เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 175 : ออกไป!
ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งได้เจอกันไม่นาน
แต่หลินฟานก็ถือว่าโมโมะและคนอื่นๆเป็นเพื่อนของเขา
ซึ่งเกาเจิ้นโปนั้นก็ทำเรื่องขืนใจกับพวกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
จนในที่สุด หลินฟานก็ไม่สามารถทนดูอยู่เฉยๆได้
“พ่อหนุ่ม นายใจกล้ามากเลยนะ!” เกาเจิ้นโปจ้องไปที่หลินฟานและพูดอย่างเย็นชา
ราวกับว่าเขาจะกลืนกินหลินฟานอย่างไรอย่างนั้น
ซึ่งเมื่อ โมโมะ เซียงเซียง เสี่ยวอ้าย เสี่ยวลี่และคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆเขาได้ฟังคำพูดของเกาเจิ้นโปและมองไปที่รูปลักษณ์อันน่าเกรงขามของเขา ใบหน้าของพวกเธอก็ซีดขาวในทันที
เพราะถึงแม้ว่าหลินฟานจะเป็นเศรษฐีต้าจงเหรินผู้โดงดังในแอปซางหยูและมีอิทธิพลอยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเธอก็ตาม
แต่อิทธิพลครอบครัวของเกาเจิ้นโปนั้นยิ่งใหญ่กว่ามาก เขามีทรัพย์สินในอุตสาหกรรมต่างๆนับพันล้าน!
เมื่อเกิดความขัดแย้ง…
ถึงโมโมะจะรู้สึกขอบคุณหลินฟานมากก็ตาม แต่เธอก็ไม่ต้องการให้หลินฟานเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้
ดังนั้นเธอจึงรีบพูดว่า “คุณเกาคะ เขาไม่ได้ตั้งใจจะยั่วยุคุณหรอก อย่าถือสาเลย… ส่วนไวน์แก้วนั้น… ฉันจะดื่มให้เองค่ะ … ”
ขณะพูด เธอก็หยิบไวน์และกำลังจะทำการยกดื่ม
แต่อย่างไรก็ตาม เกาเจิ้นโปก็ได้หยุดเอาไว้
“โมโมะ ชายหนุ่มคนนั้นบอกว่าไม่ให้เธอดื่มไม่ใช่หรือไง เธอไม่ต้องดื่มหรอก!”
จากนั้น เกาเจิ้นโปก็หยิบไวน์แดงสองขวดขึ้นมาและชี้ไปที่หลินฟานพร้อมกับพูดว่า “มาเลย นายมาดื่มแทนเธอซะสิ!
ไวน์สองขวดงั้นหรอ?
ต้องรู้ว่า……
หลินฟานมีทักษะสุภาพบุรุษยอดนักดื่ม แค่ดื่มไวน์สองขวด หรือต่อให้ดื่มไวน์เป็นยี่สิบขวดก็ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลย
แต่ถ้าเกาเจิ้นโปขอให้เขาดื่ม เขาจะดื่มมันหรือเปล่า?
สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับหลินฟาน!
หลินฟานเหลือบมองเกาเจิ้นโปก่อนจะพูดออกไปอย่างแผ่วเบาๆ “ได้สิ ฉันจะดื่มมันตามที่นายบอก แต่ถ้าฉันดื่มมันหมดแล้ว ฉันก็หวังว่าเรื่องในครั้งนี้มันจะจบลงนะ”
“เรื่องในครั้งนี้จะจบลงงั้นหรอ?” เกาเจิ้นโปเหมือนกับพึ่งได้ยินเรื่องตลกเรื่องนึง เขาถึงกับเอนตัวไปข้างหน้าและและขำออกมา
“ตึก ตึก ตึก!”
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ค่อยๆดังขึ้นมาแต่ไกล
และเขาก็เห็น…
ชายสามคนกับหญิงสองคนในชุดสูท
ซึ่งหลังจากที่เกาเจิ้นโปเห็นแล้ว ดวงตาของเขาก็เป็นประกายและตะโกนออกมาทันทีว่า” คุณจางตง คุณชิว ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอพวกคุณที่นี่ ฉันคือเกาเจิ้นโป ลูกชายของเกาฝ๋อประธานบริษัท!”
จากนั้นเขาก็หันมากระซิบกับหลินฟานว่า “เจ้าหนู เมื่อกี้นายทำเป็นอวดดีใช่มั้ย อย่าเพิ่งร้องไห้ซะล่ะ!”
คุณจางตง เขาก็คือบอสใหญ่ของซางหยู หรือประธานบริษัทนั่นเอง!
ส่วนคุณชิว ก็คือผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการที่เกาเจิ้นโปกล่าวถึงก่อนหน้านี้!
ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?
ตอนนี้ที่โรงแรมเฟิงไหลทั้งหมดถูกครอบคุมไปด้วยคนของซางหยู ซึ่งถ้าพวกเขารู้ว่าหลินฟานนั้นทำให้เขาต้องอับอาย มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ?
ในไม่ช้า คนกลุ่มนี้ก็เดินเข้ามาใกล้เกาเจี้นโปมากขึ้นเรื่อยๆ…
เกาเจี้นโปไม่จัดระเบียบเสื้อผ้าของเขาแต่อย่างใด เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณจางตง พ่อของฉันเพิ่งบอกฉันเมื่อสองวันก่อนว่าต้องการให้ฉันมาเรียนรู้การทำงานจากคุณ… แต่ไม่คาดคิดเลยว่าฉันจะได้เจอคุณในวันนี้.”
ขณะพูด เกาเจี้นโปก็ยื่นมือขวาออกไป
แต่อย่างไรก็ตาม……
จางตงนั้นกังวลจนเขาไม่ได้ยินเสียงหรือเห็นเกาเจิ้นโปเลย เขาเดินผ่านเกาเจี้นโปและตรงไปหาหลินฟ่านอย่างรวดเร็ว
จากนั้นจางตงก็ก้มตัวเล็กน้อยและยื่นมือออกไปพร้อมกับแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วพูดว่า “คุณหลิน สวัสดี ฉันดีใจที่ได้พบคุณที่นี่”
เงียบ
คนทั้งงานเงียบลงในทันที
และทุกคนที่เห็นฉากนี้ก็ต่างมองด้วยความงุนงง
จางตง!
ประธานของซางหยูรู้จักกับหลินฟาน!
นอกจากนี้เขายังใช้น้ำเสียงที่ประจบสอพลอใส่หลินฟานอีก!
นี่มัน……
คืออะไร?
ซึ่งเมื่อหลินฟานมองหน้าของคนๆนี้อยู่ครู่หนึ่ง หลินฟานก็ค่อยๆจำได้ว่าเขาได้พบกับคนตรงหน้านี้เมื่อตอนที่เขาอยู่ในโรงแรมเจียงเป่ยกับประธานต้าหม่า ประธานเสี่ยวหม่าและคนอื่นๆเมื่อไม่กี่วันก่อน
ซึ่งในเวลานั้น หลินฟานก็ได้เป็นผู้นำในการจัดปาร์ตี้และนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ
ส่วนคนที่ชื่อจางตงก็นั่งอยู่ด้านข้างถัดออกไปไกลๆ
และถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยกันเลย
แต่หลินฟานก็มีความทรงจำที่สุดยอด!
ด้วยทักษะสแกนของหลินฟาน เขาจะไม่มีวันลืมอะไรได้เลยถ้าได้เหลือบมองไปแล้วครั้งนึง
และในเวลานี้ จางตงก็กำลังปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ
หลินฟานจึงปฏิบัติต่อเขาด้วยความสุภาพเช่นกัน
เขายื่นมือออกมาแล้วพูดว่า ” สวัสดี คุณจางตง ”
ทั้งสองเขย่ามือกัน ซึ่งก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงกันอีกครั้ง
ใบหน้าของจางตงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เนื่องจากเขายังจำได้ชัดเจนว่าตอนนั้นประธานต้าหม่าและประธานเสี่ยวหม่าคอยเอาใจหลินฟานมากแค่ไหน
ในมุมมองของจางตง แค่หลินฟานจดจำตัวเขาได้และจับมือกับเขาก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว!
จางจง “ถ้าผมรู้ว่าคุณหลินจะมาที่งานซางหยูคาร์นิวัลของเราในวันนี้ ผมก็คงจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ให้กับคุณแล้ว”
“ชั่งน่า…หยาบคายจริงๆที่ปล่อยให้คนเช่นคุณมาเดินงานแบบคนธรรมดา”
หลินฟานพูด “ฉันมาที่นี่ตามคำเชิญของเพื่อน … ”
เมื่อจางตงเหยียนได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นทันที
เพื่อน?
คุณหลินมีเพื่อนเป็นนักไลฟ์สตรีมอยู่ในซางหยู!
นี่เป็นข่าวดีสำหรับตัวเขาอย่างมาก
จากนั้น หลินฟานก็ชี้ไปที่เกาเจิ้นโปและถามว่า “คุณรู้จักกับเขามั้ย”
ในตอนแรก จางตงคิดว่าเกาเจิ้นโปเป็นเพื่อนของหลินฟานและรีบพูด “รู้ ผมรู้! แถมพ่อของเขาก็เป็นประธานบริษัทแห่งหนึ่งด้วย! ฉันคิดเสมอว่าเขาเก่งมาก ดังนั้น…”
หลินฟานไม่ได้รอให้เขาพูดจบและพูดต่อ “งั้นหรอ? เกาเจิ้นโปมันทำไม่ดีกับเพื่อนของฉัน และเขาก็ข่มขู่ฉันด้วย”
ทันทีที่ประโยคนี้ถูกพูดออกมา หัวใจของจางตงก็สั่นทันที จากนั้นเม็ดเหงื่อก็ค่อยๆไหลซึมออกมาจากหน้าผากของเขา
เขาเริ่มรู้กลัวและก็เสียใจ
เพราะเขาเพิ่งจะพูดอวยเกาเจิ้งโปไป แต่มันกลับเป็นว่าเขาทำให้หลินฟานรู้สึกขุ่นเคือง
จางตงถึงกับอ้าปากค้าง
ซึ่งในเวลานี้ เกาเจิ้งโปก็พบว่าหลินฟานดูเหมือนจะมีสถานะที่ดีกว่าเขา และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดถึงตัวตนของพ่อ เขาก็ค่อยๆสงบลง
และพูดอย่างหยิ่งผยอง “จางตง ไอหลินๆนี่มันใครหรอ?”
หลินฟานแตะหูของตัวเองและพูดว่า “ฉันคิดว่าเสียงของเกาเจิ้งโปมันดังจนน่ารำคาญไปหน่อย เขาไม่เหมาะกับการเข้าพักในโรงแรมหรูหราแห่งนี้หรอก… จางตง คุณคิดว่าไง”
จางตงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ผมเห็นด้วย คุณหลินพูดถูก!”
เขาเข้าใจคำพูดของหลินฟานทันที ว่านี่คือการให้เขาขับไล่เกาเจิ้งโปออกไปจากโรงแรม
ตอนนี้แหละเป็นเวลาที่ดีของเขาที่จะฟื้นความสัมพันธ์ให้กลับมาจากการพูดผิดพลาดในรอบที่แล้ว
ส่วน…
ส่วนที่เรื่องนี้จะไปทำให้เกาเจิ้งโปและอุ๊ปส์กรุ๊ปของพ่อเขาขุ่นเคืองนั้น?
จางตงไม่ได้สนใจเลย
เพราะถึงพวกเขาจะเป็นผู้ถือหุ้นในซางหยูก็ตาม
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อย
ผิดกับหลินฟานที่ถือหุ้น 5% ของเพนกวินกรุ๊ป
ซึ่งต้องรู้ว่า……
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของซางหยูก็คือเพนกวินกรุ๊ป
เขายังจำเป็นต้องคิดที่จะเลือกระหว่างหลินฟานกับอุ๊ปส์กรุ๊ปอีกหรอ?
จางตงพูดอย่างเคร่งขรึม “เกาเจิ้นโป โรงแรมนี้ถูกจองไว้ทั้งหมดโดยซางหยูแล้ว และที่นี่ก็ไม่ต้อนรับนาย ได้โปรดออกช่วยออกไปด้วย!”
โดนไล่ออกจากโรงแรม?
นี่เหมือนกับว่าเขาโดนตบหน้าอย่างจัง!
เกาเจิ้นโปไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน่าเกลียด “จางตง นี่แก … ”
ในขณะเดียวกันนั้น หลินฟานก็แตะหูของเขาแล้วพูด “เสียงดังจริงๆเลย น่ารำคาญ”
จางตงเข้าใจทันทีว่าหลินฟานนั้นเริ่มที่จะอดทนไม่ได้ เขาจึงรีบตะโกนออกมา “หน่วยรักษาปลอดภัย! มาจับไอนี่ออกไป!”