เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 803 ไม่ยอมให้ใครก็ตามทำร้ายหนานเสียนได้ทั้งนั้น (3)/ตอนที่ 804 ไม่ยอมให้ใครก็ตามทำร้ายหนานเสียนได้ทั้งนั้น (4)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 803 ไม่ยอมให้ใครก็ตามทำร้ายหนานเสียนได้ทั้งนั้น (3)/ตอนที่ 804 ไม่ยอมให้ใครก็ตามทำร้ายหนานเสียนได้ทั้งนั้น (4)
ตอนที่ 803 ไม่ยอมให้ใครก็ตามทำร้ายหนานเสียนได้ทั้งนั้น (3)
ปรมาจารย์ไห่หรงยิ้ม “ที่แท้คือพี่สาวเจ้าหรือ เช่นนั้นนางคงแซ่เฉิน ตอนนั้นนางยังบอกว่าหากไม่มีเรื่องราวอะไรจะไปเยี่ยมข้า หลายปีก่อนนางมาเยี่ยมข้าอยู่ทุกๆ ปี ต่อมาก็หายตัวไ ไปแล้ว จนเจ้าส่งฮวนเอ๋อร์มา นางก็ไม่เคยมาอีกเลย น่าเสียดายที่ข้าก็ไม่ชอบออกจากเขา ด้วยเหตุนี้จึงไม่พบนางมาหลายปีแล้ว”
แม่นางผู้นั้นไม่ยอมบอกชื่อแซ่ของตัวเอง ยามที่นางมาหาเขาทุกปี เขาก็เอาแต่ถกปัญหาเรื่องการแพทย์กับนาง ไม่ก็เรื่องยาวิเศษ ถึงได้ลืมถามชื่อนาง
น่าเสียดายจริงๆ …
“ตอนนั้นนางช่วยข้าแก้ปัญหายาก ข้าติดค้างบุญคุณนาง ตามหลักแล้วข้ารับฮวนเอ๋อร์เป็นศิษย์ก็ชดเชยน้ำใจนางไปแล้ว แต่ครั้งนี้เห็นแก่ที่นางหนูนั่นเป็นพี่สาวภรรยาเจ้า ข้าจะพยาย ยามตรวจอาการของผู้เฒ่า”
มู่หลิงสีหน้าไม่น่ามอง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินชิงเยียนถึงเอ่ยเช่นนี้
ซู่อีกลายเป็นพี่ภรรยาเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน
แต่ปรมาจารย์ไห่หรงยังอยู่ที่นี่ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ซักไซ้
“ข้าเองก็เหนื่อยแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องดูแลข้าหรอก ข้าพักผ่อนเองก็พอ”
ปรมาจารย์ไห่หรงลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขาชะงักฝีเท้า เอ่ยอีกว่า “จริงสิ หากนางหนูกลับมาแล้ว บอกข้าสักคำ ข้ายังมีอีกหลายจุดที่อยากวิเคราะห์กับนาง”
สิ้นเสียงปรมาจารย์ไห่หรงก็ออกจากห้องโถงไป
จนกระทั่งร่างชายชราหายลับ มู่หลิงค่อยได้สติกลับมา เขามุ่นคิ้วถามว่า “ชิงเยียน ทำไมเจ้าถึงพูดกับปรมาจารย์ไห่หรงเช่นนั้น”
เฉินชิงเยียนกระบอกตาแดง กัดริมฝีปาก “พี่หลิง นิสัยของปรมาจารย์ไห่หรงไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ หากเขาเข้าข้างซู่อีไม่รักษาให้ท่านผู้เฒ่าแล้วจะทำอย่างไร ข้ากับฮวนเอ๋อร์ทนกล้ำกลื นได้ แต่ข้ากังวลที่สุดก็คือท่านผู้เฒ่า หากเขาระเบิดอารมณ์ออกมา ใครก็ยากจะเกลี้ยกล่อมได้”
มู่หลิงเงียบไม่พูด
“อีกอย่าง…” เฉินชิงเยียนช้อนตาที่เอ่อด้วยน้ำตาขึ้นมา ท่าทางน่าสงสารจับใจ “ปรมาจารย์ไห่หรงเคยสาบานว่าจะไม่ลงมือช่วยใครอีก วันนี้เขายอมช่วยเหลือ ก็เพราะเห็นแก่หน้าพี่ซู่อี ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะอาการป่วยของท่านผู้เฒ่า เขาดีกับพี่ซู่อีปานนั้น เพื่อนางแล้วยอมทำร้ายข้า ข้าคิดว่าถ้าพี่ซู่อีรู้ก็คงไม่โกรธ ข้าเชื่อว่าพี่ซู่อีไม่ใช่พวกไม่สำนึก กบุญคุณคน”
คำพูดนี้เป็นความจริง ท่านผู้เฒ่าดีกับซู่อีมาก ไม่ว่านางใช้ซู่อีทำอะไร ซู่อีก็ไม่มีคุณสมบัติโกรธเคือง
มิฉะนั้นนางก็จะเป็นพวกเนรคุณไม่ตอบแทนบุญคุณแล้ว!
สายตามู่หลิงสงบขึ้นมาก สุดท้ายก็ใจอ่อน “เพื่อท่านผู้เฒ่า ครั้งนี้ก็นับว่าไม่มีทางอื่นแล้ว แต่เมื่อก่อน
ปรมาจารย์ไห่หรงอาศัยในป่าลึก ไม่เคยออกมาภายนอก ไม่รู้เรื่องซู่อี ตอนนี้เขาลงเขามาแล้ว ยากที่จะกันไม่ให้เขารู้ได้”
เฉินชิงเยียนยิ้มอ่อนโยน เอนร่างอ่อนนุ่มซบที่อกมู่หลิง
“นั่นเป็นเรื่องภายหน้า ที่สำคัญตอนนี้คือรักษาอาการของท่านผู้เฒ่าก่อน”
ปรมาจารย์ไห่หรงดีกับมู่ฮวนมาตลอด นางติดตามเขาสิบกว่าปี ความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ล้ำลึกกว่าการคบหาซู่อีอย่างผิวเผิน
ตอนนี้ปิดบังได้ช่วงหนึ่งก็ปิดบังไป หากทำไม่ได้แล้วก็ให้ฮวนเอ๋อร์ร้องไห้อ้อนวอน ไม่เชื่อว่าปรมาจารย์ไห่หรงจะขับนางออกจากสำนัก
“แต่ว่า…” มู่หลิงถอนใจ “ทำเช่นนี้ผิดต่อซู่อี เขาติดค้างน้ำใจซู่อี ข้าให้เขาตอบแทนกับฮวนเอ๋อร์แล้ว ชิงเยียนอีกระยะจะเป็นวันเกิดท่านผู้เฒ่า ซู่อีต้องกลับมาแน่ เจ้าบอกให้ ฮวนเอ๋อร์ดีกับนางหน่อย อย่างไรที่ฮวนเอ๋อร์มีความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ล้วนมาจากซู่อี”
………………….
ตอนที่ 804 ไม่ยอมให้ใครก็ตามทำร้ายหนานเสียนได้ทั้งนั้น (4)
ครั้งนี้มู่หลิงค่อยพูดจาเป็นผู้เป็นคนบ้าง
เดิมปีนั้นเขาไม่เคยมีความคิดให้ฮวนเอ๋อร์เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ไห่หรง แต่ชิงเยียนในตอนนั้นเอาแต่ถอนใจ ฮวนเอ๋อร์มีพรสวรรค์เช่นนี้ หากไม่หาอาจารย์ที่เก่งกาจคงน่าเสียดาย
ยิ่งกว่านั้นตั้งแต่เล็กมู่ฮวนฝักใฝ่เรื่องการแพทย์
ไต้ซือไห่หรงไม่เพียงเป็นหมอเทวดา ทั้งยังเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญที่มีฝีมือแข็งกล้า ไม่เช่นนั้นอาศัยฐานะหมอเทวดา เขาคงไม่ได้รับการเคารพถึงเพียงนี้
ดังนั้นเขาฉุกคิดถึงไต้ซือไห่หรงในทันที
เดิมทีไต้ซือไห่หรงไม่ยอมรับศิษย์ จนเขายกเรื่องน้ำใจของซู่อีขึ้นมา ใช้เรื่องติดค้างเป็นเหตุผลถึงทำให้ไต้ซือไห่หรงยอมรับนางเป็นศิษย์ได้
ดังนั้น…ที่มู่ฮวนมีความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ก็มีสาเหตุมาจากซู่อีจริงๆ
ไม่เช่นนั้นด้วยพรสวรรค์มู่ฮวน หากไม่มีไต้ซือไห่หรงชี้แนะไม่มีทางก้าวหน้าได้ถึงระดับนี้
แต่แรกเริ่มมาถึงตอนนี้เฉินชิงเยียนไม่ได้เห็นด้วย
ลูกสาวนางมีความสำเร็จเฉกเช่นทุกวันนี้ สาเหตุมาจากความขัยนมุ่งมั่นของตัวนางเอง เกี่ยวกันใดกับซู่อีเล่า ฮวนเอ๋อร์ใช้กำลังสามรถของตัวเองจนได้ผลลัพธ์ มีสิทธิ์อะไรบอกว่าเกี่ยว วข้องกับซู่อีด้วยเล่า
เฉินขิงเยียนหลุบตาลง ปิดบังความเหี้ยมในแววตา “พี่หลิง หนานเสียนมีนิสัยเย่อหยิ่ง ท่านส่งเขาไป เขาก็ไม่ยินยอม ดังนั้นเมื่อก่อนให้ฮวนเอ๋อร์ไปเป็นศิษย์ปรมาจารย์ไห่หรง นับว่ าดีที่สุดแล้ว”
มู่หลิงหัวเราะ “หนานเสียนไม่ต้องการใครเป็นอาจารย์ ความสามารถของเขาก็แกร่งกล้ากว่าที่เคยเห็นมาแล้ว ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เขาทำต่อตระกูลมู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าจะยอมอภัยได้หรือ ยิ่งคิดอยากให้เขากลับมาทุกครั้งไป…”
ลูกชายสองคนของตระกูลมู่ หนานเสียนเก่งกาจกว่า
ถึงมู่ฮวนจะเข้มแข็งกว่ามู่ซีไม่น้อย แต่…สิ่งที่ภายในจวนเทียนเสินไม่ขาดก็คืออัจฉริยะ
นางเพียงแค่เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ไห่หรง ดังนั้นด้านการแพทย์ถึงมีความรุดหน้า หากอาศัยเพียงพรสวรรค์การฝึกบำเพ็ญ นางยังเทียบแม่หนูตระกูลหลัวผู้นั้นไม่ได้เลย
ที่นางหนูตระกูลหลัวเอาชนะฮวนเอ๋อร์ไม่ได้ ก็เพราะหลัวลี่อายุน้อยเกินไป รอนางผ่านวันเกิดปีนี้นางก็จะอายุสิบสี่ ส่วนฮวนเอ๋อร์กลับอายุสิบเก้า อีกไม่ช้าก็จะยี่สิบแล้ว…”
“ชิงเยียน ฮวนเอ๋อร์ถึงวัยออกเรือน ข้าใคร่ครวญดู หากหมอเทวดาของหอแห่งแรกนั่นไม่ใช่บุรุษ บางคงไม่มีทางได้ตัวเขามา ก็ให้ฮวนเอ๋อร์แต่งงานเอมสัมพันธ์กับสำนักหลิงเสินเหมิน” มู่ฮวนหรี่ตา “เด็กอ้วนจวนจู่ฝูยากจะแต่งเข้าหอแห่งแรก ส่วนตระกูลอื่นๆ วันหน้าเฟยเอ๋อร์ก็จะเป็นผู้หญิงของหนานเสียน ตระกูลหลัวอายุไม่เหมาะสม ตระกูลเทียนก็มีแต่ลูกชายไม่เอา อ่าวผู้หนึ่ง”
เขาชะงักเล็กน้อย “ดังนั้นฮวนเอ๋อร์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
เฉินชิงเยียนแววตาวาวโรจน์ มองมู่หลิง “คนที่ท่านคิดแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์คือ…”
“คุณชายหลิงเสินเหมิน จิ่วหมิงผู้ดูแลหอแห่งแรก!” มู่หลิงยิ้ม “ถึงภายนอกจะจิ่วหมิงจะเรียกตัวเองว่าคุณชายของหอแห่งแรก แต่ใครก็รู้ว่าเขาเป็นถึงคนดูแล เขาเป็นคนที่เหมาะ ะสมที่สุดอย่างแน่นอน ดังนั้น ฮวนเอ๋อร์จะเป็นฮูหยินน้อย นางก็จะใช้งานหมอเทวดาภายในหอแห่งแรกได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ”
มู่หลิงเพิ่งลากมู่ซีมาถึงหน้าประตู ได้ยินคำพูดน่าตกใจของมู่หลิง
ใบหน้าเรียบเฉยของนางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งมู่ซีแล้วเดินเข้าด้านในทันที
“ข้าไม่แต่ง!”
“ฮวนเอ๋อร์!”
“ท่านพ่อ ข้าไม่มีทางแต่งกับจิ่วหมิง!” สายตามู่ฮวนเย็นยะเยือก “ข้าได้ยินว่าเขาอัปลักษณ์ ทำให้หญิงสาวจำนวนไม่น้อยแตกตื่นตกใจ เพราะความจำใจ เขาถึงได้ใช้หน้ากากปกปิดรูปลักษณ์ ท่ าจะให้ข้าแต่งกับคนหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนผีอย่างนั้นหรือ”