำให้ความไม่พอใจก่อนหน้านี้ของมันหายไปหมด
คนในครอบครัว ซู่อีบอกว่ามันเป็นคนในครอบครัว…เช่นนั้นก็หมายความว่าซู่อียอมรับมันแล้วใช่หรือไม่?
หัวทั้งหัวของหงส์ขาวแทบจะลอยได้ เสี่ยวจีจีตั้งขึ้น มันล้วงเข้าไปในอกอยู่นานกว่าจะหยิบขนนกออกมาหนึ่งเส้นส่งให้หนานเสียน
“นี่ของที่ล้ำค่าที่ชุดในตัวข้า ขอเพียงนางจุดไฟเผาขนนกนี่ ร่างของข้าก็จะสามารถปรากฏตัวขึ้นในทันที แม้ตอนนี้ข้าจะยังแปลงร่างเป็นคนไม่ได้แต่จัดการกับตระกูลถังอะไรนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร”
สีหน้าหนานเสียนนิ่งเรียบแสดงชัดว่าไม่พอใจกับของขวัญนี้
แต่เขาก็เข้าใจ หงส์ขาวนำของอะไรออกมาไม่ได้อีกแล้ว
ทำได้เพียงรับเอาขนนกมาจากหงส์ขาวแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ขนนกนี่ก็นับว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยตอนที่ชิงเอ๋อร์อยากจะทำลายตระกูลถังก็ไม่ต้องเปื้อนมือตัวเอง มีเจ้าช่วยนางเก็บกวาดก็พอแล้ว”
หงส์ขาวนิ่งค้างไปชั่วครู่ก่อนที่จะโมโห “หนานเสียนเจ้าดูถูกข้า! นี่เป็นขนนกวิญญาณของพวกเราตระกูลหงส์ขาว สามารถสร้างร่างอีกร่างออกมาจากร่างต้น ข้าใช้เวลายี่สิบปีกว่าจะมีขนนกวิญญาณออกมาเส้นหนึ่งเท่านั้น เจ้ารู้หรือไม่ว่าขนนี่แทนพลังมากเพียงใด?”
“อื้อ”
ต่อหน้าหงส์ขาวที่กำลังโกรธราวกับสายฟ้าผ่าหนานเสียนกลับเพียงตอบรับนิ่งๆ
เวลานั้นหงส์ขาวน้อยใจจนไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว
แม่ลูกคู่นี้นิสัยคล้ายกันเหลือเกิน เป็นประเภทที่พูดไปพูดมาแล้วทำให้เจ้าพูดต่อไปถูก
“ข้าไปแล้ว”
หนานเสียนหันไปมองหญิงชุดขาว “ท่านดูแลตัวเองด้วย”
หญิงชุดขาวพยักหน้า “รีบไปเถอะ”
หนานเสียนละสายตากลับมา ชุดขาวตัวยาวค่อยๆ หายลับไปจากยอดเขาเมฆ
…
เลือด
สีเลือดย้อมพระราชวังแดงเถือก
บนเตียงไม้จันทร์ หญิงสาวกำผ้าห่มแน่นสีหน้านางซีดขาวปกคลุมด้วยน้ำตา
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง” แม่นมเฒ่าที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นด้วยความกังวล “ในวังมีนักฆ่าเข้ามา คนพวกนั้นล้วนไม่สามารถจัดการได้ฝ่าบาทตั้งใจจะลงมือเอง แต่ทว่าเหนียงเหนียงไม่ต้องทรงกังวล ฝ่าบาทมีพรสวรรค์เป็นเลิศพละกำลังแข็งแกร่งไม่มีทางเกิดเรื่อง รอเหนียงเหนียงให้กำเนิดเสร็จฝ่าบาทก็กลับมาแล้ว”
มือของหญิงสาวที่กำผ้าห่มกำแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ในดวงตาคู่สวยของนางนอกจากความกังวลแล้วที่มากกว่านั้นคือความเกรี้ยวโกรธ
เหตุใดจึงกล้า…
คนพวกนั้นเหตุใดจึงกล้ามาที่นี่?
ตั้งกฎแต่กลับไม่สนใจกฏ?
………………………………..
[1] ตู้โตว ผ้าปิดหน้าอกผู้หญิงสีแดง