เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 659 ซู่อีและหนานเสียน (2) / ตอนที่ 660 ซู่อีและหนานเสียน (3)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 659 ซู่อีและหนานเสียน (2) / ตอนที่ 660 ซู่อีและหนานเสียน (3)
ตอนที่ 659 ซู่อีและหนานเสียน (2)
“อันที่จริงนางก็แค่เล่นแง่กับท่านเท่านั้นเอง เพียงแต่พี่ซู่อีไม่เข้าใจ ท่านทำทุกอย่างเพื่อเสียนเอ๋อร์ นางทำไปเพราะว่าแง่งอน กลับทำร้ายเสียนเอ๋อร์” เฉินชิงเยียนถอนหายใจเบาๆ เอ่ยต่อว่า “แต่ข้าเชื่อว่า พี่ซู่อีรักเสียนเอ๋อร์ ถ้าพูดกับนางอย่างชัดเจน นางก็จะเข้าใจ”
หากซู่อียังไม่ยอมอีก นั่นก็หมายความว่านางคิดทำร้ายหนานเสียน!
เฉินชิงเยียนหยัดมุมปาก คำพูดนางชัดเจนมาก มู่หลิงไม่ใช่คนโง่ ย่อมฟังเขาใจ
แม่เลี้ยงที่คิดเพื่อหนานเสียนอยู่ตลอดเวลา กับแม่แท้ๆ ที่เอาแต่แง่งอนไม่สนใจกระทั่งลูกชาย ใครผิดใครถูก เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจ
มู่หลิงขมวดคิ้วแน่นขึ้นทุกที สีหน้าไม่ค่อยพอใจ
“ชิงเยียน คำพูดเหล่านี้เจ้าอย่าพูดอีกจะดีกว่า ซู่อี...เรื่องอื่นข้าไม่เชื่อนาง แต่นางไม่มีทางทำร้ายหนานเสียนได้”
รอยยิ้มเฉินชิงเยียนแข็งค้าง นางขบริมฝีปาก ดวงตาวาวประกายน้ำตาน่าสงสาร
“พี่หลิง ข้าคิดเลยเถิดเกินไปเอง ข้ามิได้หมายความว่าพี่ซู่อีไม่ดี ข้าก็แค่เป็นห่วงเรื่องใหญ่ในชีวิตของเสียนเอ๋อร์เท่านั้น หากไม่อยากให้เขาได้ดี ข้าก็สามารถแย่งคุณหนูผู้นั้นให้ซีเอ๋อร์ก็ได้ แต่ข้าก็ไม่ได้ทำ…”
ครั้นเห็นเฉินชิงเยียนมีท่าทางน่าสงสาร สีหน้ามู่หลิงก็ค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้น “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงเสียนเอ๋อร์ แต่ซู่อีไม่มีทางทำร้ายเขา แต่เจ้าก็เตือนสติข้าแล้ว ข้าต้องไปอธิบายผลดีร้ายให้ซู่อีฟัง สุดท้ายนางจะเข้าใจข้าเอง”
ที่เขาทำทั้งหมด ไม่ใช่เพราะหนานเสียนหรือ แต่แม่ลูกคู่นี้ดันไม่เข้าใจเขา!
มู่หลิงเบี่ยงสายตา เห็นว่ามู่หย่งยังคงยืนอยู่ก็ขมวดคิ้ว สีหน้าไม่พอใจ “เจ้ายังยืนทำอะไรอยู่ที่นี่อีก”
มู่หย่งหน้าซีดเผือด “คือ…คือหนานเสียนให้ข้าบอกกับท่าน”
“อะไร”
“เขาบอกว่า เขารอท่านอยู่ที่แคว้นหลิวอวิ๋น”
สีหน้ามู่หลิงเต็มไปด้วยโทสะ ฟาดฝ่ามือออกอย่างแรง โต๊ะแตกกระเด็นเป็นเสี่ยงๆ
“เจ้าเด็กอกตัญญู! หากจะพบข้า เขาควรไสหัวกลับมาที่ตระกูลมู่ ข้าเป็นพ่อเขา ยังจะให้ข้าไปหาเขาอีก”
มู่หย่งมุมปากกระตุก ปฏิกิริยาตอบสนองของประมุขน้อยอยู่ในการคาดเดาของเขา
แต่ว่า…
หนานเสียนมิใช่ให้ประมุขน้อยไปพบตน แต่กำลังข่มขู่ประมุขน้อย!
“ท่านประมุข ท่านประมุข!”
ร่างสายหนึ่งวิ่งโซซัดโซเซเข้ามา สีหน้าร้อนรน “ท่านเจ้าบ้านอาการกำเริบอีกแล้ว อาละวาดจะให้
ซู่อีฮูหยินกลับมา ทำอย่างไรดี”
มู่หลิงนวดขมับด้วยความปวดหัว ท่านผู้เฒ่านี่ไม่มีเวลาหยุดหย่อนเสียจริง
“อีกอย่าง…” คนรับใช้สีหน้าซีดขาว “ไม่รู้เพราะอะไรพลังของท่านผู้เฒ่าถึงแผ่กระจายออกมา พลังฝีมือถดถอยลง”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” มู่หลิงกระเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ กระชากเสื้อคนรับใช้ขึ้น “เมื่อครู่เจ้าว่าอันใด”
พลังแผ่กระจาย พลังฝีมือถดถอยหรือ
หลายครั้งที่มู่หลิงคิดก้าวหน้าเหนือกว่าท่านผู้เฒ่า เช่นนั้นเขาถึงควบคุมตระกูลมู่ให้อยู่ในกำมือได้เต็มที่! ไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดท่านผู้เฒ่าอีกแล้ว ทั้งไม่ต้องลำบากชิงเยียนอีก
แต่ต้องไม่ใช่ตอนที่พลังฝึกปรือของท่านผู้เฒ่าถดถอยลง!
หากพลังฝีมือของท่านผู้เฒ่าถอยหลัง เช่นนั้นตำแหน่งของตระกูลมู่ในจวนเทียนเสินก็ยากจะรักษาไว้ได้!
“เรื่องนี้ใครก็ห้ามเอ่ยออกไป!” มู่หลิงตอบสนองอย่างว่องไว เอ่ยเสียงดัง “หากข้ารู้ว่าใครกล้าป่าวประกาศออกไป ข้าจะฆ่าทันที!”
ข้ารับใช้หวาดหวั่น นี่…ไม่ใช่ควรตามหมอมารักษานายผู้เฒ่าหรอกหรือ
ตอนที่ 660 ซู่อีและหนานเสียน (3)
“ชิงเยียนเจ้าไปกับข้า แล้วตามมู่ฮวนกลับมาด้วย ฮวนเอ๋อร์ติดตามไต้ซือไห่หรง ดูท่าหลายปีนี้จะก้าวหน้าไม่น้อย ให้นางมาตรวจอาการท่านผู้เฒ่า”
เรื่องนี้ไม่อาจตามหมอใดรักษาได้ คนเดียวที่ช่วยเหลือนายผู้เฒ่าได้มีแต่ชิงเยียน
เฉินชิงเยียนเก็บงำสายตา ปิดบังประกายวาววาบในดวงตาไว้
มุมปากหยักยิ้มของนางคลายลง “เจ้าค่ะ พี่หลิง ข้าจะไปเขียนจดหมายหาฮวนเอ๋อร์ ให้นางกลับมา”
“อือ”
สีหน้ามู่หลิงเต็มไปด้วยความกังวล ฝีเท้าว่องไวขึ้นโดยมิรู้ตัว ไม่ช้าก็ออกจากเรือนหลัง
…
เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตระกูลมู่ ซู่อีที่อยู่แคว้นหลิวอวิ๋นที่ห่างออกไปย่อมไม่รู้เรื่อง
บนถนนที่วุ่นวาย ฝีเท้านางหยุดลง สายตามองผ่านฝูงชนหยุดลงที่บุรุษสวมชุดยาวสีขาว เย็นชาสูงส่งประดุจเทพ ชายหนุ่มสวมอารมณ์ขาวปลอดราวหิมะ สง่างามเหนือใคร สีหน้าเขาปกคลุมด้วยความเย็นชาเป็นชั้นๆ โดยเฉพาะยามที่ได้เห็นหญิงงามท่ามกลางฝูงชน หัวคิ้วมุ่นลง น้ำเสียงนิ่งสงบราวสายลม
“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร”
สีหน้าซู่อีเปลี่ยนไปในบัลดล ไร้ความสงบราวลมพัดเอื่อยเหมือนกาลก่อนอีก นางมองหนานเสียนด้วยความสงสัย พ่นคำพูดเสียงเย็นชา “สารเลว เดรัจฉาน!”
หนานเสียน “…”
ไม่รอให้เขาเดินเข้าไป ซู่อีก็หมุนตัวเตรียมจากไป นางสีหน้าเย็นชา คร้านจะมองเขาสักวูบ
แต่นางเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว อาภรณ์ยาวสีขาวนั้นก็มาหยุดตรงหน้านางอีกครั้ง เดินช้าๆ เข้ามาหานาง
“คำพูดท่านเมื่อครู่ หมายความว่าอย่างไร”
ซู่อีหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าทำอะไรไว้สมควรรู้อยู่แก่ใจ ข้าไม่เคยพบสารเลวเช่นเจ้ามาก่อน ไม่กี่ปีก่อนชิงเอ๋อร์เพิ่งอายุเท่าไรเชียว เจ้าถึงกับลงมือได้ลงคอ”
“…” ไม่กี่ปีก่อนหรือ
หรือว่าท่านแม่รู้แล้ว ไม่กี่ปีที่เขามายังแคว้นหลิวอวิ๋นก็เพราะชิงเอ๋อร์
“สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของข้ากับชิงเอ๋อร์”
ไม่กี่ปีก่อนข้ามาเพื่อนางจริงๆ เพียงเพราะว่า…ไม่ใช่เพราะนางคนก่อน แต่เป็นเพราะเฟิงหรูชิงในปัจจุบัน
“เจ้ายอมรับแล้วหรือ” ซู่อีหน้าเย็นชาขึ้นอีก
หนานเสียนหัวเราะเบาๆ “ไม่มีอะไรให้ปฏิเสธ”
ซู่อีมองหนานเสียนที่เดินบีบเข้ามา “แล้วทำไมเจ้าถึงทนมองชิงเอ๋อร์แต่งงานกับคนอื่นได้”
“อืม ตอนนั้นข้าไม่ชอบนาง”
ชิงเอ๋อร์ในเวลานั้นหาใช่คนที่เขาเฝ้ารอ หลายต่อหลายครั้งที่เขาคิดว่าตัวเองมาผิดที่ในเมื่อไม่ใช่คนที่เขารอคอย งั้นนางแต่งกับใครก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา จนกระทั่งถึงวันนั้นที่ได้พบกับหนานจู่หลิน เขาถึงเข้าใจว่า…หญิงที่เขารออยู่มาแล้ว!
ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้หลิ่วอวี้เฉินปรากฏตัวข้างกายนางอีก!
“…?”
ไม่ชอบนางหรือถ้าไม่ชอบนางแล้วลูกมาได้อย่างไร
อีกทั้งยังมีตั้งสองคนด้วย!
หากมิใช่ซู่อีรักษาภาพลักษณ์ของตนเอาไว้ เกรงว่าคงทนต่อไปไม่ได้ ต่อให้เป็นอย่างนั้น หน้าอกของซู่อียังกระเพื่อมขึ้นลงไม่สงบกำหมัดแน่น อย่างน้อยใบหน้าสง่างามของนางก็เผยรอยยิ้มงามล่มบ้านล่มเมือง
“หนานเสียน ข้าจะพานางไปด้วย พานางกลับเขาอวิ๋นซาน ข้าจะปรับค่ายกลทั้งหมด ไม่ให้เจ้ามีทางขึ้นมาได้อีก”
หนานเสียนสงบนิ่ง ตอบจริงจังว่า “นางไม่ไปกับท่านหรอก”
“ได้ยินว่า นางชอบหญิงงามหรือ”
“…”
“หนานเสียน เจ้าเห็นว่าข้าเป็นอย่างไร จะเข้าตานางหรือไม่ นางจะไปกับข้าหรือไม่”
“…” หนานเสียนแววตาเย็นชา ค้านว่า “ท่านอายุเยอะแล้ว นางไม่ชอบ”