เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 739 ในสายตาข้าคนไร้ค่าก็สามารถเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้ (9)/ตอนที่ 740 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (1)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 739 ในสายตาข้าคนไร้ค่าก็สามารถเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้ (9)/ตอนที่ 740 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (1)
ตอนที่ 739 ในสายตาข้าคนไร้ค่าก็สามารถเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้ (9)
“ฉู่ฉู่…” มั่วเฟยเฟยพยายามจะลุกขึ้นมา นางเสียใจจนน้ำตาไหลริน “ข้ารู้แล้วว่าผิด รู้แล้วว่าผิดจริงๆ เจ้าช่วยไปขอร้องให้ข้านะ ขอร้องเจ้าแล้ว…”
นางยื่นมือไปคิดจะคว้าเจิ้งฉู่ฉู่เอาไว้แต่ถูกนางสะบัดมือออก
“ข้าเตือนเจ้าแล้ว เป็นเจ้าเองที่ไม่ฟังโทษใครไม่ได้”
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่เอ่ยออกมาให้ชัดเจน เพราะเหตุใด?” มั่วเฟยเฟยถลึงตาที่แดงก่ำ ส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความยากลำบาก
เจิ้งฉู่ฉู่ส่ายศีรษะอย่างผิดหวัง “เพราะว่าข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะกระทำความผิดที่ต่ำช้าเช่นนี้ อีกอย่างเจ้าเอาแต่วิจารณ์ถูกผิดเรื่องของสามกองกำลังใหญ่นั่นทั้งวัน คิดว่าศิษย์ในสามกองกำลังใหญ่ไม่มีพรสวรรค์ผู้ใดแข็งแกร่งไปกว่าเจ้า ทุกครั้งเจ้าล้วนพูดเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าจะนำผลกระทบมาสู่จวนเฟิงอวิ๋นอย่างไร?”
“ดังนั้น เจ้าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ที่นี่”
มั่วเฟยเฟยล้มลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งพร้อมกับประโยคสุดท้ายที่เจิ้งฉู่ฉู่เอ่ยออกมา นัยน์ตาของนางแฝงด้วยความเจ็บปวดลึก พูดอะไรไม่ออกอีกเลย
…
นอกแคว้นหลิวอวิ๋นที่ห่างไกลจากจวนเฟิงอวิ๋น
หญิงสาวคนหนึ่งลูบแขนที่หนาวเย็นทั้งสองข้างมีความโกรธแค้นอยู่ในดวงตา
“เดินทางมาตั้งนาน ในที่สุดข้าก็มาถึงแคว้นอวิ๋นหลิวอีกครั้ง…”
ตอนแรกกว่านางจะสะบัดกู้อีอีหลุดไม่ง่ายเลย อยู่แคว้นหลิวอวิ๋นได้ไม่กี่วันก็ได้พบหนานเสียน
ผลปรากฏว่านางยังไม่ทันได้เข้าใกล้หนานเสียนก็ถูกหนานเสียนโยนออกมา
หลังจากโยนออกมานางก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ทะเลใต้ที่ไกลแสนไกล ได้พบกับหงส์สีขาวตัวหนึ่ง
แล้วหงส์ขาวตัวนั้นก็ยังสอบถามเรื่องแคว้นหลิวอวิ๋น
เดิมความโกรธแค้นเต็มอกของนางก็ไม่มีที่ระบายจึงได้ชี้ให้หงส์ขาวนั่นไปอีกทาง จากนั้นก็ตั้งใจจะไปแคว้นหลิวอวิ๋นอีกครั้ง
คิดไม่ถึง…
ตอนที่นางกำลังจะเดินเข้าแคว้นหลิวอวิ๋นหงส์ขาวตัวนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอีก!
ดูเหมือนมันจะหลงทางอีกแล้วสุดท้ายจึงได้พบกับนาง
หงส์ขาวรู้ว่าก่อนหน้านี้นางจงใจชี้ทางผิดก็พานางบินไปบนฟ้าตามอำเภอใจ ต่อมานางก็บินไปเรื่อยกับหงส์ขาวจนถึงถิ่นทุรกันดารทางเหนือ ถูกมันปล่อยทิ้งลงมาจากท้องฟ้าลงยังถิ่นทุรกันดารนั่น
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังของนางแข็งแกร่ง การหล่นลงมาครั้งนั้นทำให้นางตายได้เลย
โชคดี…
ในที่สุดครั้งนี้นางก็กลับมาแคว้นหลิวอวิ๋นได้!
ก่อนหน้านี้หนานเสียนต้องคิดว่านางมีใจคิดร้ายเป็นแน่จึงได้ทำรุนแรงกับนางเช่นนี้ หากนางแสดงความจริงใจหนานเสียนจะต้องรู้ได้แน่ว่านางไม่ใช่คนร้าย!
อันชุ่ยสูดหายใจเข้าสายตามองไปที่แคว้นหลิวอวิ๋นตัวอักษรสามตัวใหญ่ๆ ที่เขียนอยู่ไม่ไกล
“อย่างไรข้าก็เป็นคนจวนเทียนเสิน คนข้างนอกใครบ้างจะไม่ไว้หน้าข้า? มีเพียงเขาที่ทำเช่นนี้กับข้า อ้อจริงสิ ยังมีหงส์ขาวตัวนั้น! ครั้งหน้าเจออีกข้าจะถลกหนังมันแน่! ทำให้ข้าต้องเดินทางยาวไกลเช่นนี้!”
หลังจากอันชุ่ยพูดจบก็มีเสียงสูงวัยดังขึ้นมาท่ามกลางความว่างเปล่า
“จวนเทียนเสิน? เจ้าเป็น…คนจวนเทียนเสิน?”
อันชุ่ยชะงัก ในตอนที่หันไปก็เห็นคนที่ปกคลุมไปด้วยชุดดำทั้งร่างปรากฏต่อหน้านาง
ทั้งตัวชายแก่อยู่ภายใต้ชุดดำมองเห็นหน้าตาไม่ชัด ทว่าลมหายใจที่เขาแผ่ซ่านออกมากลับทำให้อันชุ่ยถอยหลังไปหลายก้าว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
“เจ้าเป็นใคร?”
“เจ้าเป็นคนจวนเทียนเสินก็ดี ข้ามาเพื่อหาพวกเจ้าจวนเทียนเสิน”
ชายแก่ลอยมาตรงหน้านางทันควัน อันชุ่ยตกใจจนร้องเสียงแหลม
สิ้นสุดเสียงร้องของนางชายแก่ก็คว้าสาบเสื้อของนางไว้หิ้วขึ้นแล้วทุ่มลงพื้นอย่างแรง
……..
ตอนที่ 740 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (1)
อันชุ่ยล้มลงกับพื้นด้วยความตกตะลึง หน้านางขาวซีดเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง ผมเพ้ายุ่งเหยิงปกปิดสายตาของนาง
เห็นได้ชัดว่านางยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เพี้ย!
ฝ่ามือชายแก่ฟาดออกไปใบหน้าทั้งหน้าของอันชุ่ยบวมแดง นางได้สติกลับมาหลังจากตกใจในตอนแรก นัยน์ตาแฝงด้วยความโกรธ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร? นายท่านจวนเทียนเสินคือลุงเขยของข้า!”
หลังจากได้ยินประโยคนี้มือของชายแก่ก็ชะงักไป เขาควบคุมมือที่สั่นเทาสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “ข้าบอกแล้วว่าที่ข้าต้องการหาก็คือพวกเจ้าคนจวนเทียนเสิน”
“เจ้า…” อันชุ่ยขยับถอยหลังหลายก้าวกัดฟันเอ่ยขึ้น
“เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอะไร? จวนเทียนเสินของข้ามีความแค้นอะไรกับเจ้า เหตุใดเจ้าต้องทำกับข้าเช่นนี้?”
ชายแก่ชุดดำเดินเข้าใกล้อันชุ่ยหัวเราะเสียงเย็น “ง่ายมาก บอกข้ามาว่าจวนเทียนเสินอยู่ที่ไหน”
“…” ตาแก่นี่ลงมือกับนางหนักหน่วงเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าเพื่อที่ตั้งของจวนเทียนเสิน?
เขาน่าจะพูดให้เร็วกว่านี้ นางจะได้ไม่ต้องรับความเจ็บปวดเช่นนี้!
“จวนเทียนเสิน…”
อันชุ่ยกลืนน้ำลายลงคอ นางรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดในลำคอตัวเอง
ใครจะรู้พูดยังไม่ทันจบคำชายแก่ชุดดำก็ยกนางขึ้นสูงแล้วทุ่มลงพื้นอีกครั้ง
ศีรษะนางกระแทกกับกิ่งไม้ด้านข้างพอดีทำเอานางตาลายเกือบจะหมดสติไป
“ดูแล้วพวกเจ้าคนจวนเทียนเสินจะหยิ่งผยองถึงกระดูกยอมตายไม่ยอมพูด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็จะให้เจ้าได้สมใจ” เสียงสูงวัยของชายแก่ชุดดำแฝงด้วยความเย็นชาไร้ความรู้สึก และกลิ่นไอแห่งการฆ่าฟัน
อันชุ่ยแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม
นางพูดเมื่อไรว่าจะไม่ยอมพูด?
หยิ่งทะนงของแบบนี้มันจะไปมีค่าอะไรกัน? ชีวิตไม่มีแล้วความหยิ่งทะนงมีประโยชน์อะไร?
“ข้าพูด ข้าพูด…” อันชุ่ยกลัวชายแก่จะลงมือต่อ ในตอนที่เขากำลังยกมือขึ้นก็รีบพูดออกมาทันที
“ในทะเลใต้มีเกาะเกาะหนึ่ง ที่ป่าทึบในเกาะแห่งนั้น ในป่าทึบมีเวทมนตร์อยู่ ทำลายเวทมนตร์ก็สามารถเข้าไปในจวนเทียนเสินได้”
แต่ว่าในจวนเทียนเสินมีคนเฝ้าประตูอยู่ หากไม่มีป้าคำสั่งของจวนเทียนเสินก็ไม่มีทางเข้าไปในจวนได้
กลับกันคนที่ไม่มีป้ายคำสั่งคนหนึ่งยังสามารถหาทางไปจวนเทียนเสินได้ ย่อมทำให้กองกำลังหลักของจวนเทียนเสินไล่ล่าอย่างลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่เป็นค่าตอบแทนที่เขากล้าบีบเค้นนาง!
ปึ้ง!
ชายแก่ฟาดฝ่ามือเข้าที่ด้านหลังศีรษะของนาง โยนอันชุ่ยทิ้งราวกับสุนัขตัวหนึ่ง
อันชุ่ยลุกขึ้นด้วยความโกรธ คายเศษดินเศษหญ้าในปากออก “ข้าบอกเจ้าไปแล้วเจ้ายังต้องการอะไรอีก?”
“ข้ามาที่นี่วันนี้ก็เพื่อสั่งสอนพวกเจ้าจวนเทียนเสิน…ถุย เพื่อบีบเค้นพวกเจ้าจวนเทียนเสิน เจ้ารีบเอาป้ายคำสั่งจวนเทียนเสินออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าจะเข้าจวนเทียนเสินต้องใช้ป้ายคำสั่ง”
อันชุ่ยโกรธจนตัวสั่น
ตาแก่นี่ในที่สุดก็พูดความจริงแล้ว!
บีบเค้นถามที่ตั้งของจวนเทียนเสิน? ในแผ่นดินใหญ่นี้มีใครว่างขนาดที่อยากไปเดินเล่นที่จวนเทียนเสินกัน?
เขาก็แค่รู้ว่านางเป็นหลานสาวของกู้สื่อจึงได้ลงมือกับนางก็เท่านั้น! แล้วยังหาข้ออ้างที่น่าขันสิ้นดี!
เขาคิดว่านางโง่ไม่รู้แผนการที่แท้จริงของเขา?
“เจ้าเป็นใครกันแน่?”
นัยน์ตาอันชุ่ยแดงก่ำ หากให้ป้ายคำสั่งไปเช่นนั้นนางก็ไม่อาจกลับจวนเทียนเสินได้
นอกเสียจากนางจะกลับไปอยู่ข้างกายกู้อีอีต่อ เช่นนี้แล้วนางก็ไม่มีข้ออ้างที่จะเข้าใกล้หนานเสียนตามลำพังอีก...
ชายแก่ชุดดำขี้เกียจพูดไร้สาระกับนาง พลังของเขาค่อยๆ เย็นขึ้นขยับเข้าใกล้อันชุ่ย
……..