เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 119 : ผู้จัดการหมี
หลินฟานเข้าใจดีว่าทำไมหวงยี่เผิงและหลี่หมินถึงได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะลูกคือหัวใจของพ่อแม่
หวงยี่เผิงถาม”หลินฟาน ตอนนี้นายทำงานอะไรอยู่”
หลินฟานพูด”ผมกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย”
ทั้งหวงยี่เผิงและหลี่หมินต่างก็ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินสิ่งที่หลินฟานพูดนี้
เดิมทีทั้งหวงยี่เผิงและหลี่หมินต้องการจะถามหลินฟานว่า หลินฟานมีบ้านหรือเปล่า?และเงินเดือนของหลินฟานอยู่ที่เท่าไร?
แต่เมื่อเขาได้ยินว่าหลินฟานกำลังศึกษาอยู่ พวกเขาก็ต้องเก็บคำถามเหล่านี้ไว้ในใจ
คนที่ยังไม่เข้าสังคมทำงาน จะไปมีบ้านกับเงินเดือนได้ยังไง?
ตอนนั้นเอง หวงหลิงก็หาโอกาสพูดได้ในที่สุด “พ่อกับแม่มีธุระอะไรหรือป่าว ทำไมถึงมาที่เจียงเป่ยกันละ?”
ซึ่งในขณะนั้น หวงยี่เผิงก็เหลือบมองไปที่หลินฟานทันที
เหมือนกับกำลังจะบอกว่าที่เขามาที่นี่ก็เพื่อมาเจอหน้าหลินฟาน!
จากนั้นเขาก็พูดว่า “สัญญาของร้านเรากำลังจะหมดแล้ว คราวนี้ พ่อมาที่เจียงเป่ยก็เพื่อเซ็นสัญญาฉบับใหม่”
หวงยี่เผิงเหลือบมองไปที่โทรศัพท์แล้วพูดว่า “นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแล้ว หวงหลิงกับหลินฟานก็ไปด้วยกันเลยสิ”
หลินฟานยิ้มง่าย “ไม่มีปัญหาครับ”
หลี่หมินหันไปถามฉิวจือเฉียน “เฉียนเฉียนไปช้อปปิ้งกันไหม หรือไม่ก็ไปทานอาหารเย็นนี้กัน”
“คุณป้า ขอโทษนะคะ พอดีฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการอยู่ ก็เลยออกไปกับป้าไม่ได้” ฉิวจือเฉียนขอโทษ
หลี่หมินเองก็ไม่ยืนกรานชวนต่อและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น…”
จากนั้น ทั้งสี่คนก็เดินออกไปด้านนอก
และเมื่อหวงหลิงกำลังจะเดินออกไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่ฉิวจือเฉียน
ฉิวจือเฉียนยิ้มเล็กน้อยราวกับจะพูดว่า: สู้ๆนะ!
ซึ่งผ่านไปไม่นาน ทั้งสี่คนก็ได้มาถึงยังที่จอดรถใต้ดิน
ในตอนแรก หลินฟานกำลังจะเดินไปที่รถบิ๊กจี
แต่หวงยี่เผิงเป็นคนที่หยิบกุญแจรถออกมาและกดปุ่มปลดล็อกไปที่รถ โตโยต้าโคโรลล่าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“ขึ้นรถกันเถอะ”
ขณะที่พูดเขาก็เปิดประตูและเข้าไปนั่งทันที
หลินฟานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นรถของหวงยี่เผิง
หวงยี่เผิงขับรถมาหลายปีแล้ว และเขาก็ขับรถได้อย่างราบรื่นตลอดทาง
แต่ในระหว่างที่รถจอดรอสัญญาณไฟจราจร หวงยี่เผิงก็ถามขึ้น “หลินฟาน พ่อกับแม่ของนายทำงานอะไรหรอ?”
ทันทีที่เขาพูดเรื่องนี้ แม้แต่หวงหลิงก็ตั้งใจฟังเช่นกัน
เธอเองก็ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลินฟานพูดตามความจริง “พวกเขาเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในจังหวัดชิงซีครับ”
“ขายเสื้อผ้า?” หวงยี่เผิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลุงรู้จักโรงงานผลิตเสื้อผ้าขายส่งบางแห่ง ลุงสามารถให้ส่วนลดกับพ่อแม่ของคุณได้เล็กน้อยนะ”
หวงหลิง ถือว่าร้านเสื้อผ้าเป็นบริษัทเสื้อผ้าโดยตรง
เธอคิดกับตัวเอง: ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลินฟานนั้นชอบสวมเสื้อผ้าที่จับต้องได้
หลินฟานพูด “ถ้าอย่างนั้น ผมก็ต้องขอบคุณแทนพ่อกับแม่ด้วยนะครับ”
“ถึงแม้ว่าตอนนี้นายจะยังเรียนอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว… นายควรจะวางแผนถึงอนาคตไว้หน่อย นายต้องการจะอยู่ที่เจียงเป่ยในระยะยาวหรือเปล่า?” หวงยี่เผิงถาม
หลินฟานคิดไตร่ตรองอยู่ครู่นึงก่อนจะพูด “สำหรับตอนนี้ ผมคิดว่าผมอาจจะอยู่ที่เจียงเป่ยครับ”
หลินฟานไม่ได้คิดถึงอนาคตที่ห่างไกลเกินไป
หลี่หมินพูดว่า “งั้นนายก็ต้องเตรียมซื้อบ้านไว้ล่วงหน้า ตอนนี้ราคาบ้านนั้นสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ถ้ารอให้นายเรียนจบก่อน ก็ไม่รู้ว่าราคาบ้านตอนนั้นจะสูงไปถึงไหนแล้ว”
หลินฟานพูด “ถ้าเรื่องบ้าน ผมมีอยู่แล้วครับ”
“เอ๊ะ? จริงหรอ งั้นเดี๋ยวนายต้องพาพวกเราไปดูด้วยนะ!” หวงยี่เผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความไม่พอใจอยู่บนใบหน้าของเขา
เพราะหลินฟานเพิ่งบอกว่า พ่อกับแม่ของเขามีร้านเสื้อผ้าในชิงซี
ในมุมมองของหวงยี่เผิง พ่อกับแม่ของหลินฟานจะต้องเป็นคนที่ออกเงินซื้อบ้านหลังนี้ให้แน่นอน
และเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆในชิงซี จะซื้อบ้านได้ในราคาเท่าไหร่กัน?
ต้องเป็นบ้านหลังเล็กแน่ๆ!
ทั้งสี่พูดคุยกันอยู่ในรถตลอดทาง พวกเขาใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะขับรถมาถึงหน้าอาคารที่ดูทันสมัยแห่งหนึ่ง
ด้านหน้าอาคารมีตัวอักษรขนาดใหญ่ห้าตัว ‘เมืองการค้าเสียวหวู่’
ที่นี่มัน…
หลินฟานมีท่าทางแปลก ๆ
เมืองการค้าเสียวหวู่?
พ่อกับแม่ของหวงหลิงกำลังจะมาเซ็นสัญญาที่นี่?
ถ้าหลินฟานจำไม่ผิด เมื่อตอนที่เขาเปิดซองแดง 1050 ซองเมื่อไม่กี่วันก่อน ดูเหมือนว่าตอนนั้นเขาจะได้หุ้น 51% ของเมืองการค้าเสียวหวู่มา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พ่อกับแม่ของหวงหลิงกำลังจะเซ็นสัญญากับบริษัทของเขา?
หวงยี่เผิงขมวดคิ้วทันที เมื่อเขาสังเกตุเห็นหลินฟานยืนงุนงงอยู่หน้าประตู
หลี่หมินเองก็พึมพัมในใจ: แฟนของลูกสาวมาจากชุมชนเล็กๆในชิงซีจริงๆด้วย แค่เห็นตึกพวกนี้ก็ต้องมีท่าทางขนาดนี้เลยหรอ?
ทันใดนั้น หลี่หมินพูด “แม่ปวดท้องเล็กน้อย เสี่ยวหลิงไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนแม่หน่อยได้ไหม?”
“ได้ค่ะ” หวงหลิงตอบกลับ
ต้องบอกว่ากระแสของผู้คนที่มาติดต่อกับเมืองการค้าเสียวหวู่นั้นหนาแน่นมาก แม้แต่ตอนไปเข้าห้องน้ำก็จำเป็นต้องต่อคิว
ใช้เวลาประมาณสิบนาทีกว่าที่หลี่หมินจะเดินออกจากห้องน้ำและพูด “เสี่ยวหลิง ทำไมลูกถึงได้หาแฟนอย่างหลินฟาน”
หวงหลิงเปิดปากของเธอแต่ก็ไม่รู้จะตอบแม่ของเธอยังไง
เธอบอกได้หรอว่า หลินฟานไม่ใช่แฟนของเธอ แต่ทั้งสองมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน?
เธอกลัวว่าแม่จะตีเธอทันทีที่เธอพูดออกไป
หลี่หมินพูดต่อ “หลินฟานยังเด็กและหล่อมากก็จริง!”
“แต่เขาจะหนุ่มและหล่อไปตลอดชีวิตไหมล่ะ?”
“ลูกควรคิดถึงชีวิตในอนาคตของลูกมากกว่านี้!”
หวงหลิงเปิดปากของเธออีกครั้ง
เธออยากจะพูดว่า: แม่ หลินฟานเป็นคนที่สามารถให้ชีวิตที่ฉันต้องการได้มากที่สุด!
ตอนนั้นเอง หวงยี่เผิงก็เดินเข้ามาถาม “ทำไมช้ากันจัง?”
หลี่หมินพูด “คนที่นี่เยอะเกินไป”
หลังจากคุยกันเสร็จ ทั้งสี่คนก็มุ่งหน้าไปยังสำนักงานบนชั้นสาม
ห้อง 307 มีโต๊ะเพียงสองโต๊ะ และโซฟา ทุกอย่างในห้องนั้นเรียบง่ายมาก
ภายในห้อง ชายหน้ากลมก้มหน้าทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง
หวงยี่เผิงเคาะประตูก่อนก่อนจะพูด “ผู้จัดการหมี คุณอยู่หรือเปล่า?”
ชายหน้ากลมพูดตอบ “เข้ามา”
หลังจากได้ยินเสียงของชายหน้ากลม หวงยี่เผิงและคนอื่นๆจึงเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
เมื่อหวงยี่เผิงและหลี่หมินเห็นใบหน้าของ ผู้จัดการหมี่ พวกเขาก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง
มันเป็นเขาได้ยังไง?!
ครอบครัวของหวงยี่เผิงอาศัยอยู่ในห้อง 305 ชุมชนซินหัว
ผู้จัดการหมี ที่อยู่ข้างหน้าเขานั้นเคยอาศัยอยู่ที่ห้อง 304 ชุมชนซินหัว ทั้งสองครอบครัวนั้นเป็นเพื่อนบ้านกัน
ผู้จัดการหมีคนนี้ชอบเลี้ยงหมาและเป็นหมาที่ตัวใหญ่มาก!
ในทุกๆวัน เขาจะพาสุนัขตัวใหญ่ๆออกไปเดินเล่น
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการหมีไม่เคยใช้สายจูงกับสุนัขเลย
และเมื่อครอบครัวของหวงยี่เผิงออกไปข้างนอกทีไร พวกเขาก็จะรู้สึกกลัวสุนัขตัวใหญ่ของผู้จัดการหมีทุกที
เพราะอย่างนั้น พวกเขาถึงขอให้ผู้จัดการหมีช่วยเอาสายจูงมาผูกกับสุนัขเอาไว้
แต่ผู้จัดการหมีกลับไม่ฟังเลย
จนหวงยี่เผิงต้องไปขอให้หน่วยความมั่นคงของชุมชนมาช่วยไกล่เกลี่ย แต่ถึงจะให้หน่วยความมั่นคงมาช่วยแล้วก็ตาม ผู้จัดการหมีก็ยังคงตอบปฏิเสธกลับมาเช่นเดิม
สุดท้าย หวงยี่เผิงก็โทรหาตำรวจเพื่อจัดการกับเรื่องนี้
เหตุการณ์ในครั้งนี้ พูดได้เลยว่ามันทำให้ผู้จัดการหมีเกลียดครอบครัวของหวงยี่เผิงแบบสุดๆ
ซึ่งในเวลาต่อมาผู้จัดการหมีก็ได้ย้ายออกไป ตั้งแต่นั้นครอบครัวของหวงยี่เผิงก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย
จนถึงวันนี้!
ผู้จัดการหมียิ้มเยาะเย้ย “ผมนี้แหละ ผู้จัดการหมี”
หวงยี่เผิงเพิ่งได้สติขึ้นมาแล้วพูด “ใช่… ใช่แล้ว วันนี้ผมมาที่นี่เพื่อลงนามในสัญญาการจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับปีหน้า ที่คุยกับคุณไปเมื่อวาน”
แม้ว่าทั้งสองจะมีความแค้นต่อกัน
แต่เพื่อผลประโยชน์ในชีวิต พวกเขาจึงต้องวางความแค้นกันเอาไว้ชั่วคราว
“อ้อ ฉันเตรียมสัญญาฉบับใหม่ไว้ให้แล้ว ดูก่อนสิ” ผู้จัดการหมีพูดพร้อมกับหยิบสัญญาขึ้นมาวางบนโต๊ะ