เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 769 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (6)/ตอนที่ 770 ความผิดหวังของหลัวลี่ (1)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 769 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (6)/ตอนที่ 770 ความผิดหวังของหลัวลี่ (1)
ตอนที่ 769 ตระกูลฉินแห่งจวนเทียนเสิน (6)
ฮูหยินผู้เฒ่าถลึงตาใส่หลัวเฟย “ข้าเสียใจขนาดนี้ก็เพราะใครกัน”
นางเอ่ยประโยคนี้จบก็หันหาหลัวลี่ กุมมือสาวน้อยเอาไว้เบาๆ
“ลี่เอ๋อร์เอ๋ย ช่วงนี้ได้ยินข่าวว่าตระกูลมู่ถูกฝูจู่ถอนหมั้นไปแล้ว เจ้าว่าชายตระกูลมู่เป็นอย่างไร ต่อให้ย่าตายแล้ว ก็คิดหาคนมาปกป้องเจ้า ไม่อย่างนั้นเจ้าคงถูกคนพวกนี้ร รังแกจนตายแน่”
หลัวลี่ปาดน้ำตา “ข้าไม่ต้องการ ข้ามีที่ชอบอยู่แล้ว”
“…” ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าตาแข็งค้าง “คนที่เจ้าชอบหรือ”
“ไม่ ที่ข้าชอบไม่ใช่คน ข้าชอบจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันรับปากข้าว่า ถ้าแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เมื่อไรจะมาแต่งงานกับข้า”
สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าค้างไปอีกครั้ง นางร้องไห้เสียใจหนักกว่าเมื่อครู่เสียอีก
“เสี่ยวลี่เอ๋อร์ที่น่าสงสารของข้า เพื่อหนีออกจากบ้านนี้ถึงขั้นชอบสัตว์วิเศษตัวหนึ่งเชียว! รอจนสัตว์วิเศษแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ เกรงว่าคงต้องรอถึงชาติหน้าแล้ว ชีวิตนี เจ้าคงต้องอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง ต้องโทษพ่อเดรัจฉานของเจ้า!”
หลัวเฟยหน้าคล้ำ เขากลัวฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้ต่อ จึงกระแอมไอขึ้นอีกครั้ง “ลี่เอ๋อร์ คนที่ข้าจะแต่งด้วยคือท่านอาของเฟยเอ๋อร์ เจ้ากับเฟยเอ๋อร์สนิทกันดีมิใช่หรือ อาของนา างต้องดีต่อเจ้าแน่เช่นกัน อีกอย่างคนตระกูลฉินใจดีมีเมตตา เจ้าไม่ต้องกังวล”
หลัวลี่ร้องเหอะ “หากจิ้งจอกน้อยของข้ามีจิ้งจอกตัวอื่นก่อนจะกลายร่างเป็นมนุษย์ ข้าต้องโมโหมากแน่ และก็ไม่ชอบลูกของเขาด้วย เหตุผลเดียวกัน กับท่านก็เหมือนกัน ข้าเป็น ลูกของท่านกับท่านแม่ นางไม่มีทางชอบข้าแน่”
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ่งเสียใจ
“เสี่ยวลี่เอ๋อร์ เจ้าจะรอจิ้งจอกตัวนั้นจริงๆ หรือ เจ้าไม่ชอบคนตระกูลมู่ก็ไม่เป็นไร เจ้าคิดว่าฉินเฉินแห่งตระกูลฉินเป็นอย่างไรบ้าง ถึงจะเป็นลูกเลี้ยง แต่เจ้าหนุ่มนี่ดูแล้ว วชวนให้คนรักใคร่”
“ข้าไม่ต้องการเหมือนกัน” หลัวลี่เบะปาก “เขาเป็นคนที่พี่สาวเฟิงชอบ คนที่สหายชอบไม่อาจแย่งได้ อีกอย่าง ข้าชอบจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ข้าจะรอเขา ต่อให้รอชั่วชีวิตก็ยินยอม ”
หลัวเฟยกระตุกมุมปาก “ท่านแม่ ท่านยอมรับลูกเลี้ยงตระกูลฉินให้หลัวลี่ได้ ทำไมถึงไม่ยอมรับนางเล่า”
ฮูหยินผู้เฒ่าถลึงตาใส่บุตรชาย
“เสี่ยวลี่เอ๋อร์เป็นแก้วตาดวงใจของแม่ ส่วนเจ้ามันเป็นตัวอะไรกัน”
“…”
ขณะนั้นหลัวเฟยสงสัยว่าเขาเป็นลูกแท้ๆ หรือไม่
“ท่านแม่ อันที่จริง…เสี่ยวเย่ว์มิได้เป็นอย่างที่ท่านคิด นางไม่มีทางรังแกลี่เอ๋อร์ อีกอย่าง พ่ออย่างข้าก็ไม่ใช่คนตาย ข้าก็ไม่อาจให้ใครรังแกลี่เอ๋อร์เช่นกัน”
“นั่นก็ไม่แน่” ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นเสียงหึ “ต่อไปเจ้ากับฉินเสี่ยวเย่ว์มีลูกด้วยกันแล้ว ยังจะมีที่ยืนของลี่เอ๋อร์อีกหรือ หากมิใช่เพราะข้าไม่แข็งแรง เจ้าจะแต่งข้าก็ไม่สนใจ เช่นกัน อย่างน้อยข้าก็ยังปกป้องลี่เอ๋อร์ได้ ข้าใกล้ตายแล้ว ข้าจะยอมให้เจ้าหาคนมาเพิ่มปัญหาให้ลี่เอ๋อร์ได้อย่างไร”
“ท่านแม่!” น้ำเสียงหลัวเฟยแข็งขึ้น “ข้าบอกว่าข้าจะไม่ให้ท่านจากไป ข้าจะพยายามช่วยท่านอย่างสุดความสามารถ”
ฮูหยินผู้เฒ่าโบกมือ “ช่างเถอะ เป็นตายอยู่ที่ชะตา ข้าไม่สนใจอะไรมาก ลี่เอ๋อร์ รอข้าตายแล้ว เจ้าก็ไปหาเจ้าจิ้งจอกน้อยของเจ้าซะ ไม่ต้องสนใจพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเจ้าอีก”
“ได้” หลัวลี่รับปาก “ข้าจะนำกระดูกของท่านไปด้วย ปล่อยพวกเขาใช้ชีวิตของพวกเขาไป”
นางไม่ชอบฉินเสี่ยวเย่ว์!
ไม่ชอบมาโดยตลอด ไม่ว่าเป็นเพราะเหตุที่ท่านพ่อจะแต่งงานกับนางหรือไม่ก็ตาม
หลัวลี่ฉุกคิดถึงเงาร่างงดงามในวันนี้โดยไม่รู้ตัว ก็เกิดความเสียดายอยู่บ้าง
น่าเสียดาย…
นางอายุน้อยไป ทั้งมีคนในใจแล้วไม่อาจเป็นแม่เลี้ยงของนางได้
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีท่านป้าท่านน้าอะไรพวกนั้นอีกหรือไม่
…………..
ตอนที่ 770 ความผิดหวังของหลัวลี่ (1)
“ลี่เอ๋อร์!”
กลัวเฟยเอ่ยอย่างจนปัญญา “ข้าเป็นพ่อเจ้ากระทั่งข้า เจ้ายังไม่เชื่ออีกหรือ”
หลัวลี่เบ้ปาก หันหน้าหนีด้วยความแง่งอน ร้องหึคำหนึ่งไม่สนใจหลัวเฟยอีก
หลัวเฟยถอนหายใจเพราะรู้สึกอับจนหนทาง เขาได้แต่มองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าอีกครั้ง “ท่านแม่ ข้าจะหาคนรักษาโรคให้ท่านได้แน่ๆ ต่อให้รักษาไม่ได้ชั่วคราว ข้าก็จะหายาวิเศษช่วยยื ดอายุให้ท่านไปก่อน”
พูดตามจริงแล้ว สำหรับความกตัญญูของหลัวเฟย ฮูหยินผู้เฒ่ารู้อย่างแจ่มชัด
ดังนั้นหากนางยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าหลัวเฟยจะแต่งงานกับผู้หญิงกี่คน นางก็จะไม่ยุ่ง
นางกลัวก็แต่พอตายไปแล้ว ลี่เอ๋อร์จะได้รับความลำบาก
“เสี่ยวลี่เอ๋อร์ เจ้าออกไปเล่นก่อน ข้ากับพ่อเจ้ามีอะไรต้องคุยกันอีกหน่อย” ฮูหยินผู้เฒ่าถอนใจเบาๆ
ต่อให้ตอนนี้หลัวเฟยรับปากนางว่าจะไม่แต่งงาน เกรงแต่ว่าพอตายไปแล้วก็ไม่มีคนสะกดเขาได้อีก
นางได้แต่ทุ่มเทแรงกายทั้งหมดสู้เพื่อลี่เอ๋อร์สักครั้ง
“เจ้าค่ะ”
หลัวลี่พยักหน้าเชื่อฟัง นางย่อมเข้าใจว่าท่านย่าจะหารือเรื่องฉินเสี่ยวเย่ว์กับท่านพ่อ ดังนั้นจึงไม่พูดมาอีก ถลึงตาดุร้ายใส่หลัวเฟยคราหนึ่งแล้วออกมา
ครั้นเห็นบุตรสาวมีสีหน้าไม่อยากสนใจเขา หลัวเฟยขมขื่นจนไม่พูดไม่ออก
เขากับหมิงเอ๋อร์จริงใจต่อกัน แต่หากลี่เอ๋อร์ไม่ยอมรับอีกฝ่าย เกรงว่าจะแต่งนางเข้ามาได้ยากแล้ว
…
หอแห่งแรก
เป็นโรงเตี๊ยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดที่เทียนเสินเหมินดูแล
โรงเตี๊ยมนี้ไม่รับแขกเหรื่อมากมาย นอกเสียจากคนที่มีตำแหน่งฐานะในเทียนเสินเหมิน ถึงได้รับการต้อนรับ
หลัวลี่เสาะหาที่พักของเฟิงหรูชิงแล้ว เดิมนางคิดไปหาอีกฝ่ายตรงๆ เลย แต่ตอนที่ผ่านหอแห่งแรกนี้นางหยุดครู่หนึ่ง นิ่งไปสักพักค่อยสาวเท้าเข้ามา
มาเยี่ยมโดยไม่มีของฝากคงจะไม่ดี ดังนั้นนางต้องหาของกินไปฝากอีกฝ่าย
“คุณหนูหลัว”
ผู้ดูแลหอแห่งแรกเห็นหลัวลี่ ก็ยิ้มร่าเดินเข้ามา “ขอโทษด้วย คุณหนูหลัว วันนี้หอแห่งแรกของพวกเราไม่รับแขก”
หลัวลี่อึ้งไป สีหน้าเสียดาย
น่าเสียดายแล้ว เดิมนางอยากให้เฟิงหรูชิงลิ้มรสอาหารอร่อยของหอแห่งแรก ผลคือหอแห่งแรกไม่ต้อนรับแขก
“ท่านผู้ดูแล ข้าถามหน่อยได้หรือไม่ ว่าทำไมวันนี้หอแห่งแรกไม่รับแขก”
“คือว่า มู่ฮวนคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่กลับมาแล้ว ทั้งยังมาพร้อมกับไต้ซือไห่หรงผู้เป็นปรามาจารย์ ตระกูลมู่กำลังต้อนรับพวกเขา นอกจากคนที่มีเทียบเชิญแล้ว คนอื่นไม่อาจเข้าได้
ปรามาจารย์ไห่หรงหรือ
ปรามาจารย์ไห่หรงของมู่ฮวนหรือ
หลัวลี่แววตาวาวโรจน์ จากนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว
ฝีมือการแพทย์ของปรามาจารย์ไห่หรงสูงส่งมาก เก่งกาจเช่นเดียวกับหมอในจวนเทียนเสินผู้นั้น
ที่เหมือนกันก็คือ ทั้งสองลงมือรักษาคนน้อยมาก
ยิ่งปรามาจารย์ไห่หรงที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยละโมบลาภยศ เป็นเสมือนนกกระเรียนป่าท่องเมฆ[1] อยากให้เขาช่วยรักษาท่านย่า แทบไม่มีโอกาสเลย
หลัวลี่แววตาสิ้นหวัง หมุนตัวเตรียมออกจากหอแห่งแรก
บางทีอาจเป็นเพราะนางไม่ได้สติ จึงไม่ทันสังเกตเห็นหญิงที่เดินตรงเข้ามา
ผู้หญิงนั้นอายุราวๆ สามสิบกว่า กลับรักษาร่างกายอย่างดี ใบหน้าขาวอมชมพู ไม่ปรากฏร่องรอยมีอายุเลยสักนิด
“เสี่ยวลี่ ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่”
ผู้หญิงคนนั้นสังเกตเห็นหลัวลี่ นางก็หยุดฝีเท้าลง เอ่ยปากเรียก
หลัวลี่สั่นสะท้าน หยุดลง ยามมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น สีหน้าก็แข็งค้างไปโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าอยู่ที่นี่ได้ ทำไมข้าจะมาไม่ได้”
ฉินเสี่ยวเย่ว์ประเมินหลัวลี่เล็กน้อย หัวเราะเบาๆ “ตระกูลฉินของเราต้องรับเทียบเชิญอยู่แล้ว วันนี้หอแห่งแรกรับแขก หากเจ้าเรียกข้าว่าแม่สักคำ ข้าจะให้เจ้าอยู่ที่นี่ได้”
……………………
[1] หลีกหนีจากโลก