เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 170 : ยินดีด้วย
เบิกเงินเดือนล่วงหน้าสองเดือนหรอ?
นั่นคือ 30,000 หยวน
หลินฟานไม่ลังเลเลยที่จะตอบตกลง “ได้สิ”
ที่เขาตกลงนี่ไม่ใช่ว่าหลินฟานชอบถูกเอาเปรียบหรอกนะ
แต่ในระหว่างที่เขาได้รู้จักกับซูหนิงจิง เขาบอกได้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่ใจดีและเรียบง่าย
หลินฟานเชื่อว่าเธอจะไม่โกหกตัวเองเรื่องเงิน 30,000 หยวน
และถ้าซูหนิงจิงมีปัญหาเรื่องเงินจริงๆ การให้เงิน 30,000 หยวนกับเธอน่าจะดีกว่าปล่อยให้เธอต้องไปหาทางอื่นเอาเอง
ซูหนิงจิงไม่ได้คิดว่าหลินฟานจะตอบตกลงทันที
ไม่ถึงนาทีหลังจากที่เธอวางสาย โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้นเล็กน้อย
“ยอดเงินเข้าบัญชี 30,000 หยวน”
นี่…
ซูหนิงจิงรีบส่งข้อความไปหาหลินฟาน: ขอบคุณ
จากนั้นเธอก็โอนเงินจำนวน 30,000 หยวนที่เธอเพิ่งได้รับไปให้น้องสาวทันที
…………
ในคืนนั้น
เป็นเรื่องหายากที่จะเห็นหลินฟานนอนคนเดียว
วันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ขึ้นสูง และนกก็ส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขข้างนอกหน้าต่าง
ในที่สุดหลินฟานก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
เมื่อคืนเขาหลับสบายมาก
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและอ่านข้อความที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“ยอดเงินเข้าบัญชี 1,350,000 หยวน ณ เวลา 0.00 นาฬิกา”
จากนั้น หลินฟานก็มองไปที่ระบบลงชื่อเข้าใช้
“เข้าสู่ระบบ!”
【ติ๊ง! การลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10 ล้านหยวน 】
หลินฟานหาวก่อนจะถอนหายใจออกมา ” 10 ล้านอีกแล้วหรอ…”
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปเปิดประตูบ้านพัก
หลินฟานพบกับร่างที่สวยงามยืนอยู่ที่ประตู…เธอคือซูหนิงจิง
วันนี้ซูหนิงสวมผ้ากันเปื้อน ใบหน้าที่บอบบางของเธอนั้นใสราวกับหยกที่สวยงามภายใต้แสงแดดอันอบอุ่น
รูปร่างที่บอบบางนั้นไม่ได้ดูอ้วนขึ้นเนื่องจากผ้ากันเปื้อนที่หลวม แต้กลับกัน มันดูอวบอิ่มและสมบูรณ์แบบมาก!
ผมสีดำยาวพลิ้วปลิวไสว นางฟ้าลงมาต้อนรับที่ประตู นี่อาจจะเป็นชื่อของภาพนี้ก็ได้
หลินฟานผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองดูเหงื่อบนใบหน้าที่ขาวราวหิมะของเธอก่อนจะถามว่า “คุณรออยู่ที่หน้าประตูตลอดเลยหรอ?”
ซูหนิงไม่พูดแต่ก้มหน้าลงเงียบๆ
หลินฟานพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ครั้งต่อไปก็อย่าลืมกดกริ่งนะ…”
เขาบอกซูหนิงจิงถึงรหัสผ่านของวิลล่า และจัดสรรเงิน 50,000 หยวนเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อผักให้กับเธอ
หลังจากนั้น หลินฟานก็ขับรถลัมโบกินี่ไปยังมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย
ทันทีที่เขาไปถึงหน้าประตู ธงขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา
“ขอแสดงความยินดีกับหลินฟานแทนมหาวิทยาลัย สำหรับการอนุมานสูตรเศรษฐศาสตร์และทฤษฎีบทใหม่! 》
หลินฟานคิดอยู่ครู่หนึ่งและตระหนักได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องของฉินหยู่ซวนที่เขียนสูตรสุดท้ายลงในเอกสารและเผยแพร่มันบน “ECTA”
เกี่ยวกับเรื่องนี้…
เขาไม่ได้ไปอ่านบทความเหล่านั้นเลย
เพราะเขาเชื่อในเนื้อหาที่เขาเขียน และยังเชื่อในความสามารถของการเขียนวิทยานิพนธ์ของฉินหยู่ซวนอีกด้วย
หลังจากจอดรถ หลินฟานก็เดินไปเจอที่ปรึกษาซุนเหยาตงพอดี
“นักศึกษาหลินฟาน นายเยี่ยมมาก ฮ่าฮ่า! นายเก่งที่สุดในชั้นเรียนของเรา มหาวิทยาลัยของเราได้มีหน้ามีตาก็เพราะนาย!” ซุนเหยาตงวางมือลงบนไหล่ของหลินฟานพร้อมกับพูดอย่างตื่นเต้น
ถึงแม้หลินฟานจะมีภูมิคุ้มกันต่อคำพูดเยินยอของซุนเหยาตงก็ตาม
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าของหลินฟานก็ยังต้องแสดงสีหน้าแปลกๆออกมา
ทุกครั้ง……
ทุกครั้งที่หลินฟานได้รับรางวัลหรือความสำเร็จอะไร เมื่อเขามามหาวิทยาลัย ชุนเหยาตงจะเป็นคนแรกที่มาพบเขาตลอด
มันเป็นเรื่องบังเอิญรึเปล่า?
ซุนเหยาตงเพิกเฉยต่อความคิดของหลินฟาน และเดินไปที่ห้องเรียนด้วยรอยยิ้ม
เวลานี้ ในห้องเรียนเต็มไปด้วยผู้คนและมีชีวิตชีวาอย่างมาก
เพราะเช้านี้เป็นคาบเรียนของครูเทียนเถียน
“อะแฮ่ม!”
ซุนเหยาตงเดินไปที่แท่นและไอเล็กน้อย
นักเรียนสงบลง แต่ใบหน้าของพวกเขาค่อย ๆ สับสน
เกิดอะไรขึ้น?
เช้านี้เป็นคาบเรียนของครูเทียนเถียนไม่ใช่หรอ?
ทำไมที่ปรึกษาซุนถึงมาที่นี่?
หรือว่ามีการสลับคาบเรียน?
บ้าจริง!
มันเลวร้ายสำหรับนักศึกษาที่ได้นั่งที่ดีๆในวันนี้
ซุนเหยาตงพูด “ขอบอกข่าวดีกับทุกคน หลินฟานในห้องเรียนของเราได้ทำการสรุปสูตรและทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ได้สำเร็จ! ผลลัพธ์นี้อาจทำให้ห้องเรียนของเราเป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์!”
“อะไรนะ!”
เงียบ!
ทั้งห้องเรียนเงียบ!
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยท่าทางตกตะลึง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักศึกษาในภาควิชาคณิตศาสตร์ ถึงพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องสูตรและทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์มากนัก
แต่สำหรับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียว!
หรือถ้าจะให้พูดตรงๆก็คือ รางวัลใดๆที่มีคำว่าโนเบลนั้นหมายถึงรางวัลสูงสุด รางวัลพวกนี้ทำให้นักศึกษาทุกคนต้องเงยหน้าขึ้นมอง!
ตอนนี้ เพื่อนร่วมห้องในชั้นเรียนของพวกเขา… มีใครบ้างที่มีแววว่าจะได้รับรางวัลโนเบล?
เรื่องนี้จะไม่ทำให้พวกเขาประหลาดใจได้อย่างไร
“ทุกคนปรบมือเพื่อแสดงความยินดีหน่อย!” ซุนเหยาตงพูดออกมาเสียงดังเต็มที่
“เปาะแปะเปาะแปะ!”
นักศึกษาทุกคนปรบมือเสียงดัง เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องเรียน
นี่…
ซุนเหยาตงพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วหันหลังเดินออกไป
ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป อาจารย์เทียนเถียนก็เข้ามา
ในอดีต เมื่ออาจารย์เทียนเถียนเดินเข้ามาในห้องเรียน ทุกคนจะสนใจแต่เธออย่างแน่นอน
แต่วันนี้แตกต่างออกไป
ความคิดของนักศึกษาทุกคนยังคงติดอยู่ในเรื่องของหลินฟานที่จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์
วิธีการสอนของครูเทียนเทียนก็เหมือนเดิม ผ่อนคลายและร่าเริง
เวลาสำหรับคาบเรียนนี้หมดไปอย่างรวดเร็ว
หลังเลิกเรียน ซงหยี่ที่นั่งอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “พี่ฟาน พี่ได้สรุปสูตรและทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์จริงๆหรอ? พี่จะได้รับรางวัลโนเบลจริงๆหรือเปล่า?”
หม่าจง เจิ้งจินเป่าและนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ ต่างก็ตั้งใจฟัง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากรู้มาก
หลินฟานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันเมื่อมองดูท่าทางของพวกเขา
“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะได้รับรางวัลโนเบลหรือเปล่านะ แต่ฉันได้เขียนสรุปสูตรและทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์จริงๆ!” หลินฟานพูด
“จริงหรอเนี่ย!!”
แม้ว่าที่ปรึกษาซุนจะเคยพูดไว้แล้ว
แต่หลังจากที่หลินฟานพูดความจริงออกมา มันก็ยังทำให้ทุกคนประหลาดใจอยู่ดี
หม่าจงถามต่อ “หลินฟาน นายสรุปสูตรและทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ออกมาอย่างไร? เหมือนว่าฉันจะไม่เคยเห็นนายศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมห้องกันเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมหอพักเดียวกันด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะพูดเรื่องเช่นนั้น
หลินฟานพูด “ยังต้องศึกษาเรื่องนี้อีกหรอ? มันง่ายมากเลยนะ! เมื่อฉันเห็นการบรรยายของศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยซางไห่ ฉันก็เริ่มคำนวณปัญหาตาม จากนั้นก็เพียงแค่แก้ไขมันไปทีละขั้น แล้วก็อนุมานสูตรที่ถูกต้องขึ้นมา ง่ายๆแค่นี้แหละ”
ยังต้องศึกษาเรื่องนี้อีกหรอ?
มันง่ายมาก!
แก้ไขปัญหาการคำนวณของศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยซางไห่
แล้วก็อนุมานสูตรที่ถูกต้องขึ้นมา!
ฟัง!
ฟัง!
นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่อีกหรอ?
มันเหมือนกับการเรียนรู้ของเทพเจ้า!
เมื่อซงหยี่ หม่าจง เจิ้งจินเป่าและคนอื่นๆฟังคำพูดของหลินฟานจบ ทุกคนก็อ้าปากค้างทันที ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง และไม่รู้ว่าจะต้องพูดตอบหลินฟานยังไงดี
เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนธรรมดาก็ไม่มีสิทธิ์พูดคุยกับเทพเจ้า