เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 691 ฉินเฉินคือน้องชายแท้ๆ ของนางหรือ (1)/ตอนที่ 692 ฉินเฉินคือน้องชายแท้ๆ ของนางหรือ (2)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 691 ฉินเฉินคือน้องชายแท้ๆ ของนางหรือ (1)/ตอนที่ 692 ฉินเฉินคือน้องชายแท้ๆ ของนางหรือ (2)
ตอนที่ 691 ฉินเฉินคือน้องชายแท้ๆ ของนางหรือ (1)
วาง…เพลิงหรือ
มือที่กำลังลูบหน้าชิงหานแข็งค้าง เฟิงหรูชิงก้มหน้าลงมองแม่นางน้อยตรงหน้าด้วยความสงสัย “เจ้าไปวางเพลิงที่ไหน”
“ตระกูลหลิ่ว”
“…”
เฟิงหรูชิงพลันรู้สึกเจ็บปวดใจแทนตระกูลหลิ่วอยู่บ้าง นี่มันตั้งกี่ครั้งแล้ว เกรงว่าชาตินี้ตระกูลหลิ่วคงก่อตั้งขึ้นใหม่ไม่ได้อีกแล้ว
“ชิงหาน ย่าซู่อีของเจ้า เมื่อก่อนไม่ใช่คนแบบนี้ เจ้าอย่าพานางเสียคนเชียว”
ซู่อีสมควรเป็นคนที่เหมือนเซียนนางฟ้า เรื่องวางเพลิงเช่นนี้ เหมาะกับเสี่ยวอิ่นมากกว่า นางไม่ควรทำ
“ไปเถอะ พวกเราไปหอแห่งแรกกัน ไปเอายาวิเศษของข้ากลับมา”
ครึ่งปีแล้ว หอแห่งแรกน่าจะได้ยาวิเศษจากกู้อีอีจำนวนไม่น้อย ถึงยามนี้นางบรรลุถึงระดับเสวียนอู่ แต่ยาวิเศษก็ยังต้องรวบรวมอีกสักระยะ
ฝูเฉินและชิงหานต้องการยาวิเศษระดับสูง
ดังนั้นนางถึงใช้อาหารบำรุงสุขภาพเป็นเหตุผล เอายาวิเศษระดับห้ามาจากกู้อีอี
แต่หลังจากเฟิงหรูชิงไปถึงหอแห่งแรก ต่อให้นางเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็ยังอดตกใจเพราะข้าวของเต็มห้องไม่ได้
จิ่วหมิงมองใบหน้าอึ้งงันด้านข้างของหญิงสาว มุมปากเขาอมยิ้มจางๆ
“ของที่แม่นางผู้นั้นเอามาซื้ออาหารบำรุงสุขภาพ ข้าเก็บไว้ที่นี่หมดแล้ว ชิงเอ๋อร์ เจ้าว่าวันนี้เจ้าจะเอากลับไป หรือว่า…”
เฟิงหรูชิงตีหน้าขรึม เดินเข้าไปท่ามกลางข้าวของทั้งหลาย
ในห้องมีหีบจัดตั้งอยู่สิบหีบ ในหีบเหล่านี้นอกจากยาวิเศษระดับห้าแล้ว ยังมียาวิเศษระดับหกอยู่หกเม็ด
แต่ของพวกนี้ไม่อาจทำให้หัวใจเฟิงหรูชิงหวั่นไหวได้
มีเพียง…
เตียงหลังหนึ่งที่วางอยู่ตรงยาวิเศษเหล่านั้น
บริเวณหัวเตียงเป็นไม้ที่ถูกแกะสลักลวดลายดอกไม้นับไม่ถ้วน
นอกจากนี้ยังมีของโบราณเครื่องชา ข้าวของมากมายก่ายกอง
กู้อีอีย้ายบ้านมาแล้วหรืออย่างไร
ตอนที่สายตาเฟิงหรูชิงมองเห็นภาพใบหนึ่ง นางก็หยุดชะงักเล็กน้อย
บุรุษในภาพมีใบหน้าไม่ชัดเจน โฉมหน้าของชายผู้นั้นคล้ายมีคนจงใจลบออก
เขายืนท่ามกลางหมู่เมฆ ชุดขาวราวภาพวาด เสมือนเทพจุติลงมายังโลกมนุษย์
หว่างคิ้วชายหนุ่มเป็นรอยสลักสีทอง ออร่าของเขาไม่เหมาะกับเซียน กลับดึงดูดราวปีศาจ
เส้นผมครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งเป็นสีดำ
ไม่รู้เพราะอะไร เสี้ยวขณะนั้นหัวใจเฟิงหรูชิงคล้ายถูกมีดแทง นางอดใจไม่ไหวลูบเส้นผมขาวของชายผู้นั้น
ด้านล่างยังมีตัวอักษรเล็กๆ แถวหนึ่ง
เก้าชาติเก้าภพ เฝ้าตามหา
มาตรแม้นแตกดับก็มิเสียใจ
ลงนาม จักรพรรดิที่เก้า
จักรพรรดิที่เก้า….
ชื่อนี้เฟิงหรูชิงไม่เพียงได้ยินจากฝูเฉินเท่านั้น
กระทั่งตอนนางไปป่าแห่งสัตว์วิเศษก็ยังบังเอิญไปพบที่พำนักของจักรพรรดิที่เก้า
คิดไม่ถึงว่าจะได้พบภาพวาดของจักรพรรดิที่เก้าที่นี่อีก
“ชิงเอ๋อร์”
ไม่รู้ว่ามือของจิ่วหมิงวางไว้บนบ่าเฟิงหรูชิงตั้งแต่เมื่อไร เขามองบุรุษในภาพอย่างลุ่มลึก จากนั้นก็หลุบตามองหญิงสาวตรงหน้า “เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไร”
“เจ้าร้องไห้แล้ว”
“ข้าไม่เป็นไร!”
เฟิงหรูชิงค่อยๆ ลูบใบหน้าของชายหนุ่มในภาพ หลุบตาลง “ภาพนี้กับยาวิเศษข้าจะนำกลับไป ส่วนของอื่นๆ ท่านช่วยข้าส่งคืนให้กู้อีอี”
ภาพนี้ไม่ว่าอย่างไรนางจะเก็บไว้ให้ได้
เพราะว่า…
ยามได้เห็นภาพใบนี้ นางบังเกิดความรู้สึกผิดแปลกอย่างหนึ่ง
ถ้าหาก...นางตามหาคนผู้หนึ่งท่ามกลางฝูงชนมากมาย หลายชาติหลายภพจนไม่อาจนับได้ว่ากี่ปี
………..
ตอนที่ 692 ฉินเฉินคือน้องชายแท้ๆ ของนางหรือ (2)
ความเจ็บปวดนี้สลักลงในใจนาง
นางไม่มีทางทิ้งความรู้สึกนี้ไปได้
“ได้”
จิ่วหมิงหยัดมุมปาก “นางหนู เจ้ายังจำที่ก่อนหน้านี้ข้าบอกเจ้าว่า น้องชายเจ้าอยู่ในจวนเทียนเสินได้หรือไม่ ตอนนี้คนของข้าที่แฝงในจวนเทียนเสินสืบข่าวได้ เมื่อสิบเจ็ดปีก่อนตระกูลฉินมายังโลกปุถุชนพาเด็กกลับไปคนหนึ่ง”
เฟิงหรูชิงเงยหน้าขึ้นมาทันที จับจ้องมองจิ่วหมิง
ชั่ววินาทีนั้นลมหายใจนางเร่งเร้าตื่นเต้น ความปวดใจและโศกเศร้าเมื่อครู่หายไปสิ้น
“เขาคือน้องชายของข้าหรือเปล่า”
จิ่วหมิงลูบหัวเฟิงหรูชิงยิ้มร้าย “คนในสถานที่อย่างจวนเทียนเสินเย่อหยิ่งยโส ไม่มีทางรับเลี้ยงคนนอกสายเลือดแน่ แต่เด็กคนนั้นกลับถูกเจ้าบ้านฉินรับเลี้ยงไว้ เป็นน้องชายของเจ้าหรือเปล่าข้าก็ไม่อาจรู้ชัด…”
เขาหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อ
“แต่ข่าวที่ข้าได้รับมากลับบอกว่า เด็กคนนั้นถูดพ่อแม่ทอดทิ้ง ถึงขั้นเกือบฆ่าเขา คนตระกูลฉินผ่านไป เห็นเขาน่าสงสารจึงพาเขากลับมาด้วย”
แววตาเฟิงหรูชิงทอประกายเย็นวาบ “คำพูดพวกนี้เป็นคำที่ตระกูลฉินบอกกับภายนอกใช่หรือไม่”
“ไม่ผิด คนตระกูลฉินต่างพูดเช่นนี้ เรื่องจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้” จิ่วหมิงหรี่ตาลง ยิ้มมีเลศนัย “แต่ว่าจวนเทียนเสินต่างกับกลุ่มอิทธิพลอื่นๆ จวนเทียนเสินเป็นสถานที่ปิด ไม่คบค้ากับภายนอก คิดสืบเรื่องราวในจวนเทียนเสินยากลำบากยิ่ง แต่ข้างกายเจ้ามีคนของจวนเทียนเสินถึงสองคน…”
“ไม่ได้!” เฟิงหรูชิงหันกลับมา “ข้าไม่มีทางปล่อยให้ซู่อีกับหนานเสียนเข้าไปแน่ สำหรับพวกเขาแล้วจวนเทียนเสินคือฝันร้าย เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องกลับเข้าไปอีก! ข้าไม่ทางให้พวกเขากลับไปจวนเทียนเสินเพราะเรื่องนี้แน่”
หนานเสียนหาได้มีความรู้สึกอะไรกับจวนเทียนเสิน ที่นั่นคือฝันร้ายของเขา แต่เขาจากมาตั้งแต่สี่ขวบ ก็ไม่มีผลกระทบอะไรมาก
แต่ซู่อีนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด!
ตระกูลมู่ทำร้ายนางอย่างล้ำลึก เฟิงหรูชิงไม่มีทางให้ซู่อีกลับไปยังสถานที่แห่งนั้นเพื่อสืบข่าว!
จิ่วหมิงหุบยิ้มลง “ข้าเดาได้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลข้าจะพยายามช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ ตอนนี้ข้าสืบมาได้เท่านี้ เพียงแต่ข้ากลับไม่เข้าใจว่าทำไมตระกูลฉินต้องรับเลี้ยงลูกบุญธรรมด้วย”
ดวงตาเฟิงหรูชิงทอประกาย นางก็ไม่เข้าใจจุดนี้เช่นกัน
ทำไมตระกูลฉินต้องรับเลี้ยงเด็กจากข้างนอก
หากเด็กคนนั้นเป็นน้องชายนางจริงๆ นั่นก็เท่ากับขโมยออกไปจากวังหลวง พวกเขาทำไปเพื่อเป้าหมายอะไรกันแน่
“จิ่วหมิง ท่านช่วยข้าสืบหน่อย ทำไมตระกูลฉินถึงรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม จริงสิ อีกอย่างเด็กคนนั้นชื่ออะไร”
“ได้ ข้าจะไปสืบต่อ” จิ่วหมิงยิ้มตอบ “แต่ชื่อของลูกบุญธรรมตระกูลฉิน คนของข้าสืบได้แล้ว เขาชื่อฉินเฉิน”
เฟิงหรูชิงหยิบกล่องยาวิเศษใบหนึ่งเตรียมจะส่งเข้าห้วงมิติเวลา พลันได้ยินคำตอบของจิ่วหมิงเขา มือนางสั่นระริก กล่องร่วงลงจากมือนางตกสู่พื้นเกิดเสียงดัง
“เจ้าว่าอะไรนะ เด็กคนนั้นชื่อว่าอะไร”
เสียงนางสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้ จับจ้องจิ่วหมิงไม่คลาดสายตา กระทั่งลมหายใจยังติดขัด ถามออกมาทีละคำๆ
“ฉินเฉิน”
ฉินเฉิน…
คำพูดสองคำนี้เสมือนเส้นด้ายเส้นหนึ่งพันรัดหัวใจเฟิงหรูชิงไว้ ทั้งทำให้เส้นสมองของนางขาดผึ่ง สมองขาวโพลนว่างเปล่า น่าซีดจนถึงขั้นน่ากลัว
……………..