เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 799 กู้อีอีตระกูลกู้ (5)/ตอนที่ 800 กู้อีอีตระกูลกู้ (6)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 799 กู้อีอีตระกูลกู้ (5)/ตอนที่ 800 กู้อีอีตระกูลกู้ (6)
ตอนที่ 799 กู้อีอีตระกูลกู้ (5)
กู้สื่อหน้าตาหนักใจ ถลึงตาใส่กู่อี “เจ้ายังยืนบื้ออะไรอยู่อีก รีบไปจัดการซะ ไม่เช่นนั้นอีอีจะเผาจวนเทียนเสิน เจ้าต้องซ่อมแซมสร้างใหม่คนเดียว”
“…”
เขาขอลาออกเลยได้หรือไม่
ภารกิจของฝูจู่ไม่ใช่งานที่คนจะทำสำเร็จได้แล้ว
แต่เมื่อเห็นสีหน้าไม่น่าดูชมของกู้สื่อ กู่อีค่อยได้สติ กล้ำกลืนความขมขื่นเอ่ยอย่างเคารพว่า “ขอรับ ฝูจู่”
ฝูจู่ช่างเป็นคนอำมหิตนักเชียว
ตอนนั้นเขาไม่พอใจอดีตฝูจู่ ก็กำจัดและยึดตำแหน่งแทน
ตอนนี้ยังเคี่ยวกรำพวกเขาอีก
กู้อีอีย่อมไม่รู้ว่าเฟิงหรูชิงมาถึงจวนเทียนเสินแล้ว ดังนั้นอารมณ์นางจมดิ่งอยู่ทุกวัน ต่อให้เข้าใกล้วันเกิดเข้าไปทุกที นางยังไม่มีความสุข ทั้งร่างอึดอัดกลัดกลุ้ม
“พวกเจ้าปล่อยข้าเข้าไป ข้าเป็นคุณหนูรองจวนเทียนเสิน!”
หน้าประตูใหญ่จวนฝูจู่ อันชุ่ยผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพซอมซ่อ ใบหน้านางอิดโรย ถลึงตาดุร้ายใส่กลุ่มคนตรงหน้า
วันนั้นป้ายคำสั่งของนางถูกคนชิงไป เดิมทีตอนที่กู้สื่อออกไปครั้งนั้น นางก็ติดตามกลับมาด้วยได้ แต่เพื่อหนานเสียน กลับยังรั้งอยู่ภายนอก กระทั่งไปขอป้ายคำสั่งใหม่จากกู้สื อก็ยังไม่กล้า เกรงว่าจะถูกบังคับกลับจวนเทียนเสิน
ใครจะรู้ว่าหาหนานเสียนไม่พบ เงินในการเดินทางของนางใช้จนหมดสิ้น
เดิมคิดใช้ยาวิเศษแลกค่าเดินทาง แต่คิดไม่ถึงว่า คนพวกนั้นล้วนไม่รับ
และก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นในโลกปุถุชนโง่หรือไม่ มีโอกาสซื้อยาวิเศษเช่นนี้ยังไม่ยอมรับอีก
กระทั้งนางกดราคาต่ำขายออกไปก็ยังขายไม่ออก
อันชุ่ยรู้สึกว่า มีมือข้างหนึ่งจงใจควบคุมอยู่หลังม่านเพื่อทรมานนาง
ภายใต้ความอับจนหนทาง นางก็ได้แต่กลับจวนเทียนเสิน
เพราะไม่มีป้ายคำสั่ง คนพวกนั้นก็ไม่รู้จักนาง ถึงได้ขวางนางไว้ด้านนอก
นางรออยู่หลายวัน รอจนพบคนรู้จักพานางกลับมา แต่นางเดินมาถึงจวนฝูจู่ก็ถูกขวางไว้อีกครั้ง
คราวนี้อันชุ่ยระเบิดโทสะแล้ว!
“ขออภัยด้วย” องครักษ์หน้าประตูไม่เปลี่ยนสีหน้ามั่นคงดุจเขาไท่ซาน “คุณหนูจวนเรามีคนเดียวเท่านั้น”
“เจ้า…” อันชุ่ยเดือดดาล ถลึงตาใส่องครักษ์ “ข้าคืออันชุ่ย ฝูจู่เป็นลุงของข้า พวกเจ้ากล้าขวางข้าหรือ ข้าจะให้ท่านลุงขับไล่พวกเจ้าออกไปซะ!”
องครักษ์หัวเราะเย็นชา “ที่แท้ก็คุณหนูอันชุ่ยนี่เอง เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นคุณหนูรองจวนฝูจู่ ข้าย่อมไม่รู้จัก จริงสิ ฮูหยินเจิ้งเฟิงหัวถูกฝูจู่ขับไล่ออกไปด้วยตัวเอง คุณหนูใหญ่อันรี บจากไปเถอะ”
อันชุ่ยเบิกตากว้าง
ท่านแม่ถูกขับไล่ออกไปหรือ
ช่วงที่นางไม่อยู่จวนเทียนเสิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ฮูหยินเจิ้งเฟิงหัวพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมเทียนเหอที่ถนนทิศเหนือ หากคุณหนูใหญ่อันอยากทราบเหตุผลไปถามฮูหยินเจิ้งเฟิงหัวด้วยตัวเองก็พอแล้ว” องครักษ์ตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
อันชุ่ยกัดฟัน ดวงตาดุร้ายกวาดมององครักษ์ นางกำหมัดหมุนตัวไปมุ่งไปทางถนนทิศเหนือ
ต้องมีสักวันที่นางเดินเข้าสู่จวนฝูจู่อย่างสง่าผ่าเผยแน่!
นางจะทำให้พวกสารเลวดูแคลนคนพวกนี้ต้องสำนึกไปชั่วชีวิต!
…
หน้าประตูร้านยา เฟิงหรูชิงซื้อเมล็ดพันธุ์ยาก่อนออกมา ก็ได้พบคนสองคน
บุรุษสีหน้าอึมครึม อาภรณ์ตัวยาวไม่อาจบดบังความสารเลวของเขาได้
มู่ซีคิดไม่ถึงว่า จะได้พบเฟิงหรูชิงที่จวนเทียนเสิน ดังนั้นเขาชะงักฝีเท้า แววตาตะลึงพรึงเพริด จากนั้นเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มอย่างว่องไว
……………..
ตอนที่ 800 กู้อีอีตระกูลกู้ (6)
“เป็นเจ้า พวกเราช่างมีวาสนานักได้พบกันอีกครั้งแล้ว”
ไม่ทันรอให้เฟิงหรูชิงตอบกลับ หลัวลี่เดินออกมาจากด้านหลังเฟิงหรูชิง นางเพิ่งก้าวออกมาได้สองก้าว ก็เห็นมู่ซีและมู่ฮวนเบื้องหน้า
คนหนึ่งดูชั่วร้าย คนหนึ่งเย่อหยิ่งเย็นชา
“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่” หลัวลี่ดึงชายเสื้อเฟิงหรูชิง
ไม่รู้ทำไมเฟิงหรูชิงสัมผัมได้ว่ามือของหลัวลี่กำลังสั่น
“แม่นาง” มู่ซีค่อยๆ ก้าวออกมา ยิ้มชั่วร้าย “เห็นแก่ที่พวกเรามีวาสนาต่อกันเช่นนี้ ไม่สู้ไปกินข้าวที่หอแห่งแรกด้วยกันเป็นอย่างไร”
เฟิงหรูชิงงุนงง นางใคร่ครวญครู่หนึ่งกลับไม่พบข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ในสมองนาง
“พวกเรารู้จักกันหรือ”
รอยยิ้มมู่ซีค้างเล็กน้อย สักพักก็หัวเราะต่อ “พวกเราเคยพบกับที่ป่าแห่งสัตว์วิเศษ เจ้าอาจจำข้าไม่ได้แล้ว ข้าจะแนะนำตัวอีกครั้ง ข้าคือมู่ซี นายน้อยเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลมู่”
เขาจงใจใส่คำว่าหนึ่งเดียวลงไป
ขอเพียงเป็นหญิงฉลาด ก็รู้ว่าควรเลือกอะไร
เสี้ยวนาทีที่เขาเอ่ยจบ บรรยากาศรอบกายหญิงสาวเย็นเยียบขึ้น สายลมเย็นพัดโบก
“เจ้าเป็นคนตระกูลมู่หรือ”
นับตั้งแต่มาถึงจวนเทียนเสิน นางค่อยเข้าใจว่า ไม่ช้าเร็วนางก็ต้องเผชิญหน้ากับคนตระกูลมู่
แต่ไม่คิดว่าวันนั้นจะมาเร็วขนาดนี้
“เสี่ยวชิง”
หลัวลี่มองเฟิงหรูชิงด้วยความกังวล
นางรู้สึกว่าเสี่ยวชิงในตอนนี้น่ากลัวอยู่บ้าง
เฟิงหรูชิงยกยิ้มอ่อน “ข้าไม่สนใจคนตระกูลมู่ ถอยไป!”
มู่ซีหน้าตาขึงขัง “แม่นาง เจ้าไม่ไว้หน้าข้าเลยหรือ”
นางพูดชัดเจนว่าไม่สนใจตระกูลมู่ แต่ก็มอบกายให้หนานเสียนไม่ใช่หรือ ไม่ใช่เห็นแก่ที่หนานเสียนมีสายเลือดตระกูลมู่หรือไง
น่าเสียดายที่นางคำนวณผิดแล้ว เขาถึงเป็นนายน้อยคนเดียวของตระกูลมู่ ไม่ช้าก็เร็วหนานเสียนจะต้องตกกระป๋องไป
ตอนนี้เขาให้โอกาสนาง นางยังไม่รักษาไว้อีก
“ไว้หน้าหรือ” เฟิงหรูชิงหัวเราะไม่ใส่ใจ “ทำไมต้องไว้หน้าเจ้าด้วย หากเจ้าอยากให้ข้าไปกินข้าวด้วยไม่ใช่หรือ รีบคุกเข่าให้เดี๋ยวนี้! เดินก้าวหนึ่งคุกเข่าหนึ่งครั้งไปถึงหน้าประตูเม มือง! บางทีข้าอาจลองคิดดูก็ได้”
สีหน้ามู่ซีเปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหลือรอยยิ้มเป็นมิตรอีก แววตาหม่นลง
“นางนี่ อย่าคิดว่ามีหนานเสียนปกป้องแล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ ในจวนเทียนเสินนี้พวกเจ้าไม่ใช่อะไรทั้งนั้น!”
หนานเสียนหรือ
มู่ฮวนมองเฟิงหรูชิง
ที่แท้นี่คือหญิงที่หนานเสียนชอบหรือ
ดูไปแล้วก็แค่นั้น ก็แค่หญิงปากไว ไม่มีอะไรดีคนหนึ่ง
หนานเสียนชอบผู้หญิงประเภทนี้ก็ช่างเถอะ ด้วยสายตาเขา เดิมก็ไม่อาจหาแม่นางดีๆ ได้อยู่แล้ว ทำไมซีเอ๋อร์ถึงชอบนางด้วยเล่า
“ข้าบอกแล้ว เจ้าคุกเข่าให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ไม่ช้าเถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วยก็โผล่ขึ้นมาด้านหลังมู่ซี ดึงเข่าสองข้างของเขาอย่างแรง เขายืนไม่มั่น คุกเข่าลงต่อหน้าเฟิงหรูชิงดังตุบ
มู่ซีเหงื่อผุดพรายออกจาหน้าผาก เทียบกับความเจ็บปวดแล้ว ที่ทำให้เขายากรับได้มากกว่าก็คือการดูหมิ่นเช่นนี้
เขากำหมัดแน่น หน้าขาวซีด แววตาคมกริบเสมือนใบมีดจ้องเฟิงหรูชิงเขม็ง
“นางสารเลว รนหาที่ตายหรือ”
เฟิงหรูชิงใช้สายตาดูแคลนมองมู่ซีที่คุกเข่าตรงหน้า “ข้าบอกแล้ว อยากเชิญข้ากินข้าวด้วย เจ้าต้องเดินก้าวหนึ่งคุกเข่าหนึ่งครั้งไปจนถึงประตูเมือง ข้าถึงจะลองคิดดู ส่วนเจ้าไม่อาจทำ ำได้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องใคร่ครวญสักนิด เจ้าคุกเข่าก็พอแล้ว”