เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช - บทที่ 284 เตียงเตา
บทที่ 284 เตียงเตา
บทที่ 284 เตียงเตา
เสี่ยวเป่ากัดซาลาเปาในมืออีกคำ แม้คำพูดของพี่สามจะทำให้นางสะเทือนใจอยู่บ้าง ทว่านางเองก็เข้าใจสถานการณ์เช่นนี้เป็นอย่างดี
ตลอดสามปีที่นางเติบโตมาในหมู่บ้านชนบทแสนห่างไกลความเจริญ นับตั้งแต่จำความได้ เสี่ยวเป่าก็ผ่านความยากลำบากในสภาพหนาวเย็นเช่นนี้มาแล้ว
เด็กและคนชราอดทนต่อความหนาวเย็นได้ไม่นานนัก ฉะนั้นฤดูหนาวของทุกปีจึงมักมีเด็กและคนชราเสียชีวิตมากที่สุด
ในเวลานั้นเสี่ยวเป่าเองก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้
ตัวนางเองยังต้องทนทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็นและความหิวโหย หากไม่ใช่เพราะนางมีพลังวิญญาณ เกรงว่าคงจะป่วยจนกลายเป็นภาระให้ท่านแม่คนสวยของนางไปแล้ว
แต่ตอนนี้นางมีญาติพี่น้องคอยรักใคร่ห่วงใย เสี่ยวเป่าถึงได้รักและห่วงแหนชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันมาก
เด็กน้อยก้าวเดินอยู่ข้างพี่สาม ทันใดนั้นก็พลันนึกถึงวิธีที่พอสามารถช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้นได้
เพียงแต่นางไม่รู้ว่ามันต้องทำอย่างไร
“พี่สาม”
เสี่ยวเป่าดึงชายเสื้อชายหนุ่มให้หยุดเดินก่อนจะเงยหน้านวลขึ้นมองเขา
“พี่สามอย่าเศร้าไปเลย เสี่ยวเป่าพอจะมีวิธีที่ช่วยให้ความอบอุ่นได้”
หนานกงฉีอวิ๋นก้มมองหน้านาง “หมายถึงถ่านหรือ แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ คงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อหามันหรอก”
เสี่ยวเป่าส่ายหัว “ไม่ใช่เพคะ”
นางพูดต่อ “เราทำเตียงเตา*[1]ได้!”
หนานกงฉีอวิ๋นมองนางด้วยสายตาว่างเปล่า เตียงเตา? มันคือสิ่งใด
เสี่ยวเป่าพูดพลางขมวดคิ้ว “เราสามารถใช้ความร้อนจากเตาทำอาหารส่งไปยังเตียงเตาได้ หากทำเช่นนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้นานขึ้น แต่เสี่ยวเป่าไม่รู้ว่ามันต้องทำอย่างไร”
พอหนานกงฉีอวิ๋นได้ยินหลักการที่นางพูดถึง เขาก็เริ่มขบคิดจนคิ้วขมวดเป็นปม วิธีการต่าง ๆ พลันผุดขึ้นมาในหัวเขาสารพัดวิธี ทว่าทั้งหมดก็ถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่สนว่าเตียงเตาที่เสี่ยวเป่าพูดถึงจะได้ผลหรือไม่ สิ่งแรกที่เขาทำคือเริ่มนึกภาพจำลองตามหลักการที่เสี่ยวเป่าบอก
“ความร้อนจากเตาทำอาหาร สามารถให้ความร้อนได้นานขึ้น…”
เสี่ยวเป่าอยากถามเขาเกี่ยวกับเรื่องถ่านหินต่อ แต่พอเห็นว่าพี่สามกำลังหมกมุ่นอยู่ในความคิดของตนเอง เสี่ยวเป่าก็มุ่ยปากพลางคิดในใจว่าเอาไว้นางค่อยกลับไปคุยกับท่านพ่อก็ได้
เมื่อมาถึงกรมโยธา หนานกงฉีอวิ๋นมัวแต่ขบคิดเรื่องเตียงเตาจนไม่ได้สังเกตสิ่งรอบตัว จึงชนเข้ากับใครบางคน
“นี่เจ้าสาม มัวแต่คิดสิ่งใดอยู่ไยถึงดูเคร่งเครียดนัก อาเจ็ดยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน เจ้าก็ยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”บราวนี่ออนไลน์
ถูกต้อง คนที่หนานกงฉีอวิ๋นเดินชนก็คือหนานกงหลีที่ออกมาเที่ยวดื่มตามประสาหนุ่มเจ้าสำราญ
ทุกคนรู้ว่าเขามีเหล้าองุ่นและเหล้าลูกพลับ แม้จะถูกแบ่งขายออกไปแล้วไม่น้อย แต่คนอื่น ๆ เชื่อว่าเขาไม่มีทางขายจนหมดและเก็บไว้ให้ตนเอง
หลายคนพยายามทำทุกวิถีทางเพราะต้องการเหล้าจากเขา เป็นเหตุให้วันนี้เขาถูกเหล่ามิตรสหายน้อยใหญ่เชิญไปร่วมดื่มกิน ระหว่างทางกลับจึงบังเอิญพบกับพวกเสี่ยวเป่า
หนานกงฉีอวิ๋นก้มหัวขออภัย “เสด็จอาเจ็ด”
หนานกงหลีที่ไม่คิดถือสาอีกฝ่ายตั้งแต่แรก บัดนี้หันไปอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน พลันบีบแก้มนุ่มนิ่มเล่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อากาศหนาวถึงเพียงนี้ไยไม่อยู่ในวัง ทำไมถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ หืม?”
หนานกงหลีอยู่ในอาภรณ์หรูหรางดงาม เกศายาวพาดไหล่ บนตัวมีกลิ่นเหล้าจาง ๆ ดวงตาปรือบ่งบอกว่าเริ่มกรึ่ม ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางหิมะขาวดูเป็นผู้อิสระแลไร้กังวล
แก้มป่องของเสี่ยวเป่าถูกบีบจนหน้ายับยู่ยี่
“ท่านอาเจ็ดหยุดบีบได้แล้ว”
“ก็ได้ ๆ ก็มันช่วยไม่ได้ ผู้ใดใช้ให้เสี่ยวเป่าของเราน่ารักขนาดนี้เล่า อาเจ็ดก็เลยไม่อยากปล่อยมือน่ะสิ”
เสี่ยวเป่าลูบแก้มป้อย ๆ พลางบ่นพึมพำ “ไยพวกท่านชอบบีบแก้มเสี่ยวเป่านักนะ ฮึ่ม!”
“พวกเจ้ามาทำอันใดที่นี่?”
หนานกงฉีอวิ๋น “มารับของพ่ะย่ะค่ะ”
เขาจะต้องศึกษาวิธีการสร้างเตียงเตาที่เสี่ยวเป่าพูดถึงให้ได้ หากทำได้จริง มันจะช่วยเหลือคนได้อีกมาก
“ของที่ว่าคือสิ่งใด ไป ๆ ไปกันเถิด อาเจ็ดจะไปกับพวกเจ้าด้วย”
ขณะที่เขาพูด เขาก็เปลี่ยนมาอุ้มเจ้าก้อนแป้งไว้บนแขนข้างเดียว อีกมือหนึ่งก็ลากอีกคนเข้าไปข้างในด้วย
แต่พอได้เห็นสิ่งที่สองพี่น้องบอกว่าจะมารับ อาการเมาของหนานกงหลีพลันหายเป็นปลิดทิ้ง
เขาเดินเข้าไปชื่นชมพวกมันใกล้ ๆ แทบจะทันที สายตาประหลาดใจกวาดตามองตุ๊กตาดินเผาสุดแสนประณีตที่วางเรียงแถวเป็นระเบียบบนชั้นไม้วางของ
พื้นผิวที่ทำมาจากดินสีขาว แต่งแต้มด้วยสีสันหลากหลายสดใสสวยงาม ก่อนจะนำมาเคลือบจนเกิดเงา เขาไม่เคยเห็นเครื่องเคลือบที่ประณีตเช่นนี้มาก่อน
ตุ๊กตาดินเผาสีขาวขนาดเท่าฝ่ามือ งดงามสดใสราวกับวาดภาพวันปีใหม่ อีกทั้งยัง…
เขามองตุ๊กตาดินเผาสลับกับเสี่ยวเป่า ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน!
“นี่… นี่คือเสี่ยวเป่าหรือ”
น้ำเสียงของหนานกงหลีเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พอเห็นสองพี่น้องพยักหน้า ทั้งยังแปะมือกันพลางหัวเราะชอบใจ
“ทำได้อย่างไร งดงาม งดงามมาก!”
เสี่ยวเป่ายืดอกอย่างภาคภูมิ “พี่สามทำเองทั้งหมด!”
เจ้าตัวเล็กภูมิใจราวกับตนเองเป็นคนทำ
นางยังชี้ไปที่ตุ๊กตาหัวโตสิบสองปีนักษัตร “พวกนั้นก็เป็นฝีมือของพี่สาม!”
หนานกงหลีประทับใจในความน่ารักของตุ๊กตาดินเผาในทันที
“พวกนี้คือสิบสองปีนักษัตรหรือ สิบสองปีนักษัตรน่ารักขนาดนี้ได้ด้วยหรือ!”
น่ารักพอ ๆ กับตุ๊กตาดินเผาเสี่ยวเป่าเลย
ใบหน้าประดับยิ้ม ในมือข้างหนึ่งมีตุ๊กตาเสี่ยวเป่าหัวโตสองตัว มืออีกข้างมีรูปปั้นสิบสองปีนักษัตร แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ
“อันนี้ก็สวย อันนี้ก็ดูดี…”
อันไหนก็งดงามละลานตาไปหมด เขาเกิดอยากครอบครองพวกมันทั้งหมด
“ท่านอาเจ็ด!”
“เสด็จอาเจ็ด!”
เมื่อเห็นท่าทางของเขา สองพี่น้องรีบวิ่งเข้าไปหยุดทันที หนานกงฉีอวิ๋นถึงขั้นลืมความกลัว เดินไปหยิบตุ๊กตาในมือผู้เป็นอาออกมาอย่างระมัดระวัง
หนานกงหลีตกใจหน้าถอดสี “นี่พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร!!!”
เสี่ยวเป่า “ท่านอาเจ็ดเอาไปเยอะขนาดนั้นไม่ได้นะ เหลือไว้ให้ท่านพ่อและพวกพี่ชายด้วยสิ!”
หนานกงฉีอวิ๋นพยักหน้าเห็นด้วย ใช่!
หนานกงหลี “ข้าจะเอาแค่ห้าตัว แค่ห้าตัวได้หรือไม่!”
“ไม่ได้!”
สองพี่น้องปฏิเสธพร้อมกัน ตุ๊กตาดินเผาพวกนี้ พวกเขาใช้เวลาทำอยู่ตั้งนานสองนาน
เสี่ยวเป่ายกมือเท้าเอวพร้อมกล่าวเสียงดุ “เสี่ยวเป่าจะฟ้องท่านพ่อ!”
หนานกงหลี “…”
จะฟ้องก็ฟ้องไปสิ!
แม้ในใจจะคิดเช่นนั้น แต่มือกลับรีบวางตุ๊กตาดินเผาที่เหลือลงที่เดิมทันที ทว่าก็ยังมองพวกมันด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
“ไม่ได้จริง ๆ หรือ”
สองพี่น้องยังคงส่ายหัวด้วยสีหน้าจริงจัง ไม่ได้ก็คือไม่ได้
“ก็ได้ เช่นนั้นข้าหยิบไปได้กี่ตัว”
เสี่ยวเป่ายกมือขึ้นหนึ่งนิ้ว
ส่วนหนานกงฉีอวิ๋นไม่ยกแม้แต่นิ้วเดียว!
หนานกงหลีพานพบกับความผิดหวัง “ข้า…”
อยากได้ทั้งหมด
เสี่ยวเป่าน่ารักออกปานนั้น นอกจากเขาจะไม่สามารถพาหลานสาวมาเลี้ยงดูเองได้แล้ว บัดนี้ยังต้องเลือกตุ๊กตาดินเผาที่เปรียบเสมือนตัวแทนของนางได้เพียงตัวเดียวอีก
แต่ละตัวน่ารัก ๆ ทั้งนั้น จะให้เขาตัดใจจากพวกมันได้อย่างไร!
“เสี่ยวเป่า~~~”
อ๋องผู้หนึ่งพยายามอ้อนวอนเด็กน้อย โดยการแสร้งทำตัวน่าสงสาร
เสี่ยวเป่าโอดครวญ “ไม่ได้จริง ๆ ท่านอาเจ็ด หากท่านเอาไปเยอะเพียงนั้น มันก็ไม่เหลือให้ท่านพ่อกับพวกท่านพี่แล้วสิ”
เสี่ยวเป่ามองตุ๊กตาดินเผาสุดแสนน่ารักในอิริยาบถต่าง ๆ วางเรียงกันเป็นแถว อย่าหาว่านางหลงตัวเองเลย แต่เป็นพี่สามที่ยืนกรานว่าจะนางเป็นต้นแบบ
พี่สามยังบอกอีกว่าหากเป็นนาง เขาปั้นถนัดมือ แต่หากปั้นผู้อื่น เขากลับทำได้ไม่ค่อยดี
ไม่ว่าผู้เป็นอาจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร ทั้งหลานชาย หลานสาวตัวน้อยก็ยังยืนยันว่าเขาหยิบตุ๊กตาดินเผาเสี่ยวเป่าหัวโตและรูปปั้นนักษัตรไปได้เพียงอย่างละตัวเท่านั้น สุดท้ายหนานกงหลีก็ต้องยอมแพ้ และตัดสินใจเลือกตุ๊กตาเสี่ยวเป่าหัวโตอุ้มจิ้งจอกน้อย
[1] เตียงเตา เป็นเตียงนอนสี่เหลี่ยมผืนผ้าของชาวจีน ก่อขึ้นด้วยอิฐ ด้านบนปูทับด้วยที่นอน ข้างล่างมีรูทะลุกับปล่องไฟ ในฤดูหนาวจะก่อไฟให้ไออุ่นไหลเข้าไปในช่อง