เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 767 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (4)/ตอนที่ 768 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (5)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 767 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (4)/ตอนที่ 768 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (5)
ตอนที่ 767 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (4)
พอได้ฟังคำพูดมู่ซี เฉินชิงเยียนก็คลายใจลงเช่นกัน
หญิงที่สูญเสียความบริสุทธิ์ไปก็มีมลทิน ไม่มีคุณสมบัติเข้าตระกูลมู่จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่เพียงมีแค่หนานเสียนเท่านั้น ซ้ำยังเคยแต่งงานมาก่อนด้วย
“เช่นนั้นข้าก็ไม่ยุ่งแล้ว” เฉินชิงเยียนเผยยิ้มอ่อน “ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสตรี สมควรแต่งงานกับบุรุษผู้เดียว ไม่ต้องพูดถึงนางสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว ต่อให้แค่เคยมีความสัมพันธ์กับชายอื่นอีก ล้วนเป็นสิ่งไม่สมควรทั้งสิ้น!”
ไม่ว่านางจะเคยเสียตัวหรือไม่ เพียงแค่นางเคยคบหากับใครมาก่อน ต่อให้ไม่ได้กระทำอะไร ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว น่าแขยงจนน่าสะอิดสะเอียน
แต่ผู้ชายก็หลงใหลรูปลักษณ์เช่นนี้ ครั้นนางงดงามก็คิดให้นางสยบอยู่ใต้กาย ไม่รังเกียจว่าสกปรก
หนานเสียนก็เช่นกัน
กระทั่งลูกชายนางก็เป็นเช่นเดียวกัน
“ซีเอ๋อร์ เรื่องที่แม่เพิ่งบอกกับเจ้าเมื่อครู่ เจ้าลองพิจารณาดูอีกที ขอเพียงเจ้าทำให้นางแต่งกับเจ้าได้ ภายหน้าไม่ว่าเรื่องใดของเจ้า แม่จะไม่ยุ่งอีก”
“จริงหรือ” มู่ซีหรี่ตาถาม
“แม่เคยหลอกเจ้าตั้งแต่เมื่อไร” เฉินชิงเยียนแววตาอ่อนโยน “อีกอย่าง ภายหน้าเจ้าห้ามทำเช่นนี้กับอนุของเจ้าอีก หากเจ้าคิดฆ่าพวกนาง ก็หาชายข้างนอกมามีความสัมพันธ์กับนาง จากนั้นจับชู้คาเตียง เช่นนี้เจ้าก็จะมีเหตุผลฆ่านางแล้ว”
ถึงแม้วันนี้ตระกูลมู่ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
แต่ว่าซีเอ๋อร์ก็มิควรทำอะไรเกินเลยไป กันไม่ให้ภายหน้าคนพูดออกไป กระทั่งพี่หลิงก็วิจารณ์การกระทำของเขาได้
หากไม่ใช่นางคอยกรอกหูอยู่ตลอด เกรงว่าพี่หลิงคงไม่ให้อภัยซีเอ๋อร์ง่ายๆ …
มู่ซีแววตาเย็นเยียบ “เช่นนี้ข้าไม่เท่ากับถูกคนทรยศหรือ หากพูดออกไปข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“เช่นนี้ไม่ได้ เจ้าก็บอกว่านางขโมยของของเจ้า จากนั้นเจ้าก็ขับไล่นางออกจากตระกูลมู่ ฆ่านางในที่ลับซะ เอาเป็นว่าไม่อาจให้นางตายในตระกูลมู่ โลกก็อันตรายเช่นนี้ นางพบศัตรูก็เป็นไปได้ จะฆ่านางมีวิธีนับไม่ถ้วน เจ้าไม่จำเป็นต้องลากตัวเองลงน้ำไปด้วย”
“ได้ คราวหน้าข้าจะทำเช่นนี้” สีหน้ามู่ซีค่อยดีขึ้นบ้าง เขาค่อยๆ เดินไปตรงหน้าเฉินชิงเยียน “ท่านแม่ ซู่อีเคยแพ้ให้กับท่าน ข้าก็จะชิงผู้หญิงคนนั้นมา ทำให้หนานเสียนพ่ายแพ้ให้ข้าเช่นกัน! ท่านวางใจเถอะ รอภายหน้าหนานเสียนตายแล้ว ข้าจะส่งผู้หญิงคนนั้นไปอยู่กับเขา ข้าชอบหน้าตานาง อยากลิ้มลองรสชาติของนางเท่านั้น”
เฉินชิงเยียนอึ้งงัน ชะงักไปสักพัก “อย่างไรนางก็เป็นผู้หญิงของหนานเสียน เจ้าอย่าทำอะไรรุนแรงนัก กันไม่ให้หนานเสียนไปฟ้องพ่อเจ้าได้”
ไม่ว่าหนานเสียนจะไม่ไว้หน้าพี่หลิงขนาดไหน แต่พี่หลิงก็ยังไม่ขับไล่เขาออกจากตระกูลมู่
ก็ดีกว่าซู่อี…
“หนานเสียนกับหนานซู่อีเหมือนกันมาก พี่หลิงก็รู้สึกกับพวกเขาแบบเดียวกัน ซู่อีทำเรื่องผิดต่อพี่หลิง แต่เขาก็ยังปล่อยวางนางไม่ลง”
มู่ซีดวงตาทอประกาย “ซู่อีทำเรื่องผิดต่อท่านพ่อหรือ นางแอบมีชู้อย่างนั้นหรือ”
“ไม่ใช่” เฉินชิงเยียนส่ายหน้า “เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าข้างกายซู่อีมีหงส์ขาวอยู่ตัวหนึ่ง”
“หงส์ขาวหรือ” มู่ซีหลุดหัวเราะ “ท่านคงไม่ได้จะบอกว่าซู่อีกับเจ้าหงส์ขาวนั่น…เป็นไปไม่ได้ หงส์ขาวนั่นน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของนาง นางไม่มีทางคบชู้กับหงส์ขาวแน่”
เฉินชิงเยียนหัวเราะเย็นชา “พื้นฐานสตรีต้องมีสามีเดียว หลายปีมานี้ นอกจากพ่อเจ้าแล้ว เจ้าเคยเห็นข้าคบหากับสัตว์วิเศษหรือคนอื่นหรือไม่ แต่ซู่อี นางอยู่กับหงส์ขาวนั่นมานาน ต่อให้พวกนางไม่มีความรู้สึกรักใคร่ แต่การกระทำของนางก็ผิดต่อพ่อเจ้า”
………………..
ตอนที่ 768 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (5)
มู่ซีตาแววตาสงบนิ่ง
ท่านแม่พูดไม่ผิด
หากภรรยาในภายหน้าของเขาเอาแต่ขลุกอยู่กับสัตว์วิเศษทั้งวัน ต่อให้ไร้ความรู้สึกรักใคร่ เพียงแค่เลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดก็ไม่ได้เช่นกัน
เขาไม่รักภรรยาได้ แต่ภรรยาของเขาชั่วชีวิตนี้ต้องเฝ้าอยู่ตระกูลมู่รอเขากลับมาเท่านั้น!
“อีกอย่างพ่อของเจ้าไม่เคยทำเรื่องผิดต่อนางเลย เขาก็แค่อยากรับอนุเท่านั้น ไม่ได้หย่าซู่อี นางถึงกับบีบให้พ่อเจ้าไล่ข้าออกไป พ่อเจ้ายอมผ่อนลงทุกวิถีทางแล้ว นางก็ยังไม่ยอม”
ครั้นคิดถึงเรื่องต่างๆ ในปีนั้น เฉินชิงเยียนจะไม่เคียดแค้นได้อย่างไร
นางเกือบจะ…เกือบจะไม่ได้เยียบย่างเข้าตระกูลมู่แล้ว!
หากไม่ใช่เพราะมู่หลิงทำเพื่อนางที่ช่วยเขาจนเส้นชีพจรได้รับบาดเจ็บ สูญเสียพลังฝีมือไป เขาคงไม่เกิดความรู้สึกผิดให้นางเข้ามายังตระกูลมู่…
ทุกอย่างเป็นเพราะซู่อี!
“เอาล่ะ เจ้าไปใคร่ครวญดูให้ดี แล้วไปที่หอแห่งแรก” เฉินชิงเยียนหมุนกาย “ข้าก็จะไปหาพ่อเจ้าแล้ว หลายวันนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก”
สิ้นเสียง เฉินชิงเยียนไม่พูดมากความอีก เดินออกนอกเรือนไป
มู่ซีทอดสายตามองท้องฟ้าไม่ไกลออกไป ใบหน้าบึ้งตึงเผยยิ้มร้ายกาจอย่างที่สุด
“ชั่วชีวิตนี้ข้ากับหนานเสียนถูกกำหนดให้เป็นศัตรู ของของเขา ข้าล้วนต้องแย่งมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจฐานะ หรือว่าสตรี!”
ส่วนเขาก็เชื่อว่า ไม่ว่าหญิงใดๆ ล้วนไม่อาจหนีเงื้อมมือเขาไปได้
…
ตระกูลหลัว
สาวน้อยชุดชมพูเดินเข้าจวนด้วยความเร่งร้อน นางมองดูก็เห็นฮูหยินผู้เฒ่าสีหน้าอิดโรยนั่งตากแดดอยู่
ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงสีหน้าย่ำแย่เหมือนเดิม แต่นางไม่ยอมนอนอยู่บนเตียง ดังนั้นทุกวันจึงต้องฝืนออกมาเดิน
“ท่านย่า!”
เสี้ยววินาทีนั้น หลัวลี่น้ำตาไหล นางเดินไปตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่า ขบริมฝีปาก “ท่านย่า ข้าไม่ดีเอง ถึงข้าออกไปตามหาหมอเทวดาข้างนอก แต่กระทั่งคนของข้ายังไม่เคยได้พบข้า ข้ามันไร้ประโยชน์นัก”
ฮูหยินชราสายตาอ่อนโยน ลูบหัวหลัวลี่
นางมีสีหน้าอบอุ่น “ลี่เอ๋อร์ เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว ย่าอายุมากแล้วไม่เป็นไร ห่วงก็แต่เจ้าเท่านั้น มีคนบอกว่าพอมีแม่เลี้ยงก็จะมีพ่อเลี้ยงตามมา หากข้าจากไปแล้ว เจ้าจะทำอย่างไรดี”
เดิมทีหลัวลี่ยังพอควบคุมตัวเองได้บ้าง ครั้นฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยจบ น้ำตานางก็ไหลพรั่งพรูลงมา ร้องไห้โฮเข้าหาฮูหยินผู้เฒ่า
“ท่านย่าอย่าจากไปนะ ท่านไปแล้วข้าก็ถูกรังแก ถ้าท่านจะไปต้องพาข้าไปด้วย ฮือๆ…”
ฮูหยินผู้เฒ่ากอดหลัวลี่เอาไว้ น้ำตาไหลอย่างเจ็บปวด “ลี่เอ๋อร์ที่น่าสงสารของย่า อายุน้อยๆ ก็ขาดแม่ไป ตอนนี้กระทั่งพ่อก็จะกลายเป็นพ่อเลี้ยงอีก ไม่สู้ให้ตาเฒ่าที่ตายไปแล้วของข้าพาพวกเราสองย่าหลานไปด้วยกันเถอะ เพื่อไม่ให้พวกเดียรัจฉานที่ใจจืดใจดำรังแกได้”
หลัวเฟยที่เพิ่งเดินเข้ามา เห็นสองย่าหลานกอดกันร้องไห้
โดยเฉพาะคำพูดของพวกนาง ทำให้เขาหน้าตึงโดยไม่รู้ตัว
ครั้นเห็นสองคนร้องไห้สะเทือนใจ เขากระแอมไอสองคำอย่างอดไม่ได้ “ท่านแม่ ลี่เอ๋อร์ พวกท่านทำอะไรกัน อย่างไรข้าก็เป็นพ่อของลี่เอ๋อร์ กลายเป็นพ่อเลี้ยงไปตั้งแต่เมื่อไร”
“เจ้าไปให้พ้น เจ้าคิดจะหาแม่เลี้ยงให้ลี่เอ๋อร์ ต่อไปยังจะไม่ใช่พ่อเลี้ยงอีกหรือ” ฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้เกินควบคุมตัวเองได้ “ตอนข้าอยู่ข้ายังช่วยนางได้บ้าง พอข้าตายแล้วใครจะช่วยลี่เอ๋อร์ที่น่าสงสารของข้า”
“ท่านย่า ท่านพาข้าไปด้วยนะ” หลัวลี่น้ำตานองหน้า เจ็บปวดเหลือประมาณ
หลัวเฟย “…”
“ท่านแม่…” เขาอดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “สุขภาพท่านไม่ค่อยดี ร้องไห้จะทำลายสุขภาพเอาได้”