เล่ห์รักกลกาล [ส่วนที่ 2 ภาคครองใต้หล้า] - ตอนที่ 33 พี่น้องจอมปลอม
เซียวเซ่อหยางเพิ่งมั่นใจว่าตัวเองชอบซินเยว่เยี่ยน
โอวหยางเทาลุกขึ้นโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมใดๆ “ข้าไม่สนใจ เจ้าเป็นฝ่ายไปถอนหมั้นเอง หาภรรยาไม่ได้ก็สมควร ข้าไปล่ะ!”
โอวหยางเทาเอ่ยจบก็เผ่นออกไป
เพราะว่าเขารู้ดี หากวิ่งหนีช้าถูกเซียวเซ่อหยางจับได้ คงต้องโดนอัดยกหนึ่ง ที่ตัวเขาทำเช่นนี้ก็ออกจะไร้คุณธรรมไปหน่อยจริงๆ
แต่ว่า
พอคิดถึงเป่ยเฉินเสียเยี่ยนและเป่ยเฉินอี้ อาหลานแย่งสตรีคนเดียวกัน เสินเซ่อเทียนกับเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ศิษย์อาจารย์ทะเลาะกันเพราะสตรีคนเดียว
อย่างนั้นทำไมเขาจะแย่งสตรีกับพี่น้องตัวเองไม่ได้ อีกทั้งสตรีนางนี้ยังเป็นคนที่พี่น้องที่สมองบวมของเขาบอกว่าไม่ต้องการด้วยตัวเอง เช่นนั้นยังจะโทษใครได้อีก
อย่างไรก็โทษเขาไม่ได้!
“เจ้า!” เซียวเซ่อหยางโกรธจนหน้าเขียวปั๊ด ลุกขึ้นมองโอวหยางเทาที่วิ่งออกไปด้วยความดีใจ ห้วงสมองพลันเห็นภาพยามบอกถอนหมั้นในสวนดอกไม้ ซินเยว่เยี่ยนวิ่งจากไปด้วยอามรมณ์เบิกบาน
ในชั่วขณะนั้น
เซียวเซ่อหยางคิดอยากทำหุ่นตุ๊กตา เอาดวงเกิดของเขาสองคนติดลงไป ใช้วิชาอาคมควบคุม ทำให้พวกเขาขัดแย้งกัน!
……
ต่อให้ฝันไปเขายังคิดไม่ถึงว่า โอวหยางเทาที่ยามปกติคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แม้แต่ชีวิตยังมอบแทนกันได้ จะมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้หลังจากเขาเล่าเรื่องให้อีกฝ่ายฟัง!
พี่น้องจอมปลอม!
“เพล้ง!”
เซียวเซ่อหยางไม่ทันระวังบีบถ้วยน้ำชาแตกคามือ
……
จวนท่านหญิง
ไฉ่ซังมองมู่หรงเหยาฉือด้วยความกังวล ถามว่า “ท่านหญิง เรื่องที่พวกเราทำลงไปเมื่อคืน ตอนนี้ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง บ่าวกังวลว่า…”
“เจ้ากังวลอันใด หรือเจ้ายังกังวลว่า นางสารเลวเยี่ยเม่ยจะได้ยินคำพูดพวกนี้รับไม่ไหว เจ็บปวดอย่างนั้นหรือ” มู่หรงเหยาฉือหันมองสาวใช้ด้วยสีหน้าดุร้าย
“ไม่ไม่ไม่! ท่านคิดมากไปแล้ว บ่าวกังวลว่านางจะทำอะไรเท่านั้น!” ไฉ่ซังเห็นสีหน้าเช่นนั้นของมู่หรงเหยาฉือเกิดความหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่นางก็ยังกล่าวด้วยความอาจหาญว่า “บ่าวกังวลว่า เมื่อองค์ชายสี่รู้ข่าวลือภายนอก จะไม่พอใจ จากนั้นจะทำร้ายท่านหญิงได้!”
นี่คือสิ่งที่ไฉ่ซังกังวลใจจริงๆ
นางไม่อยากถูกองค์ชายสี่สังหารไปพร้อมกับท่านหญิงเลยสักนิด ใครๆ ต่างก็รู้จักนิสัยขององค์ชายสี่ดี นางกลัวตาย และกลัวอยู่ไม่สู้ตายมากกว่า
นางเอ่ยเช่นนี้
อันที่จริงมู่หรงเหยาฉือก็กังวล องค์ชายสี่ไม่ไว้หน้านางเลยสักนิด อีกทั้งข่าวลือนี้ไม่ดีต่อชื่อเสียงขององค์ชายสี่เป็นอย่างยิ่ง!
แต่เมื่อคิดถึงจุดนี้ มู่หรงเหยาฉือส่ายหน้าไป เอ่ยปากว่า “ไม่ต้องกังวล องค์ชายสี่เป็นคนอย่างไร ข้ายังไม่แจ่มแจ้งหรืออย่างไร องค์ชายสี่ไม่เคยใส่ใจชื่อเสียงเลยสักน้อย ไม่ว่าคนข้างนอกจะวิจารณ์เขาเล่นสนุกจนพอใจแล้วทอดทิ้ง เขาก็ไม่เคยเอาไปใส่ใจ!”
ไฉ่ซังครุ่นคิด เอ่ยตอบว่า “ก็เหมือนจะใช่ ครั้งก่อนที่ชายแดน ยามที่ข่าวลือถูกกระพือไปทั่ว องค์ชายสี่ยังคร้านจะใส่ใจ!”
ในเวลานี้ ด้านนอกมีคนเข้ามารายงาน “ท่านหญิง ท่านหญิงแห่งจวนเซี่ยโหวเย่มาขอพบ!”
“เชิญนางเข้ามา!” มู่หรงเหยาฉือรีบเอ่ยออกไป
ไม่ช้าเซี่ยชูมั่วก็นำสาวใช้ประจำกายเดินเข้ามา หลังจากผ่านประตูมาได้นางก็เอ่ยปากว่า “เหยาฉือ ดูท่าเจ้าจะทุ่มเทความคิดเรื่ององค์ชายสี่มากเหลือเกินแล้ว!”
มู่หรงเหยาฉือสนิทสนมกับเซี่ยซูมั่วมาตลอด ยามนี้ย่อมไม่คิดว่าอีกฝ่ายมาเพื่อแดกดันตัวเอง
มู่หรงเหยาฉือกล่าว “พี่สาวเซี่ยมาหาข้าด้วยเรื่องอันใดหรือ”
“ก็แค่มาช่วยเจ้าออกความคิดเท่านั้นเอง!” เซี่ยชูมั่วนั่งลงตรงข้ามมู่หรงเหยาฉือ
มู่หรงเหยาฉือมองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ ถามว่า “พี่สาวหมายถึง…”
“ที่เจ้าลำบากลำบนอยู่ทุกวันนี้จะได้ผลดีเท่าไรเชียว องค์ชายสี่กับเยี่ยเม่ยเห็นเจ้าเป็นเรื่องอันใด พวกเขาไม่สนใจเลยสักนิด แม้แต่สายตายังไม่มองเจ้าเลย!” เซี่ยชูมั่วเข้าประเด็นทันที
มู่หรงเหยาฉือขมวดคิ้วมองเซี่ยชูมั่ว อึ้งไปเล็กน้อย “ความหมายของพี่สาวคือ?”
เซี่ยชูมั่วยื่นมือออกมาจับมือมู่หรงเหยาฉือไว้ “น้องสาว เจ้าฉลาดเฉลียวมาตลอด เป็นสาเหตุที่พี่ชอบคบหากับเจ้า แต่ว่าเรื่องนี้เจ้าเข้าใจเรื่องราวน้อยเกินไปแล้ว เรื่องระหว่างชายหญิงเจ้าไม่เข้าใจเอาเสียเลย!”
“อ้อ?” มู่หรงเหยาฉือมองเซี่ยชูมั่วด้วยท่าทางยินยอมฟังความแนะนำ
เซี่ยชูมั่วอธิบาย “ท่านพ่อของข้ามีอนุมากมาย คนที่ได้รับความโปรดปรานจากเขาจริงๆ คือใครกัน เจ้าคิดว่าเป็นคนที่งดงามที่สุด คนใหม่ หรือคนที่อ่อนโยนเอาใจใส่ แต่ล้วนไม่ใช่ทั้งนั้น กลับเป็นคนที่ให้กำเนิดซื่อจื่อให้ท่านพ่อต่างหาก !”
ถึงมู่หรงเหยาฉือจะฉลาด แต่ก็ด้อยประสบการณ์ด้านการแย่งชิงระหว่างสตรีในเรือน
ในจุดนี้ยังต้องให้ตนชี้แนะ
มู่หรงเหยาฉือพลันตะลึงมองเซี่ยชูมั่วอย่างไม่เชื่อ ถามว่า “ความหมายของพี่สาวคือ…”
“หาวิธีตั้งครรภ์ลูกขององค์ชายสี่เสีย ไม่เพียงสามารถโจมตีเยี่ยเม่ยได้ ทั้งยังได้ใจขององค์ชายสี่ด้วย นี่ถึงเป็นแผนแก้ปัญหาจากต้นเหตุจริงๆ! เจ้าเข้าใจหรือยัง แผนการนี้ดีกว่าสิ่งที่เจ้าลำบากลำบนทำมากมายนัก!” เซี่ยชูมั่วเอ่ยปากชี้แนะ
มู่หรงเหยาฉือกลับส่ายหน้า “คำพูดของพี่สาว ไฉนข้าจะไม่เคยคิด แต่ว่าองค์ชายสี่ยากเข้าหาจริงๆ เขา…”
เซี่ยชูมั่วส่ายหน้า ยิ้มเอ่ยว่า “เพราะน้องสาวไม่ตัดสินเด็ดขาดไม่พอ ขอเพียงเจ้ามีเป้าหมายเป็นการตั้งครรภ์ลูกขององค์ชายสี่ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะหาทางได้เอง โลกนี้ไม่มีแมวที่ขโมยไม่สำเร็จ ขอเพียงเจ้าจับตาไว้ให้ดี ย่อมไม่มีบุรุษใดที่ไม่มีจุดอ่อน!”
นางเอ่ยเช่นนี้ มู่หรงเหยาฉือก็เข้าใจแล้ว
มู่หรงเหยาฉือถอนใจ มองเซี่ยชูมั่ว “ข้าเข้าใจความหมายของพี่สาวแล้ว ขอบคุณที่มาชี้แนะด้วยตัวเอง!”
“ข้าทนเห็นชื่อเสียงที่เจ้าลำบากลำบนสร้างมาในเมืองหลวงถูกทำลายด้วยตัวเจ้าเองไม่ได้ ข้ารู้ว่าเจ้าริษยา แต่ริษยาก็ไม่อาจเสียสติปัญญา ทันทีที่ขาดสติ เจ้าก็แพ้แล้ว!”
เซี่ยชูมั่วเสริม “เจ้าดูเจ้าในยามนี้ ชื่อเสียงในเมืองหลวงกลายเป็นอย่างไรไปแล้ว องค์ชายสี่ก็ไม่รับผิดชอบ ดังนั้นเจ้าทำไปเพื่ออันใดกัน ฟังข้า สงบใจไว้!”
“อืม!” มู่หรงเหยาฉือผงกหัวรับ
เซี่ยชูมั่วกล่าวต่อ “ตอนนี้เจ้ารีบเขียนจดหมายส่งไปที่จวนองค์ชายสี่ บอกว่าเมื่อคืนเจ้าจากไปตามปกติ ที่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยก็เพราะลมแรงมาก เจ้าร้องไห้เพราะไม่ได้พบองค์ชายสี่ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าผู้สัญจรไปมากลับเข้าใจผิด ถึงเกิดเรื่องลือเช่นนั้น ขอให้องค์ชายสี่อภัยในความมิได้ตั้งใจของเจ้า!”
มู่หรงเหยาฉือชะงักงัน ถามด้วยความฉงน “เพื่ออันใดกัน”