เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 741 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (2)/ตอนที่ 742 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (3)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 741 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (2)/ตอนที่ 742 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (3)
ตอนที่ 741 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (2)
ไม่ให้โอกาสอันชุ่ยได้พูดทั้งหมัดทั้งเท้าก็พุ่งเข้ามา หมัดนั้นต่อยออกไปทำให้อันชุ่ยกระอักเลือดพุ่งหน้าตา บวมช้ำ
ในที่สุดนางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว น้ำเสียงตื่นตระหนกและสั่นเครือ “เจ้าไม่ใช่ต้องการป้ายคำสั่งหรอกหรือ ข้าให้ เจ้า ข้าให้เจ้าไม่ได้หรืออย่างไร?”
พูดจบอันชุ่ยก็รีบหยิบป้ายคำสั่งออกมาโยนให้ตรงหน้าชายแก่ชุดดำ
ทว่าชายแก่ชุดดำทำราวกับไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น หมัดของเขาทรงพลังยิ่งดุจดั่งพายุคลั่งพัดเข้าใส่ตัวอันชุ่ย ย
อันชุ่ยกระอักเลือดออกมาอีกครั้งร้องตะโกนสุดเสียง “ป้ายคำสั่งข้าก็ให้เจ้าไปแล้วเหตุใดเจ้ายังไม่ปล่อยข้าไป? เ เพราะเหตุใดกัน?”
นางทำอะไรผิด?
เพราะว่านางเป็นคนจวนเทียนเสินหรือ?
ตาแก่นั่นต้องการหาก็ควรจะไปหาคนโง่เขลาเช่นกู้อีอีสิ มีสิทธิ์อะไรมาหานาง?
“อ้อ” ชายแก่จึงจะได้สติกลับมา เขาชักหมัดกลับอย่างไม่เต็มใจแล้วเก็บป้ายคำสั่งขึ้นมาหันหลังไป “พวกเจ้าจวนเทีย ยนเสินวันหน้าอย่าได้ปรากฏตัวขึ้นที่อื่นอีก ข้าเห็นคนหนึ่งก็จะต่อยคนหนึ่ง!”
ร่างของอันชุ่ยสั่นน้อยๆ นางจ้องมองไปทางที่ชายแก่หายลับไปเขม็งแววตาแฝงด้วยความโกรธแค้นอย่างยิ่ง
รอนางกลับไปจวนเทียนเสินจะต้องให้เจ้าชั่วสมควรตายนี่ได้จ่ายค่าตอบแทนแน่!
“เจ้าคิดว่าเจ้าทำเช่นนี้ข้าจะไม่รู้ฐานะของเจ้าหรือ? น่าขัน” อันชุ่ยหัวเราะเย็น นางยกมือขึ้นป้ายคำสั่งอันหน นึ่งปรากฏอยู่ในมือนาง “กล้าลงมือกับข้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทน!”
ป้ายคำสั่งนี้นางอาศัยตอนที่ชายแก่ไม่ทันระวังดึงมาจากเอวของเขา เพื่อที่จะได้รู้ว่าชายแก่คนนี้เป็นใครกั นแน่
เพียงแต่…
หลังจากที่เห็นตัวอักษรบนป้ายสีหน้าอันชุ่ยก็แข็งทื่อ
“พรรคเภสัชเทพ? เขาเป็นคนพรรคเภสัชเทพ?”
สามกองกำลังใหญ่ดูภายนอกเหมือนจะสงบสุข ความจริงแล้วแข่งขันกันไม่ได้หยุดหย่อน
ทว่านึกไม่ถึงว่าพรรคเภสัชเทพจะกระทำการเช่นคนต่ำทรามเช่นนี้ ลอบทำร้ายคน
นางต้องไปบอกท่านลุงเขย ให้ท่านลุงเขยแก้แค้นให้นาง!
อันชุ่ยในตอนนี้ไม่เห็นเลยว่าหลังจากที่ชายแก่จากไปได้ไม่นานขาทั้งสองข้างของเขาก็อ่อนลงไปนั่งกับพื้น
หลังมีเหงื่อไหลซึมออกมาตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ลมเบาๆ พัดผ่านมานำพาเอาความหนาวเหน็บมาด้วย
“จบสิ้นแล้ว เมื่อครู่ข้าต่อยหลานสาวของนายท่านจวนเทียนเสิน? นางน่าจะไม่รู้ว่าข้าเป็นคนจวนเฟิงอวิ๋น มีพรรค คเภสัชเทพรับเอาความผิดนี้ไปจวนเฟิงอวิ๋นน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้…”
เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโชคดีเช่นนี้ พอเริ่มหาก็เจอเข้ากับหลานสาวของนายท่านจวนเทียนเสิน
ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่เห็นว่าแม่นางผู้นี้ท่าทางไม่ค่อยฉลาดนักจึงได้ลงมือกับนาง ทว่าจู่ๆ ก็เหมือนไปแหย่รังแ แตนอย่างเสียอย่างนั้น
“เฮ้อ”
ผู้อาวุโสเหลยอวิ๋นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ไม่มีทางเลือกแล้ว คุณหนูจะเข้าไปในจวนเทียนเสินใ ให้ได้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้นางเข้าไปได้…”
เขาไม่พูดให้มากความ ดึงปีกหมวกอีกครั้งแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นเดินไปทางพรรคเภสัชเทพ
ใช่แล้ว เขาเดินไปทางที่อยู่ของพรรคเภสัชเทพไม่ได้กลับจวนเฟิงอวิ๋น
และก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ หลังจากอันชุ่ยเรียกสติคืนกลับมาได้ นางก็พาร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลแอบตามมา
นางตามมาเพียงระยะหนึ่งก็หยุดตาม
ทว่าเส้นทางนี้ไปได้เพียงทางเดียว…
“พรรคเภสัชเทพ!”
เป็นคนพรรคเภสัชเทพจริงด้วย!
อันชุ่ยถลึงตามองทางทิศที่ผู้อาวุโสเหลยอวิ๋นหายลับไป แล้วค่อยๆ หันหลังไม่ได้ติดตามต่อไปอีก
นางเกรงว่าหากเข้าใกล้พรรคเภสัชเทพมากเกินไป ถึงตอนนั้นคนของพรรคเภสัชเทพมากันหมด นางไม่ถูกตีจนตายก็ต้องถูก ทุบไปครึ่งตัวเป็นแน่
………
ตอนที่ 742 การดวลกันของดอกบัวสีขาวสองดอก (3)
“นายท่าน”
ในป่าลึก ชิงน้อยยื่นหัวออกมาหันไปมองทางหนานเสียน
“ผู้หญิงคนนี้…ดูเหมือนจะเป็นคนที่ก่อนหน้านี้พุ่งเข้าใส่ตัวท่านคนนั้น”
หนานเสียนมองทางทิศที่อันชุ่ยจากไปด้วยความเย็นชา แล้วเหลือบมองเส้นทางไปพรรคเภสัชเทพ
“ข้าจำได้ว่า ศิษย์ที่อยู่ข้างนอกของพรรคเภสัชเทพ…ค่อนข้างเยอะ…”
ตัวของชิงน้อยแข็งทื่อค่อยๆ เงยหน้าขึ้นใช้สายตางุนงงมองไปยังหนานเสียน “นายท่าน ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“ในถิ่นทุรกันดารทางเหนือมีงูเสน่ห์ตัวหนึ่ง…ชอบเจ้า?” หนานเสียนท่าทีนิ่งเรียบ
ตัวของชิงน้อยยิ่งแข็งทื่อขึ้นไปอีก “นายท่านข้าไม่ชอบมัน ไม่ชอบมันแม้แต่น้อยนิดจริงๆ!”
“ซุปงูหรือเจ้าจะไปชักชวนงูเสน่ห์ตัวนั้น?” หนานเสียนมองชิงน้อยด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
นัยน์ตาชิงน้อยปรากฏความสยดสยอง
งูตัวนั้น…แม้จะเป็นงูเสน่ห์แต่กลับไม่ได้หน้าตาดีมากนัก มันชอบงูที่หน้าตางดงาม
“ข้าเลือกซุป…”
มันกำลังจะเลือกซุปงูแต่เห็นนัยน์ตาของหนานเสียนฉายแสงบางอย่างออกมาจึงรีบกลับคำทันที
“ข้าไปชักชวนงูเสน่ห์ แต่ว่าข้าไม่พลีกายนะ!”
“อื้อ” สายตานิ่งเรียบของหนานเสียนหันไปมองทางพรรคเภสัชเทพอีกครั้ง “เจ้าให้งูเสน่ห์ไปร่ายมนตร์สะกดที่พรรคเภ ภสัชเทพ ให้คนพวกนั้นไปโจมตีคนจวนเทียนเสิน”
“…”
ชิงน้อยเงียบไปสักพักมันจึงเอ่ยปากขึ้น “นายท่านให้ข้าไปชักชวนงูเสน่ห์ก็เพื่อให้คนพรรคเภสัชเทพโจมตีคนจวนเทีย ยนเสิน?”
หนานเสียนยกมุมปากเล็กน้อย “ชิงเอ๋อร์ต้องการให้พรรคเภสัชเทพรับความผิด เช่นนั้นความผิดนี้เขาก็ต้องรับ!”
“แต่ว่า…” ชิงน้อยคิดแล้วคิดอีกก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “หากองค์หญิงอยากไปจวนเทียนเสินท่านพานางไปได้มิใช่หรือ ? มีท่านอยู่แล้ว นี่มันเป็นการทำเรื่องเกินความจำเป็น”
สายตาเย็นชาของหนานเสียนแฝงด้วยแสงที่อ่อนโยนเล็กน้อย “นี่คือสิ่งที่นางต้องการ ข้าเล่นเป็นเพื่อนนางจะเป็นอะไ ไรไป?”
“…”
ชิงน้อยมีความรู้สึกหนึ่ง ตั้งแต่รู้จักกับองค์หญิงมานายท่านของมัน…ไม่ใช่คนที่มันเคยรู้จักคนนั้นอีกแล้ว
องค์หญิงก่อเรื่องวุ่นวายเขาก็ร่วมก่อเป็นเพื่อนนาง แม้กระทั่งคอยตามหลังนางเพื่อเก็บกวาดงานให้นาง
นายท่านที่เป็นเช่นนี้มันไม่เคยเห็นมาก่อน...
หนานเสียนไม่ได้หยุดต่อค่อยๆ หันหลังก้าวเดิน
ใจชิงน้อยบีบแน่น “นายท่าน ตอนนี้พวกเราจะไปถิ่นทุรกันดารทางเหนือแล้วหรือ? ให้โอกาสข้าได้เตรียมตัวได้หรือไม่ งู เสน่ห์มันน่ากลัวเกินไป จริงๆ นะ…ข้ากลัว…”
หน้าตาขี้เหล่แล้วยังทรงพลังอีก
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือมันสู้งูเสน่ห์ไม่ไหวนี่
วันหน้าหากถูกงูเสน่ห์รัดขึ้นมาจริงๆ มันจะทำอย่างไร?
ใครเคยสิ้นหวังเช่นมันบ้าง?
ทว่าหนานเสียนไม่ได้ให้โอกาสชิงน้อยก็หายไปจากใต้ผืนฟ้านั้นแล้ว…
…
แคว้นหลิวอวิ๋น
ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลออกไป
มู่หลิงนวดขมับด้วยความปวดหัว ร่างกายของเขาอ่อนแรงเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าท่าทางจะหักโหมให้ราคะเกินไป
“หันอี้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
ที่คุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ตรงหน้ามู่หลิงยังคงเป็นชายคนก่อนที่ไปวางยาเฟิงหรูชิง หลังจากได้ยินประโยคนี้เขาก็เง งียบไปชั่วครู่หนึ่ง “แม่นางผู้นั้น…ยังโวยวายอยู่ไม่ยอมไป ข้าสัญญาจะให้ผลประโยชน์นางนับไม่ถ้วนแล้วแต่นางก็ไม่ ยินยอม จะติดตามนายท่านรองให้ได้”
สีหน้ามู่หลิงไม่น่ามองยิ่งกว่าเก่า
เขากำหมัดแน่นนัยน์ตาแสดงถึงความโกรธเกรี้ยว
“หากนางเป็นหญิงที่มีกายบริสุทธิ์ก็ช่างเถอะ ข้าไม่ใช่คนประเภทที่ไม่มีความรับผิดชอบ ในเมื่อใช้นางมาแก้ฤทธิ์ยา าก็ย่อมต้องให้คำอธิบายกับนาง ทว่านางไม่บริสุทธิ์ด้วยซ้ำ หากรับนางเข้าจวนไปเป็นอนุข้าจะยังมีหน้าอยู่อีกห หรือ?”