เล่ห์รักกลกาล [ส่วนที่ 2 ภาคครองใต้หล้า] - ตอนที่ 142 ช่วยข้าเลียบเคียงถามหน่อย / ตอนที่ 143 ฆ่าคนหลังดื่ม
- Home
- เล่ห์รักกลกาล [ส่วนที่ 2 ภาคครองใต้หล้า]
- ตอนที่ 142 ช่วยข้าเลียบเคียงถามหน่อย / ตอนที่ 143 ฆ่าคนหลังดื่ม
ตอนที่ 142 ช่วยข้าเลียบเคียงถามหน่อย
ดังนั้นที่บังเอิญพบกันบนถนน ก็นับว่าสวรรค์เห็นพวกนางสมควรอยู่ด้วยกันหรือ
เมื่อคิดเช่นนี้เรื่องข้อเสนอของเยี่ยเม่ย นางแทบไม่ต้องลังเลอีก ตัดสินใจยินยอมอย่างแน่นอน ตอนนี้ห่างจากวันที่สิบเป็นเวลาสามวัน นางทนไม่ไหวแล้ว รีบวิ่งไปหน้าหีบผ้า เลือกชุดที่จะใส่ในวันที่สิบห้าออกมา
นางค้นอยู่นานกลับรู้สึกว่าไม่มีชุดไหนเหมาะเลย ไม่อาจแสดงความงามของนางออกมาได้ นางขบริมฝีปากเรียก “ใครก็ได้ ใครก็ได้!”
เมื่อนางเรียก ไม่ช้าก็มีนางกำนัลเข้ามา “องค์หญิง เป็นอะไรหรือเจ้าคะ”
องค์หญิงอันหยางสั่งว่า “สั่งการลงไป ข้าต้องการชุดใหม่อีกสองสามชุด!”
นางกำนัลอึ้งไปเล็กน้อย ถามว่า “แต่องค์หญิง เมื่อเดือนที่แล้วท่านไม่ใช่เพิ่งตัดชุดเพิ่มมาหรือเจ้าคะ”
องค์หญิงอันหยางปรายตามอง “เจ้าก็พูดเองนี่ นั่นมันเรื่องของเดือนที่แล้ว!”
นางกำนัลมุมปากกระตุก พยักหน้า “เจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
องค์หญิงเป็นอะไรไปแล้ว เมื่อก่อนสองเดือนเพิ่มชุดใหม่หนึ่งชุด องค์หญิงยังเห็นว่าฟุ่มเฟือยเกินไป ไม่จำเป็น นี่เพิ่งจะเดือนเดียว…แปลกเหลือเกิน อย่างกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
……
ยามไป๋หลี่ซือซิวได้รับข่าวจากเยี่ยเม่ย กลับไม่แปลกใจเลย ความจริงตอนเยี่ยเม่ยเล่าเรื่องปีนั้นของเป่ยเฉินอี้ให้เขาฟัง เขาก็สงสัยเรื่องการตายของน้องชายนางอยู่แล้ว
เพียงแค่ไม่ได้เอ่ยถึงเท่านั้น กลัวว่าจะไปกระทบเรื่องเจ็บปวดของเยี่ยเม่ย แต่เขาก็ไปสืบเอง เขาจึงตอบว่า “เจ้ากลับไปบอกนาง คนที่ได้รับคำสั่งให้จัดการเรื่องของราชสำนักจงเจิ้งในภายหลังก็คือเสินเซ่อเทียน แต่ว่าคำสั่งนี้ใช่คำสั่งของเสินเซ่อเทียนหรือไม่ก็ไม่แน่ชัด เรื่องนี้มีเลศนัยมาก เพราะว่าคนที่เกี่ยวข้องต่างก็ถูกกำจัดหมดแล้ว ดังนั้นคนที่รู้เรื่องมีไม่มาก หากยังสืบลึกลงไป อาจถูกระแวงสงสัยได้ง่าย!”
ซินเยว่เยี่ยนฟังแล้วก็ไม่ถามมาก กลับไปรายงานตามนี้
……
รอคำตอบมาถึงหูเยี่ยเม่ย
เยี่ยเม่ยก็มีสีหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก นางรู้ว่าเมื่อเสินเซ่อเทียนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ หากสืบลึกลงไปว่าคนลงมือคือใคร ถามออกไปต้องดึงดูดความระแวงของเสินเซ่อเทียนแน่ ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเก่าของราชสำนักจงเจิ้ง
หากถามหัวหน้าที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ไม่แน่ว่าพวกเขาจะรู้ก็เรื่องหนึ่ง ต่อให้รู้แล้วพอไปถาม ไม่แน่พวกเขาอาจไปรายงานเสินเซ่อเทียน เพราะว่าอย่างไรเรื่องในปีนั้นเสินเซ่อเทียนก็เป็นผู้รับผิดชอบ
ดังนั้นปัญหานี้…
ขณะคิด
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นเขา เยี่ยเม่ยก็ประกายตาวาวโรจน์ขึ้น ถามว่า “จัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วหรือ”
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพยักหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนท่าทางสง่างาม “ย่อมเรียบร้อยแล้ว รอเสด็จพี่ใหญ่โดดลงหลุมพรางนี้ แต่ว่าดูจากแววตาร้อนแรงของเจ้า เหมือนเห็นข้าแล้วดีใจมาก ดูท่าคงไม่ใช่เพราะเรื่องนี้กระมัง”
เยี่ยเม่ยพยักหน้า ชายคนนี้เข้าใจนางเหลือเกิน แค่เรื่องของเป่ยเฉินเสียง คู่ควรให้นางตาวาวที่ไหนกัน แต่เมื่อเห็นเป่ยเฉินเสียเยี่ยนแล้วพบว่าเขาสามารถช่วยเหลือเรื่องสำคัญได้ นางถึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น “ท่านมีความสัมพันธ์ไม่เลวกับเสินเซ่อเทียนไม่ใช่หรือ มีวิธีการเลียบเคียงถามอะไรเขาหน่อยหรือไม่ว่า ปีนั้น…ใครเป็นคนลงมือฆ่าน้องชายข้า”
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนฟังแล้วก็ตะลึงเล็กน้อย ก่อนรีบกลับสู่ปกติโดยพลัน
นั่งลงข้างกายเยี่ยเม่ย เอ่ยว่า “ไฉนจู่ๆ ถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้มีปัญหาไปได้”
เยี่ยเม่ยรีบเล่าเรื่องที่ฮ่องเต้สมควรคำนึงถึงเป่ยเฉินอี้ ไม่ลงมือฆ่าคนง่ายๆ สุดท้ายก็เอ่ยต่อว่า “ไป๋หลี่ซือซิวบอกว่า เรื่องปีนั้นเสินเซ่อเทียนเป็นคนรับผิดชอบ ดังนั้นเริ่มลงมือจากเขา ถึงจะเชื่อถือได้”
ตอนที่ 143 ฆ่าคนหลังดื่ม
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพยักหน้า ตอบเสียงนุ่มว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ถ้ามีเวลาข้าจะลองดู!”
เยี่ยเม่ยพยักหน้า “เช่นนั้นเรื่องนี้ต้องรบกวนท่านแล้ว!”
เพียงแต่เมื่อเอ่ยถึงตอนนี้ เยี่ยเม่ยที่หลับตาอยู่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา
ตัวนางเคยพูดไว้ว่าต้องการชีวิตของราชวงศ์เป่ยเฉินทุกคน เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาเป่ยเฉินหลิวอวี่ ก็ต้องฆ่าด้วยหรือไม่ ส่วนเป่ยเฉินเสียเยี่ยน…
……
หลายวันต่อมา
ในเมืองหลวงเกิดเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง ช่วงเวลาที่ฝ่าบาททรงจัดเตรียมงานสมรสขององค์ชายใหญ่ องค์ชายใหญ่ดื่มจนเมาถึงขั้นพลั้งมือฆ่าคน ผู้ตายยังเป็นแม่ทัพในกองกำลังรักษาเมืองที่ยามปกติจงรักภักดีต่อเขายิ่ง
ทั่วทั้งเมืองหลวงแตกตื่นขึ้นมา!
คนทั้งหมดต่างตกตะลึง
ฮ่องเต้ทรงพิโรธจนแทบทนไม่ไหว จับองค์ชายใหญ่ส่งเข้าคุกในทันที คนฝ่ายองค์ชายใหญ่ทั้งหมดพากันแตกตื่นเป็นเสมือนมดบนกระทะร้อน หวาดกลัวว่าองค์ชายใหญ่จะสิ้นแล้ว…
หากองค์ชายใหญ่ล้มแล้ว พวกเขาทั้งหมดไม่เท่ากับพลอยจบเห่ไปด้วยหรือ ชั่วขณะนี้ทุกคนเองก็รู้สึกรันทดสลดใจ ลองคิดดู แม่ทัพหวังที่จงรักภักดีต่อองค์ชายใหญ่มาตลอด ถูกฆ่าอย่างง่ายดายหลังจากองค์ชายใหญ่เมาสุรา พวกเขาทั้งหลายภักดีต่อองค์ชายใหญ่…ความปลอดภัยในชีวิตยังรับประกันได้อยู่อีกหรือไม่
พวกเขาลนลานเป็นอย่างมาก! ชั่วขณะนี้ไม่กล้าภักดีต่อองค์ชายใหญ่ง่ายๆ อีกแล้ว การภักดีต่อองค์ชายใหญ่ถือเป็นอันตรายต่อชีวิตนักเชียว!
ซือถูจ้าวไปที่คุกหลวงด้วยความกระวนกระวายร้อนรน เห็นเป่ยเฉินเสียงด้านในก็รู้สึกไม่อยากเชื่อ เอ่ยปากว่า “องค์ชายใหญ่ ที่แท้เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่”
เป่ยเฉินเสียงก็อึ้งไปหมด เขาเอ่ยว่า “ข้าก็ไม่แน่ใจ ตอนนั้นข้ากับแม่ทัพหลายคนนัดกันไปดื่มเหล้า ผลคือไม่รู้เพราะอะไร หลังจากดื่มไปหลายแก้วก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ รอจนข้าฟื้นขึ้นมา ก็ถูกจับไว้ที่นี่บอกว่าข้าสังหารคนแล้ว!”
นี่…
ตามคำพูดของเป่ยเฉินเสียง เรื่องนี้จะถูกตัดสินอย่างง่ายๆ ว่า หลังจากเป่ยเฉินเสียงเมาสุราก็สูญเสียการควบคุมตัวเอง ดังนั้นจึงกระทำการอย่างอุกอาจ
แต่ระยะหลังเป่ยเฉินเสียเยี่ยนกับเยี่ยเม่ยมีการแย่งชิงอำนาจอยู่เรื่อยๆ ซือถูจ้าวอดคิดไม่ได้ว่า เรื่องนี้ยังมีปัญหาอื่นซ่อนอยู่หรือไม่!
ดังนั้นเขาเอ่ยปากว่า “เตี้ยนเซี่ย ท่านลองคิดให้ละเอียด ตอนนั้นมีจุดน่าสงสัยหรือไม่ อีกอย่างในสุรามีปัญหาหรือเปล่า”
ถ้าเป่ยเฉินเสียงมีนิสัยชอบสังหารคนหลังดื่มสุรา เช่นนั้นมาถึงตอนนี้ก็คงไม่รู้ว่าฆ่าคนไปมากน้อยเท่าไรแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่เกิดขึ้นครั้งนี้ครั้งเดียว
เป่ยเฉินเสียงครุ่นคิด สุดท้ายก็ส่ายหน้า เอ่ยว่า “ข้าคิดว่าในสุราน่าจะไม่มีปัญหา เพื่อกันไม่ให้คนล้วงความลับตอนดื่มสุรา หารืองาน ดังนั้นข้าจึงเลือกไปโรงเตี๊ยมของข้ามาตลอด หรือว่าคนของตัวเองยังจะทำร้ายกันด้วย”
เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ ซือถูจ้าวก็สงบนิ่ง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
แต่ว่าเสี้ยววินาทีถัดมาเป่ยเฉินเสียงคล้ายกับฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เขาเอ่ยปากว่า “จริงสิ! นักร้องหญิงคนนั้น!”
เขาเอ่ยขึ้นมา สีหน้าก็ค่อยๆ สงบนิ่งลง เสียงเย็นเยียบ “ข้าคิดออกแล้ว หลังจากนักร้องหญิงคนนั้นเข้ามา ข้าก็รู้สึกว่ามึนขึ้นทุกที แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเพราะดื่มไปมากหรือเปล่า ดังนั้นข้าถึงไม่คิดมาก จะเป็นเพราะนักร้องหญิงนางนั้นมีปัญหาหรือเปล่า”
เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ ซือถูจ้าวรีบถาม “นักร้องหญิงนางนั้นมาจากไหน แล้วตอนนี้ยังอยู่ในโรงเตี๊ยมหรือไม่”