เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 469 หงส์ขาวออกโรง (1)/ตอนที่ 470 หงส์ขาวออกโรง (2)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 469 หงส์ขาวออกโรง (1)/ตอนที่ 470 หงส์ขาวออกโรง (2)
ตอนที่ 469 หงส์ขาวออกโรง (1)
บรรดาศิษย์ของพรรคเภสัชเทพเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง พากันพุ่งไปทางห้องสุขา
บางคนเพื่อแย่งชิงห้องสุขาถึงกับลงมือต่อศิษย์ร่วมสำนัก กระทำเพื่อทางรอดเดียวของตัวเอง
“หยุดมือ หยุดให้หมด!” จงฝูเอามือกุมท้อง ตวาดก้องด้วยโทสะ “ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น ข้าจะขับไล่ออกจากพรรคทั้งหมด! เพื่อสุขาถึงกับลงมือทำร้ายกันใช้ได้ที่ไหน ทำโทษยืนครึ่งชั่วยาม!”
คำพูดประโยคนี้ของเขา ทำเอาศิษย์ทั้งหลายตกตะลึง พวกเขาทนความเจ็บปวดและกลิ่นเหม็น ยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์
จงฝูระบายลมหายใจ เขาจับบริเวณท้องที่เจ็บปวด พุ่งไปห้องสุขาอย่างว่องไว
…
เมืองเยว่
ในจวนเจ้าเมือง
กลุ่มมีอำนาจทั้งหลายต่างมารวมตัวกัน
ข้างกายเยว่ปู้สงเจ้าเมืองมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนอยู่
ใบหน้าชายวัยกลางคนผู้นั้นหยิ่งผยอง ประหนึ่งไม่เห็นกลุ่มคนเบื้องหน้าอยู่ในสายตา
กลุ่มผู้มีอำนาจในเมืองเยว่ไม่รู้จักชายวัยกลางคนผู้นี้ แต่มองปราดเดียวพวกเขาก็จำแม่นางที่อยู่เบื้องหลังชายวัยกลางคนได้ นั่นคือถังอวี้คุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
“ท่านเหวินเฟิง” เยว่ปู้สงทำท่าทีพินอบพิเทาต่อเหวินเฟิง “ท่านวางใจได้ คนของเมืองเยว่ทั้งหมด ล้วนเป็นกำลังช่วยเหลือจวนเฟิงอวิ๋น”
เหวินเฟิงพยักหน้าน้อยๆ สายตาเขาจับจ้องไปที่คนอื่นๆ
“ทุกท่าน หากพวกท่านช่วยเหลือจวนเฟิงอวิ๋นเรา ภายหน้าจวนเฟิงอวิ๋นจะให้การดูแลพวกท่านอย่างดี เรื่องนี้ข้ารับรองได้!”
ระยะเวลาสองวัน ไม่เพียงเรียกกำลังผู้ทรงอำนาจในเมืองเยว่มาได้เท่านั้น ยังรวมคนที่เคยได้รับการฝึกฝนของจวนหลิวอวิ๋นมาได้ด้วยเช่นกัน
ถึงพวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่นี่คือคำสั่งคุณหนูใหญ่และผู้พิทักษ์เหวินเฟิง พวกเขาไม่อาจไม่ทำตาม
“ยังมีคนของจวนเฟิงอวิ๋นทุกท่าน มุมปากของเหวินเฟิงหยัดยิ้ม สายตาเขามองไปที่คนอื่นๆ ของจวนเฟิงอวิ๋น “ข้ารู้ว่าพวกท่านทุกคนอยากรู้ว่าไฉนข้าถึงลงมือกับคนของโลกปุถุชนเหล่านั้น! คนพวกนั้นล่วงเกินจวนเฟิงอวิ๋นก่อน! พวกเขาฉวยโอกาสที่ท่านเจ้าบ้านของเราได้รับบาดเจ็บสาหัส ลักพาตัวนางไป! และก็เป็นพวกเขาอีกเช่นกันที่แย่งชิงตัวนางไปหลังจากที่พวกเราหาพบ!
ยามนี้ท่านเจ้าบ้านถูกพวกเขาวางยาพิษ เกรงว่าจะจบชีวิตไปแล้ว คนพวกนั้นทำร้ายท่านเจ้าบ้าน หนี้เลือดนี้พวกเราต้องให้พวกมันชดใช้ด้วยเลือด!”
ในโลกสันโดษมีกฎ ห้ามฆ่าคนจากโลกปุถุชน
แต่ว่า…
หากคนของโลกปุถุชนลงมือก่อน เช่นนั้นไม่ว่าพวกเขาทำอะไร ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องแบกรับ!
คนของจวนเฟิงอวิ๋น…
สิบปีก่อนท่านเจ้าบ้านหายตัวไป ทั่วทั้งจวนเฟิงอวิ๋นคล้ายตกอยู่ในความมืดมิด
คิดไม่ถึงว่าเวลานี้ ในที่สุดก็พบท่านเจ้าบ้านแล้ว!
“แต่ว่า…” ยอดฝีมือผู้หนึ่งในจวนเฟิงอวิ๋นเอ่ยเสียงอ่อนว่า “ก่อนหน้านี้มิใช่บอกว่าท่านเจ้าบ้านจบชีวิตแล้วหรืออย่างไร”
ในความเป็นเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านเจ้าบ้านในจวนเฟิงอวิ๋นล้วนเป็นความลับ ไม่ว่าเป็นหรือตายก็ตามที
นี่เป็นสิ่งที่ถังอวี้ป่าวประกาศออกไปเองเพื่อสร้างฐานะให้ตัวเองมีที่ยืนในจวนเฟิงอวิ๋นอย่างมั่นคง
เหวินเฟิงมองถังอวี้ที่มีสีหน้าหม่นลง เขารีบตอบโต้ว่า “ไม่ผิด ตอนนั้นพวกเราคิดว่าท่านเจ้าบ้านตายแล้ว เพราะหลายปีที่ผ่านมาท่านเจ้าบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส นางมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน กอปรกับศัตรูนางแข็งแกร่งยิ่ง เพื่อกันไม่ให้จวนเฟิงอวิ๋นถูกทำลาย นางจึงไม่อาจกลับมาได้”
สายตาของเขาเคลื่อนไปมองถังอวี้ น้ำเสียงหนักแน่นเอ่ยว่า “ต่อมาได้พบคุณหนูใหญ่ของพวกเราโดยบังเอิญ ท่านเจ้าบ้านเห็นว่านางมีพรสวรรค์เหนือคนอื่น นิสัยก็ชวนให้คนหลงรัก จึงได้มอบป้ายคำสั่งของจวนเฟิงอวิ๋นให้กับนางอีกทั้งยังรับนางเป็นศิษย์! สอนวิชาให้กับนาง ทั้งยังกำชับว่า หากมีวันใดที่ท่านเจ้าบ้านไม่อยู่แล้ว คุณหนูก็คือเจ้าบ้านจวนเฟิงอวิ๋น ใครก็ตามไม่อาจขัดคำสั่งนางได้!”
………………………..
ตอนที่ 470 หงส์ขาวออกโรง (2)
ตอนแรกถังอวี้หาได้อยากเอาตัวเองไปผูกความสัมพันธ์กับจวนเฟิงอวิ๋น และไม่อยากให้คนในเมืองเฟิงอวิ๋นรู้ความ ถึงบอกให้เหวินเฟิงเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสใหญ่ไปเสีย
ภายหลังคนของจวนเฟิงอวิ๋นมาไวเกินไปจนไม่ทันได้ป้องกัน ดังนั้นฐานะของนางจึงเปิดเผยออกมา
เมื่อคิดๆ ดู หลายปีที่ผ่านมานี้คนในเมืองเยว่หาได้รู้ถึงการดำรงอยู่ของหรงเยียน ต่อให้นางใช้คำโกหกพวกนี้ ก็ไม่มีทางถูกเปิดโปง
ดังนั้นนางถึงวางใจได้
“คุณหนูใหญ่ ตอนนี้พวกเราจะไปสังหารพวกสารเลวนั่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านเจ้าบ้าน!”
“คนจิตใจโหดเหี้ยมพวกนั้น ถึงกับกล้าวางยาพิษท่านเจ้าบ้าน ต่อให้พวกเขาตายสักหมื่นครั้ง ก็ไม่มีทางชดใช้ความผิดนี้ไปได้!”
…
ถังอวี้มองคนของจวนเฟิงอวิ๋นที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นคับคั่ง มุมปากนางหยักโค้งน้อยๆ
นางยิ้มอ่อนๆ เสียจนแทบมองไม่ออก
ไม่ช้าในดวงตานางก็อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด ดวงตาแดงก่ำ คล้ายแฝงไปด้วยความกล้ำกลืนและโทสะ
“ทุกท่าน นางคืออาจารย์ของข้า เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตข้ามากเสียกว่าท่านแม่ผู้ล่วงลับ ดังนั้น การตายของนางทำให้ข้าเจ็บช้ำปวดใจยิ่งกว่าใครทั้งนั้น ในฐานะศิษย์ของนาง สิ่งเดียวที่สามารถทำได้ ก็คือไม่ปล่อยให้คนที่ทำร้ายนางมีอิสระ ข้าจะให้ทั้งพ่อลูกอยู่อย่างตายทั้งเป็น!”
เสี้ยววินาทีนั้น โทสะในดวงตานางโหมลุก กัดฟันแน่น เต็มไปด้วยความแค้นเข้มข้น
ความแค้นของนางมาจากใจจริงๆ ไม่ใช่เรื่องโกหก!
“คุณหนูใหญ่ พวกสารเลวกลุ่มนั้นพักอยู่ที่ใด”
หลายปีมานี้ท่านผู้อาวุโสทั้งกังวลใจเรื่องท่านเจ้าบ้านมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายท่านเจ้าบ้านจะไม่อยู่แล้ว พวกเขาต้องกำจัดคนกลุ่มนั้น เพื่อล้างแค้นให้ท่านเจ้าบ้าน
ยิ่งไปกว่านั้น หากทำคุณหนูใหญ่นี้ได้ ผู้อาวุโสทั้งหลายอาจให้โอกาสเลื่อนตำแหน่งกับพวกเขา
ถังอวี้หลุบตาลง หัวเราะอย่างไร้ซุ่มเสียงอีกครั้งหนึ่ง
เพราะนางเอาแต่ก้มหน้า ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครเห็นรอยยิ้มของนางชัดเจน
เฟิงหรูชิง ถังอิ่น…
หากผู้หญิงสองคนนี้ตายแล้ว บางทีหนานเสียนอาจเป็นของนาง!
ไม่ช้าถังอวี้ก็เงยหน้า นางเต็มไปด้วยความมีคุณธรรมน้ำมิตร ยึดมั่นในความถูกต้อง
“ข้าสืบที่อยู่ของพวกนางได้แล้ว ญาติผู้น้องของข้าคนหนึ่งรับพวกเขาไว้ ถึงญาติผู้น้องของข้าจะเป็นคนตระกูลถัง แต่สำหรับข้าแล้ว อาจารย์สำคัญยิ่งกว่า ดังนั้นครั้งนี้ข้าต่อให้ต้องทำร้ายญาติกัน ก็ต้องล้างแค้นให้อาจารย์ให้ได้!”
เหวินเฟิงนิ่งเงียบไปสักพัก ถามว่า “คุณหนู เรื่องนี้สมควรแจ้งผู้อาวุโสทั้งหลายหรือไม่”
ถังอวี้หัวเราะเสียงเย็นชา
แจ้งคนกลุ่มนั้นหรือ
คนกลุ้มนั้นเป็นคนสนิทของหรงเยียน ย่อมรู้จักหน้าตาของหรงเยียนดี หากพวกเขาเกิดเห็นหน้าเฟิงหรูชิงเข้า คำโกหกทั้งหลายของนางก็ถูกเปิดโปงแล้ว
ดังนั้นนางต้องกำจัดเฟิงหรูชิงไปจากโลกนี้เสียก่อนที่คนเหล่านั้นจะได้พบหน้าอีกฝ่าย!
…
คฤหาสน์ เงียบสงบ
ถังอิ่นเท้าคางรอเงียบๆ อยู่หน้าประตู
เฟิงเทียนอวี้ที่อยู่ด้านข้างยังนั่งจ้องเขม็งที่ประตูห้องอย่างไม่กะพริบตาเหมือนเดิม
ฟ้าใกล้มืดแล้ว
จวนจะสามวันแล้ว…
ไฉนชิงเอ๋อร์ยังไม่ออกมาอีกเล่า
เขากำหมัดแน่น กระทั่งลมหายใจยังหนักหน่วงขึ้นไปหลายส่วน
อันที่จริงเฟิงหรูชิงยังไม่ออกมา ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องดี แสดงว่าน่าหลานเยียนยังมีชีวิตอยู่
หากนางออกมาพร้อมกับข่าวร้าย เฟิงเทียนอวี้ไม่รู้ว่าจะทนรับได้แค่ไหน…
“คุณหนู!”
เหมือนกับเชียนหนิงจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้านางตื่นตะลึง รีบดึงแขนเสื้อถังอิ่น สายตาขรึมลง
ถังอิ่นอึ้งไป มองเชียนหนิงอย่างไม่เข้าใจ
………………………………