เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 109 : หวังย่าผิง
ตอนที่ 109 : หวังย่าผิง
ไม่เพียงแต่หลินเถาเท่านั้นที่รู้สึกสับสน ต้าเหว่ยสัว, หลินลี่เฉียง, จางกุ้ยตาน และคนอื่นๆก็หันไปมองทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านด้วยความสับสนเช่นกัน
ซึ่งตามกฎของหมู่บ้านชานวูนั้น จะไม่มีการจุดประทัดกันนอกจากวันตรุษจีน วันเทศกาลหรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ
แล้ววันนี้ก็ไม่ใช่วันปีใหม่
นอกจากนี้ หลินเถาเองก็ไม่เห็นรู้เลยว่าจะมีคนจัดงานขึ้นที่หมู่บ้านแห่งนี้?
ในตอนที่หลินเสี่ยวเหยาเห็นว่าพ่อของเธอกำลังจะจุดประทัด เธอจึงได้ถอยออกมาพร้อมกับเอามือปิดหูของเธอ
แต่เมื่อเธอเห็นว่าพ่อของเธอได้หยุดชะงัก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไปว่า “พ่อ เมื่อไหร่พ่อจะจุดประทัดสักที”
“โอเคลูก!” หลังจากที่หลินเทาพูดจบ เขาก็ทำการจุดประทัดทันที
“ปั้ง!”
เสียงประทัดที่โชติช่วงดังไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานดูมีชีวิตชีวาและรื่นเริงมากกว่าเดิม
ญาติๆก็ต่างเริ่มพูดคุยทักทายกัน และบรรยากาศในตอนนี้ก็ดีขึ้นอย่างมาก
ผ่านไปไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้มีชายหน้ากลมคนหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามา
และเมื่อเขาเห็นใบหน้าของหลินฟาน เขาก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและได้ตะโกนว่า “หลินฟาน นายกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่เห็นบอกฉันเลย!”
ชายคนนี้ชื่อจี้เจิงยี่ เขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้และเขากับหลินฟานก็อายุเท่ากัน
เนื่องจากหมู่บ้านชานวูมีโรงเรียนประถมศึกษาเพียงแห่งเดียว แต่ละชั้นประถมศึกษาจึงมีเพียงห้องเรียนเดียว
ดังนั้นหลินฟานกับจี้เจิงยี่จึงเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาเสมอ
และเขาก็ยังเล่นด้วยกันกับหลินฟานหลังเลิกเรียนเป็นประจำ ทั้งสองคนจึงเป็นเพื่อนสนิทกันในสมัยประถม
หลินฟานพูด “ฉันเพิ่งมาถึงเมื่อไม่นานนี้เอง”
ตอนนั้นเอง ต้าเหว่ยสัวก็เดินเข้าไปหาและพูด “เสี่ยวยี่ ป้าขอบคุณมากนะที่เธอให้ยืมโต๊ะมาใช้ในงานฉลองวันเกิด”
โดยทั่วไปแล้ว หากมีครอบครัวใดในหมู่บ้านแห่งนี้จัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นมา พวกเขาก็จะเชิญญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ให้ออกมารับประทานอาหารในงานเลี้ยง
ซึ่งเมื่อรวมญาติ เพื่อนฝูง และชาวบ้านทั้งหมดในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ก็จะมีจำนวนผู้ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงกว่าหลายร้อยคน จึงต้องมีโต๊ะอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสิบโต๊ะ
แต่ก็มีหลายครอบครัวที่ฐานะนั้นไม่ค่อยดีและขาดแคลนโต๊ะเมื่อจัดงานเลี้ยง
ดังนั้นชาวบ้านในหมู่บ้านชานวูจึงริเริ่มความคิดเกี่ยวกับการให้ยืมโต๊ะและเก้าอี้
จี้เจิงยี่กล่าวว่า “ไม่ต้องคิดมากหรอกครับคุณป้า”
หลินเถาถาม “เสี่ยวยี่ เมื่อกี้อาได้ยินเสียงคนจุดประทัดมาจากทางตะวันตกของหมู่บ้านด้วยนะ วันนี้มีงานฉลองอื่นจัดขึ้นด้วยงั้นหรอ”
“อ๋อ นั่นคงเป็นครอบครัวของหวังเส้าตง… ผมไปได้ยินพวกเขาคุยกันเมื่อบ่ายวานนี้ว่าวันนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีให้กับคุณปู่ของเขา!” จี้เจิงยี่พูด
หลังจากที่สิ้นสุดคำพูดนี้ ทั้งหลินเถา ต้าเหว่ย หลินลี่เฉียง จางกุ้ยตาน และคนอื่นๆ ต่างก็มีใบหน้าแห่งความรังเกียจแสดงออกมา…พวกเขารู้ว่าพวกนั้นจะต้องตั้งใจทำอย่างนี้แน่นอน!
ปู่ของหวังเส้าตง มีชื่อว่าหวังย่าผิง
เรื่องของตระกูลหวังกับตระกูลหลินเริ่มขึ้นจาก…
ทุ่งนาของตระกูลหวังและตระกูลหลินเชื่อมต่อกันไอรีนโนเวล
เนื่องจากในปีนั้นมีฝนตกหนัก ทุ่งนาของพวกเขาจึงถูกน้ำท่วม
หลินลี่เฉียง ปู่ของหลินฟานนั้นจึงขุดคูน้ำตามทุ่งนาของทั้งสองตระกูล เพื่อให้น้ำระบายออกไปอย่างรวดเร็ว
เพราะคูน้ำนี้ จึงทำให้ทั้งสองตระกูลของหวังและหลินไม่ลงรอยกันมานานหลายทศวรรษแล้ว
เนื่องจากหวังย่าผิงรู้สึกว่าหลินลี่เฉียงทำไม่ถูกต้องที่มาขุดคูน้ำในทุ่งนาของเขา เขาจึงไปต่อว่าหวังย่าผิงหลายต่อหลายครั้ง
แต่หลินลี่เฉียงนั้นคิดว่าเขาทำความถูกแล้ว แต่กลับถูกหวังย่าผิงต่อว่าซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นทำให้เขารู้สึกรำคาญมาก จนต้องไปหาหวังย่าผิงเพื่อจัดการเรื่องนี้
ทั้งสองทะเลาะวิวาทกัน และสุดท้ายพวกเขาก็ยังคงเป็นปรปักษ์กันจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาครอบครัวของหลินลี่เฉียงได้ให้กำเนิดหลานชาย หวังย่าผิงก็เลยอยากจะมีหลานชายเหมือนกันกับหลินลี่เฉียง เขาจึงบอกให้ลูกของเขารีบให้กำเนิดหลานชายออกมาเร็วๆ!
และต่อมาเมื่อครอบครัวของหลินลี่เฉียงได้ซื้อบ้านที่ชานวู หวังย่าผิงก็รีบซื้อบ้านที่ชานวูตามมาในทันที…
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างไม่มีวันหยุด
ในตอนแรกนั้นมันยังไม่ค่อยมีอะไรมาก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็เริ่มแข่งกันในเรื่องหน้าตาทางสังคมและก็เรื่องอำนาจด้วย!
หลินลี่เฉียงได้บอกกับคนในหมู่บ้านมานานแล้ว ว่าเขาจะฉลองงานวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขาในวันนี้
และเมื่อวานนี้ตอนบ่าย หวังย่าผิงก็แจ้งหมู่บ้านว่าเขาจะฉลองงานวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขาในวันนี้ด้วยเช่นกัน
มีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่สองฝ่ายจัดขึ้นพร้อมกัน
คนในหมู่บ้านจะเลือกไปที่ไหนล่ะ?
เรื่องนี้พวกเขาจะต้องเป็นคนเลือกเอง!
แต่ตามกฎของหมู่บ้านชานวู
หากมีการจัดงานเลี้ยงฉลองพร้อมกัน เว้นแต่ชาวบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีเป็นพิเศษกับครอบครัวนั้น
ชาวบ้านปกติทั่วไปจะเลือกไปแสดงความยินดีกับญาติที่ที่มีฐานะมากกว่า ซึ่งถือเป็นการต้อนรับและเคารพต่อแขกที่มาเยี่ยม
ครอบครัวของหลินลี่เฉียงนั้นไม่มีญาติและไม่มีเพื่อนที่มีหน้าตาเป็นพิเศษ แต่หวังย่าผิงนั้นมีลูกชายคนหนึ่งที่เป็นถึงผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในจังหวัดชิงซี และเขายังมีหลานชายที่เป็นผู้นำการศึกษาในชิงซีอีกด้วย
หากครอบครัวไหนที่มีญาติและเพื่อนที่มีสถานะสูงกว่าก็จะได้รับชัยชนะไป!
การจัดงานฉลองวันเกิดครอบรอบ 70 ปี มีได้แค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น
คงเป็นเรื่องน่าเศร้าแน่ๆหากไม่มีใครมาร่วมฉลองในวันนี้
“บูม!”
ทันใดนั้นก็มีรถหลายคันกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน
จากนั้นก็มีเสียงประทัดดังขึ้นมาอีกทีจากทางทิศตะวันตก
เมื่อผู้คนในหมู่บ้านชานวูสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง พวกเขาก็รีบวิ่งไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านทีละคน
ซึ่งในเวลานี้ ที่หน้าบ้านของหวังย่าผิงก็มีรถยนต์หรูจอดอยู่หกถึงเจ็ดคัน เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู
พื้นดินทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยเศษประทัดราวกับว่าถูกปูไปด้วยพรมแดง
ชาวบ้านหลายคนรีบถือโต๊ะของตัวเองและเดินไปที่บ้านของหวังย่าผิง
“ลุงลี่ ขอบคุณที่ชวนมางานเลี้ยงวันเกิดนะ”
“ป้าจาง ฉันขอเอาโต๊ะและม้านั่งของฉันออกนะ…”
วันนี้หวังย่าผิงสวมชุดสีแดงและได้ย้อมผมให้เป็นสีดำ
อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถซ่อนร่อยย่นบนใบหน้าและอายุที่มากขึ้นได้
“พระเอกของวันเกิดมาแล้ว!”
“สุขสันต์วันเกิด!”
…
ทุกคนรีบทักทายหวังย่าผิงทันทีเมื่อเห็นว่าเขาเดินออกมา
“ขอบคุณทุกๆคนที่มางานเลี้ยงวันเกิดผมนะ” หวังย่าผิงยิ้ม
หวังย่าผิงมองดูชาวบ้านที่ยืนอวยพรอยู่ที่หน้าประตูด้วยรอยยิ้ม และเมื่อเขาคิดเปรียบเทียบกับหลินลี่เฉียงก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิม!ไอรีนโนเวล
…
เมื่อเปรียบเทียบกับงานที่มีชีวิตชีวาในบ้านของหวังย่าผิง กับงานที่บ้านของหลินลี่เฉียงแล้ว มันช่างแตกต่างกันจริงๆ
ในตอนนี้หน้าบ้านของหลินลี่เฉียงมีแต่ความว่างเปล่า และมีโต๊ะวางอยู่ไม่กี่โต๊ะเท่านั้น
แต่เมื่อมีชาวบ้านน้อยลง แค่โต๊ะและเก้าอี้เหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว
หลินลี่เฉียงไม่ได้โกรธอะไรกับทางเลือกของพวกเขา
เพราะการเคารพแขกผู้มีเกียรตินั้นเป็นประเพณีของหมู่บ้านบ้านชานวูมาโดยตลอด
แต่ยังไงนี่ก็คืองานเลี้ยงวันเกิดของเขา เขาจึงแอบรู้สึกสึกเสียใจอยู่บ้าง
จี้เจิงยี่รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มหดหู่ลง เขาจึงพูด “หวังเส้าตงและครอบครัวของเขาทำเกินไปแล้ว! คิดว่าแค่มีญาติที่มีฐานะกว่านิดหน่อยแล้วจะมาทำแบบนี้ได้รึไง?”
“รอหลินฟานกลายเป็นบอสใหญ่ก่อนเถอะ เรามาดูกันว่าหวังเส้าตงและครอบครัวของเขายังจะทำอะไรได้บ้าง!”
หลินฟานตบไหล่ของจี้เจิงยี่และพูดด้วยรอยยิ้ม “บางทีนายอาจจะไม่ต้องรอแล้ว”
ทันทีที่หลินฟานพูดจบ เสียงคำรามของรถยนต์ก็ดังมาจากทางเข้าของหมู่บ้าน
หนึ่งคัน สองคัน สามคัน…
รถหรูสิบกว่าคันขับเข้ามาจากระยะไกล
ในที่สุด รถเหล่านั้นก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าหลินฟา