เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 182 : ล้มละลาย!
ซ่งเจียซิน หลิวหยูหาง ซุนลู่กั่ว ถานเซิงหยู ต้วนเฉียน จางปินและคนอื่นๆได้ติดต่อผู้อาวุโสในครอบครัวของคืนนั้น และบอกเรื่องทั้งหมดให้ผู้อาวุโสฟัง
พวกเขาทั้งหมดเป็นทายาทสายตรงของตระกูล ครั้งนี้เป็นการกระทำร่วมกันของกองกำลังขนาดใหญ่จำนวนมาก ควบคู่ไปกับความสามารถในการลงทุนที่สุดยอดที่หลินฟาน แสดงให้เห็นไม่นานมานี้ เรื่องนั้นทำให้ตระกูลของพวกเขาได้รับผลกำไรมหาศาล
ส่วนเรื่องที่หลินฟานถูกหาเรื่อง…ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะปฏิเสธในการช่วยเหลือหลินฟาน
พายุลูกใหญ่กำลังจะเข้าปะทะกับอุ๊ปส์กรุ๊ป
เกี่ยวกับเรื่องนี้…
เกาเฟิงที่เป็นประธานนั้นไม่ได้รู้เรื่องเลย
วันรุ่งขึ้น เกาเฟิงมุ่งหน้าไปที่บริษัทเหมือนเดิม
เขามาที่สำนักงานอันกว้างขวางและเงียบสงบของประธาน ก่อนจะยกกาแฟอันหอมกรุ่นขึ้นมาดื่ม
จากนั้น เขาก็มองผ่านหน้าต่างออกไปยังพื้นถนนด้านล่างที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน
สีหน้าแห่งความพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเกาเฟิง
เพราะมุมมองแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เบื้องบน เป็นเหมือนกับพระเจ้าที่ควบคุมได้ทุกสิ่ง
“กริ๊งงง!”
ทันใดนั้น เสียงของโทรศัพท์ก็ดังก้องไปทั่วสำนักงาน เสียงนี้ทำลายความสุขเกาเฟิงลงในทันที
เกาเฟิงขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“มีอะไร?” เกาเฟิงพูดอย่างอารมณ์เสีย
“ท่านประธาน ไม่ดีแล้ว!” เสียงของผู้ชายที่เต็มไปด้วยความกังวลดังออกมาจากโทรศัพท์
“ไม่ดีอะไร! พูดให้ฉันเข้าใจสิ!” เกาเฟิงตะโกน
“ครับ… ผมขอโทษครับท่านประธาน” ชายคนนั้นพูด
“พูดมา” เกาเฟิงกล่าว
“ตลาดเกษตรเซิงไคหยุดการจัดหาผักและเนื้อสัตว์ให้กับบริษัทของเรา… ตอนนี้โรงแรมและร้านอาหารทั้งหมดของเรา…ไม่มีอาหารสดเหลืออยู่เลยครับ” ชายคนนั้นพูด
“ความต้องการรายวันของบริษัทของเรานั้นดีมากนะ หรือว่าตลาดเกษตรเซิงไคไม่ต้องการทำเงินอีกต่อไป?” เกาเฟิงถาม
“ไม่รู้ครับ” ชายคนนั้นพูด
เมื่อเกาเฟิงได้ยินคำตอบ เขาก็แทบจะสำลักออกมา
เขาพูดเสียงดัง “ถ้าอย่างนั้น นายก็ไปติดต่อหาตลาดเกษตรกรอีกแห่งมา!”
“ครับท่านประธาน” เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นรับรู้ได้ถึงความโกรธของเกาเฟิง มันทำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปอีก
หลังจากวางสาย เกาเฟิงก็พึมพัมออกมา “แค่ปัญหาเล็กๆแค่นี้ก็ต้องโทรมาหาฉัน งั้นฉันจะจ้างแกไว้ทำไมเล่า!!”
อย่างไรก็ตาม……
เกาเฟิงไม่ทราบว่าการโทรในครั้งนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด
“กริ๊งง!”
หลังจากเพิ่งวางสายไป เสียงโทรศัพท์ในสำนักงานก็ดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรอีก!” เกาเฟิงพูดอย่างไม่พอใจ
“ท่านประธาน ไม่ดีเลยค่ะ!” เสียงผู้หญิงดังออกมาจากทางโทรศัพท์
“ไม่ดีอะไรอีก! พูดออกมาให้ชัดเจน!” เกาเฟิงตะโกน
“ขอโทษค่ะท่านประธาน” ผู้หญิงคนนั้นพูด
เกาเฟิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านประธาน มีคลิปวิดีโอที่ทางเราได้ใช้น้ำมันเสียในการทำอาหารถูกปล่อยออกไปรับ ตอนนี้ทั้งอินเทอร์เน็ตกำลังคอมเมนต์ในเรื่องนี้กันอย่างดุเดือด” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยความตกตะลึง
“หา? เธอว่ายังไงนะ? มันโผล่มาได้ยังไง! ลบวิดีโอเดี๋ยวนี้!” เกาเฟิงตะโกน
“ค่ะ…ได้ค่ะ…” หญิงสาวตอบซ้ำๆ
หลังจากวางสายไปไม่นาน เสียงโทรเข้าก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านประธาน ไม่ดีเลยครับ!” เสียงของผู้ชายดังออกมาจากทางโทรศัพท์
เกาเฟิงอยากจะบอกว่า หยุดพูดคำว่า “ไม่ดีเลย”ออกมาซะทีเถอะ
แต่สุดท้าย เขาก็ต้องกัดฟันพูดตอบกลับไป “พูดมา!”
“หุ้นของเราตกลงครับ…” ชายคนนั้นกล่าว
“อะไรนะ?” เกาเฟิงอุทานด้วยความประหลาดใจ
ขีดจำกัดของหุ้นลดลง 10%!
มูลค่าทางตลาดของบริษัทคือหลายพันล้าน ซึ่งหมายความว่านี่เป็นการสูญเสียเงินหลายพันล้านในวันเดียว?
นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถยอมรับได้
“ตรวจสอบเรื่องนี้ด่วนเลย ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นได้!” เกาเฟิงพูดอย่างกังวล
“มันเป็นเพราะคลิปที่บริษัทของเราใช้น้ำมันเสียในการทำอาหารครับ” ชายคนนั้นพูด
เกาเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ฉันจะให้เงินนาย 200 ล้านหยวนไปจะซื้อหุ้นคืน ทำให้ราคาของหุ้นคงเสถียรภาพซะ! ฉันจะรีบไปประชาสัมพันธ์!”
“ได้ครับ!” ผู้ชายพูด
หลังจากที่เกาเฟิงวางสาย เขาก็ได้จัดสรรเงิน 200 ล้านหยวนให้กับฝ่ายการเงินทันที
เมื่อการโอนเงินสำเร็จ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“กริ๊งง!”
“ท่านประธาน แย่แล้ว! ธนาคารบอกว่าทางเรามีปัญหากับเงินกู้ วันนี้เราต้องคืนหนี้ค้างชำระ 1 พันล้านหยวน มิฉะนั้นทางธนาคารจะใช้มาตรการบังคับ” คนในโทรศัพท์พูดออกมาอย่างกังวล
“อะไร?” เกาเฟิงตะโกนด้วยความหวาดกลัว
ต้องรู้ก่อนว่า……
เงินทุนหมุนเวียนในบริษัทของพวกเขามีเพียง 300 ล้านหยวนเท่านั้น
และเขาก็ใช้ไปแล้ว 200 ล้านหยวนเพื่อที่จะซื้อหุ้นกลับคืนมา
ตอนนี้… จะเอาเงิน 1 พันล้านที่ไหนไปให้ธนาคาร?
เขาจะทำยังไงดี?
จากนั้น เกาเฟิงก็กดโทรศัพท์โทรไปหาธนาคาร
แต่อย่างไรก็ตาม ทัศนคติของธนาคารนั้นแย่มาก
เกาเฟิงรีบกดหมายเลขโทรศัพท์โทรหาฝ่ายการเงินและบอกว่าอย่าเพิ่งใช้เงิน 200 ล้านในการซื้อหุ้น…
อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปแล้ว…
เกาเฟิงรู้สึกหมดหนทาง…
เมื่อเป็นเช่นนั้น สุดท้าย อุ๊ปส์กรุ๊ปก็ยุบลงในเวลาเพียงสามวัน
…………
วันนี้……
เกาเจิ้นโปขับรถเฟอร์รารี่กลับบ้าน
หลังจากที่เกาเฟิงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเห็นเกาเจิ้นโปเข้า ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เขาตะโกนออกมาอย่างแรง “ลูกสารเลว แกยังกล้ากลับมาที่บ้านอยู่อีก!”
เมื่อเกาเฟิงพูดจบ เขาก็เตะไปที่เกาเจิ้นโปอย่างรุนแรง
“ตุบ!”
เกาเจิ้นโปรู้สึกเจ็บปวดและล้มลงกับพื้น
ผู้หญิงที่แต่งหน้าหนาๆที่อยู่ข้างๆก็ผลักเกาเฟิงออกไปและพูดเสียงแหลมขึ้นมาว่า “เกาเฟิง คุณตีลูกทำไม?!”
เกาเฟิงพูด “ตีมันทำไมอย่างงั้นหรอ? ถามมันเองสิว่ามันไปทำอะไรมา!”
ด้วยการสนับสนุนของผู้หญิงคนนั้น เกาเจิ้นโปก็พยายามลุกขึ้นมาจากพื้น
“พ่อครับ ผมทำอะไรผิดกันแน่?” เกาเจิ้นโปถามด้วยความสงสัย
“แกทำอะไรลงไปงั้นหรอ?” เกาเฟิงพูด “ก็ได้ ฉันขอถามแกหน่อยว่าแกรู้จักคนที่ชื่อหลินฟานรึเปล่า?”
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา อุ๊ปส์กรุ๊ปตกเป็นเป้าหมายและถูกกดขี่จากกองกำลังหลักมากมายในทุกด้านของการเงิน อาหาร การขนส่ง ความบันเทิง ฯลฯ
เกาเฟิงรู้สึกแปลกมาก เขาเลยใช้ความพยายามอย่างมากจนสืบหาและไปเจอว่าปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะลูกชายของเขา
“พ่อทุบตีฉันเพราะฉันทำให้หลินฟานขุ่นเคืองงั้นหรอ?” เกาเจิ้นโปพูดอย่างไม่พอใจ
แม้ว่าเกาเจิ้นโปจะได้แก้แค้นหลินฟานไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เขาคิดไปถึงตอนที่ถูกไล่ออกมา หัวใจของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความแค้น
ดังนั้น เกาเจิ้นโปจึงไม่พอใจอย่างมาก เมื่อคิดว่าเป็นเพราะหลินฟานที่ทำให้พ่อของเขาตีเขา
“นี่แกยังไม่รู้ตัวอีกรึไง!” เกาเฟิงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ขณะพูด เกาเฟิงก็ตบหน้าของเกาเจิ้นโปอีกที
“เพลี้ย!”
“เกาเฟิง คุณตีลูกอีกแล้ว!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนพร้อมกับเหยียดเล็บออกไปจิกที่แขนของเกาเฟิง
“อะไร!”
ทันใดนั้น รอยสีแดงก็ปรากฏขึ้นบนแขนของเกาเฟิง และเลือดก็ค่อยๆไหลออกมา
“หญิงโง่!” เกาเฟิงเหวี่ยงผู้หญิงคนนั้นออกไป
“คุณกล้าที่จะด่าและตีฉันงั้นหรอ! หย่า ฉันต้องการหย่ากับคุณ! “คุณหญิงร้องไห้พลางพูด
เกาเฟิงเองก็ตะโกนสวนกลับ “หย่าหรอ? ได้ ถ้าคุณอยากหย่าก็เชิญ!”
ผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยโกรธและพูดว่า: “เอาล่ะ! ในที่สุดคุณก็พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาแล้วใช่มั้ย เอาเลย! อุ๊ปส์กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นหลังจากที่เราแต่งงานกัน มันมีส่วนแบ่งของฉันครึ่งหนึ่ง! รีบโอนมาให้ฉัน!”
“ครึ่งนึง? ได้สิ แต่นั่นต้องเป็นตอนที่อุ๊ปส์กรุ๊ปของเรายังไม่จบสิ้น!” เกาเฟิงเย้ยหยัน
“คุณหมายถึงอะไร?” ผู้หญิงถามด้วยความสงสัย
“หมายความว่ายังไงหรอ? คุณก็ถามลูกชายสุดที่รักของคุณสิ! เขาไปหาเรื่องหลินฟาน จนทำให้อุ๊ปส์กรุ๊ปของเราต้องจบสิ้นยังไงละ!” เกาเฟิงตะโกนเสียงดัง
เงียบ!
ทั้งบ้านก็เงียบลงในทันใด
ผู้หญิงคนนั้นและเกาเจิ้นโปตกตะลึงอย่างสมบูรณ์