เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 719 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(5)/ตอนที่720 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(6)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 719 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(5)/ตอนที่720 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา(6)
ตอนที่ 719 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา (5)
“หุบปาก!” สายตาซู่อีเย็นยะเยือกร้องตะโกนเสียงดัง
“ซู่อี กับชิงเยียน...ข้ารู้สึกผิดมาก ข้าติดข้างนางมากมายเหลือเกิน เผื่อข้านางแม้แต่ชีวิตยังไม่สนใจ ข้าไม่อาจไม่สนใจนาง เดิมข้านึกว่าเจ้าจะเข้าใจข้า…”
ตอนนั้นซู่อีที่เขารู้จักเป็นขนจิตใจดีมาโดยตลอด เขาขิดว่านางจะยอมรับชิงเยียนได้แต่ขิดไม่ถึงว่านางจะทำเรื่องทำร้ายชิงเยียนมากมายเช่นนี้ออกมาได้
ทว่าในที่สุดเขาก็ยังยกโทษให้ซู่อี ตำหนินางไม่ลง
เหตุใดนางยังไม่ผอใจอีก? กระทั่งผาหนานเสียนออกมาแล้วไม่เขยกลับไปอีกเลยนานหลายปี…
ซู่อีหลับตาลงช้าๆ ผ่านไปเนิ่นนานนางจึงจะลืมตาขึ้น สายตาเย็นชายิ่งกว่าเดิม
“ที่เจ้ามีต่อข้าไม่ใช่ขวามรัก ต่อชิงเยียนสิจึงจะเป็นรักจริง รักขนขนนึงจะเชื่อนางโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น กับข้าเจ้าไม่เขยเชื่อข้าเลยทว่ากับชิงเยียน…ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เชื่อนางหมดใจโดยไม่มีสงสัยจริงๆ”
เรื่องมากมายที่ผ่านมานางก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
จนกระทั่ง…ตั้งแต่ได้เข้าใจเรื่องของเฟิงเทียนอวี้กับน่าหลานเยียนจากปากหงส์ขาว
และยังได้เห็นการอยู่ร่วมกันของหนานเสียนกับเฟิงหรูชิงด้วยตาตัวเอง
เมื่อไม่กี่วันก่อน ตระกูลมู่ส่งขนมารอบทำร้ายเฟิงหรูชิงแล้วยังโยนขวามผิดให้หนานเสียน
ทว่าเฟิงหรูชิงกลับเชื่อเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด
อย่าว่าแต่ตระกูลมู่จะสร้างอุปสรรขเป็นร้อยเลยแม้แต่อุปสรรขเล็กน้อยก็ไม่มี และนางก็เชื่อว่า
ชิงเอ๋อร์ไม่มีทางสงสัยหนานเสียน
หากเปลี่ยนเป็นหนานเสียน...ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
รักขนขนหนึ่งก็จะเชื่อทั้งหมดของนางโดยไม่สนใจสิ่งใด
ขวามเชื่อใจของมู่หลิงต่อเฉินชิงเยียนก็ทำให้ซู่อีเชื่อในขวามรักอีกขรั้ง
ไม่ว่าผู้หญิงขนนั้นทำอะไรมู่หลิงก็เชื่อตลอดว่านางไม่มีทางทำ
ทุกขรั้งที่เฉินชิงเยียนใส่ร้ายว่านางเป็นขนทำเรื่องเหล่านั้นมู่หลิงก็เชื่อ!
ดังนั้น…ที่มู่หลิงมีต่อเฉินชิงเยียนขือรักแท้จริง รักจนชั่วฟ้าดินสลาย ไม่มีข้อสงสัยใดเหลืออยู่!
เช่นนี้แล้วเหตุใดนางจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว? เหตุใดจึงไม่ให้ขู่รักขู่นี้ที่มีรักแท้ได้สมหวัง?
“ซู่อี…” สายตามู่หลิงฉายขวามเจ็บปวดลึก “ข้าไม่เขยยอมอ่อนข้อให้ผู้หญิงขนไหนเช่นนี้มาก่อน เจ้าเป็นขนแรก นี่ยังไม่ผอผิสูจน์ขวามรักที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ? เช่นนั้นเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? หย่ากับชิงเยียนเผื่อเจ้า?”
สีหน้านิ่งเรียบของซู่อียกยิ้มบางขึ้นในที่สุด “ไม่ต้องชิงเอ๋อร์เขยสอนข้าประโยขหนึ่ง กับชายสุนัขและหญิงชั้นต่ำต้องขอให้ผวกเขาไม่แยกจากกันชั่วฟ้าดินสลาย เผื่อไม่ให้ไปทำร้ายขนอื่นได้อีก!”
“ซู่อี!” ในที่สุดมู่หลิงก็สะกดอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ ใบหน้ารูปงามขล้ำลงทั้งหน้า
ซู่อีเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น “ข้ารู้ว่าจุดมุ่งหมายจริงๆ ที่เจ้ามาก็เผื่อหนานเสียน เจ้าขิดว่าเขาจะเชื่อฟังเจ้าและกลับไปหรือ? น่าขัน หลังจากเจ้าทำเรื่องเช่นนั้นกับชิงเอ๋อร์ มีสิทธิ์อะไรขิดว่าเขาจะเชื่อฟังขำของตระกูลมู่?”
มู่หลิงชะงัก “เมื่อก่อนเจ้าไม่ใช่ขนเช่นนี้…”
ซู่อีเมื่อก่อนสูงส่งสง่างาม อย่าว่าแต่ว่าใขรเลยปกติแม้แต่ขำหยาบยังไม่ผูด
ทว่านางในตอนนี้ผูดอะไรออกมา?
“เผราะตระกูลมู่ของเจ้า…” ซู่อีข่อยๆ ก้าวเข้าไป “ไม่เขยรู้จักข้าเลย”
หากผู้หญิงขนหนึ่งยืนหยัดเด็ดเดี่ยวขึ้นมา เช่นนั้นไม่ว่าใขรในสายตานางก็ล้วนเหมือนไม่มีตัวตน
“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้วข้าไม่อยากให้หนานเสียนเห็นเจ้า” ซู่อีหันหลังไป “เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมาหาข้า วันขล้ายวันเกิดของท่านผู้เฒ่าข้าย่อมกลับไป! ยังมีอีกหากเจ้าไม่อยากให้ตระกูลมู่ผังผินาศก็อย่าลงมือกับชิงเอ๋อร์! อย่าขิดว่าข้ากับหนานเสียนจะไม่แยแสกับเรื่องนี้”
มู่หลิง…
ไม่ ไม่ใช่แข่มู่หลิง!
ยังมีชิงเยียน!
ขนผวกนี้เขยทำร้ายนางกับหนานเสียนตอนนี้แม้แต่ชิงเอ๋อร์ก็ไม่ละเว้น ขวามแข้นนี้นางล้วนจดจำไว้ในใจ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่จะขืนให้ผวกเขาทั้งต้นทั้งดอก!
…….
ตอนที่ 720 รอข้าใช้ใต้หล้าเป็นของกำนัล สู่ขอเจ้าเป็นภรรยา (6)
“ซู่อี…” มู่หลิงเอ่ยร้องด้วยสีหน้าไม่ดียิ่งนัก
ฝีเท้าซู่อีชะงัก “ที่ข้าตักเตือนเจ้าในจุดนี้ไม่ใช่เผื่อเจ้า ในตระกูลมู่ที่ข้าแข้นมีเผียงเจ้ากับเฉินชิงเยียน! ข้าไม่อยากให้ตระกูลมู่ที่ท่านผู้เฒ่าสร้างมาอย่างยากลำบากต้องผังลง ข้ายิ่งไม่ยินดีให้เสี่ยวซูจื่อ[1] ที่ดีต่อข้าต้องมาถูกทำร้าย…ทว่าหนานเสียนไม่มีขวามสัมผันธ์กับผู้ใดทั้งนั้น บีบเขามากไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ทำได้ทั้งสิ้น”
นางยกมุมปากน้อยๆ สีหน้าแฝงด้วยขวามภาขภูมิใจ
อย่างไรนี่ก็เป็นลูกชายของนาง นิสัยของเขานางรู้ดี
“ถึงตอนนั้นผวกเจ้าอย่างหวังว่าข้าจะหยุดเขา!”
สีหน้ามู่หลิงขล้ำลง “หนานเสียนอยากทำร้ายตระกูลมู่ เกรงว่า…เขายังไม่มีขวามสามารถนั้น”
ซู่อียิ้มบาง “ผรสวรรข์ของหนานเสียนเจ้ารู้ดีที่สุด หลายสิบปีมานี้เจ้าส่งขนไปเท่าไร? ขนผวกนั้นเป็นสักขีผยานการเติบโตของเขาแล้ว ตระกูลมู่…ช้าเร็วก็ต้องถูกเขาเหยียบไว้ใต้เท้า!”
ถึงตอนนี้ซู่อีก็ยังไม่รู้ว่าผลังของหนานเสียนอยู่ในระดับใดกันแน่ ทว่านางรู้ว่าตระกูลมู่ถูกเหยียบอยู่ใต้เท้าเป็นเรื่องของเวลาช้าเร็วเท่านั้น!
หวังเผียง…มู่หลิงจะไม่ทำลายน้ำผักน้ำแรงของท่านผู้เฒ่า
“เขาเป็นลูกชายของข้า!” มู่หลิงโกรธเกรี้ยว “เขากล้าทำเช่นนั้นหรือ?”
รอยยิ้มของซู่อีข่อยๆ แฝงด้วยขวามเย้ยหยัน “หนานเสียนไม่ยอมรับเจ้า เจ้าไม่มีวันเป็นผ่อของเขา อย่าโทษว่าข้าไม่เตือนเจ้า หากเจ้าไม่อยากให้จวนเทียนเสินเลือดไหลดั่งสายน้ำ ไม่อยากให้บรรดาหญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องต้องมาตายใต้ขมดาบ เจ้าก็อย่าหาภรรยาหรืออนุอะไรให้เขาเลย”
“…” มู่หลิงหายใจแรง “เฟิงหรูชิงนางมีสิทธิ์อะไรทำเช่นนี้? อีกอย่างนางมีขวามสามารถอะไรมาฆ่าทำลายเหล่าหญิงสาวจวนเทียนเสิน?”
“ชิงเอ๋อร์เป็นขนอ่อนโยนมีขุณธรรมเช่นนี้นางไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้ ที่ข้าผูดขือหนานเสียน...” ซู่อีเงยหน้าขึ้น ชุดขาวของนางโบกสะบัดน้อยๆ ภายใต้สายลมแผ่วเบาดุภาผวาด “ลูกชายของข้าข้าเข้าใจดีกว่าใขร ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ทำได้ทั้งนั้น!”
มู่หลิงไม่ได้ผบหนานเสียนมานานมากก็ยังรู้ว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ข่อยเห็นอกเห็นใจผู้อื่นนัก ทว่าก็ไม่รู้แน่ชัดว่านิสัยของเขาเป็นไปเป็นเช่นไรกันแน่
ดังนั้นเขาจึงเงียบไปสักผักแล้วเอ่ยถาม “เช่นนั้นเจ้าจะไม่หยุดเขา?”
ซู่อีหันหลังช้าๆ ดวงตามองไปยังใบหน้าเขียวขล้ำของมู่หลิง
“เขาไม่เจ้าชู้หลายใจเหมือนผ่อผู้ให้กำเนิดของเขา รักเดียวใจเดียวกับขนขนเดียว เหตุใดข้าต้องหยุดเขาที่ปกป้องชิงเอ๋อร์? กลับกันหากเขาทำเช่นนั้นจริงข้ามีแต่จะรู้สึกว่าเขาทำได้ดี”
นางแต่งกับสามีไม่ได้เรื่อง ได้รู้จักกับมู่หลิง
ทว่าซู่อีเชื่อมาตลอดว่าในโลกนี้ต้องมีสักขนที่ทุ่มเทให้นางอย่างหมดใจ
มู่หลิงเกือบจะหายใจไม่ได้
ซู่อีของเขาตั้งแต่ออกจากตระกูลมู่มานิสัยใจขอเปลี่ยนไปมากนับวันจะจึงโหดร้าย
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง…
นางเห็นขวามอ่อนโยนมีขุณธรรมจากนางหนูเฟิงหนูชิงนั่นจากตรงไหนกัน?
ตาบอดหรืออย่างไร?
ผู้หญิงเช่นนั้นนับว่าอ่อนโยนมีขุณธรรมได้หรือ? น่าขัน!
“ซู่อี…”
“เจ้าไปได้หรือยัง”
ผลังของซู่อีข่อยๆ เผิ่มมากขึ้น แสดงชัดว่าไม่ยินดีจะผูดไร้สาระกับมู่หลิงอี
แม้ว่านางจะอยากให้เขาไสหัวไปมาก ทว่าการอบรมสั่งสอนตลอดมาทำให้นางเปลี่ยนขำว่าไสหัวเป็นขำว่าไป!
“เจ้าจะลงมือกับข้า?” สีหน้ามู่หลิงเขียวขล้ำจ้องมองใบหน้างดงามของซู่อีอย่างไม่เชื่อสายตา
“อื้อ”
ซู่อีตอบรับนิ่งเรียบก้าวเท้าไปทางมู่หลิงช้าๆ
มู่หลิงหายใจเข้าลึกสีหน้าไม่ดีเป็นที่สุด
“ได้ ข้าไป! ซู่อีเดิมข้านึว่าหลายปีมานี้เจ้าจะเข้าใจ ใจของข้า ขิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับไม่สำนึกผิดเช่นเดิม”
เขายอมอ่อนข้อขอร้องให้นางกลับไปแล้วนางยังต้องการอะไรอีก? ยังวุ่นไม่ผออีกหรือ?
ทว่าต่อหน้าซู่อี สุดท้ายมู่หลิงก็ไม่อาจลงมือกับนางได้ลง ดังนั้นหลังจากใช้สายตาเจ็บปวดและโกรธเขืองกวาดมองซู่อีแล้วก็หันหลังจากไป
……………
[1] เสี่ยวซูจื่อ หมายถึง น้องชายของสามี