เมื่อผมโดนระบบครองร่าง - บทที่ 193 ทุกอย่างลิขิตไว้แล้วย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล
บทที่ 193 ทุกอย่างลิขิตไว้แล้วย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล
ระหว่างที่อัศวิน A สนทนากับจูหงอิง เธอนำทางเขาผ่านทางแยกคดเคี้ยวนับครั้งไม่ถ้วน กระทั่งมาถึงภายในถ้ำที่มีตะเกียงส่องสว่างนับสิบดวง
สถานที่แห่งนี้บรรยากาศน่ากลัว ไอปีศาจหนาแน่น บนพื้นถ้ำมีโถอัฐิลายครามหลายใบนับรวมกันได้ 13 ใบ
โถอัฐิสลักด้วยอักษรยันต์พิเศษ ซึ่งเชื่อมต่อกันเป็นลวดลายแปลกประหลาด
บนพื้นก็มีอักษรยันต์ที่ซับซ้อนเช่นเดียวกัน มันเขียนยาวไปจนถึงผนังหินทั้งสี่ด้านของถ้ำ เห็นได้ชัดว่าเป็นรูปแบบค่ายกลปิดผนึกที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งรูปแบบหนึ่ง
จูหงอิงหยุดและชี้ไปที่โถอัฐิลายคราม เอ่ยขึ้น “ที่นี่คือกลุ่มวิญญาณที่ดุร้ายที่สุดตลอดหลายปีมานี้ ทุกตนมีความแข็งแกร่งระดับ B ขึ้นไป พวกเขาทำความชั่วไว้มากมายและก่อความเดือดร้อนตามที่ต่างๆ ท่านพระโพธิสัตว์ต้องออกโรงเองถึงจะจับตัวได้
อัศวิน A พยักหน้า “เอาล่ะ เจ้าลองปล่อยออกมาสักตนให้ข้าดูเบื้องลึกของพวกเขา”
ฟางหนิงรู้ว่าทำไมระบบถึงพูดแบบนี้ เพราะว่าไม่สามารถมองเห็นจุดของวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้บนแผนที่ได้เลย ค่ายกลบนพื้นนั้นทรงพลังจริงๆ สามารถปิดกั้นการตรวจจับของแผนที่ระบบได้
อยู่ลืมว่าหุบเขาวิญญาณอยู่ในมณฑลหูหนาน ซึ่งตำแหน่งนี้สว่างบนแผนที่ตั้งนานแล้ว
พื้นที่เสินโจวมีทั้งหมด 99 บล็อก ตอนนี้สว่างไปแล้ว 78 บล็อก จังหวัดส่วนใหญ่ในเสินโจวก็แสดงชัดเจนบนแผนที่
จูหงอิงกวาดตามองแล้วถือจี้หยกสีเขียวไว้ในมือและร่ายคาถาอย่างไม่ลังเล เห็นเพียงแสงสีเขียวรางๆ ออกมาจากจี้หยกแล้วลอยไปยังโถอัฐิใบหนึ่งบนพื้น
เธอเพิ่งได้เห็นอานุภาพของท่านเทพเมื่อครู่ ฉีเหมยผู้ยโสโอหังมีพลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นคนแรกที่เธอเคยพบในชีวิต แม้แต่พระโพธิสัตว์เองก็ไม่แน่จะเอาชนะได้ แต่เมื่ออัศวินท่านนี้เรียกอาวุธวิเศษ ฉีเหมยก็ถูกบดขยี้จบชีวิต นับประสาอะไรกับที่แห่งนี้ที่มีค่ายกลสองชั้นรับประกัน ชั้นหนึ่งอยู่บนโถ และอีกชั้นก็คือทั่วทั้งถ้ำนี้เอง
เห็นเพียงว่าหลังจากแสงสีเขียวนั้นพุ่งเข้าใส่โถอัฐิ ไม่นานต่อมา ชายรูปร่างหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เขาผู้นี้มีพลังหยินสูงมาก ท่าทางดุร้ายและหยิ่งยโส มีพลังแกร่งกล้าไม่ธรรมดาเหมือนอย่างที่จูหงอิงพูดไม่มีผิด
เมื่อเขาเห็นจูหงอิง ความโลภและตัณหาฉายในแววตาของเขา เอ่ยขึ้น “ผู้พิทักษ์จูอีกแล้ว อยากให้ข้าเปลี่ยนความเชื่อ จริงๆ แล้วมันง่ายมาก เพียงแค่ผู้พิทักษ์นอน…”
“ชั่วช้า!! ไม่รู้จักกลับใจและยังกล้าพูดจาหยาบคาย!” อัศวิน A ตวาด สายฟ้ารูปร่างมังกรสีม่วงปรากฏบนฝ่ามือเข้าโจมตีโดยพลันผู้ชายคนนั้นพลันเบิกตากว้าง เขาเจ็บปวดจนไม่อาจพูดอะไรได้อีก ร่างแตกสลาย พลังหยินก็กระจัดกระจาย ถูกปิดบัญชีทันที
ฟางหนิงเห็นการแจ้งเตือนของระบบทันที (ระบบใช้สล็อตความโกรธไปหนึ่งสล็อตเพื่อใช้วิทยายุทธ์ประเภทมังกรคุณสมบัติสายฟ้า ‘อัสนีเทพสีม่วง’ โจมตีวิญญาณชั่วร้าย ‘ถูกัง’
ถูกังถูกการโจมตีที่มีคุณสมบัติหยาง ถูกพลังมังกรปราบ ระเบิดพลังโจมตี! ไม่สนใจการป้องกัน! การโจมตีบดขยี้!
ถูกังถูกสังหารในเสี้ยววินาที
ระบบได้รับค่าประสบการณ์ 650,000 คะแนน)
จูหงอิงมองอัศวิน A แววตาทั้งเคารพและยำเกรง และยังซาบซึ้งมากด้วย
ยอดฝีมือระดับ B ไม่อาจต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวของท่านเทพได้…
พระโพธิสัตว์ดีทุกอย่าง แต่มีเมตตาเกินไป พวกวิญญาณร้ายทำเรื่องเลวทรามมากมาย ฆ่าคนเป็นผักปลา รู้ได้เลยว่าเป็นคนแบบไหน
เมื่อพวกเขาพบว่าไม่ว่าจะทำชั่วอย่างไรก็แค่ถูกกักบริเวณเท่านั้น ไม่มีทางถูกประหาร และไม่มีแม้แต่การลงโทษที่รุนแรงเกินไป ย่อมอำมหิตสารพัด และมีคำพูดที่หยาบคายลามกอนาจาร ปกติอยากจะช่วยสวดมนต์ให้พวกเขาพ้นทุกข์และกลับเนื้อกลับตัว แทบจะเป็นการเสียเวลาเปล่า
ในประเด็นนี้ ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณผู้มีความเด็ดขาด ทำให้รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น
ในเวลานี้ โถอัฐิลายครามบนพื้น 12 ใบสั่นขึ้นมาพร้อมกันไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าพวกมันต่างรู้แล้วว่าครั้งนี้มีตัวละครที่โหดเหี้ยมมา…
ซึ่งไม่ใช่พระโพธิสัตว์ที่เอาแต่สวดมนต์และอุทิศตนเพื่อช่วยผี
ผู้ชายที่เพิ่งถูกปลิดชีพเมื่อครู่นั้น พวกเขารู้จักกันมานานและรู้พลังของอีกฝ่าย แม้จะเป็นคนลามกหยาบคาย แต่ก็เป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับ B แม้จะอยู่ในพื้นที่ต้องห้าม แต่ภายในถ้ำราชาผีแห่งนี้มีพลังหยินแน่นหนา อีกทั้งคนของสมาคมราชาผีไม่เคยเจตนาตัดทอนพลังของพวกเขาเลย เมื่อเทียบกับพลังในอดีต มันไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้น
ทว่าชายผู้นี้กลับถูกสังหารในกระบวนท่าเดียว เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้ถอนรากถอนโคน ทนไม่ได้ที่พวกเขาจะอาละวาด
จูหงอิงยิ้มเย้ยในใจ วิญญาณชั่วพวกนี้ทำบาปหนายังไม่รู้จักสำนึก ตอนนี้ถึงฆาตกันแล้ว จะดูว่าเมื่อพวกเขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำพลังมังกรแล้วจะอวดดีเหมือนเมื่อก่อนไหม…
ท่านผู้นี้ไม่มีนิสัยเมตตากรุณาเท่าพระโพธิสัตว์…
จากนั้นเธอจึงพูดขึ้นว่า “ท่านพระโพธิสัตว์สั่งว่าวันนี้จะย้ายพวกแกไปยังเรือนจำพลังมังกรที่ท่านเทพเป็นผู้ดูแล ก่อนหน้านี้ให้โอกาสพวกแกกลับใจหลายครั้ง แต่พวกแกไม่รู้จักรักษาโอกาส ต่อไปพวกแกก็ดูแลตัวเองล่ะ”
ขณะนี้โถอัฐิหลายใบสั่นกึกกักราวกับว่าพวกเขาต้องการขอความเมตตา
อัศวิน A พยักหน้าแล้วพูดว่า “ปล่อยออกมาพร้อมกันเถอะ”
จูหงอิงถือจี้หยก แสงสีเขียวหลายสายพุ่งใส่โถอัฐิ
ทว่าครั้งนี้ไม่มีผีตัวไหนโผล่ออกมาจากในโถอัฐิอีก
ฟางหนิงส่ายหัวเมื่อเห็นดังนั้น พวกเขาหดหัวระบบจะอับจนหนทางหรือไง เรื่องที่ท่านเทพเข้าไปจับปีศาจในบ้านนั้นไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งเท่านั้น…
เขาเห็นเพียงสายฟ้าสีม่วงอีกสายหนึ่งพุ่งออกมา จากนั้นก็ปรากฏการแจ้งเตือนของระบบ
(ระบบสังหารวิญญาณร้ายหลิว XX
ระบบได้รับค่าประสบการณ์ 400,000 คะแนน…)
ฟางหนิงจนใจ “คนนี้ต้องย้ายไปเรือนจำ ไม่ได้ให้แกประหารทันที… ทำตามขั้นตอนก่อนเถอะ”
ระบบ “โอ้ เคยชินไปแล้ว…”
(ระบบจับเซี่ย XX เข้าไปในคุกของระบบ
ระบบประหารเซี่ย XX
ระบบได้รับค่าประสบการณ์ 500,000 คะแนน)
หลังจากนั้นไม่นาน จูหงอิงก็รู้สึกว่าในโถอัฐิทั้งหมดว่างเปล่าแล้ว เธอรู้สึกโล่งใจ จากนั้นจึงพูดกับอัศวิน A “เชิญท่านตามข้าไปยังสถานที่อื่นๆ”
ระบบ “ไม่เสียแรงเปล่าที่ช่วยพวกเขา เพียงพริบตาก็ได้รับค่าประสบการณ์เจ็ดล้านคะแนนแล้ว เกือบเทียบเท่าผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำก่อนหน้านี้เลยทีเดียว ในแง่ความคุ้มค่า การจับปีศาจระดับอ่างน้ำเหล่านี้ คุ้มค่ากว่าการจับผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำมากทีเดียว”
ฟางหนิงพยักหน้า “เป็นธรรมดา ในเกมออนไลน์ส่วนใหญ่จะมีขีดจำกัดการจับปีศาจ ปีศาจต่ำกว่าตนเองกี่ระดับ ถ้าจับซ้ำๆ ก็จะไม่ได้รับค่าประสบการณ์หรือได้รับน้อยมาก เพราะหากค่าประสบการณ์ไม่ลดลง ผู้เล่นระดับสูงจับปีศาจระดับต่ำจะมีประสิทธิภาพมากกว่าและอัปเกรดได้เร็วขึ้น ในเมื่อท่านเทพไม่มีข้อจำกัดไร้ประโยชน์นี้ แน่นอนว่าการจับปีศาจระดับต่ำมีประสิทธิภาพมากกว่า”
ระบบ “พอดีเลย ต่อไปสมาคมราชาผีจะเป็นผู้ช่วยของเรารวบรวมภูตผีปีศาจ มหาเศรษฐีโฮสต์มีวิสัยทัศน์ทีเดียว การคบหากับพันธมิตรนี้ไม่เลวเลย”
หนึ่งคืนผ่านไป อัศวิน A เดินตามจูหงอิงเลี้ยวไปมาและกำจัดวิญญาณชั่วร้ายหมดเกลี้ยง เมื่อจับกุมผู้ทำบาปตัวเอ้จะถูกประหารแลกค่าประสบการณ์ ส่วนผู้ทำบาปเบาหน่อยจะถูกจับเข้าคุก
ในเรือนจำพลังมังกรเพิ่มจาก 40 คนเป็น 200 คนในพริบตา คุกชั้นเดียวเปลืองพื้นที่เกินไปและตอนนี้กลายเป็นอาคารคุกสี่ชั้นไปแล้ว
พื้นที่เรือนจำกินพื้นที่สามในสี่ของพื้นที่ระบบ ยาว 150 เมตร กว้าง 75 เมตร สูง 15 เมตร และมีพื้นที่ 11,250 ตารางเมตร
ห้องขังเดี่ยวมีพื้นที่ 10 ตารางเมตร อาคารคุกสี่ชั้นมีห้องขังเดี่ยวชั้นละ 100 ห้อง ซึ่งใช้พื้นที่เพียง 1,000 ตารางเมตร แต่ละชั้นสูงสามเมตร รวมแผ่นกระดานทั้งอาคารตึกสูง 13 เมตร นักโทษ 200 คนใช้พื้นที่เพียงสองชั้นเท่านั้น ในคุกแห่งนี้ไม่รวมอาคารเสริมเหล่านั้นแล้ว สามารถสร้างอาคารคุกสี่ชั้นแบบนี้ได้อีกอย่างน้อยสิบหลัง สามารถจุคนได้สูงสุดถึง 4,000 คน อีกนานกว่าจะเต็ม…
ฟางหนิงไม่กังวลว่าคนจะเยอะ เพราะมีแอนเดอร์สันอยู่ ปล่อยให้เขาเป็นคนดูแลก็พอ อย่างมากก็เลื่อนตำแหน่งเป็นพัศดีอีกสักสองสามคน
นอกจากนี้การควบคุมจิตวิญญาณก็มีข้อดีคือ ใช้เพียงยาเพิ่มพลังคุณภาพต่ำก็เพียงพอ ไม่มีขยะในชีวิตประจำวันและไม่ต้องปล่อยนักโทษไปออกกำลังกาย
ระบบกินจนอิ่มอีกครั้ง ฟางหนิงลองเก็บสถิติอย่างง่าย กำจัดปีศาจไปกว่า 3,000 ตัว บางตัวแข็งแกร่งพอที่จะให้ค่าประสบการณ์เป็นแสน บางตัวค่อนข้างอ่อนแอให้ค่าประสบการณ์เพียงไม่กี่พัน เมื่อลองคำนวณแล้วได้รับเข้ากระเป๋าครั้งเดียว 200 ล้าน
ฟางหนิงคิดไม่ถึงเลยว่าผลประโยชน์ที่แท้จริงมักจะอยู่ในสถานที่ไม่สะดุดตา เพียงช่วยเหลือสมาคมราชาผี ไม่คิดว่าค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะมากกว่าในดินแดนมรดกสักอีก
เพียงแต่สมาคมราชาผีสะสมพวกมันมานับสิบปี ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าผีดุไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ
นี่คือเบื้องหลังของพลังอันยิ่งใหญ่ที่สั่งสมมาหลายปี ไม่ใช่สิ่งที่จะสำเร็จได้โดยง่ายด้วยตนเอง ตนเองกับระบบต้องขยันมากกว่านี้
หลังจากกำจัดผีร้ายในหุบเขาวิญญาณ อัศวิน A ก็กลับมา ผู้อาวุโสกุ่ยต้ามอบของขวัญชิ้นเล็กให้อีก ประกอบด้วยเงินสด 100 ล้าน เครื่องยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติหยินต่างๆ สามกล่อง และ ‘โทเค็นราชาผี’ อีกหนึ่งเหรียญ เหรียญโทเค็นนี้สามารถติดต่อสมาชิกส่วนต่างๆ ในเสินโจวของพวกเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ
เมื่อเทียบกับสำนักงานสัจธรรมผู้ร่ำรวยและมีอำนาจ ถือเป็น ‘ของขวัญชิ้นเล็ก’ จริงๆ แต่ระบบที่กินอิ่มแล้วก็อำลาด้วยความพอใจอย่างยิ่ง
…
ณ ห้องโถงอันกว้างขวางในส่วนลึกของถ้ำราชาผี ประตูทั้งสี่ปิดอยู่ มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างใน ชายหนุ่มคนนี้มีหน้าตาธรรมดา แต่ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความเมตตาอันศักดิ์สิทธิ์
ข้างกายมีแมลงตัวอ้วนสีขาวตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาดเทียบเท่าช้าง
ชายหนุ่มคนนี้คือพระโพธิสัตว์ปีศาจนั่นเอง
ในขณะนี้ เขากำลังหลับตาแน่น ราวกับกำลังถ่ายทอดพลังยุทธ์ ลมปราณสีขาวพุ่งออกมาจากตัวเขาไหลเข้าสู่ร่างของเจ้าแมลงนั่น หลังจากนั้นไม่นาน มันก็พุ่งออกมาจากร่างของแมลงและกลับไปยังร่างของเขา
ไม่นาน แมลงตัวนั้นพูดขึ้นว่า “จำได้ว่าท่านพระโพธิสัตว์เคยพูดกับข้าน้อย วิญญาณร้ายเหล่านั้นแข็งแกร่งสูงและมีประโยชน์อย่างมาก หลังจากจุดประกายพวกเขาในอนาคต จะกลับชาติมาเกิดเป็นลูกหลานแมลงที่ไร้จิตวิญญาณเหล่านั้นของข้า ให้ข้าเป็นผู้สร้างโลหิตต้องห้าม ก็จะสามารถควบคุมพวกมันได้ วันหลังทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์แมลงของจวนผี เพื่อใช้ดึงดูดพวกผีเกิดใหม่ทุกทิศทาง แต่ตอนนี้ท่านกลับให้มังกรแห่งจิตวิญญาณเป็นผู้จัดการวิญญาณร้ายเหล่านั้น เขาจงเกลียดจงชังสิ่งชั่วร้ายราวกับศัตรู ป่านนี้คงตายไปเกินครึ่งแล้วล่ะ ข้าน้อยไม่เข้าใจจริงๆ…”
พระโพธิสัตว์ปีศาจไม่ได้ลืมตา แต่กล่าวว่า “นางพญาแมลง สิบกว่าปีมานี้ ข้าตระหนักรู้แล้วว่ามนุษย์ปลิ้นปล้อนหลอกลวง วิญญาณร้ายอยู่ยากจริงๆ จึงเลิกคาดหวังไปนานแล้ว วันหน้าเป็นการดีกว่าที่จะให้วิญญาณที่มีความคิดดีกลับชาติมาเกิดเป็นลูกหลานแมลงของเจ้า และเลือกที่มีคุณสมบัติสูงมาเป็นผู้พิทักษ์แมลง ข้าเห็นว่ารากฐานในการตรัสรู้ของท่านเทพก็คือการประหารชีวิตแทนสวรรค์ ปล่อยให้เขาจัดการวิญญาณร้ายเหล่านั้นเป็นไปตามอาณัติแห่งสวรรค์ เชื่อว่าการบำเพ็ญตบะของเขาจำต้องก้าวหน้าไปอีกขั้นในเร็วๆ นี้ ประการแรกเป็นการตอบแทนที่เขามาช่วย ประการที่สองเพื่อส่งเสริมแนวทางที่ถูกที่ควร”
พญาแมลงก้มศีรษะใหญ่โตลงเล็กน้อย และกล่าวด้วยความเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ “พระโพธิสัตว์มีเมตตากรุณา ข้าน้อยพูดโดยไม่ได้ไตร่ตรอง”
พระโพธิสัตว์ปีศาจ “เอาล่ะ เจ้าเร่งฝึกฝน อีกครึ่งปี วิชาการกลับชาติมาเกิดของวิญญาณแมลงของเราก็จะสำเร็จครั้งใหญ่ ถึงเวลานั้นก็จะสามารถให้กำเนิดผีใหม่แก่โลก และมีความหวังที่จะกลับไปยังโลกมนุษย์อีกครั้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะให้พวกเขากลับชาติมาเกิด การล้างความทรงจำก็ไม่ต่างอะไรจากการประหารชีวิต การครอบครองร่างกายของทารกในครรภ์ยิ่งเป็นบาปใหญ่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนรูปร่างและกลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์
วิธีที่ข้าอนุมานมาได้นี้ สอดคล้องกับวิถีเกิดใหม่แห่งสวรรค์ที่นี่ แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องมากมาย แต่ถ้ามีการปรับปรุงให้ดีขึ้นในอนาคต ต้องเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ ถึงเวลานั้น เจ้าก็จะเป็นเทพประจำตระกูลของตระกูลวิญญาณแมลง ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าอนาคตของบรรพบุรุษตระกูลไป๋
นางพญาแมลงรีบพูดขึ้นว่า “ขอบคุณในความเมตตาของท่านพระโพธิสัตว์ ข้าน้อยจะพยายามเต็มที่ช่วยพระโพธิสัตว์ให้สำเร็จในวิชานี้”
พระโพธิสัตว์ปีศาจยิ้มบางพลางเอ่ยขึ้น “ฮ่าๆ อดีตมีตำนานจู้อิงไถกับเหลียงซานป๋อกลายเป็นผีเสื้อ ภายหลังมีภูตผีกลายเป็นวิญญาณแมลง ทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้วย่อมเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล แต่น่าเสียดาย ถ้าได้รับดินแดนลับอีกแห่งเป็นฐานของตระกูลวิญญาณแมลง ถือเป็นความโชคดีระยะยาว และไม่มีเรื่องน่าเสียดายอีก”
นางพญาแมลง “ท่านพระโพธิสัตว์สร้างหนทางนี้เพื่อโลก สวรรค์จะต้องเมตตาบรรลุความปรารถนาได้แน่นอน”
พระโพธิสัตว์ปีศาจยิ้มอีกครั้ง จากนั้นทั้งสองก็นิ่งเงียบและร่วมใจกันถ่ายทอดพลังยุทธ์
……………………………………………………..