เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 5 : เรื่องไร้สาระ!
เมื่อมีเพื่อนในห้องเรียนพูดออกมาแบบนี้ ทุกคนก็เหลือบไปมองหลินฟาน ด้วยท่าทางเย้ยหยันอย่างไม่รู้ตัว
ในตอนนั้น พวกเขาก็เริ่มตีตัวออกห่างจากหลินฟาน
เหมือนกับว่าถ้าพวกเขาอยู่ใกล้หลินฟานมากเกินไปจะเป็นการทำให้ตัวตนของพวกเขาตกต่ำลง
ยกเว้น ฉินหยู่ซวน
หลังจากเข้าไปในห้อง ด้วยสายตาที่เฉียบคมของฉินหยู่ซวน เธอก็รู้ตัวได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเห็นหลินฟาน เธอหยุดนิ่งและจ้องมองเขาอยู่หลายวินาทีจนดวงตาของทั้งสองคนนั้นได้สบตากัน
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มเล็กน้อย ณ เวลานี้ ทุกอย่างเงียบสงบลง
ไม่นานอาหารเลิศรสก็มาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ เช่น สเต็กซี่โครงนุ่มๆ ปลานึ่ง หมูย่างถ่าน และอื่นๆ
“วันนี้น่าจะมีคนมาเยอะนะ… เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเราไม่ค่อยได้มารวมตัวกัน ฉันขอให้พวกเราทุกคนสนุกกับงานและร่วมฉลองไปด้วยกัน!”
“ชนแก้ว!”
“ทุกคนดื่ม!”
การรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้นเริ่มขึ้นอย่างสนุกสนาน
ขณะที่ทุกคนกำลังจะเริ่มกิน หูจินซงซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตก็เดินเข้ามา
ก่อนอื่นเขาวางกุญแจบีเอ็มดับเบิลยู ที่ถือไว้ในมือลงบนโต๊ะ
จากนั้นเขาก็กำมือทั้งสองข้างแล้วพูดว่า: “ขอโทษนะเพื่อนร่วมชั้นทุกคน ฉันมาสายเนื่องจาก รถติดไปหน่อย”
“ฉันจะลงโทษตัวเอง !”
หลังจากที่หูจินซงพูดจบ เขาเทไวน์ใส่แก้วให้ตัวเองแล้วยกดื่มทันที
“หูจินซง ไม่เป็นไรหรอก! นี่คุณซื้อ BMW มาหรอเนื่ย!” หวังห่าวฉีกล่าว
“เป็นแค่ บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์ 5 เท่านั้น ไม่เท่าไหร่หรอก” หูจินซง โบกมืออย่างสบายๆ
“ซีรี่ย์ 5 ก็ถือว่าเป็นรถหรูอยู่ดี!” หวังห่าวฉี กล่าว
“นี่มันจะนับเป็นรถหรูได้ยังไง” หูจินซง โบกมือของเขาไปมาและพูดว่า “พวกนายไม่รู้หรอกว่ารถอะไรจอดอยู่ข้างๆฉันตรงที่ฉันเพิ่งจอดรถ! มันคือ ลัมโบร์กินี!”
“บ้าจริง! ลัมโบร์กินี มีรถคันนี้ในเจียงเป่ยด้วยหรอ” เซินเหลียงกล่าวด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
หูจินซง พยักหน้าและพูด: “ใช่ ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น! ลัมโบร์กินี ที่นี่ ราคาของมันอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านหยวน! ใครกันนะที่เป็นเจ้าของรถคันนั้น!”
“รถบีเอ็มดับเบิลยู ของฉันมีแรงม้าเพียง 252 แรงม้า เทียบไม่ได้กับลัมโบร์กินีที่มีเครื่องยนต์ V12 กำลัง 700 แรงม้าเต็ม และอัตราเร่ง 2.8 วินาทีจาก 100 เมตร มันวิ่งได้เร็วเหมือนจรวจเลย!”
หูจินซงยิ่งพูดยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้น หูจินซงก็เหลือบมองไปที่คนในห้อง
เมื่อเขาเห็น ฉินหยู่ซวนที่หน้าตาเหมือนนางฟ้า แววตาของเขาก็เปร่งประกายขึ้นเล็กน้อย
“ฉินคนสวย ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะมางานเลี้ยงรุ่นในวันนี้ด้วย ผมไม่ได้เจอเธอมาสองสามปีแล้ว คุณสวยขึ้นมากจริงๆ!”
อย่างไรก็ตาม ฉินหยู่ซวน ยิ้มตอบอย่างสุภาพและไม่ได้พูดคุยกับเขามากนัก
หูจินซง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอาย จากนั้นเขาก็มองไปที่หยางเหวินจิง และสามีของเธอที่แต่งตัวแบบจัดเต็ม
“หยางเหวินจิงกับบอสตู่! ฉันไม่ได้คิดเลยว่าคุณสองคนก็จะมาด้วย! เป็นวันที่หายากจริงๆ ดีจริงๆที่ฉันมา! วันนี้ฉันขอดื่มอวยพรให้พวกคุณ” หูจินซง ยกแก้วขึ้นและพูด
หวางห่าวฉีถาม “หูจินซง คุณรู้จักสามีของหยางเหวินจิงมาก่อนหรอ”
“รู้จักสิ! บอสตู่ เป็นคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียง! แม้แต่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์5 ของฉันก็ยังถูกซื้อมาจากบอสตู่! คุณรู้หรือป่าวว่าบอสตู่ขับรถรุ่นอะไร? ปอร์เช่ คาเยนน์ ยังไงหล่ะ!” หูจินซองกล่าว
“สุดยอดเลย! แม้แต่รถที่ขับ ก็ยังเป็นรถสุดหรู!” หวังห่าวฉีกล่าว
ตู่เล่ยที่ลูบท้องอ้วนๆของเขา ยิ้มและพูดว่า: “ปอร์เช่ดูไม่มีค่าเลยถ้าเทียบลัมโบร์กีนี… แต่อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้คนรวยไม่ค่อยเล่นรถกันแล้ว พวกเขาเล่นนาฬิกา”
ขณะที่ตู่เล่ยกำลังพูด เขาได้โชว์ โรเล็กซ์ สีทองบนข้อมือของเขา
หูจินซง กล่าว “นั่น โรเล็กซ์! เขาใส่โรเล็กซ์อยู่ด้วย! อย่างที่มีคนบอกไว้ว่า คนจนเล่นรถ คนรวยเล่นนาฬิกา! สมกับเป็นบอสตู่!”
“โรเล็กซ์? นอกจากนี้มันยังเป็นสีทอง ดูแพงมาก” มีคนกระซิบ
ตู่เล่ยพูดอย่างภาคภูมิใจ: “ไม่แพงขนาดนั้นหรอกแค่ไม่กี่แสน”
หูจินซง ยกนิ้วให้และพูดว่า “นาฬิกาเรือนละหลายแสน! หยางเหวินจิงก็สวยมาก คุณทั้งคู่ทั้งหล่อและสวย เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก!”
“พูดถึงเรื่องนี้ ก็อดนึกถึงหลินฟานไม่ได้ เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเรามาก่อน แค่อาศัยว่าตัวเองมีหน้าตาหล่อเหลานิดหน่อย เขายังเคยตามตื้อหยางเหวินจิงอีกด้วย โชคดีที่ หยางเหวินจิงไม่เล่นด้วย…”
เพื่อเอาใจหยางเหวินจิงและตู่เล่ย หูจินซงได้กล่าวยอหยางเหวินจิงโดยตรง โดยไม่สนใจแพะอย่างหลินฟานแม้แต่น้อย เขาแต่งเรื่องว่าหลินฟาน คอยตามตื้อหยางเหวินจิง หลินฟานกลายเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมในการเปลี่ยนเป็นขาวเป็นดำ
หยางเหวินจิง พูด “แน่อยู่แล้วว่าฉันไม่เล่นด้วย! แค่หล่อนิดหน่อยไม่เห็นจะมีดีอะไร ฉันถูกลิขิตให้แต่งงานกับตู่เล่ย”
ขณะพูด หยางเหวินจิงยกกระเป๋ากุชชี่ขึ้นมา และมองไปที่หลินฟานอย่างดูถูก
ดูสิหลินฟาน คุณกล้าปฏิเสธฉันในตอนนั้น? ในสายตาของฉันตอนนี้ คุณเป็นเพียงแค่คนจนๆคนนึง!
จากนั้นพวกเขาก็สังเกตุอาการของหลินฟาน แต่หลินฟานก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกไป
หลินฟาน แตะที่คางของเขาและเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง “ตอนนั้นที่ผมคอยตามหยางเหวินจิง ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นพวกชอบโชว์ โอ้ ดูเหมือนว่าจะมีไฝอยู่สามจุดตรงส่วนนั้นของเธอด้วย”
การแสดงออกของตู่เล่ยเริ่มน่าเกลียด หลังจากได้ยินเรื่องนี้
ไฝสามจุด?
นั่นคือจุดที่เป็นส่วนตัวที่สุดของ หยางเหวินจิง!
หยางเหวินจิง เป็นพวกชอบโชว์ และเสนอร่างกายให้หลินฟาน?
ในตอนแรก ตู่เล่ยแต่งงานกับหยางเหวินจิงเพราะคิดว่าเธอยังบริสุทธิ์และน่ารัก
เธอไม่ได้บริสุทธิ์?
หยางเหวินจิงรีบพูดว่า: “สามี อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระ … ”
“ฮึ!” ตู่เล่ยถอนหายใจแรงและเพิกเฉยต่อเธอ
ในเขณะนั้น ดูเหมือนหูจินซงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าหลินฟานอยู่ที่นี่และพูดว่า “หลินฟาน นายก็อยู่ที่นี่ด้วย? หยางเหวินจิงเป็นผู้หญิงที่สวยในห้องเรียน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายจะชอบเธอ ใครกันจะไม่ชอบเธอในห้องเรียนของเรา?”
“เราแค่พูดถึงเรื่องเล็กๆสมัยที่เรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยม นายคงไม่โกรธเรื่องนี้ใช่ไหม”
หลินฟาน กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะพูดถึงเรื่องเล็กๆ ในสมัยมัธยมปลายด้วยแล้วกัน”
“คุณจำป้าหวางได้ไหม เมื่อหูจินซงอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับป้ามาเป็นเวลานาน… ตอนนี้หล่ะยังอยู่ด้วยกันไหม”
“ว้าว!”
ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา ทุกคนก็มองไปที่หูจินซงด้วยสายตาที่ตกตะลึง
ป้าหวางคนนั้นอายุประมาณสี่สิบปี เตี้ยและอ้วน ฉันได้ยินมาว่า…เธอไม่เคยมีความเพศสัมพันธ์มาก่อน
หลายคนชอบเรียกเธอว่า ‘ยายแก่ขึ้นคาน’
หูจินซงมีอะไรกับผู้หญิงแบบนี้ จะไม่เลือกสักหน่อยหรอ?
รสนิยมของเขาแปลกมาก?
ในขณะนั้น เพื่อนที่อยู่ในห้องเรียนและหอพักของ หูจินซง จำได้ว่าพวกเขาเคยเล่นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่กับหูจินซง จนถึงเที่ยงคืนอยู่หลายครั้ง
หูจินซงเดินมักจะเดินโซเซเข้าไปในหอพัก
ในตอนนั้น เขารูัสึกโชคดีที่ป้าหวางลืมปิดประตู
ตอนนั้นดูเหมือนว่าป้าหวางผู้ดูแลจะไม่ได้ล็อคประตู เพราะเธอจงใจเปิดประตูทิ้งไว้ให้หูจินซงโดยเฉพาะ!
ใบหน้าของ หูจินซงหน้าแดงและตะโกนออกมา “หลินฟาน นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่!”
ทุกคนเข้าใจทันทีว่ามันหมายถึงเรื่องอะไร
ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง