เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช - บทที่ 425 งานประมูล 2
บทที่ 425 งานประมูล 2
บทที่ 425 งานประมูล 2
พวกเสี่ยวเป่าขึ้นไปชั้นสี่โดยตรง ตอนมาถึงก็มีคนมากันคลาคล่ำแล้ว ในโถงใหญ่มีคนนั่งอยู่มากที่สุด
เสือสองตัวเดินตามมาข้างกายพวกเขา รวมทั้งแพนด้าที่กอดต้นไผ่จำนวนไม่น้อยไว้ในอ้อมแขน ไม่ว่าไปถึงที่ไหนล้วนตกเป็นเป้าสายตาของผู้คน
แพนด้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจนอ้วนท้วน ตัวอ้วนกลมขนสีขาวสะอาดใครเห็นเป็นต้องนึกเอ็นดู ยามยืนเต็มตัวยังสูงกว่าคนเสียอีก ลำพังขนาดตัวของมันก็ทำให้ไม่มีใครกล้ามาตอแย
แต่เมื่อเทียบกับขนาดตัวใหญ่โตของมัน เสียงร้องของมันกลับฟังดูน่ารักน่าชังยิ่ง
ทั้งหมดขึ้นไปชั้นสี่ท่ามกลางสายตาสาธารณชน จวบจนเงาหลังของพวกเขาลับไปแล้วในโถงใหญ่ถึงค่อยมีเสียงซุบซิบพูดคุยกันดังขึ้น
“นั่นคงเป็นเหล่าองค์ชายองค์หญิงของต้าเซี่ยสินะ ได้ยินมาว่าฮ่องเต้ต้าเซี่ยรักใคร่องค์หญิงยิ่งนัก ฟังว่าองค์ชายทั้งหมดรวมกันยังสู้ไม่ได้”
“ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่ามารดาที่ล่วงลับไปแล้วขององค์หญิงเป็นรักแท้ของฮ่องเต้ต้าเซี่ย ฮ่องเต้จึงรักลูกสาวมากเป็นพิเศษ”
“ทำไมข้าได้ยินมาว่าเป็นเพราะองค์หญิงคือดาวนำโชคที่ใครต่อใครยอมรับกันเล่า เพราะรอบตัวองค์หญิงปรากฏนิมิตหลายอย่างที่โหรหลวงทำนายว่าเป็นมหามงคลสำหรับต้าเซี่ย นางจึงได้รับความรักใคร่โปรดปรานจากฮ่องเต้ของต้าเซี่ยไม่ใช่หรือ”
“ที่พวกเจ้าพูดมาไม่ถูกสักอย่าง ความจริงแล้วเป็นเพราะนางเป็นองค์หญิงต่างหาก แม้ทุกคนจะชมชอบบุตรชาย แต่พวกเจ้าลองคิดดู เชื้อพระวงศ์ต้าเซี่ยมีท่านอ๋องอยู่เพียงสองคน ทายาทรุ่นหลังของราชนิกุลหนานกงของต้าเซี่ยยังมีองค์หญิงเพียงพระองค์เดียว นอกจากนั้นล้วนเป็นองค์ชาย ถ้าเป็นข้าที่มีแต่ลูกชาย สุดท้ายได้ลูกสาวมาคนหนึ่ง ข้าก็คงจะลำเอียงรักลูกสาวคนนี้มากกว่าคนอื่นเหมือนกัน”
คำอธิบายสุดท้ายนับว่ามีเหตุมีผลมากทีเดียว แต่เป็นเพราะชาวต้าเซี่ยถึงขั้นเคยเห็น ‘เทพเซียน’ มาแล้ว พวกเขาจึงเอนเอียงไปทางคำอธิบายที่ว่าแท้จริงแล้วองค์หญิงเป็นเทพธิดามาจุติและนำพามหามงคลมาให้แก่ต้าเซี่ยมากกว่า
นอกจากนี้ สำหรับคนที่สนใจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ยังเชื่อเรื่องที่ว่าฮ่องเต้รักมารดาบังเกิดเกล้าขององค์หญิงจึงพลอยรักบุตรสาวของพวกเขามากกว่า
ต้องยอมรับว่าทุกคนมักใช้ความคิดของตนเองไปปรุงแต่งข่าวลือ ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจรู้ความจริงอยู่ดี อย่างนั้นมิสู้เชื่อตนเองเสียยังจะดีกว่า
เสี่ยวเป่าที่เอนกายอยู่บนตั่งนอนอันอบอุ่นชิดขอบหน้าต่างชั้นสี่และได้ยินเสียงพูดคุยจากข้างนอก “…”
พวกท่านแต่ละคนช่างว่างกันเสียจริงนะ!
นางยังไม่เคยรู้เรื่องที่ท่านพ่อกับท่านแม่มีความรักสะท้านฟ้าสะเทือนดินต่อกันมาก่อน ตัวนางเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองเป็นเทพธิดามาจุติเพื่อบันดาลมหามงคลให้ต้าเซี่ย
“ความจริง ข้าว่าพวกเขาก็ไม่ได้พูดผิด” หนานกงฉีหลิงมองความครึกครื้นของชั้นล่างจากขอบหน้าต่างพลางโยนถั่วเข้าปาก
“เสี่ยวเป่าอาจเป็นเด็กน้อยนำโชคที่มาเพื่อบันดาลมหามงคลให้ต้าเซี่ยของพวกเราจริง ๆ ก็ได้ เจ้าดูสิ ตั้งแต่เจ้าเข้าวังมา เสด็จพ่อก็หายดี อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก เจ้ามักจะปลูกอะไรที่พวกข้าไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ก็ช่วยให้ชาวบ้านได้กินอิ่มท้อง ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ขาของพี่ใหญ่ก็เป็นเพราะเจ้า ท่านหมอเทวดาถึงรับปากช่วยรักษาให้ ยังมีชีวิตของพวกเราในตอนนี้ ทั้งเหล้าเอย หนังสือพิมพ์ ดินปูน แล้วก็เครื่องเคลือบพวกนั้น รวมถึงชานม…”
หนานกงฉีหลิงจุ๊ปาก “ไม่นับดูคงไม่รู้ พอได้ไล่เรียงออกมาแล้ว เสี่ยวเป่าเจ้าทำอะไรเพื่อต้าเซี่ยของพวกเรารวมถึงเรื่องท้องพระคลังมากเกินไปแล้ว!”
คนอื่น ๆ ใคร่ครวญในใจแล้วก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริง
เสี่ยวเป่ากลับวังมาได้ไม่ถึงสามปี แต่ชั่วเวลาสามปีนี้ต้าเซี่ยก็เกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเป่าไม่มากก็น้อย
“เมื่อก่อนไม่ได้คิดดี ๆ ตอนนี้มาคิดดูแล้วเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ!”
หนานกงฉีเฉินลูบคางมองเสี่ยวเป่าด้วยท่าทางครุ่นคิด “เจ้าคงไม่ใช่เทพธิดามาจุติอะไรแบบนั้นจริง ๆ หรอกใช่หรือไม่ ไม่พูดถึงเรื่องพวกนั้น ลำพังเสือกับหมี แล้วก็ตัวต่อพวกนั้นกับหมาป่าหลายตัวที่พวกเราเลี้ยงก็เชื่อฟังเจ้าอย่างมาก นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาจะทำได้หรอกนะ น้องรัก เจ้าบอกข้ามาตามตรงเถอะ เจ้าเป็นเทพธิดาที่มาจุติในโลกเพื่อเป็นดาวนำโชคของพวกข้าใช่หรือไม่”
เสี่ยวเป่า “…ข้าเคยบอกพวกท่านไปแล้วอย่างไรเล่าว่าเสี่ยวเป่าเป็นภูตน้อย”
คนทั้งหลายกะพริบตาปริบ ขณะกำลังจะถามอะไรก็ถูกเสียงจากชั้นล่างดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
“งานประมูลเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ณ บัดนี้”
หากพวกเขาต้องการจัดงานประมูลให้ใหญ่โตก็ไม่อาจนำเฉพาะสิ่งของของพวกตนมาประมูล
ความจริงเสี่ยวเป่าไม่ได้ตั้งใจจะจัดงานประมูลให้ใหญ่โต แต่นี่เป็นความคิดขององค์ชายแปดหนานกงฉีจวิน ต้องยอมรับว่าเขาใส่ใจโรงน้ำชาเทียนเป่ามากทีเดียว ตอนปรึกษากันว่าจะหาเงินอย่างไรก็ไม่สัปหงกเหมือนตอนเรียนหนังสือเลยสักนิด
ราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นพ่อค้า ดีดลูกคิดได้คล่องแคล่วว่องไว ทั้งยังมักจะมีความคิดที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครอยู่เสมอ
ในงานประมูลครั้งนี้ เสี่ยวเป่าก็นำสมบัติหายากจากในคลังส่วนตัวของนางออกมาใส่ไว้ในรายชื่อสิ่งของที่จะนำขึ้นประมูลด้วยเช่นกัน
รวมถึงคนอื่น ๆ พวกเขายังถึงขั้นประชาสัมพันธ์ในหนังสือพิมพ์เสียหลายวันก่อนจะถึงวันงานประมูล ว่าหากมีใครต้องการนำสมบัติล้ำค่าในบ้านออกมาประมูลก็สามารถนำมาร่วมด้วย โรงน้ำชาเทียนเป่าจะหักเงินประมูลเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะยกให้เจ้าของสมบัติที่นำมาประมูล
แต่ต้องให้ผู้ดูแลของโรงน้ำชาเทียนเป่าตรวจสอบยืนยันว่าเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ๆ เสียก่อนจึงจะสามารถนำเข้าสู่ขั้นตอนการประมูลได้
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกมาก็มีคนจำนวนมากนำสมบัติล้ำค่าของตนมาที่โรงน้ำชาเทียนเป่า
ด้วยเหตุนี้ รายการสิ่งของในงานประมูลครั้งนี้จึงมีจำนวนมาก คนที่มาร่วมงานจะได้รับรายการสิ่งของที่จะประมูล บนนั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาและคุณค่าของสมบัติชิ้นนั้น หากใครสนใจสมบัติชิ้นไหนจะได้เตรียมเงินเอาไว้ล่วงหน้า
วิธีการประมูลเช่นนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากทีเดียว เป็นเหตุให้ที่นั่งในโรงน้ำชาเทียนเป่ามีคนจับจองจนเต็ม บางคนถึงกับยอมยืนแต่ไม่ยอมออกไปจากงาน
“ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน วันนี้เป็นงานประมูลครั้งที่สองของโรงน้ำชาเทียนเป่า คาดว่าทุกท่านคงตั้งตารอคอยมานานแล้ว ผู้แซ่หลี่จึงขอไม่พูดอะไรมาก พวกเราเข้าสู่สาระสำคัญของวันนี้กันเลยดีกว่า
ทุกท่านโปรดดูที่รายละเอียดของประมูลชิ้นแรก คิดว่าทุกท่านคงเคยได้ยินเรื่องของแม่ทัพไช่อวิ๋นกงแม่ทัพอันดับหนึ่งของต้าหานมาแล้ว น่าเศร้าที่แม่ทัพลือนามผู้นี้สุดท้ายก็ต้องพลีชีพในสมรภูมิ แต่สำหรับแม่ทัพผู้หนึ่งแล้วนี่กลับเป็นจุดจบที่ดีที่สุด
ตระกูลไช่มีทายาทไม่มาก แต่ระหว่างเกิดความวุ่นวายทางการเมืองในต้าหาน เพื่อจะได้ไม่ถูกโยงเข้าไปในความขัดแย้งคราวนั้น คนตระกูลไช่จึงเดินทางออกจากมาตุภูมิ แต่ระหว่างกลับต้องประสบอุทกภัยและระเหเร่ร่อนมาถึงต้าเซี่ยพร้อมกับผู้ลี้ภัยคนอื่น ๆ
ทุกวันนี้พวกเขาตั้งรกรากอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในภูเขาแห่งหนึ่ง แต่โชคร้ายที่คนในบ้านป่วยหนัก ทายาทรุ่นหลังของไช่อวิ๋นกงจึงจำต้องนำอาวุธของบรรพบุรุษออกมาประมูล ดังนั้นสมบัติชิ้นแรกที่พวกเราจะประมูลกันในวันนี้ก็คือ กระบี่คู่กายของแม่ทัพไช่อวิ๋นกงซึ่งเคยสังหารศัตรูมาแล้วนับไม่ถ้วน
จากการสืบเสาะข้อมูลจากหลายแหล่งของโรงน้ำชาเทียนเป่า สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่ากระบี่อวิ๋นกงเล่มนี้เป็นของแท้ วัสดุที่ใช้ทำกระบี่เล่มนี้คือ…”