เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 577 คนในครอบครัวฉินเฉิน (1)/ตอนที่ 578 คนในครอบครัวของฉินเฉิน (2)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 577 คนในครอบครัวฉินเฉิน (1)/ตอนที่ 578 คนในครอบครัวของฉินเฉิน (2)
ตอนที่ 577 คนในครอบครัวฉินเฉิน (1)
ใบหน้าเล็กๆ ของถังอิ่นแข็งทื่อ
ไม่รอให้นางพูดจบน่าหลานจิ้งก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว
ใบหน้าหมดจดของชายหนุ่มราวกับกำลังยิ้มน้อยๆ
“ข้าจะดูแลนางเป็นอย่างดีแทนเจ้าเอง…” เขาเงียบไป ลังเลเล็กน้อย “ข้าได้ยินว่าช่วงนี้หลิ่วอวี้เฉินมักจะวนเวียนอยู่นอกประตูจวนเจ้า?”
เฟิงหรูชิง “…”
เรื่องที่หลิ่วอวี้เฉินคิดเพ้อฟันจะวางเพลิงจวนองค์หญิงของนาง แม้แต่ท่านพี่ยังรู้เรื่อง?
“ถ้าหาก...” ดวงตาน่าหลานจิ้งเย็นชาท่าทีเคร่งขรึม “เจ้าไม่ต้องการเห็นเขา ข้าสามารถทำให้เขาหายไปจากแคว้นหลิวอวิ๋นนับแต่นี้ไป”
เฟิงหรูชิงยิ้มบาง “ทุกครั้งเขาจะอยู่ห่างจากจวนองค์หญิงยี่สิบจั้ง[1] รอเมื่อไรที่เขากล้าเข้าใกล้สิบจั้งข้าค่อยตัดขาเขาซะ!”
“ดี”
น่าหลานจิ้งถอนหายใจโล่งอก
ดูแล้วเฟิงหรูชิงจะไม่มีความรู้สึกดีๆ ต่อหลิ่วอวี้เฉินอีก
เขาก็วางใจแล้ว…
คนที่ดูคนจากรูปลักษณ์ภายนอกเช่นหลิ่วอวี้เฉิน ไม่คู่ควรกับน้องสาวองเขาแม้แต่น้อย
“เสี่ยวอิ่น พวกเราไปกันเถอะ เจ้าไม่ใช่อยากต้มซุปปลาให้ชิงเอ๋อร์หรือ? วันนี้ท่านพ่อของข้าซื้อปลามาใหม่อีกสองสามตัว…”
เดิมสีหน้าถังอิ่นยังมีความน้อยใจอยู่ หลังจากได้ยินคำของน่าหลานจิ้งก็ส่องประกายขึ้นมาทันที
“ได้ท่านพี่ พวกเรารีบกลับบ้านไปต้มซุปปลากัน”
“…”
เฟิงหรูชิงมองถังอิ่นหายลับตาไปอย่างรวดเร็วนิ่งค้าง มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น “ดูแล้วความสัมพันธ์ของถังอิ่นกับท่านพี่จะดีจริงๆ ในที่สุดข้าก็วางใจได้เสียที”
“ชิงเอ๋อร์ชอบนางมากหรือ?”
ซู่อีเงียบไปชั่วครู่ ชิงเอ๋อร์ในตอนนี้ชอบถงอิ่นเช่นนี้นางรู้หรือไม่ว่า…ตระกูลมู่ต้องการให้หญิงสาวคนนี้เป็นคู่หมั้นของหนานเสียน?
แม้เรื่องนี้นางกับหนานเสียนล้วนไม่ยินยอม แต่คนทั่วไปล้วนไม่สบายใจต่อสิ่งนี้
“เริ่มแรกถังอิ่นมาหาข้ามีจุดประสงค์จริง ต่อมาข้าจึงได้รู้จุดประสงค์แรกเริ่มของนางคืออะไรจากปากของคนที่เรียกว่าคนในครอบครัวของนาง แต่ว่าในเมื่อข้าเลือกที่จะเชื่อนางแล้วนางก็คือคนที่คุ้มค่าที่ข้าจะเชื่อ”
หากนางไม่เชื่อใครสักคนก็จะรักษาระยะห่างตั้งแต่แรก
หากเชื่อแล้วนางย่อมเชื่อในสายตาของตัวเอง
ราวกับรอยยิ้มซู่อีจางหายไป
คนทั่วไปจะเกิดความพะวงใจต่อว่าที่สามีที่เคยมีคู่หมั้นมาก่อน
ทว่าชิงเอ๋อร์…จะเป็นคนทั่วไปได้อย่างไร?
“สายตาของเจ้า ดีจริง…”
อย่างเช่น หนานเสียน
แววตาของเฟิงหรูชิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
สายตาของเจ้าของร่างไม่ได้ดีอะไร
ทว่าสายตาของนาง…ดีมาโดยตลอด
ท่ามกลางผู้คนมากมายนางมองครั้งเดียวก็ต้องตาหนานเสียนแล้ว
มองหนึ่งครั้งคือทั้งชีวิต!
…
เลือดดุจแสงอาทิตย์ยามตกดิน แดงเจิดจ้าน่าสะเทือนขวัญ
มุมปากของชายหนุ่มมีรอยเลือดเด่นชัด เสื้อคลุมแปลกประหลาดสีดำนั้นขาดวิ่นไปนานแล้ว เลือดสดไหลออกจากใบหน้าที่เยือกเย็นของเขาสะดุดตายิ่งนัก
เขาหลบมานาน ซ่อนตัวมานาน คนเหล่านี้…ในที่สุดก็ยังตามมา!
ในที่สุด…ก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไป!
“ฉินเฉิน!”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังกลุ่มคน นัยน์ตาดำโหดเหี้ยมของเขาแฝงด้วยคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง “ไม่นึกว่าเจ้าจะสามารถฝึกตบะต่อได้แล้ว?”
ดาบในมือชายหนุ่มออกแรงสียบลงบนพื้น ใบหน้าของเขาไร้ความรู้สึกแม้แต่รอยยิ้มเย็นแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่มี
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากตระกูลฉินของพวกเจ้า หลายปีมานี้ข้าจึงไม่สามารถฝึกตบะได้ ตอนนี้ในที่สุดก็ทำได้!”
หลายปีมาแล้ว เขาเคยชินกับการทรมานเข้ากระดูกเพียงแค่ฝึกตบะนานแล้ว
ทุกครั้งที่ก้าวข้ามขั้นล้วนเป็นหายนะ
แต่เฟิงหรูชิง…
นึกถึงรอยยิ้มสดใสของหญิงสาวแววตาฉินเฉินก็อ่อนโยนลง
เป็นเฟิงหรูชิงที่ให้ความหวังกับเขา!
และให้…ความอบอุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…ในชีวิตนี้…
…………………
ตอนที่ 578 คนในครอบครัวของฉินเฉิน (2)
“ฉินเฉิน เจ้าเกิดมาเป็นลูกชายของข้าฉินลี่ต้องคิดถึงตระกูลฉิน ร่างกายของเจ้าย่ำแย่ พวกเราให้เจ้ากินยาตั้งแต่เล็กก็เพื่อตัวเจ้าเอง! ตอนนี้เจ้าหลบซ่อนมานานหลายปีก็ควรจะกลับไปได้แล้ว”
หากเขาไม่กลับไปแล้วลูกสาวของเขาจะทำอย่างไร…
ลูกสาวยอดดวงใจของเขาจะทำอย่างไร?
สิบหกปีก่อนมีปรมาจารย์มาทำนายดวงชะตาให้กับลูกสาวของเขา หากต้องการช่วยชีวิตนาง มีเพียงทางทิศตะวันออกจึงจะหาคนที่ช่วยชีวิตเจอ บอกว่าช่วยชีวิต ที่จริงแล้ว…เป็นเพียงแค่โหลยาก็เท่านั้น
ต่อมาคนที่เขาส่งไปก็ขโมยฉินเฉินมาจากบ้านคนอื่น!
หลายปีมานี้เขาป้อนยาให้ฉินเฉินเพียงเพื่อให้เขาเหมาะที่จะเป็นตัวนำยาเป็นไปตามคาด ใช้เลือดของเขาอาการป่วยของลูกสาวฟื้นคืนจนเกือบจะเป็นปกติแล้วในช่วงปีแรกๆ…ด้วยเหตุนี้ฉินเฉินหนีไปเขาก็ไม่ได้เปลืองแรงไปตามหาเขา ปล่อยให้เขาตายไปเองข้างนอกนั่นก็ดีแล้ว หากไม่ใช่ช่วงนี้ลูกสาวเริ่มอาการแย่อีกเขาก็ไม่มีทางออกมาตามหาเขา
“เมื่อก่อนสำหรับข้า ชีวิตจะอย่างไรก็ช่าง ข้าออกจากตระกูลฉินเพียงเพราะข้าเบื่อหน่ายกับที่แห่งนั้น” ฉินเฉินลุกขึ้นช้าๆ ปลายนิ้วของเขาเช็ดคราบเลือดที่มุมปากออกเบาๆ
“ทว่าตอนนี้ข้ากลับไม่อยากตาย”
เขาพบคนคนหนึ่ง คนที่…ทำให้เขามีความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป เพื่อนาง เขาหวงแหนชีวิตของตัวเอง ไม่ยินยอมจะจากไปเช่นนี้
แววตาฉินลี่เย็นยะเยือก
“ฉินเฉิน เจ้ามันคนอกตัญญู หลายปีนี้ถ้าไม่ใช่ตระกูลฉินเราเจ้าจะมีชีวิตถึงตอนนี้หรือ? ข้าจะบอกเจ้า ครั้งนี้ร่างกายเฟยเอ๋อร์ไม่ค่อยดีเจ้าจะต้องกลับไป! นางเป็นลูกสาวของข้าแล้วก็เป็นพี่สาวของเจ้า!”
ฉินเฉินไม่พูดอะไร มือที่ถือดาบของเขาออกแรงเพิ่มขึ้น เมื่อก่อนเขาไม่เคยปฏิเสธคำเรียกนี้เลยไม่ว่าตระกูลฉินจะทำกับเขาอย่างไร ฉินเฟยเอ๋อร์กลับไม่เคยทำให้เขาอึดอัด ตอนนี้เขากลับ…ต่อต้านคำเรียกนี้อย่างรุนแรง!
“นางไม่ใช่พี่สาวข้า” ความรู้สึกนี้เหมือนกับเดิมมันเป็นของของคนคนหนึ่งที่ถูกคนอื่นยึดเอาไป
ทำให้เขารังเกียจและหงุดหงิด!
“บังอาจ!” ฉินลี่ตะโกนสุดเสียง
“ตอนนั้นพ่อแม่แท้ๆ ของเจ้าไม่ต้องการเจ้าถึงขนาดคิดจะฆ่าเจ้า เป็นตระกูลฉินของพวกเราที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเจ้าไว้ ให้บ้านกับเจ้าทำให้เจ้าได้เป็นคุณชายตระกูลฉินนี้ มอบความรุ่งโรจน์อย่างสูงสุดให้แก่เจ้า ตอนนี้ให้เจ้าเป็นโหลยาให้เฟยเอ๋อร์แล้วมันอย่างไร? นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรทำ!”
ฉินเฉินใบหน้าไร้อารมณ์เช่นเดิม ทว่าดวงตาของเขากลับดำมืดลง
ถูกพ่อแม่แท้ๆ ทอดทิ้งเดิมก็น่าแค้นพอแล้ว!
แต่ฉินลี่ยังพูดเรื่องเก่าๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันช่าง…น่าโกรธแค้นและน่าหัวเราะ!
“ฉินเฉิน” น้ำเสียงของฉินลี่อ่อนลงหลายส่วน “การมีอยู่ของเจ้าเดิมก็เป็นเพียงแค่ดาวหายนะ ไม่เช่นนั้นพ่อแม่แท้ๆ คงจะไม่คิดจะฆ่าเจ้า มีเพียงตระกูลฉินของพวกเราที่จะคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเมื่อก่อนเก่ารับเจ้าเอาไว้ บุญคุณที่เลี้ยงดูยิ่งใหญ่กว่าฟ้า หากไม่ใช่เฟยเอ๋อร์ต้องการเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้เข้าตระกูลฉินหรือ? เจ้าขอบคุณเฟยเอ๋อร์เช่นนี้หรือ?”
แววตาฉินเฉินเย็นยะเยือกราวกับไม่สะทกสะท้านต่อคำพูดใด
“แล้วยิ่งท่านผู้นั้นตระกูลมู่ก็พูดไว้แล้ว รอหลังจากคุณชายหนานเสียนแต่งงานก็จะขอหมั้นหมายเฟยเอ๋อร์ให้เป็นอนุของคุณชายหนานเสียน เฟยเอ๋อร์จิตใจดีงามสุขภาพก็ไม่แข็งแรง หากแต่งเข้าตระกูลมู่ไปทั้งอย่างนี้จะไม่ถูกภรรยาเอกรังแกตายหรือ? ชีวิตของเจ้าถูกเก็บกลับมาก็เพราะเฟยเอ๋อร์ เจ้าช่วยนางก็ไม่ใช่ว่าสมควรหรือ?”
คุณชายหนานเสียน...สี่พยางค์นี้ทำให้ฉินเฉินเงยหน้าขึ้นฉับพลัน นัยน์ตาเย็นชา
“เมื่อครู่ท่านพูดว่าใคร?”
“หนานเสียนตระกูลมู่ ตอนแรกที่ผู้อาวุโสตระกูลมู่ยังดีอยู่ แม้แต่ท่านผู้นำจวนเทียนเสินล้วนยังต้องไว้หน้าเขาหลายส่วน แม้ตอนนี้ท่านอาวุโสจะสติเลือนลางแล้วแต่ว่าใครจะรู้ว่าเขาจะกลับมาดีขึ้นอย่างกระทันหันเมื่อไร? แม้บรรดาตระกูลเล็กๆ จะมีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าล่วงเกินนัก เช่นนี้ก็ล้วนเป็นเพราะมีเขาไท่ซานปรามอยู่นั่นเอง”
ไม่เช่นนั้นพ่อแม่ที่แท้จริงของเจ้าคงไม่คิดจะฆ่าเจ้า มีเพียงตระกูลเฉินของพวกเราที่รับเจ้าไว้โดยไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางในครั้งก่อน บุญคุณที่เลี้ยงดูยิ่ง
……………………..
[1] จั้ง คือหน่วยวัดความยาว หนึ่งจั้ง ประมาณ สิบฟุต