เศรษฐีผู้ร่ำรวย เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 102 : เจ้าชาย
ตอนนั้นเอง ซงหยี่ที่เต็มไปด้วยเหงื่อก็บังเอิญถือลูกบาสเก็ตบอลและเดินเข้ามาพอดี
“พี่ฟาน เมื่อไหร่พี่จะมาเล่นบาสด้วยกันอีก”
หลินฟานพูด “ไว้มีโอกาสแล้วฉันจะไปเล่นแล้วกันนะ…”
ซงหยี่พูดอย่างมีความสุข “ฉันจำคำที่พี่พูดไว้แล้วนะ อย่าลืมล่ะ!”
ในความคิดของซงอี้…
การเล่นบาสกับหลินฟาน ก็เหมือนกับการได้รังแกผู้คน!
และซงยี่ก็ชอบรังแกผู้อื่น
เมื่อซงหยี่หันกลับมา เขาก็เห็นหูชวนคณบดีของแผนกคณิตศาสตร์และคนอื่นๆ
เขารีบพูด “สวัสดีครับ คณบดีหู”
แม้ว่าข้างหูชวนจะมีอาจารย์ใหญ่เซินเหลียง กับรองอาจารย์ใหญ่เฟิงเว่ยเจี้ยน และแม้แต่ผู้ว่าการจังหวัดเจียงเป่ยเจียวหยาง …
อย่างไรก็ตาม ซงหยี่เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง เขาเลยไม่รู้จักคนเหล่านี้สักคนเดียว
เหตุผลที่เขารู้จักหูชวน ก็เพราะหูชวนเคยมาที่หอพักชายเมื่อไม่นานมานี้
ดูเหมือนหลินฟานจะพึ่งนึกออกว่าหูชวนเพิ่งเรียกตัวเอง เขาจึงถาม”คณบดีหู มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
หูชวนเปิดปาก แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี
หลินฟานบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการถูกสัมภาษณ์
แต่ตอนนี้ ฉันปล่อยให้เขาถูกสัมภาษณ์อีกครั้ง เรื่องนี้มันอาจจะทำให้เขารังเกียจ
ถ้าหลินฟานตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยเพราะเรื่องนี้ ฉันควรทำยังไงดี?
คุณรู้ไหมว่า หลินฟานไม่ได้เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยตั้งแต่แรก
และอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์อย่างเขา ไม่ว่าเขาจะไปที่มหาวิทยาลัยไหน ทุกคนก็จะต้อนรับเขาเป็นอย่างดีแน่นอน
เฟิงเว่ยเจี้ยน รองอาจารย์ใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างหลังนั้นไม่ได้คิดมาก
เขารีบแนะนำ “นักศึกษา หลินฟาน นี่คือผู้ว่าของจังหวัดเจียงเป่ย!”
“ผู้ว่าให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับพรสวรรค์ เขารู้ว่าคุณได้รับรางวัลระดับถ้วยอุดมศึกษา แล้วยังตอบปริศนาของโจวกับการคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่ได้อีก เขาจึงนำนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์เจียงเป่ยมาสัมภาษณ์คุณเป็นพิเศษ และเขาจะให้โบนัสคุณเป็นการส่วนตัว รีบไปทักทายท่านผู้ว่าเร็วๆสิ”
ในขณะที่เฟิงเว่ยเจี้ยงพูดนั้น น้ำเสียงของเขาสั่นเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนว่าผู้ว่าต้องการให้โบนัสแก่เขา
เมื่อซ่งหยี่ที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยิน เขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
ผู้ว่าการจังหวัดเจียงเป่ย?!
ที่เป็นคนใหญ่คนโต!
นอกจากนี้ยังมีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์เจียงเป่ยมาสัมภาษณ์?
หลินฟานขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “สัมภาษณ์? ผมไม่ชอบการสัมภาษณ์”
เมื่อเฟิงเว่ยเจี้ยนได้ยินสิ่งที่หลินฟานพูด รอยยิ้มของเขาก็กระตุกเล็กน้อย
ที่ฉันพูดไปมันยังไม่ชัดเจนพออีกหรอ?
กล้าปฏิเสธตรงๆเลยหรอเนี่ย?
นี่เขากล้าปฏิเสธคำขอของผู้ว่าต่อหน้าได้ยังไงกัน?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของเฟิงเว่ยเจี้ยนก็เริ่มมีความไม่พอใจ และกำลังจะเริ่มพูดกับหลินฟานอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้น ผู้ว่าเจียวหยางก็รีบเดินเข้ามาและพูดว่า “ถ้าหลินฟานไม่ชอบการถูกสัมภาษณ์ ก็ไม่ต้องสัมภาษณ์เขาหรอก มันก็เป็นทางเลือกที่ดีนะที่เขาจะไม่ถูกสัมภาษณ์!”
“หากเขาถูกสัมภาษณ์ ชีวิตและการเรียนของเขาคงจะได้รับผลกระทบอย่างมาก!”
ทันทีที่คำพูดนี้ได้ถูกพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ต่างตกตะลึง
เจียวหยางเคยพูดเอาไว้ ว่าเขาควรได้รับเกียรติไม่ใช่หรือไง?
คุณไม่ได้บอกหรอว่าคุณต้องการให้เขาเป็นแบบอย่างให้กับจังหวัดเจียงเป่ยและคนทั้งประเทศ?
ถ้านักศึกษาไม่ชอบถูกสัมภาษณ์ก็ไม่ต้องสัมภาษณ์งั้นหรอ?
สถานการณ์ในตอนนี้คืออะไร?
อะไรคือเป็นทางเลือกที่ดีที่จะไม่สัมภาษณ์ การสัมภาษณ์จะส่งผลเสียต่อชีวิตและการเรียนของเขางั้นหรอ?
เกิดอะไรขึ้น?
เจียวหยางเพิกเฉยต่อทุกคนที่กำลังตกใจอยู่และตะโกนบอกนักข่าวที่อยู่ห่างไกลออกไป “หยุดถ่ายภาพ ถ้าในกล้องของพวกคุณมีภาพของหลินฟานก็ลบออกให้หมดเดี๋ยวนี้!”
ในหัวใจของเจียวหยางนั้นคิดว่าภูมิหลังของหลินฟานจะต้องลึกลับอย่างมากแน่นอน
และในกรณีที่หลินฟานเป็นคนที่ไม่สามารถออกทีวีได้ แล้วถ้าเขาเป็นคนทำให้หลินฟานต้องออกกล้อง ผลที่ตามมา…จะต้องแย่มาก
และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาคิดก็ตาม แต่ถ้าหลินฟานไม่ชอบการถูกสัมภาษณ์ เขาก็จะไม่ให้นักข่าวมาสัมภาษณ์หลินฟานเด็ดขาด!
ร่างของนักข่าวที่อยู่ห่างไกลออกไปก็สั่นสะท้านด้วยความตกใจ พวกเขารีบเปิดกล้องและลบภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด
เมื่อเจียวหยางเห็นสิ่งนี้ เขาก็โล่งใจแล้วหันไปโน้มตัวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างประจบสอพลอก่อนจะพูด “ฉันได้ยินมานานแล้วว่ามีอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ปรากฏตัวขึ้นในเจียงเป่ย นายไม่โกรธฉันใช่ไหม”
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
สถานการณ์ตอนนี้คืออะไร?
เป็นเรื่องหายากที่ผู้ว่าการจังหวัดเจียงเป่ยจะมาเยี่ยมเยียนนักศึกษาด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้เขากลับเริ่มทักทายและขอโทษหลินฟาน?
เกิดอะไรขึ้น?
หลินฟานเหลือบไปที่เจียวหยาง เขาจำได้ว่าเคยพบกับเจียวหยางที่โรงแรมเจียงเป่ยเมื่อวานนี้
จากนั้นเขาก็เปิดปากและพูด “ท่านผู้ว่าสุภาพเกินไปแล้ว”
เจียวหยางรีบพูดต่อ “เรียกด้วยชื่อผู้ว่านั้นดูห่างเหินกันเกินไปแล้ว ฉันแก่กว่า ถ้างั้นก็เรียกฉันว่าเหลาเจียวก็ได้”
เรียกผู้ว่าการจังหวัดเจียงเป่ยว่า…เหลาเจียว?
ทุกคนที่ได้ยินต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
หลินฟานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอเรียกคุณว่าพี่เจียวก็แล้วกัน”
เมี่ยเจียวหยางได้ยินคำที่หลินฟานเรียก เขาก็พูดตอบกลับไปอย่างมีความสุข “ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขอเรียกนายว่าน้องหลินนะ”
จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ก่อนอื่น ขอแสดงความยินดีน้องหลินที่การแก้ปัญหาตอบปริศนาของโจวกับการคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่ได้ พวกเราได้เตรียมโบนัสเล็กๆไว้ให้แล้ว ฉันหวังว่านายจะรับมันไป”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยื่นเช็คจำนวน 500,000 หยวนให้กับหลินฟาน
หลินฟานเองก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่ท้ายที่สุดนี่คือความเมตตาของผู้อื่น ดังนั้นเขาจึงรับเช็คมาอย่างไม่เต็มใจและพูด “ขอบคุณ พี่เจียว”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก…” เจียวหยางพูดซ้ำๆ
จากนั้น เจียวหยางก็กำลังจะหาเรื่องคุยต่อ
“ตืดดด!”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเจียวหยางก็ดังขึ้นมาพอดี
เจียวหยางรู้สึกอารมณ์เสียอย่างมากที่ถูกขัดจังหวะขณะกำลังพูดคุยกับหลินฟาน
เขาจึงตั้งใจที่จะกดวางสาย
แต่พอเห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา เขาก็เกิดความลังเลขึ้นแล้วหันไปขอโทษ “น้องหลิน ขอฉันรับโทรศัพท์ก่อนนะ…”
หลินฟานไม่คิดมากแล้วพูด “พี่เจียว พี่รับสายก่อนเถอะ”
เมื่อเจียวหยางได้ยินคำตอบของหลินฟาน เขาก็กดรับโทรศัพท์ทันที
“อะไรนะ?”
“เป็นยังไงบ้าง?”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว!”
หลังจากที่เจียวหยางวางสาย ใบหน้าของเขาก็มีรอยย่นอยู่เต็มทั้งหมด
หลินฟานพูด “พี่เจียว พี่ไปจัดการเรื่องนั้นก่อนเถอะ ผมเองก็ต้องไปเรียนด้วย”
เจียวหยางพูด “ถ้างั้นก็ ไว้เจอกันนะน้องหลิน”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเขามีบางอย่างที่ต้องรับไปจัดการ
อาจารย์ใหญ่เซินเหลียง คณบดีหูชวน รองอาจารย์ใหญ่เฟิงเว่ยเจี้ยง และคนอื่น ๆ มองไปที่หลินฟานอย่างลึกซึ้ง และกำลังจะเปิดปากของพวกเขาเพื่อจะถามอะไรบางอย่าง
แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าพูดออกไป
พวกเขาแค่พูดบอกลากันและก็ค่อยๆจากกันไป
ซึ่งในไม่ช้าก็มีเพียงหลินฟาน และซงหยี่ที่กำลังตกตะลึงหลังจากได้เห็นเหตการณ์ทั้งหมด
จากนั้นหลินฟานก็ตบไหล่ของซงหยี่และพูด “นายทำอะไรอยู่ ไปที่ห้องเรียนกันเถอะ!”
ซงหยี่เพิ่งกลับมารู้สึกตัวและอดไม่ได้ที่จะพูด“พี่… พี่ฟาน พี่คือสี่นายน้อยในตำนานของปักกิ่งหรือเปล่า?”
เหตการณ์ทั้งหมดยังคงติดตาของซงหยี่อยู่เลย
ผู้ว่าการจังหวัดเจีงเป่ยนั้นสุภาพต่อหลินฟาน และถึงขั้นเรียกหลินฟานว่าน้องหลิน!
ตัวตนของหลินฟานน่ากลัวขนาดไหน?
ซงหยี่อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบหลินฟานกับสี่นายน้อยแห่งปักกิ่งที่นวนิยายหลายๆเรื่องชอบพูดถึง
หลินฟานพูดติดตลก “สี่นายน้อยแห่งปักกิ่งหรอ?ไม่ใช่หรอก ฉันคือเจ้าชายแห่งปักกิ่งต่างหาก!”
“ฟืดด!”
เมื่อซ่งหยี่ได้ยิน เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
เห็นได้ชัดว่าเขาจริงจังกับคำพูดของหลินฟาน
หลินฟานมองไปยังท่าทางที่จริงจังของซงหยี่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา