เศรษฐีผู้ร่ำรวย:เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 58 : ซื้อบ้าน
หลินฟานพูดคุยกับแอร์โฮสเตสสาวขณะขับรถ บรรยากาศในรถนั้นผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
และในช่วงเวลานี้ ทั้งสองก็ได้เริ่มแนะนำตัวกัน
จากนั้นหลินฟานก็ได้รู้ว่าแอร์โฮสเตสสาวมีชื่อว่าฉิวจือเฉียน
ตามที่ฉิวจือเฉียนบอก บ้านของเธออยู่ใกล้ๆนี้เอง
ประมาณสิบนาทีเท่านั้น หลินฟานก็ขับมาถึงชุมชนที่ค่อนข้างเก่าเล็กน้อย
สภาพแวดล้อมของชุมชนนี้ไม่ค่อยดีนักเท่าไหร่ แต่สถานที่ที่ฉิวจือเฉียนอาศัยอยู่นั้นค่อนข้างจะสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อย
ฉิวจือเฉียนแนะนำ “นี่คือบ้านที่ฉันเช่าร่วมกับแอร์โฮสเตสอีกคนหนึ่ง แต่วันนี้เธอพึ่งบินไปต่างประเทศและน่าจะกลับมาในอีกสองสามวันข้างหน้า”
ตอนนั้นเอง เธอก็บังเอิญเห็นไวน์แดงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะพอดีจึงหันไปถามหลินฟานว่า “คุณอยากดื่มไวน์ไหม?”
หลินฟานพยักหน้าตกลง
“ป่อก!”
ไวน์แดงค่อยๆถูกรินลงในแก้ว
จากนั้นหลินฟาน ก็หยิบแก้วไวน์แดงขึ้นมาแล้วเขย่าเบา ๆ เขาวางมันไว้ใต้จมูกแล้วสูดดมกลิ่นเหมือนทุกครั้ง
ต่อมาเขาก็ค่อยๆเทมันเข้าไปในปากของเขา
การเคลื่อนไหวของหลินฟานอ่อนโยนและสง่างามเหมือนอย่างเคย
ราวกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ที่ทรงเสน่ห์อย่างยิ่ง
ทักษะยอดนักดื่ม!
เดิมที ฉิวจือเฉียนต้องการใช้ไวน์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดีขึ้น
แต่ ณ เวลานี้ เธอสับสนและหลงเสน่ห์ของหลินฟานเป็นที่เรียบร้อย
【ติ๊ง! ออร่าเสน่ห์ กระตุ้นความรัก รักแล้วไม่สามารถลืมได้ 】
ในที่สุด ฉิวจือเฉียนก็ไม่สามารถเก็บความรู้สึกของเธอเอาไว้ได้ จากนั้นเธอได้กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของหลินฟาน
พระอาทิตย์ส่องแสง นกกางปีก และหญ้าที่พริ้วไหวไปมา
…………
ในชั่วพริบตานั้น พลบค่ำก็มาเยือน
ฉิวจือเฉียนเช็ดน้ำตาแห่งความสุขที่ไหลออกมาจากหางตาของเธอ และได้ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบาก
หลินฟานถาม “คุณสบายดีใช่ไหม คุณควรพักต่ออีกสักนิดนะ”
ฉิวจือเฉียนพูดอย่างแผ่วเบา”ฉันสบายดี คุณหิวอะไรหรือป่าวฉันทำอาหารให้คุณกินได้นะ”
“คุณทำอาหารเป็นด้วยงั้นหรอ” หลินฟานถามด้วยความประหลาดใจ
ต้องบอกก่อนว่า คนหนุ่มสาวสมัยนี้แทบจะไม่เคยเข้าครัวกันเลย
และโดยทั่วไปแล้วสาวสวยอย่างฉิวจือเฉียนก็ไม่เหมือนกับคนที่จะทำอาหารเป็น
ฉิวจือเฉียนกล่าวว่า “ทานอาหารนอกบ้านมื้อเดียวมันแทบจะใช้เงินเท่ากับการทำอาหารกินเองที่บ้านหนึ่งวันเลยนะ แล้วถ้าอยากจะพิชิตใจชายก็ต้องพิชิตท้องเขาให้ได้ซะก่อน ฉันเลยตั้งใจฝึกฝนการทำอาหารเป็นอย่างดี”
หลินฟานได้ยินแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
หลังจากนั้นฉิวจือเฉียนก็ได้เข้าครัวเพื่อไปทำอาหาร
ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เธอก็นำอาหารที่ดูน่าอร่อยๆออกมาเสิร์ฟหลินฟาน
“รสชาติดีมากเลย!” หลินฟานอุทานด้วยความชื่นชม
ฉิวจือเฉียนเองก็มีความสุขมากหลังจากที่ได้ยินคำชม เธอพูดว่า “ถ้าคุณชอบ ก็กินให้เยอะๆเลยนะ ถ้าไม่พออิ่มเดี๋ยวฉันจะทำมาเพิ่มให้อีก ”
“ได้สิ งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ” หลินฟานกล่าว

หลังจากนั้น ข้าวเปล่าสองจานและกับข้าวอีกห้าอย่างก็ถูกหลินฟานกินจนหมด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอิ่มและความพึงพอใจ
“ต่อก ต่อก ต่อก!”
ทันใดนั้น ก็ได้มีเสียงดังมาจากนอกหมูบ้าน
หลินฟานเดินตรงไปที่หน้าต่าง เขามองไปยังรถขุดที่อยู่ไม่ไกลแล้วถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
ฉิวจือเฉียนพูด “แถวนี้กำลังมีการสร้างถนนอยู่พอดี เลยมีเสียงดังนิดหน่อยน่ะ”
“สภาพแวดล้อมที่นี่เลวร้ายเกินไปจริงๆ ให้ผมหาที่อยู่ใหม่ให้คุณมั้ย” หลินฟานกล่าว
ฉิวจือเฉียนยิ้มและพูดว่า “คุณต้องการให้ฉันไปอาศัยอยู่ในบ้านของคุณหรอ”
หลินฟานพูด “ไม่ใช่อย่างนั้น ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทลัยเจียงเป่ย และอาศัยอยู่ที่หอพัก … ”
เมื่อฉิวจือเฉียนได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เต็มไปด้วยความสงสัย
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ผู้ชายที่ใส่แต่เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัว ทั้งยังใส่นาฬิกา วาเชอรอง คอนสแตนติน ตูร์เดล และขับรถหรูอย่างลัมโบร์กินี่จะยังคงเป็นนักศึกษาอยู่
ฉิวจือเฉียนพูดอย่างสงสัย “ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจะสามารถหาที่อยู่ให้ฉันได้จริงหรอ?”
หลินฟานยิ้มและแตะจมูก เขาคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร
หลังจากนั้นหลินฟานก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและกดเบอร์ของผู้จัดการหานเทียน
……
สำนักงานเหลียนเจีย ณ ห้องประชุม
หานเทียน ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะได้หยิบเอกสารขึ้นมา และเริ่มอธิบายอย่างละเอียดถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องของบริษัทและสภาวะการตลาด
พนักงานทุกคนเองก็ตั้งใจฟังอย่างรอบคอบและทำการจดบันทึกอยู่ตลอด
“กริ๊งงง!”
ตอนนี้ โทรศัพท์ของหานเทียน ได้ส่งเสียงดังขึ้นมา
แต่หลังจากที่เห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์ เธอก็แสดงสีหน้าออกมาทันที เธอตกใจเป็นอย่างมาก
หานเทียนโยนเอกสารในมือลงทันทีและกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“คุณหลิน สวัสดีค่ะ” หานเทียนพูดเบาๆ
“คุณหานสบายดีไหม ผมโทรมาเพื่อถามคุณเกี่ยวกับเรื่องบ้าน พอจะมีบ้านพักที่มีสภาพแวดล้อมดีๆบ้างหรือป่าว” หลินฟานกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
หานเทียนคิดอยู่สักแปปก่อนจะพูดว่า “ถ้าคุณไม่ได้เจาะจงพื้นที่มาโดยเฉพาะ งั้นฉันขอแนะนำพื้นที่แถวชุมชนยี่เกอ และชุมชนเฉียวหูนะคะ”
“ชุมชนทั้งสองนี้ถือว่าเป็นชุมชนสีเขียวและเป็นที่ดินที่ดีที่สุดในจังหวัดเจียงเป่ย”
“มันตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยม มีสวนสาธารณะอยู่ภายในระยะสิบกิโลเมตร มีธุรกิจขนาดใหญ่ โรงพยาบาล และเรื่องของการเดินทางเองก็สะดวกมากเช่นกัน”

“นอกจากนี้ ชุมชนยี่เกอและชุมชนเฉียวหูยังขายแฟลตขนาดใหญ่ที่มีขนาดกว่า 150 ตารางเมตร ดังนั้นจึงสะดวกสบายมากที่จะอาศัยอยู่ที่นั่น”
หากถ้าเป็นคนธรรมดาที่เข้ามาถาม หานเทียนจะไม่แนะนำชุมชนยี่เกอและชุมชนเฉียวหูอย่างแน่นอน
เพราะอะไรงั้นหรอ……
ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมที่ตั้งของชุมชนยี่เกอและชุมชนเฉียวหูนั้นไร้ที่ติมาก
แต่ว่าราคาของมันก็สูงมากเช่นกัน
แต่หลินฟานนั้นแตกต่างออกไปจากคนปกติพวกนั้น
เขาเป็นถึงเจ้าของคอนโดทั้งหลังในหว่านเจีย และด้วยราคาเพียงเท่านี้สำหรับเขามันคงจะเป็นเรื่องเล็กมากๆ
เป็นไปตามที่หานเทียนคาดเอาไว้
หลังจากที่หลินฟานได้ฟัง เขาก็พยักหน้าทันทีและพูดว่า “คุณสรวจสอบให้หน่อยว่าทั้งสองชุมชนนี้ยังมีบ้านว่างอยู่หรือป่าว”
“มีค่ะ” หานเทียนยืนยัน
“คุณกำลังมีเรื่องยุ่งๆอยู่หรือป่าว ถ้าคุณไม่ว่างก็ส่งคนมาแนะนำบ้านให้ผมแทนก็ได้นะ” หลินฟานกล่าว
แม้ว่าหานเทียนจะเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย แต่เธอมีความเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นคนแนะนำบ้านให้หลินฟาน
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังยุ่งอยู่ หลินฟานเองก็ไม่อยากรบกวนเธอเช่นกัน
และหูเทียนก็ได้ตอบกลับมา “ฉันไม่ยุ่งเลยค่ะ ตอนนี้ฉันว่างพอดีเลย… ถ้างั้นเราไปเจอกันที่ชุมชนยี่เกอเลยดีมั้ย? คุณคิดว่าไง”
“ดีเลย” หลินฟานกล่าว
หานเทียนวางสายแล้วได้ลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “สรุปเนื้อหาด้วยตัวเองกันไปก่อนนะ”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็รีบเดินออกไปจากห้องประชุมทันที
เหลือเพียงกลุ่มพนักงานในห้องประชุมที่กำลังสับสนมึนงงกันอยู่
ผู้จัดการหานเทียนเพิ่งจะเป็นคนบอกเองแท้ๆ ว่าการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ?
แต่ให้มาสรุปเองเนี่ยนะ?
เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้อมูลในเอกสารนั่นมันคืออะไร แล้วเราจะสรุปกันได้ยังไง?
……
หานเทียนไม่มีทางรู้ความคิดของพนักงาน
หลังจากที่เธอได้ออกจากสำนักงาน เธอก็ขับรถ BMW 530LI สีแดงตรงไปยังชุมชนยี่เกอด้วยความรวดเร็ว
ตอนนี้หานเทียนได้มาถึงเป็นที่เรียบร้อย แต่เหมือนหลินฟานจะยังไม่มา
ระหว่างที่รอ เธอจึงหยิบกระจกสำหรับแต่งหน้า ลิปสติก และรองพื้นแล้วได้แต่งหน้าอยู่ข้างในรถ
“บรื้นน!”
เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังมาจากระยะไกล หานเทียนก็สังเกตเห็นลัมโบร์กินี่ สุดเท่ของหลินฟานที่กำลังขับตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
เธอจึงรีบเปิดประตูและลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ลัมโบร์กินี่ได้หยุดลง หลินฟานก็ได้เปิดประตูลงมาแล้วกล่าวทักทาย “ผู้จัดการหานคุณมารอนานแล้วหรือยัง”
หานเทียนส่ายหัวแล้วยิ้ม “ไม่นานเลยค่ะ ฉันเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง”
ในวินาทีต่อมา ร่างกายของหานเทียนก็ถึงกับแข็งทื่อทันที
เพราะมีสาวสวยคนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแลมโบกินีของหลินฟาน
และนอกจากนี้ สาวสวยคนนี้ยังก้าวเข้ามาจับแขนของหลินฟานด้วยความรักใคร่