เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา - ตอนที่ 849 ผู้เฒ่าตระกูลมู่ผู้ร้องไห้โวยวาย (3)/ตอนที่ 850 ผู้เฒ่าตระกูลมู่ผู้ร้องไห้โวยวาย (4)
- Home
- เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา
- ตอนที่ 849 ผู้เฒ่าตระกูลมู่ผู้ร้องไห้โวยวาย (3)/ตอนที่ 850 ผู้เฒ่าตระกูลมู่ผู้ร้องไห้โวยวาย (4)
ตอนที่ 849 ผู้เฒ่าตระกูลมู่ผู้ร้องไห้โวยวาย (3)
พ่อบ้านแสร้งเช็ดน้ำตาทอดถอนหายใจ
มู่ชิงอิ้นไม่อยากพูดอะไรต่อ
ตอนที่พี่สะใภ้จากไปเขายังเป็นเด็กอายุสิบกว่าปี
อีกทั้งเขาไม่มีแม่มาตั้งแต่เล็ก พี่สะใภ้ดีกับเขามากดูแลเขายิ่งกว่าพี่สาวแท้ๆ
ดังนั้นตอนนั้นเขากอดขาพี่สะใภ้ร้องไห้ไม่ให้นางกับหนานเสียนไปจริงๆ
ทว่าตอนนั้นเขาอายุเพียงเท่าไรกัน?
ตอนนี้…เขาไม่มีทางทำได้
“หรือว่า นายน้อยท่านพาหญิงสาวคนหนึ่งกลับมาเถอะ พอท่านผู้เฒ่าดีใจไม่แน่อาการป่วยอาจจะดีขึ้นก็ได้”
มู่ชิงอิ้น “…”
ช่างเถอะ เขาไปเกลี้ยกล่อมพี่สะใภ้เสียหน่อยจะดีกว่า ให้นางกลับมาเยี่ยมท่านพ่อ
ไม่ว่าพี่ใหญ่จะทำกับนางอย่างไรตระกูลมู่นี้…ก็คือบ้านของนางตลอดไป
เป็นพี่สะใภ้ไม่ได้ก็เป็นพี่สาวได้ จะปล่อยให้เฉินชิงเยียนวางอำนาจในตระกูลมู่ไม่ได้
“ข้าจะออกจากจวนเทียนเสินสักครั้ง หากหาพี่สะใภ้พบข้าก็จะเกลี้ยกล่อม จะยินยอมกลับมาหรือไม่ต้องดูความยินยอมของนางเองข้าไม่อาจตัดสินใจได้”
เกี่ยวกับการร้องโวยวายของท่านผู้เฒ่าตระกูลมู่ มู่ชิงอิ้นเองก็จนใจ มุมปากของเขามีรอยยิ้มขมขื่น
ท่านผู้เฒ่าเดินมาทางมู่ชิงอิ้นสองสามก้าว จับมือของเขาแล้ววางป้ายหยกสีขาวอันหนึ่งลงบนมือมู่ชิงอิ้น
มู่ชิงอิ้นชะงักมองท่านผู้เฒ่าด้วยความไม่เข้าใจ
เสียงของท่านผู้เฒ่าแฝงด้วยความระแวดระวัง “ข้าเอาของล้ำค่าของข้ามอบให้เจ้า เจ้าเอามันออกไป ไม่ว่าจะให้ซู่อีหรือหนานเสียนก็ดีทั้งนั้น ชู่ว์ อย่าให้มู่หลิงเจ้าชั่วนั่นรู้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นเขาจะมาแย่งของล้ำค่าของข้าไปให้ผู้หญิงชั่ว”
คนพวกนั้นล้วนชั่วร้ายยิ่งนัก
มู่ชิงอิ้นมองหลักฐานยืนยันในมือ “ท่านพ่อ…”
“เสี่ยวชิงอิ้น คนตระกูลมู่นี้ล้วนเลวร้ายมากๆ ทั้งนั้น ข้าเชื่อเพียงเจ้าและข้าก็เชื่อแค่เจ้าเพียงคนเดียว”
ใจมู่ชิงอิ้นสั่นสะท้าน “ตอนที่เรียกข้าไม่ต้องมีคำว่าเสี่ยวได้หรือไม่? ข้าอายุจะสามสิบแล้ว”
ท่านผู้เฒ่าไม่สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย “เสี่ยวชิงอิ้น เจ้าไปพาซู่อีกลับมาต้องพากลับมาให้ได้ หากนางไม่กลับมาเจ้าก็บอกว่าคนชั่วตระกูลมู่พวกนั้นรังแกข้า ข้าใกล้ตายแล้ว หากนางยังไม่กลับมาอีกข้าต้องถูกคนรังแกจนตายแน่”
“ท่านพ่อ พวกเราไม่ขู่พี่สะใภ้ได้หรือไม่?”
“ข้าไม่สน เจ้าไม่ทำตามที่ข้าบอกข้าก็จะไม่กินไม่ดื่ม” ท่านผู้เฒ่าทำเสียงหึ๊ท่าทางงอนเหมือนเคย
พ่อบ้านรีบดึงมู่ชิงอิ้นเอาไว้ทันที “นายน้อยอย่ามองว่าท่านผู้เฒ่าสติเลอะเลือน ความจริงแล้วเขายังมองทะลุปรุโปร่งยิ่งกว่าผู้ใด แม้นายท่านรองจะอยากให้คุณชายหนานเสียนกลับมาโดยตลอด เขาก็ต้องการเพียงควบคุมคุณชายหนานเสียนให้ทำงานให้เขาก็เท่านั้น ตระกูลมู่นี้…เขาไม่มีทางยกให้คุณชายหนานเสียน”
ดังนั้นท่านผู้เฒ่าถึงได้เอาป้ายหยกให้มู่ชิงอิ้น หวังว่าเขาจะสามารถส่งต่อไปให้ฮูหยินรองกับคุณชายหนานเสียนได้
มู่ชิงอิ้นกำป้ายหยกแน่น
เขารู้ว่าป้ายหยกนี้เป็นหลักฐานยืนยันตัวผู้นำตระกูลมู่
ตระกูลมู่ยิ่งใหญ่คนในตระกูลมีมากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาเชื่อเพียงหลักฐานยืนยันไม่เชื่อคำพูดใดๆ
เหมือนพระราชโองการก่อนสิ้นพระชนม์ที่ฮ่องเต้องค์ก่อนเหลือทิ้งไว้ มิเช่นนั้นก็ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม
“ท่านพ่อ ข้าเข้าใจแล้ว”
ท่านพ่อดูเหมือนเลอะเลือน ทว่าความจริงแล้วเขามองทะลุปรุโปร่งมากจริงๆ
มู่ชิงอิ้นไอออกมาในลำคอของเขามีเสมหะปนเลือด แต่เพื่อไม่ให้ท่านพ่อต้องเป็นกังวลเขาจึงอดทนเอาไว้
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรหันหลังเดินออกไปทางนอกจวน
…
ตอนแรกถานซวงซวงถูกคำพูดของมู่ชิงอิ้นโจมตีได้เพียงไม่นานก็มีกำลังใจขึ้นมาอีก
นางมีเป้าหมายใหม่แล้วจึงไม่ได้คิดจะไปพบท่านผู้เฒ่าตระกูลมู่อีก แต่ตั้งใจจะไปตัดชุดสักสองสามชุดให้ตัวเองแทน
……………….
ตอนที่ 850 ผู้เฒ่าตระกูลมู่ผู้ร้องไห้โวยวาย (4)
คนพึ่งเสื้อผ้า พระพุทธรูปพึ่งทอง[1]
ที่ตระกูลมู่ให้นางมีแต่เสื้อผ้าหยาบๆ แล้วยังห้ามไม่ให้ช่างตัดเสื้อวัดตัวตัดชุดให้นาง นางได้แต่ต้องออกไปหาร้านผ้า
หากต้องการดึงดูดมู่ชิงอิ้นอาศัยเสื้อผ้าชุดนี้ของนางไม่ได้เป็นอันขาด
ในบ้านตระกูลฉิน ณ ตอนนี้
เสียงเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังทำให้ฝีเท้าฉินเฉินชะงักหยุดลง
“เฉินเอ๋อร์!”
เขาไม่ได้หันกลับยังคงหันหลังให้หญิงสาวเช่นเดิม สีหน้าเรียบนิ่งไม่มีความรู้สึกใดๆ
ฉินเฟยเอ๋อร์หลับตาลงเบาๆ
ในหัวของนางปรากฏรอยยิ้มของชายหนุ่มขึ้นมา
รอยยิ้มนั้นราวกับดาบนับหมื่นแทงทะลุใจนาง เจ็บปวดเลือดอาบนองใบหน้าซีดขาว
ที่แท้…เขาก็ยิ้มได้
นางคิดมาตลอดว่าเฉินเอ๋อร์เป็นเช่นนี้มาตลอด ไม่ว่าต่อหน้าผู้ใดล้วนไม่ยกเว้น
ทว่าเขากลับยิ้มให้คนอื่นแล้ว ยิ้มได้สว่างเจิดจ้าเช่นนี้
“เฉินเอ๋อร์” ฉินเฟยเอ๋อร์ลืมตาขึ้นเดินไปทางฉินเฉินอย่างเชื่องช้า “เจ้ารู้ว่าเรื่องครั้งก่อนของเจ้าท่านพ่อโมโหมาก แล้วช่วงนี้เจ้าก็ยังมักจะหนีออกไปข้างนอก เป็นข้าที่เกลี้ยกล่อมเขาให้เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป เจ้าได้รับความขื่นขมมากพอแล้วให้เขาดีต่อเจ้าหน่อย”
ใบหน้าฉินเฉินเรียบนิ่งฟังคำของฉินเฟยเอ๋อร์เงียบๆ
ฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มขมๆ “กับลี่เอ๋อร์ข้าทำเรื่องผิดไปบ้างจริงนางโกรธข้าก็เป็นการสมควร แต่ว่าข้าไม่รู้ว่าข้าทำผิดอะไรต่อเจ้า พวกเราเป็นพี่น้องกันเหตุใดเจ้าต้องทำกับข้าเช่นนี้? เฉินเอ๋อร์เจ้าบอกพี่มา พี่ทำผิดอะไรกันแน่?”
เจ้าถึงได้…เย็นชาเช่นนี้…ทั้งๆ ที่ตอนแรกฉินเฉินก่อนออกจาตระกูลฉินไม่มีทางเป็นเช่นนี้ต่อให้เขาไม่ยิ้มให้นางก็ไม่มีทางห่างเหินอย่างนี้ ฉินเฟยเอ๋อร์ที่รออยู่นานจู่ๆ ก็คิดถึงประโยคนั้นหลังจากที่ฉินเฉินกลับมา และหลังจากนั้นมาเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเช่นนี้
“เฉินเอ๋อร์ เป็นเพราะข้าไม่ยอมล้มเลิกเรื่องตระกูลมู่ใช่หรือไม่? แต่ว่าข้าชอบหนานเสียนนี่ ชายที่สง่างามดุจทวยเทพใครบ้างไม่ชอบ? ข้าอยากเข้าตระกูลมู่แล้วผิดอะไร?” สายตาฉินเฟยเอ๋อร์แฝงด้วยความเจ็บปวดแทบแหลกสลาย “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังโทษข้า โทษที่ข้าไม่รักตัวเองยอมไปเป็นอนุ สักวันหนึ่งที่เจ้าได้พบหญิงที่เจ้าชอบเจ้าก็จะเข้าใจ ไม่ว่าจะทุ่มเทเพื่อเขามากเพียงใดเจ้าก็ล้วนเต็มใจ”
เป็นอนุแล้วอย่างไร?
แม้จะไม่มีชื่อไม่มียศนางก็ล้วนยินดี
ไม่มีใครรู้ว่าฉินเฟยเอ๋อร์เคยเจอหนานเสียน ไม่ใช่หนานเสียนในตอนนี้!
หนานเสียนในตอนนี้นางเห็นจากภาพเหมือนที่ตระกูลมู่ส่งมาที่นางเคยพบ…เป็นเขาเมื่อนานหลายปีก่อน หนานเสียในตอนนั้นอายุยังน้อยแต่ก็มีหน้าตาที่ทำให้คนยากที่จะลืมแล้ว และเป็นความบังเอิญครั้งหนึ่ง นางอยู่ในโลกภายนอกจวนเทียนเสินเห็นเด็กชายอายุแปดเก้าปีกำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากคนตระกูลมู่นับไม่ถ้วนก็ยังนิ่งสงบใบหน้าไร้ความเกรงกลัว
เขาเหมือนทวยเทพและคนตรงหน้าเขาเหล่านั้นเป็นเพียงมดแมลงทรงพลังจนทำให้คนตกตะลึงทำให้นาง…ไม่เคยลืมเขาเลยตั้งแต่นั้นมา
ต่อมาตระกูลมู่ก็ส่งภาพเหมือนหนานเสียนหลังโตเป็นหนุ่มมา ได้มองเพียงครั้งเดียวนางก็จมลึกลงไปไม่อาจลืมได้เลย
นางชอบเขามีอะไรผิด?
ไม่รักตัวเองแล้วอย่างไร? นางไม่เคยใส่ใจอะไรมากมายเกินไป
ในเมื่อเฉินเอ๋อร์เป็นน้องชายของนาง เป็นเพราะห่วงใยนางถึงได้เปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใด…เขาถึงไม่เข้าใจนาง?
“เฉินเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าชอบแม่นางที่ชื่อว่าเฟิงหรูชิงนั่น ข้าเป็นพี่สาวของเจ้าข้าจะไม่ทำให้เจ้าสมหวังได้อย่างไร? หากนางก็จริงใจต่อเจ้าเช่นนั้นข้าจะไปขอร้องท่านพ่อ เขาต้องยอมให้เจ้าไปสู่ขอนาง”
………………
[1] คนพึ่งเสื้อผ้า พระพุทธรูปพึ่งทอง หมายถึง ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง