เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 793 สหายจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำ (4)/ตอนที่ 794 สหายจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำ (5)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 793 สหายจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำ (4)/ตอนที่ 794 สหายจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำ (5)
ตอนที่ 793 สหายจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำ (4)
เฟิงหรูชิงมองหลัวลี่ “เมื่อไร”
“วันนี้ ตอนอยูู่หอแห่งแรก ข้าก็ขีดเส้นแบ่งแยกความสัมพันธ์กับนางไปแล้วจริงๆ นะ”
เพราะว่า…
เทียบกับฉินเสี่ยวเย่ว์แล้ว นางไม่อาจเป็นญาติของฉินเฟยเอ๋อร์ตลอดกาล!
ต่อให้อีกฝ่ายรู้ว่านางได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้ฉินเสี่ยวเย่ว์แต่งงานกับท่านพ่ออย่างราบรื่นแล้ว อีกฝ่ายก็จะสั่งสอนให้นางรู้ความ เกลี้ยกล่อมให้นางทน
ตั้งแต่เล็กจนโตก็เป็นเช่นนี้
ฉินเฟยเอ๋อร์มักใช้วาจาราวผู้ใหญ่สั่งสอนให้นางจัดการเรื่องราวต่างๆ ทั้งสอนให้นางตอบแทนความแค้นด้วยคุณธรรม
แต่นางยังไม่ชอบฉินเสี่ยวเย่ว์ ทั้งไม่อยากยอมถอยให้อีกฝ่ายด้วย!
ทำไมนางต้องทนรับความเจ็บช้ำด้วย
นางเจ็บจนยากทนรับไหว ยังไม่ให้นางจากไป หรือนางไม่ใช่คนกัน
“เมื่อก่อนข้ากับฉินเฟยเอ๋อร์สนิทกัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ตอนเด็กข้าไม่ค่อยรู้ความ นางคอยสอนข้าว่าดีกับผู้อื่นอย่างไร ต่อให้ต้องอึดอัดใจข้าก็กล้ำกลืนทนเอาไว้ เพราะนางคอยโน้มน้าวข้าอยู่ข้างๆ ว่า ต่อสู้กับคนอื่นไปก็ไม่มีประโยชน์ กลับจะกลายเป็นไร้เพื่อน มีแต่เมตตา ถึงทำให้ทุกคนชอบข้า”
“ข้าชอบนางมากจริงๆ เห็นนางเป็นพี่สาวที่รู้ใจ แต่ข้าปวดใจเจ็บช้ำ มีใครสนใจข้าบ้าง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของข้า เหตุใดข้าต้องเป็นคนยอมถอยให้ด้วย พอโตแล้ว ข้าไม่ยอมอดทน นอีกต่อไป นางคอยเกลี้ยกล่อมข้าทุกๆ ครั้ง ร่างกายนางก็ไม่แข็งแรง ข้ากลัวว่านางจะถูกข้ายั่วโมโหตาย อยู่ต่อหน้านางข้าถึงได้อดทน ฉวยโอกาสไปแก้แค้นตอนนางไม่อยู่”
“ตอนนั้นที่แม่ข้าเสียไปทิ้งหยกไว้กับข้าชิ้นหนึ่ง หลายปีก่อนข้านำหยกติดตัวออกไปด้วย มู่ฮวนเห็นแล้วชอบ คิดแย่งหยกข้าไป ข้าไม่ยอมมอบให้ เฟยเอ๋อร์ออกหน้าเกลี้ยกล่อมให้ข้าใ ใจกว้างไม่เห็นแก่ตัว ยอมให้หยกชิ้นนั้นไป ทุกคนเป็นสหายทำไมต้องแย่งชิงกันด้วย นางยังบอกว่ากลับไปจะหาหยกชิ้นใหม่ให้ข้า”
“แต่นั่นเป็นของดูต่างหน้าท่านแม่ ข้าไม่ยอมยกให้มู่ฮวน แต่ข้าสู้นางไม่ได้ ถึงเรียกให้ท่านพ่อช่วยชิงกลับมา”
ตอนนั้นท่านพ่อยังไม่ชอบพอกับฉินเสี่ยวเย่ว์ ก็เอาแต่ปกป้องนางอยู่ตลอดแล้ว แต่ว่าครั้งนั้นการกระทำของฉินเสี่ยวเย่ว์ทำร้ายจิตใจนาง
ใจกว้างถึงขั้นยกของดูต่างหน้าของท่านแม่ให้ไปเชียวหรือ คนที่ไม่เห็นแก่ตัว คนอื่นถึงชอบนางอย่างนั้นหรือ
ความชอบที่เกิดขึ้นมาจากการยอมถอยให้ นางไม่รู้สึกเสียดายสักนิด!
หากสนิทสนมกันมาหลายปี นางไม่มีทางตัดความสัมพันธ์ได้ในคราวเดียว ไม่เช่นนั้นเกรงว่านางคงแตกหักกับอีกฝ่ายไปตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว
แต่ว่าความรู้สึกทันทีที่มีรอยแผล ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพหรือความรักก็ไม่อาจมั่นคงได้อีก
ต้องการก็แต่เชื้อเพลิง ส่วนเชื้อเพลิงนี้ก็คือเฟิงหรูชิง!
ยามที่นางเจ็บปวดแสน เฟิงหรูชิงเดินเข้ามา ช่วยนางผลักฉินเฟยเอ๋อร์ออก
และเฟิงหรูชิงก็พานางออกมาจากฝูงคน!
อีกฝ่ายมิได้เกลี้ยกล่อมให้นางอภัยให้คนอื่น เพียงแต่ช่วยนางเงียบๆ
บางทีเช่นนี้ถึงนับว่าเป็นสหาย
“ฉินเฟยเอ๋อร์เข้าสังคมเก่งนัก ข้าเทียบนางไม่ได้ ดังนั้นทุกคนถึงชอบนาง แต่ข้าไม่ต้องการความชอบเช่นนี้ ข้าไม่อยากทนรับความเจ็บช้ำอึดอัดใดๆ” หลัวลี่อยากร้องไห้
นางหวนคิดถึงผลของการยอมถอยตลอดหลายปีที่ผ่าน ก็อดปวดใจจนน้ำตาแทบไหล
“หลัวลี่” เฟิงหรูชิงสายตาเรียบเฉย “สหายที่ยอมให้สหายต้องเจ็บช้ำ ไม่ใช่สหาย!”
ถูกแล้ว
สหายที่แท้จริง จะยอมให้เจ้าเจ็บช้ำได้อย่างไร
“ตอนนี้ข้าเข้าใจเหตุผลนี้แล้ว บางทีฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้นับข้าเป็นสหายจริงๆ มาตั้งแต่แรก ข้าเป็นคนคิดมากไปเอง แต่ว่าไม่เป็นไร ข้าไม่ต้องการท่านพ่อ ทั้งไม่ต้องการนางแล้ว คนที ไม่ใส่ใจข้า ข้าไม่ชอบทั้งนั้น”
…………………
ตอนที่ 794 สหายจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บช้ำ (5)
เฟิงหรูชิงยกมือลูบหัวหลัวลี่ “ไม่เป็นไร โลกนี้มีผู้หญิงอีกมาก ไม่ได้มีฉินเฟยเอ๋อร์คนเดียว ก็ยังมีคนอื่นอีก”
เมื่อได้ยินคำปลอบของเฟิงหรูชิง หลัวลี่อึ้งงัน
คำพูดนี้พูดเหมือนกับว่านางถูกผู้ชายคนรักทอดทิ้งอย่างไงอย่างนั้น
ถัดมาหลัวลี่หยุดร้องไห้ นางปาดน้ำตา “อืม ผู้หญิงในโลกนี้มีตั้งมากมาย นางดีขนาดนี้ ต้องไม่ขาดเพื่อนแน่ คราวหน้าข้าคบหาสหาย จะไม่ยอมคบกันด้วยการยอมถอยให้อีกแล้ว”
ตอนนี้คิดๆ ดู คนที่นางคบหากับฉินเฟยเอ๋อร์พวกนั้น ล้วนแลกมาด้วยการยอมถอยของนางทั้งสิ้น
ตอนแรกก็อาจมีคนที่คบหากันจากใจจริง หลังจากผ่านไปนานเข้า บางคนก็เคยตัว ไม่อาจรับความแข็งข้อของนางได้
“พูดไปแล้ว ข้าเป็นสหายของฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ผิดแน่ แต่ข้าก็ตัดสัมพันธ์กับนางได้เช่นกัน” หลัวลี่ร้องเหอะครั้งหนึ่ง หันไปมองฉินเฉิน “”เจ้ากับฉินเฟยเอ๋อร์เป็นพี่น้องกัน เจ้าคง ตัดความสัมพันธ์กับนางไม่ได้กระมัง เมื่อเป็นแบบนี้ความสัมพันธ์ของข้ากับเสี่ยวชิงก็ใกล้ชิดกว่าเจ้า”
อย่างไรเสียฉินเฟยเอ๋อร์ก็เป็นศัตรูหัวใจของเสี่ยวชิง!
นางสามารถยืนอยู่ข้างเสี่ยงชิงได้โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วฉินเฉินเล่า เขาจะตัดขาดความสัมพันธ์ได้หรือเปล่า
ฉินเฉินแววตาเย็นชา “ข้ากับฉินเฟยเอ๋อร์ ชั่วชีวิตนี้มิอาจตัดขาดความสัมพันธ์ได้”
หลัวลี่ปรายตามองฉินเฉิน จากนั้นค่อยมองเฟิงหรูชิง
ความหมายนั้นก็คือ ดูเถอะ ข้าพึ่งพาได้มากกว่า
“เพราะว่า…” ฉินเฉินชะงักเล็กน้อย “ข้ากับนางมิได้มีสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง แต่เป็นศัตรู”
ชั่วชีวิตนี้พวกเขาไม่มีทางเกี่ยวพันกันได้
รอยยิ้มของหลัวลี่เเข็งค้างไป
เจ้าฉินเฉินนี่จะพูดจบในคราวเดียวได้หรือเปล่า
นางเสียหน้าจนแถบขุดรูมุดดินลงไปแล้ว
“เจ้ามั่นใจว่าเจ้าจะทำได้หรือ เฟยเอ๋อร์พูดหลายครั้งว่าพวกเจ้าพี่น้องสนิทกันดี นางเป็นญาติเพียงหนึ่งเดียวของเจ้า”
แววตาฉินเฉินฉายแววฉงน “นางพูดหรือ”
เขาคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่า เขาสนิทกับฉินเฟยเอ๋อร์ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
เมื่อก่อนก็แค่ไม่ได้แค้นเคืองอะไรนางมากมายนัก และก็ไม่ชอบด้วย
ตอนนี้เมื่อมีความสัมพันธ์พี่น้องกับเฟิงหรูชิง ยิ่งไม่มีทางสนิทกับอีกฝ่าย
หลัวลี่พยักหน้าจริงจัง
ฉินเฉินหยักปากเย้ยหยัน “ญาติของข้าในชีวิตนี้มีแค่ชิงชิงตลอดไป”
เฟิงหรูชิงกกระชับมือฉินเฉินแน่น “เฉินเอ๋อร์ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า บางทีเจ้าจะมีพ่อแม่อยู่ บางทีเจ้าอาจจะพบชาติกำเนิดตัวเอง”
ฉินเฉินยิ้ม “สำหรับข้าแล้ว ชีวิตนี้มีเจ้าอยู่ก็นับว่าเป็นของขวัญจากสวรรค์ ข้าไม่ต้องการคนอื่น”
เพราะข้ามีเจ้าก็พอแล้ว
ท้องฟ้านี้เป็นสีฟ้าก็เพราะเจ้า โลกใบนี้สดใสก็เพราะเจ้า
ข้าไม่มีปรารถนาอื่นใดอีก
เฟิงหรูชิงอึ้ง “เฉินเอ๋อร์!”
ฉินเฉินชะงักไปเล็กน้อย มองใบหน้าเฟิงหรูชิง นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง หากพบพ่อแม่แล้ว เจ้าให้ข้ายอมรับ ข้าก็จะรับ คนที่เจ้าไม่อยากให้ข้ารับ ข้าก็จะไม่รับ ดีหรือไม่”
หลัวลี่มองฉินเฉิน
ฉินเฉินที่หลายปีมานี้นางไม่เคยเห็นมาก่อน เขาเย็นชากับคนอื่นตั้งแต่เล็ก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเฟิงหรูชิงเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้
ต่อให้เป็นฉินเฟยเอ๋อร์ ก็ไม่เคยได้รับการปฎิบัติเช่นนี้
หากฉินเฟยเอ๋อร์รู้เข้าคงโมโหตายสินะ นางยังจะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างเป็นมิตรอีกหรือไม่ ใจกว้างไม่เห็นแก่ตัวอีกหรือเปล่า
พอคิดดูแล้วก็น่ารอชมนัก
นางอยากดูว่า ฉินเฟยเอ๋อร์ที่เก็บอาการไม่อยู่ จะมีสารรูปแบบไหน
“เฉินเอ๋อร์ นี่ก็สายแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ” เฟิงหรูชิงมองฟ้า แล้วมองฉินเฉินเอ่ยว่า “ช่วงนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ ต่อไปเจ้ามาหาข้าได้ทุกเมื่อ”
ฉินเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดาย “ได้”