เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 813 งานเลี้ยงยามค่ำคืน (2)/ตอนที่ 814 งานเลี้ยงยามค่ำคืน (3)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 813 งานเลี้ยงยามค่ำคืน (2)/ตอนที่ 814 งานเลี้ยงยามค่ำคืน (3)
ตอนที่ 813 งานเลี้ยงยามค่ำคืน (2)
“ข้ากับหลัวลี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน”
สีหน้าฉินเฟยเอ๋อร์อึ้งงัน จากนั้นก็ถอนใจ
ส่วนทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เกรงว่าตัวนางก็ไม่รู้ชัดเช่นกัน
“แต่ข้าไม่ชอบเจ้า”
ประโยคถัดมาของเขายังคงเย็นชาไร้อารมณ์ ไม่เหลือที่ยืนให้สักนิด
เขากับหลัวลี่ไม่ความสัมพันธ์อะไรกันจริงๆ ก็แค่หลัวลี่เป็นแม่นางที่ชอบชิงชิงเท่านั้นเอง
ขอเพียงเป็นคนที่ชิงชิงชอบ เขาล้วนนับเป็นสหายทั้งสิ้น
วันนี้เขาจะไม่ยอมให้ใครดูหมิ่นชิงชิงทั้งนั้น
“เฉินเอ๋อร์…”
ฉินเฟยเอ๋อร์หน้าซีดขาวราวกับหิมะ เงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความแตกตื่นและสงสัย “ข้าเป็นพี่สาวของเจ้า!”
ชายหนุ่มเม้มปากไม่พูดจา สีหน้าเย็นชา ไม่รับน้ำใจคน
“ฉินเฉิน!”
เสียงหัวเราะเย็นชาดังมาจากด้านหลัง
ไม่ช้าก็เห็นหลัวเฟยเข้ามาพร้อมฉินเสี่ยวเย่ว์
ผูกสมัครรักใคร่เป็นอย่างยิ่ง
เพียงแต่บนใบหน้าฉินเสี่ยวเย่ว์เวลานั้น ยังเจือด้วยรอยยิ้มเย็นชาประชดประชัน มองฉินเฉินอย่างดูแคลน “คิดไม่ถึงว่าเฟยเอ๋อร์เพิ่งออกมาได้ไม่นาน เจ้าก็รังแกนางขนาดนี้แล้ว ลืมแ แล้วหรือ หากไม่ใช่ตระกูลฉิน ตอนนี้เจ้าเป็นคนเก็บขยะกินอยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย เจ้าจะมีชีวิตทั้งกินอิ่มมีอาภรณ์ดีๆ สวมใส่เช่นตอนนี้หรือ”
เดิมคนทั้งหลายกำลังยิ้มเยาะตระกูลฉินอยู่หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ก็สงบเงียบ
ฉินเฉินเป็นลูกเลี้ยงตระกูลฉิน เขาถูกพ่อแม่ทอดทิ้งเกือบตายอยู่ภายนอกแล้ว
ตระกูลฉินมีเมตตารับเขากลับมาเลี้ยง
ให้ตำแหน่งสูงส่งและให้เกียรติแก่เขา ทั้งมอบสภาพแวดล้อมในชีวิตที่ดีกับเขา
แต่ตอนนี้ ลูกเลี้ยงตระกูลฉินผู้นี้กลับทำเกินเลยกับลูกสาวภรรยาเอกตระกูลฉิน ช่างเป็นพวกเนรคุณจริงๆ !
“เรื่องนี้ ฉินเฉินทำเกินไปจริงๆ ข้าได้ยินว่าตระกูลฉินดูแลเขาเหมือนลูกชายแท้ๆ ตั้งแต่เล็กฉินเฟยเอ๋อร์เอ็นดูเขา ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้”
“เพื่อผู้หญิงสองคนนั้น เขาไร้มารยาทกับพี่สาวตัวเอง คนเนรคุณเช่นนี้ หากอยู่ในบ้านข้า คงตีเขาตายไปนานแล้ว”
“ตระกูลฉินมอบชีวิตให้เขา ให้อาหารกับเขา คนเราต้องรู้จักบุญคุณ คนอย่างฉินเฉินข้าเพิ่งเคยพบเป็นคนแรก...”
ปัง!
คนที่พูดอย่างยินดีผู้นั้น มีเถาวัลย์เลื้อยขึ้นที่ขาเขาอย่างน่าตกใจ
เถาวัลย์พันรอบกายเขาในฉับพลัน ดึงร่างเขาล้มกระแทกลงพื้นอย่างแรง
คนทั้งหมดต่างหยุดวิพากษ์วิจารณ์ มองไปที่เถาวัลย์ตามสัญชาตญาณ…
ด้วยเหตุนี้ คนทั้งหลายถึงเห็นอย่างชัดเจนว่า เถาวัลย์เหล่านั้นเลื้อยออกมาจากใต้ฝ่าเท้าของเฟิงหรูชิง ราวกับมือโบกพัดไปมาท่ามกลางสายลม
“เสี่ยวชิง…” หลัวลี่อยู่ใกล้กับเฟิงหรูชิงมาก ย่อมรับรู้ถึงแรงกดดันรอบด้าน นางหันกลับไปมองอย่างยากลำบาก มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างตกตะลึง
หญิงสาวยังหน้าตาสงบนิ่งราวสายน้ำ
แต่นางสัมผัสได้ว่าภายใต้ความสงบนั้นซ่อนงำพายุฝนเอาไว้
“เฉินเอ๋อร์ มานี่!”
ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ยปาก
ฉินเฉินเดินไปข้างกายเฟิงหรูชิงอย่างเชื่อฟัง ยืนนิ่งไม่ขยับ
ฉินเฉินเป็นเช่นนี้ ฉินเฟยเอ๋อร์เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก นางตะลึง มองใบหน้าเฟิงหรูชิงอย่างไม่รู้ตัว
“ผู้อื่นด่าเจ้า ทำไมเจ้าไม่พูดสักประโยค” เฟิงหรูชิงถามเสียงเรียบ
ฉินเฉินอึ้งไป แต่ไรมาเขาไม่ชอบอธิบายอะไรเพื่อตัวเอง คำพูดคนอื่นไม่อาจทำร้ายเขาได้สักน้อย
เขาไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้
คนที่เขาใส่ใจ มีเพียงนางคนเดียวตลอดไป
“ต่อไปใครรังแกเจ้า เจ้าโต้ตอบพวกมันกลับไปให้หมด คนของข้าไม่เคยถูกใครรังแกมาก่อน”
…………..
ตอนที่ 814 งานเลี้ยงยามค่ำคืน (3)
เฉินเอ๋อร์ใจอ่อนมาตลอด
หากตระกูลดีกับเขาจริง เขาไม่มีทางทำกับฉินเฟยเอ๋อร์เช่นนี้…
ทั้งๆ ที่เขาได้รับความอยุติธรรมมากมาย แต่ไม่เคยพูดมากความ กระทั่งพูดกับนางสักประโยคยังไม่มีเลย ฉินเฉินเช่นนี้ ทำให้นางทั้งโมโหและปวดใจ
“ได้”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างเบิกบานราวพระอาทิตย์
ราวกับท้องฟ้าชั่วนาทีนั้นสว่างไสวขึ้นมา กระทั่งแสงจันทรายังสว่างกว่าที่ผ่านมาอีก
รอยยิ้มเขาเหมือนเข็มเล่มหนึ่งทิ่มทางหัวใจฉินเฟยเอ๋อร์อย่างรุนแรง
นางกำมือแน่น มองฉินเฉินด้วยใบหน้าซีดขาว ความเจ็บใจแสนสาหัสและปวดหนึบอัดแน่นหัวใจนาง สีหน้านางยิ่งขาวซีดลงไปอีก
ในโลกนี้ ทั้งๆ ที่นางสนิทกับฉินเฉินมากที่สุด ทำไมวันนี้ เขากลับยิ้มผู้หญิงที่ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นอย่างเบิกบานเช่นนี้
ฉินเฟยเอ๋อร์หลับตาเบาๆ สักพักนางค่อยลืมตา
ไม่ว่าอย่างไร เฉินเอ๋อร์ใส่ใจพี่สาวอย่างนาง
มิฉะนั้นเขาคงไม่ยินยอมกลับมาเป็นกระสัยยาให้นางต่อไป ขอเพียงนางเข้าตระกูลมู่ เข้าใกล้กับชายหนุ่มที่เสมือนเทพผู้นั้น
เฟิงหรูชิงมองไปรอบๆ “จวนเทียนเสินที่ว่ากันก็มีแค่นี้เอง เฉินเอ๋อร์ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งอย่างนั้นหรือ น่าขันนัก! คำพูดฝ่ายเดียวของตระกูลฉิน กลับทำให้คนทั่วหล้าเชื่อโดยไม่สงสัย”
สีหน้าฉินเสี่ยวเย่ว์เปลี่ยนไป หัวเราะเสียงเย็น “หากมิใช่เห็นเขาน่าสงสาร ด้วยกำลังของตระกูลฉินทำไมต้องรับเลี้ยงเขาไว้ด้วย”
“เกรงว่ามีเพียงตระกูลฉินเท่านั้นถึงรู้ ข้ารู้แต่ว่า ข้าไม่ยอมให้ใครรังแกเฉินเอ๋อร์ทั้งนั้น!”
สายตาฉินเฉินเชื่อฟังมาก
หลายปีมานี้ เขาไม่เคยสนใจคำพูดของใครมาก่อน
แต่ได้รับนางปกป้องเช่นนี้ ดีเหลือเกิน…คล้ายมีกระแสอุ่นๆ ไหลเข้ามาในใจเขา ทำให้หัวใจเขาอบอุ่น
“หลัวเฟย!” ฉินเสี่ยวเย่ว์โมโหจนหน้าแทบจะเปลี่ยนไปบูดเบี้ยว นางหันมองหลัวเฟย “ลี่เอ๋อร์ถูกผู้หญิงคนนั่นล่อลวง ตอนนี้พวกเขาร่วมมือกันรังแกเฟยเอ๋อร์ เฟยเอ๋อร์มีนิสัยอย่างไร ท่านไม่รู้หรือไง ทุกเรื่องราวนางเอาแต่ยอมทน นางก็แบกรับความอยุติธรรมไว้คนเดียว ข้าผู้เป็นน้าจะทนเห็นหลานสาวเป็นเช่นนี้ได้หรือ”
หลัวเฟยขมวดคิ้ว
เด็กหญิงนี่เอ่ยวาจาบีบคั้นคน ไม่ชวนให้ชอบจริงๆ
ยิ่งกว่านั้นตระกูลฉินมอบครอบครัวให้ฉินเฉิน เขาทำกับฉินเฟยเอ๋อร์เช่นนี้ เขามีความผิดจริงๆ…
คาดว่าคงต้องช่วยกลับขาวเป็นดำ พูดให้เฉินฉินเป็นผู้บริสุทธิ์ เหลือแต่นางเด็กนี่ผิดเท่านั้น
แต่เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของหลัวลี่ ความสงสัยทั้งหลาย หลัวเฟยไม่อาจเอ่ยออกมาได้
เขาได้แต่ถอนใจ “ลี่เอ๋อร์ เจ้าสนิทกับเฟยเอ๋อร์มาตลอดมิใช่หรือ บางทีพวกเจ้าอาจมีความเข้าใจผิดกัน เฟยเอ๋อร์ไร้เดียงสา หลอกลวงคนอื่นไม่เป็น พวกเจ้าเข้าใจผิดอะไรก็พูดออกมาให้ชัด จะดีกว่า”
เดิมหลิวลี่สิ้นหวังกับหลัวเฟยอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ฟังคำพูดเขา หัวใจเย็นวาบอย่างถึงที่สุด
นางยิ้มเย็นชา เอ่ยประชดว่า “เทียบกันแล้วเสี่ยวชิงของข้าหลอกลวงคนอื่นไม่เก่งเท่าฉินเสี่ยวเย่ว์ของท่าน นางวางมอมยาเมาท่านไปแล้ว ทำให้ท่านไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด แยกแยะคนดี ชั่วไม่ได้!”
“ลี่เอ๋อร์!” หลัวเฟยขมวดคิ้ว “ข้าทำเพื่อเจ้า เจ้าเป็นลูกสาวข้า จะไม่รักเจ้าได้อย่างไร ข้าแค่ทนเห็นเจ้าทะเลาะกับเฟยเอ๋อร์ไม่ได้เท่านั้น เมื่อก่อนพวกดีต่อกันถึงเพียงไหน คนทั้ งจวนเทียนเสินต่างรู้ดี”
ถูกแล้วเมื่อก่อนพวกนางดีต่อกันมา ดังนั้นนางมียาวิเศษยังเสียดายกินไม่ลง ยกให้ฉินเฟยเอ๋อร์จนหมด