เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 761 น่ารักจนเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย (6)/ตอนที่ 762 น่ารักจนเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย (7)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 761 น่ารักจนเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย (6)/ตอนที่ 762 น่ารักจนเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย (7)
ตอนที่ 761 น่ารักจนเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย (6)
“เข็มทิศหรือ นั่นมันอะไรกัน” ชายหนุ่มอึ้งเล็กน้อย ค่อยเอ่ยถาม
หงส์ขาวมองเขาด้วยสายตาดูแคลน “สิ่งที่พวกมนุษย์ใช้แบ่งแยกทิศทาง”
“อ้อ งั้นเจ้าจะเอาของเล่นนั่นมาใช้ทำอะไร”
“เจ้าโง่หรือเปล่า ไม่มีเข็มทิศแล้วพวกเราจะไปจวนเทียนเสินได้อย่างไร เจ้ารู้หรือว่าทิศเหนือใต้ออกตกมันอยู่ทางไหนกันน่ะ”
“…”
เจ้าหงส์ตัวนี้รู้สึกว่า เขาอาศัยเติบโตอยู่คนเดียวในป่าลึกลำพัง ไม่เคยออกมาโลกภายนอก ถึงจะรู้ทางอย่างนั้นหรือ
เดี๋ยวก่อนนะ
ทำไมเขารู้สึกว่า เจ้าหงส์นี่พึ่งพาไม่ค่อยได้เลยเล่า
“ข้าคิดออกแล้ว เหมือนข้าจะเคยได้ยินคนพูดว่า เหนืออยู่บน ใต้อยู่ล่าง ตะวันตกอยู่ซ้าย ตะวันออกอยู่ขวา เจ้าจะไปทิศทางไหนกัน”
“ทางเหนือ”
ใบหน้าชายหนุ่มปรากฏรอยยิ้ม “อืม ง่ายขนาดนี้เอง พวกเราไปตรงๆ ก็ใช้ได้แล้ว”
“แบบนี้เองหรือ”
หงส์ขาวลังเลเล็กน้อย เหตุผลแสนง่ายดายขนาดนี้ ทำไมมันไม่เข้าใจกันนะ
ดังนั้นหงส์ขาวไม่แม้แต่จะคิดสักน้อย บินตรงไปด้านหน้าแล้ว
ชายหนุ่มร้อนรน “เจ้าจะบินไปไหน ทางนั้นมันด้านหลัง ทิศเหนือน่าจะอยู่ตรงหน้าข้า เจ้าโง่หรือเปล่าเนี่ย”
สายตาหงส์ขาวดูแคลนชายหนุ่มมากขึ้น “เจ้าน่ะสิโง่ ทิศที่อยู่ตรงข้ามประตูใหญ่ถึงเป็นด้านหลัง ข้าไม่ผิด”
สัตว์วิเศษทั้งหลาย “…”
พวกมันต่างรู้สึกว่าสติปัญญาของตัวเองต่ำมากพอแล้ว
จะกระทั่งหงส์ขาวกับต้าเฮยปรากฏตัวขึ้น…
ทั้งสองยืนหันหน้าไปยังทิศทางที่ต่างกัน
อีกอย่างใครเป็นคนบอกเจ้าสองคนนี้ว่า เหนือบนใต้ล่างเป็นแค่หน้ากับหลังกัน
แน่นอนว่าผลลัพธ์ยังคง…
ต้าเฮยกับหงส์ขาวไปซื้อเข็มทิศด้วยกัน
มิฉะนั้นอาศัยระดับสติปัญญาของสองตัวนี้ หาไปอีกหนึ่งปีก็ยังไปไม่ถึงจวนเทียนเสิน
หมีหนึ่งมองทิศทางที่ทั้งสองหายตัวไป คำรามว่า “โฮ๊ก”
หมีสอง เจ้าสองตัวนี้สติปัญญามีปัญหาใช่หรือไม่
หมีสอง “โฮ๊ก”
ถูกแล้วพี่ใหญ่ ในที่สุดข้าก็เจอสัตว์ที่สติปัญญาต่ำกว่าท่านแล้ว…
แววตาดูแคลนในตอนแรกของหมีหนึ่ง หลังจากได้ฟังคำพูดหมีสองก็แดงก่ำแล้ว ส่งเสียงคำรามพุ่งตัวเข้าไป ทุบหัวหมีสองอย่างรุนแรง
“โฮ๊ก!”
สติปัญญาของข้าเทียบกันในบรรดาสัตว์วิเศษแล้วมิมีใครเทียบเคียงได้ ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่อาจขโมยผลไม้วิเศษของหมาป่าพ่อบ้านได้แน่!
นับตั้งแต่ต้าเฮยจากไป หมาป่าสีขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้ว
แววตามันมองติดตามไป หันหน้ามาช้าๆ สายตามองที่หมีหนึ่ง ดวงตาค่อยๆ แดงขึ้น
เสี้ยวขณะนั้นหมีหนึ่งก็ค่อยได้สติ มันหันไปมองหมาป่าสีขาวดวงแดงก่ำด้วยความหวาดๆ
นี่…ข้าเมื่อครู่พูดเหลวไหล เจ้าก็เชื่อหรือ
“โบร๋ว!”
หมาป่าสีขาวคำราม กระโจนเข้าใส่หมีหนึ่ง
น้ำตาไหลออกมาท่ามกลางอากาศแฝงไปด้วยความเจ็บใจ โกรธเคืองและปวดร้าว
ในวันนี้ทั่วจวนองค์หญิงเกิดเสียงร้องของหมาป่าสีขาวและหมีหนึ่งดังสนั่นไปทั่ว
แน่นอนว่าจุดจบเช่นนี้ทำเอาคนในเมืองหลวงทั้งเมืองรับรู้ไปด้วย หลังจากหมาป่าพ่อบ้านจวนองค์หญิงถูกตาแก่หลิวกระทำชำเรา ก็ไม่พัฒนาตัวเอง มาถึงวันนี้กลับกระทำเรื่องอย่างที่ไม่ อาจเทียบแม้แต่กับสัตว์เดรัจฉานกับหมีตัวหนึ่งได้
เมื่อได้ยินเสียงร้องก็พอจะรู้ได้ว่าศึกนี้ช่างน่าอเนจอนาถยิ่งนัก…
…
นับตั้งแต่จิ่วหมิงออกจากจวนเฟิงอวิ๋น เฟิงหรูชิงก็เริ่มฝึกตน จนกระทั่งผ่านไปห้าวัน ยาวิเศษในห้องนางจวนเจียนจะได้ที่แล้ว
นางทิ้งยาวิเศษกับเหล้าวิเศษไว้พร้อมทั้งจดหมายฉบับหนึ่งแล้วฉวยโอกาสตอนกลางคืนออกจากจวนเฟิงอวิ๋นมา
……………..
ตอนที่ 762 น่ารักจนเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย (7)
เส้นทางสู่ทะเลหนานไห่ช่างยาวไกล
ด้วยเหตุนี้อาศัยความเร็วของเฟิงหรูชิงก็ต้องใช้เวลาเดือนกว่าๆ จึงมาถึงจุดหมายได้
ทะเลหนานไห่ในยามมีเรือจอดค้างไว้อยู่หลายลำ เฟิงหรูชิงไม่อยากให้คนอื่นรู้จุดหมายของนาง จึงได้ซื้อเรือลำหนึ่ง อีกทั้งยังให้คนขับเรือจากไป เดินเรือด้วยตัวเองไปยังเกาะ กลางทะเลหนานไห่แห่งนั้น
เกาะกลางทะเลนั้นไม่ห่างไกลนัก เฟิงหรูชิงให้เวลาไม่นานก็บรรลุถึง
ตอนที่นางเพิ่งจอดเรือ บนเกาะก็มีคนกลุ่มหนึ่งอยู่แล้ว
ในบรรดาคนกลุ่มนั้น ผู้นำเป็นแม่นางน้อยน่ารักนางหนึ่ง อายุราวๆ สิบสามสิบสี่ปี แต่นางกลับสวมชุดกระโปรงซอมซ่อ ซ้ำยังมีรอยขาดหลายแห่ง
คนข้างกายนางยิ่งไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไรนัก เสื้อผ้าแต่ละคนต่างก็มอซอน่าอนาถ
“พวกเจ้าว่าพรรคเภสัชเทพเกิดคลุ้มคลั่งอะไรขึ้นมา ถึงได้ขโมยถุงบรรจุข้าไป ชิงป้ายจวนเทียนเสินของข้า แล้วตอนนี้คนพวกนั้นจะให้ข้ากลับไปอย่างไร” แม่นางผู้นั้นน้อยเนื้อต่ำใจ จนแทบร้องไห้ออกมา ดวงตาแดงระเรื่อ
“ระยะนี้ท่านย่าป่วยแล้ว ข้าไม่อาจไปชิงเชิญหมอเทวดาได้ กระทั้งป้ายยังหายไป กลับบ้านไม่ได้แล้ว”
นางยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ไม่อาจกลั้นน้ำตาไหลพรากลงมา
ช่วงก่อนหน้านี้ คนของพรรคเภสัชเทพบุกเข้ามา ชิงป้ายประจำตัวรวมถึงถุงบรรจุไปจนหมดสิ้น จากนั้นฝูจู่พาคนไปแก้แค้น กระทั่งเรียกรวมคนจวนเทียนเสินที่อยู่ภายนอกคิดพาพวกเขาตอบโ โต้กลับ
แต่เพื่ออาการป่วยของท่านยาย สุดท้ายนางก็ได้แต่เลือกรั้งอยู่ที่นี่ต่อไป
มาถึงระยะนี้นางค่อยคิดได้ว่า…
ต่อให้นางไม่กลับไปชั่วคราวก็สามารถส่งคนไปเอาป้ายของฝูจู่กลับมาได้
ตอนนี้ทำอย่างไรถึงกลับบ้านได้
“คุณหนู…” ผู้เฒ่าข้างกายนางถอนใจ “ไม่สู้พวกเราส่งจดหมายกลับไปที่ตระกูล ให้พวกเขาส่งคนมารับ ขอเพียงพิสูจน์ฐานะในจวนเทียนเสินของพวกเราได้ ก็จะกลับจวนได้”
แม่นางน้อยขบริมฝีปาก “ไม่ได้ ห้ามให้ท่านยายรู้เด็ดขาดว่าข้าถูกคนอัดแล้ว ไม่อย่างนั้นท่านยายต้องร้อนรนมากแน่ สุขภาพนางไม่ดี ไม่อาจแตกตื่น”
“เช่นนั้น…” ผู้เฒ่าเสนอขึ้นอย่างระวัง “ก็บอกว่าพวกเราทำป้ายหายแล้วดีหรือไม่”
แม่นางน้อยเลิกคิ้ว ผ่านไปสักพักนางค่อยลุกขึ้น ขณะที่กำลังพูดอะไรบางอย่าง ก็เห็นเฟิงหรูชิงที่เดินมาจากด้านหลัง
ดวงตานางวาวโรจน์
พี่สาวนางนี้งดงามราวมีแสงสว่างเปล่งออกมา น่าจะไม่ถูกสุนัขพรรคเภสัชเทพโจมตี ดูท่าบนตัวนางน่าจะมีป้ายคำสั่งกระมัง
“พี่…พี่สาว…”
ลมหายใจของแม่นางน้อยเร่งเร้าติดขัด รีบพุ่งเข้าไปเบื้องหน้าเฟิงหรูชิง ขวางทางนางเอาไว้
ดวงหน้าแน่งน้อยของนางแดงระเรื่อ คล้ายแอปเปิ้ลผลหนึ่ง ดูน่ารักนุ่มนิ่ม
เฟิงหรูชิงชะงักฝีเท้า มุ่นคิ้ว ไม่ยินดี ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าน้อยๆ ขาวนวล
น้ำเสียงนางอ่อนลงไปหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว แต่เพราะความไม่รู้จักกัน นางยังไม่คลายความระวังตัว ถามด้วยเสียงจริงจัง “เจ้ามีอะไร”
“พี่สาว ป้ายคำสั่งข้าหายไปแล้ว…” ครั้นเอ่ยประโยคนี้ออกมา แม่นางน้อยรู้สึกอึดอัด “หากท่านมีป้ายคำสั่ง จะช่วยพาพวกเราไปด้วยได้หรือไม่ ท่านวางใจเถิด ค่ายกลระหว่างทางพวก กเราคลี่คลายได้หมดแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องเหน็ดเหนื่อย”
ถึงคนของจวนเทียนเสินต่างรู้วิธีแก้ค่ายกลนี้ แต่การแก้ค่ายกลต้องสูญเสียพลังมาก ดังนั้นถ้าไม่ต้องลงมือเองได้ต่างก็ยินดี