เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 689 ลูกสาวเบียดเบียนพ่อ (7)/ตอนที่ 690 ลูกสาวเบียดเบียนพ่อ (8)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 689 ลูกสาวเบียดเบียนพ่อ (7)/ตอนที่ 690 ลูกสาวเบียดเบียนพ่อ (8)
บทลงโทษกำหนดจากระดับขั้นความบาดเจ็บ
หากคนของโลกปุถุชนไม่ตาย เช่นนั้นลงโทษเล็กน้อยก็พอแล้ว
หากมีคนตายอย่างนั้นก็ต้องใช้ชีวิตทดแทน!
นี่คือกฎที่กำหนดไว้
แน่นอนว่าหากคนของโลกปุถุชนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน อย่างนั้นต่อให้คนของโลกสันโดษลงมือก็ถือว่ามีเหตุผล
ทว่าแม่นางผู้นั้นยังไม่ทันทำอะไร จิ่วเยว่ก็ส่งคนไปฆ่านาง เขาเอาความกล้ามาจากไหนกัน เคราะห์ดีที่แม่หนูนั่นไม่ตาย ไม่เช่นนั้น…จิ่วเยว่อย่าคิดหนี!
ตอนนั้นทุกคนใช้เลือดสาบาน หากไม่รักษากฎ ตายศพไม่สมบูรณ์!
นายผู้เฒ่าหลับตาลง สักพักเขาก็ลืมตาทั้งสองขึ้น
“ใครก็ได้ นำตัวจิ่วเยว่ไปที่ห้องลงทัณฑ์!”
“ท่านพ่อ?” จิ่วเยว่เบิกตาอย่างเหลือเชื่อ “ท่านพ่อ ข้าเสียขาไปข้างหนึ่งแล้ว ท่านยังจะโบยข้าอีกหรือ”
นัยน์ตาของนายผู้เฒ่าแฝงความเจ็บปวด “หากนางหนูนั่นเป็นคนโลกสันโดษก็ช่างเถอะ เจ้าดันทำผิดกฎ ปีนั้นพวกเราถูกบีบให้ทำสัญญาเลือดสาบาน หากคนของโลกสันโดษผิดกฎ พวกเราไม่จัดการก็จะมีความผิดร่วมกัน ตายศพไม่สมบูรณ์!”
ในทวีปชางเยว่ ทุกคนต่างเชื่อลิขิตสวรรค์ ไม่มีใครกล้าผิดคำสาบาน
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นสัญญาเลือดอีกด้วย
“ข้าจะส่งคนไปดูการลงทัณฑ์” กู้สื่อค่อยยิ้มออกด้วยความพึงพอใจ
เขามีคำตอบให้ลูกสาวแล้ว
ด้วยเหตุนี้เขาจะไม่รั้งอยู่ต่อ สะบัดชายเสื้อจากไป
“ท่านพ่อ” จิ่วยวนขมวดคิ้ว “เหมือนหมิงเอ๋อร์จะหลงใหลเด็กนั่นมากเกินไปจะไม่เป็นเรื่องดี อีกอย่างทำไมท่านไม่ขวางไม่ให้หมิงเอ๋อร์ลงมือกับน้องรอง”
หากนายผู้เฒ่ายื่นมือเข้าช่วย หมิงเอ๋อร์ก็ทำร้ายน้องชายไม่ได้
“นิสัยของลูกชายเจ้าแย่ขึ้นทุกวัน” นายผู้เฒ่าส่ายหน้า “วันนี้หากหยุดยั้งเขาไว้ ก็มีแต่เสี่ยงชีวิตเจ้าตายข้ารอดกับเขาเท่านั้น ข้าหวังแต่ว่า…เขาจะเกิดความเมตตา อย่างไรในหลิงเสินเหมินของเรา ไม่อนุญาตให้คนในตระกูลทำร้ายกันเอง!”
มิฉะนั้นยามเมื่อสามอิทธิพลใหญ่รวมตัวกัน เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ส่วนนางหนูผู้นั้น…” นายผู้เฒ่าหรี่ตาลง “อย่าเพิ่งแตะต้องนางชั่วคราว”
จิ่วยวนอึ้งงัน นายผู้เฒ่าใช้คำว่าชั่วคราว
นั่นก็หมายความว่าแม้กระทั่งนายผู้เฒ่าก็คิดสังหารแม่นางผู้นั้นแล้วหรือ
ก็ถูก นายผู้เฒ่าเกลียดการทำร้ายในตระกูลที่สุด ผลคือเพราะนางหนูผู้นั้น จิ่วหมิงถึงทำแบบนี้กับน้องรอง นายผู้เฒ่าย่อมเกิดโทสะ
เขาไม่อาจลงมือกับจิ่วหมิงเพราะเรื่องนี้ได้ จึงได้แต่จัดการกับนางหนูผู้นั้นแล้ว
“แต่ว่า…” จิ่วยวนเงียบไปสักพัก “น้องรองต้องการหอแห่งแรก คงไม่ใช่เพราะยาวิเศษเท่านั้น ต่อให้เขาอยากได้ยาวิเศษแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องทำผิดกฎเช่นนี้ บางทีอาจเป็นเพราะอาหารบำรุงสุขภาพ”
หนึ่งปีก่อน ไม่รู้ว่าจิ่วหมิงหาสูตรอาหารบำรุงสุขภาพมาจากไหน สามารถช่วยคนได้อย่างมาก
พ่อครัวของหอแห่งแรกกลับปิดบังมิดชิด ไม่ปล่อยให้ตำรับยาหลุดรอดออกมาได้
“ความจริง” นายผู้เฒ่าหลับตาลง “อาหารบำรุงสุขภาพพวกนั้นใช้ยาทั่วไปทำออกมา กลับมีสรรพคุณถึงเพียงนี้ หากเปลี่ยนไปใช้ยาวิเศษเล่า”
หากเปลี่ยนเป็นยาวิเศษ…ผลลัพธ์ต้องเพิ่มพูนขึ้นไม่ใช่แค่สิบเท่า!
“คนที่คิดค้นอาหารบำรุงสุขภาพขึ้นมาเป็นอัจฉริยะ น่าเสียดายอัจฉริยะผู้นั้นไม่มีคนหนุนหลัง ถึงได้แต่ใช้ตัวยาทั่วไปทำอาหารออกมา จุดนี้ หมิงเอ๋อร์ไม่อาจสู้น้องรองของเจ้าได้ หากเปลี่ยนเป็นน้องรองเจ้า ต้องมอบยาวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วนให้กับอัจฉริยะผู้นั้น ถึงขั้นบีบให้เขาปรุงอาหารบำรุงสุขภาพวิเศษออกมาถึงจะรามือ!”
………………..
ตอนที่ 690 ลูกสาวเบียดเบียนพ่อ (8)
สุดท้ายหมิงเอ๋อร์ก็ใจคอคับแคบไป เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก
“ยวนเอ๋อร์ เจ้าจำไว้ หอแห่งแรกในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงหอแห่งแรกเท่านั้น เขามียาวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นต่อให้ยกให้กับน้องรองเจ้า ก็ไม่อาจยกให้คนนอกได้!”
นายผู้เฒ่าเป็นเจ้าสำนักหลิงเสินเหมิน ย่อมไม่สนใจหอแห่งแรก แต่อาหารบำรุงสุขภาพของหอแห่งแรกดึงดูดผู้คน ยกให้คนครอบครัวเดียวกันได้ แต่ไม่อาจให้คนนอกล่วงรู้ตำรับอาหารเด็ดขาด
“อีกอย่าง เจ้าคิดว่าทำไมหมิงเอ๋อร์มีตำรับอาหารพวกนั้น ยังไม่มีคนเล่นงานเขาอีก ไม่ใช่กำลังของหลิงเสินเหมินเราหรอกหรือ” นายผู้เฒ่านวดจุดไท่หยางที่ขมับ
“ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว รอน้องรองเจ้าหายดี หากเขาต้องการ ก็ให้เขาชิงมาด้วยความสามารถของตัวเอง ข้าจะไม่ยุ่ง”
เขาช่วยหมิงเอ๋อร์สะกดจิ่วเยว่มาหลายปีแล้ว ตอนนี้เขากลับคิดมอบของของหลิงเสินเหมินให้ผู้อื่น!
เรื่องนี้เกินขีดจำกัดที่เขาทนได้
น่าเสียดาย…
คนที่เขารักที่สุดก็คือจิ่วหมิง คนที่ทำให้เขาต้องปวดใจที่สุดก็คือจิ่วหมิงเช่นกัน
“นี่…” จิ่วยวนถอนใจ “ท่านพ่อ ให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าจะเกลี้ยกล่อมหมิงเอ๋อร์ หากไม่สำเร็จละก็ค่อยลงมือ”
หมิงเอ๋อร์ไม่กตัญญูอย่างไรก็เป็นลูกชายเขา
ดังนั้นเขาอยากให้โอกาสสุดท้ายกับลูกชาย
…
นับตั้งแต่วันนั้น หงอวี้ได้ยินว่าคนที่ลอบสังหารเฟิงหรูชิงมาจาหลิงเสินเหมิน หัวใจนางก็เย็นวาบขึ้นมา ราวกับหน้าอกมีปากแผลหนึ่ง ลมเย็นๆ สามารถพัดเข้าไปภายในให้เย็นวูบวาบได้
จากนั้นนางจะมุ่งมั่นฝึกฝีมือ ใครเรียกนางก็ไม่สนใจ ทุกวันนอกจากฝึกฝีมือแล้ว ก็เหม่อมองเฟิงหรูชิง
เฟิงหรูชิงเองก็ไม่ได้คลายใจ เพราะนางรู้ว่าวันเวลาภายหน้าศัตรูจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ทั้งพรรคเภสัชเทพ จวนเทียนเสิน หลิงเสินเหมิน สามกลุ่มอิทธิพลใหญ่ล้วนมีความแค้นกับนาง
หากไม่เอาชีวิตเข้าแลก ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถูกสามกลุ่มอิทธิพลนั่นลอบทำร้าย!
ระยะเวลาครึ่งปีผ่านไปไวดังสายน้ำไหล ดังลูกปืนแล่นผ่าน
ในป่า หญิงสาวนั่งหลับตาขัดสมาธิ ผ่านไปสักพักนางค่อยลืมตาขึ้น
ดวงตาคู่นั้นบริสุทธิ์ที่สุดในโลกหล้า งดงามราวกับสามารถดึงดูดวิญญาณคนเข้าไปได้
ระดับเสวี่ยนอู่! ระยะเวลาครึ่งปีนางไม่เพียงฝึกฝีมือ ทุกวันยังมียาวิเศษไม่ขาดสาย กอปรกับปราณธรรมชาติในอากาศเข้มข้น ใช้เวลาครึ่งปีนางก็บรรลุถึงระดับเสวี่ยนอู่แล้ว!
สำหรับพลังฝีมือตอนนี้ เฟิงหรูชิงยังไม่พอใจเช่นเดิม แต่นางเข้าใจว่าละโมบไปจะเสียการใหญ่ หากเร่งทะลวงด่านไวเกินไป จะไม่ดีต่อผู้ฝึก…
“ถึงระดับเสวียนอู่ เหมือนจะใช้น้ำทิพย์ได้แล้วสินะ” เฟิงหรูชิงมีธารน้ำทิพย์ไหลอยู่ข้างๆ สุดท้ายก็สงบใจ “ช่างเถอะ วันหน้าข้าค่อยลิ้มลอง แต่ฝีมือของหงอวี้สมควรเพิ่มขึ้นอีกขั้นแล้ว”
นางค่อยๆ เดินไปตักน้ำทิพย์หนึ่งหยดมาอย่างระวัง
ถูกต้องแล้วแค่หนึ่งหยดเท่านั้น!
หากดื่มน้ำทิพย์มากเกินไป ร่างกายจะระเบิดตายได้
เช่นเดียวกับผู้ฝึกระดับเสวียนอู่ที่ความสามารถไม่ถึงขั้น ของเพียงดื่มหยดเดียวก็จะระเบิดทันที!
ดังนั้น ยามปกตินางให้ลิงสี่แขนปรุงอาหารบำรุงสุขภาพขึ้นมาถึงใส่น้ำทิพย์แค่หยดเดียว หากใส่มากเกินไป นางก็ไม่อาจมีชีวิตมาถึงตอนนี้เช่นกัน
“ท่านแม่”
ชิงหานวิ่งเข้าในอกเฟิงหรูชิง นางเงยใบหน้าน้อยนุ่มนิ่มขึ้นมา ดวงตาอันแน่นไปด้วยรอยยิ้มสดใส
ยิ้มราวแสงอาทิตย์อบอุ่นหัวใจเฟิงหรูชิง
“ชิงหาน เมื่อครู่พวกเจ้าไปเล่นที่ไหนมา” เฟิงหรูชิงลูบหน้าเล็กของชิงหานพลางถาม
ชิงหานหัวเราะ “ข้ากับท่านย่าซู่อีไปวางเพลิงมา”
…………………….