เศรษฐีผู้ร่ำรวย เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 105 : หลินฟานลงมือ
ตอนที่ 105 : หลินฟานลงมือ
เมื่อนักพัฒนาทุกคนที่อยู่ในศูนย์วิจัยได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจของชูหยุนเยว่
พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากก้มหน้าทำตามขั้นตอนการผลิตน้ำหอมอย่างเคร่งครัด
ซึ่งโดยปกติแล้ว การที่จะทำน้ำหอมให้เสร็จต้องใช้เวลานานกว่าหลายสัปดาห์
แต่บริษัทฮัวจือดีมีของเหลวที่กลั่นออกมาจากดอกไม้บริสุทธิ์อยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว มันจึงช่วยประหยัดเวลาได้พอสมควร
ผ่านไปเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น น้ำหอมเหลียนซินโฉมใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของหลินฟาน
และเมื่อหลินฟานได้กลิ่นน้ำหอมเหลียนซินโฉมใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ เขาก็พูดออกมาทันที “ผมขอลองทำหน่อย”
“งั้นฉันจะให้พวกเขาคอยช่วยนะ” ชูหยุนเยว่พูด
หลินฟานส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ต้อง ผมทำเองได้”
หลินฟานมองไปรอบๆ…
จากนั้นเขาก็เดินไปที่โต๊ะทดลอง และได้ทำความสะอาดขวดทรงกรวย บีกเกอร์ ฯลฯ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆทั้งหมดแล้วจัดวางตามลำดับ
ซึ่งในตอนนี้หลินฟานก็เริ่มเทวัตถุดิบและสารละลายลงในขวดทรงกลมแล้ว จากนั้นเขาก็ทำการเขย่าเบาๆ
เชื่อมต่อท่อรูปตัวยู แยกกรวย เครื่องปั่นไฟ ขวดกลั่น และอุปกรณ์อื่นๆ
แล้วเอาขวดก้นกลมมาไว้บนตะเกียงแอลกอฮอล์…
ก่อนหน้านี้ เหตุผลที่ชูหยุนเยว่ได้เสนอให้นักพัฒนาไปช่วยหลินฟานก็เพราะเธอรู้สึกกังวล เธอคิดว่าหลินฟานนั้นเป็นเพียงนักทฤษฎีที่เข้าใจน้ำหอมแต่เพียงเท่านั้น และคิดว่าหลินฟานคงไม่เก่งในด้านการปฏิบัติงานสักเท่าไหร่
แต่หลังจากที่ได้เห็นเทคนิคและขั้นตอนการผลิตต่างๆของหลินฟาน ทุกคนต่างก็ตกตะลึงในทันที
การปรับอุณหภูมิ, การผสม, การทำให้เป็นแอลกอฮอล์, การแช่แข็ง, การกรอง, การปรับแต่งสี…
และการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมกับเทคนิคที่แม่นยำ
แม้แต่ตัวเธอเองกับนักพัฒนาของฮัวจือดีก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้เลย
โดยเฉพาะเรื่องความชำนาญในการใช้อุปกรณ์ทดลองต่างๆนั้นเหนือกว่าทุกคนอย่างเห็นได้ชัด
ชูหยุนเยว่เคยขอให้ศาสตราจารย์วิชาเคมีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาที่บริษัทฮัวจือดีเพื่อเข้ามาช่วยทำการทดลอง แต่ดูเหมือนทักษะของศาสตราจารย์คนนั้นก็ยังเทียบไม่ได้กับหลินฟานด้วยเช่นกัน
ซึ่งในสายตาของชูหยุนเยว่ เธอไม่ได้รู้สึกว่าหลินฟานกำลังทำน้ำหอมอยู่เลย แต่เหมือนกับว่าเขากำลังจะประดิษฐ์ผลงานชิ้นเอกออกมา!
เธอแอบถอนหายใจเงียบๆ : หลินฟาน คุณเป็นใครกันแน่?
ความสามารถทำงาน : ทักษะผู้เชี่ยวชาญน้ำหอม เสน่ห์เบ่งบาน!
“ฮะ!”
ในขณะนี้กลิ่นหอมก็ค่อยๆลอยออกมา มันทำให้ชูหยุนเยว่รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
ซึ่งทันทีหลังจากนั้น หลินฟานก็ได้เดินเข้ามาข้างหน้าของเธอพร้อมกับขวดสีเหลืองซีดที่ถืออยู่ในมือ
น้ำหอมเฟิ่งเซียงที่เขาสร้าง เสร็จสมบูรณ์แล้ว!
ชูหยุนเยว่อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่นาฬิกา
เขาใช้เวลาแค่ 90 นาทีเองหรอเนี่ย!
นักพัฒนาหกคนยังต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเต็มเลยนะ!
แต่หลินฟานคนเดียวกลับใช้เวลาเพียงแค่ 90 นาทีเท่านั้น!
ใบหน้าที่สวยงามของชูหยุนเยว่ในตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่ยากจะเก็บซ่อนเอาไว้
จากนั้นหลินฟานก็เปิดปากของเขาและพูด “นี่คือน้ำหอมเฟิ่งเซียงที่ผมสร้างขึ้นมา คุณลองดมกลิ่นดูให้หน่อยสิ”
“อ่าโอเค” ชูหยุนเยว่ รีบเก็บความประหลาดใจของเธอและเปิดฝาขวดอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นกลิ่นหอมรุนแรงที่ปราศจากความฉุนก็ลอยออกมา และด้วยกลิ่นหอมที่สดชื่นของมันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่มีลมพัดผ่านไปมา ชั่งเป็นความเพลิดเพลินที่หาที่เปรียบมิได้
ซึ่งหลังจากที่ผ่านไปนาน ชูหยุนเยว่ก็พูดอย่างตื่นเต้น “หอม มันหอมเกินไปจริงๆ! นี่คือกลิ่นที่ดีที่สุดที่ฉันเคยได้กลิ่นมา! หลินฟาน ขอบคุณมาก!”
จากนั้นหลินฟานก็พูด “ผมไม่เคยทำน้ำหอมด้วยตัวเองมาก่อนเลย วันนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดชมผมมากขนาดนั้น”
เมื่อชูหยุนเยว่ได้ยิน เธอก็รีบกรองคำพูดของหลินฟานก่อนนี้อย่างรวดเร็ว
อะไรนะ? ยังไม่เคยทำน้ำหอมด้วยตัวเองมาก่อน!
จะเป็นไปได้ยังไง!
ต้องรู้ก่อนว่า วิธีการทำน้ำหอมของหลินฟานที่แสดงออกมาให้เห็นในตอนนี้ นั้นมีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพมากกว่านักพัฒนาทุกคนที่เธอเคยพบเจอมาก่อน!
หลินฟานพูดต่อ “ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณพูดว่ามีน้ำหอมอยู่ 7 กลิ่นใช่มั้ย?”
ฉู่หยุนเยว่รีบพยักหน้าซ้ำๆ “ ใช่แล้ว! ฉันจะรีบไปเอาน้ำหอมที่เหลืออีก 6 กลิ่นมาให้คุณนะ”
และในไม่ช้า ขวดน้ำหอมทั้งหกกลิ่นที่ประกอบไปด้วยขวดสีแดง สีเขียว สีฟ้า สีม่วง สีขาว และสีเทาทั้งหมดถูกวางไว้หน้าหลินฟาน
จากนั้นหลินฟานก็เปิดน้ำหอมทั้ง 6 ขวดสลับกัน
ซึ่งในขณะที่ดมเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยทันที
“น้ำหอมเหล่านี้มีบางอย่างที่สามารถปรับปรุงได้อีกในแง่ของส่วนผสมและขั้นตอนการผลิต” หลินฟานพูด
ชูหยุนเยว่พูดอย่างตื่นเต้น “จริงหรอ?”
เหลียนซินนั้นเป็นเซ็ทน้ำหอมที่สร้างขึ้นโดยชูหยุนเยว่ด้วยความพยายามอย่างหนัก
ซึ่งขวดสีเหลืองที่ได้ปรับปรุงโดยหลินฟาน กลิ่นหอมของมันก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
หากหลินฟานสามารถปรับปรุงกลิ่นอื่น ๆ อีก 6 แบบได้ นี่จะต้องเป็นการเริ่มต้นของคอลเลคชั่นเหลียนซิน!
จากนั้นหลินฟานก็พยักหน้าและพูด “จริงสิ ดูจากเวลาของวันนี้ก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะ ไว้ผมจะกลับมาที่ฮัวจือดีในวันพรุ่งนี้แล้วกันนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใบหน้าที่สวยงามของชูหยุนเยว่ก็เผยให้เห็นถึงความสุขที่ไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้
จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “วันนี้ดึกเกินไปแล้วจริงๆนั่นแหละ งั้นเราไปทานอาหารด้วยกันมั้ย”
“ตกลง” หลินฟานตอบทันที
แล้วทั้งสองก็ได้เดินออกไปพร้อมกัน
ซึ่งในตอนนี้ นักวิจัยจ้าวซือฉงก็กำลังมองไปที่แผ่นหลังของพวกเขาทั้งสองคนอยู่ ก็มีสีหน้าแห่งความขุ่นเคืองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
…
ไม่นานนัก หลินฟานและชูหยุนเยว่ก็มาถึงที่ร้านอาหารจูเหอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาคารเฟยหยาง
และในร้านอาหารก็ยังมีแม่น้ำจำลองที่ไหลผ่านสะพานเล็กๆอย่างช้าๆ
แถมอาหารแต่ละจานก็มีความประณีตและรสชาติที่อร่อยอย่างมาก
อร่อยขนาดที่หลินฟานถึงกับต้องพยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา
จากนั้นเขาก็รินไวน์ลงในแก้ว
และค่อยๆเขย่าเหมื่อนกับทุกครั้ง
แล้วเขาก็ค่อย ๆ เทมันเข้าไปในปากของตัวเอง
จากนั้นหลินฟานก็ค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับลิ้มลองรสชาติของไวน์
แม้ว่าการกระทำแบบนี้จะดูธรรมดา
แต่มันก็ทำให้ชูหยุนเยว่รู้สึกสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะในสายตาของชูหยุนเยว่นั้นดูเหมือนว่าหลินฟานจะไม่ได้กำลังดื่มไวน์อยู่เลย
แต่เป็นเหมือนขุนนางในชุดสูทที่นั่งอยู่ในปราสาทสูงหรูหรา กำลังชิมไวน์ชั้นยอดที่กลั่นโดยโรงกลั่นเหล้าองุ่นของเขาเองเมื่อร้อยปีก่อน
ความสามารถทำงาน : สุภาพบุรุษนักดื่ม เสน่ห์ไร้ขีดจำกัด!
จากนั้น หลินฟานก็ลืมตาขึ้น
และทั้งสองคนก็ได้สบตากันทันที
ใบหน้าอันสวยงามของชูหยุนเยว่แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ชูหยุนเยว่ในตอนนี้เหมือนกับคนที่ไปขโมยอะไรบางอย่างมาแล้วกำลังถูกตามจับอยู่ เธอรีบก้มศีรษะลงอย่างไม่คิดชีวิต
แต่ดูเหมือนหลินฟานจะไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอย่างผ่อนคลาย “มันไหลรื่นและหวานนิดๆ สมกับที่เป็นไวน์องุ่นชั้นดี แต่น่าเสียดายที่เวลาในการหมักไวน์นั้นสั้นไปหน่อย”
“ไม่อย่างนั้นรสชาติคงจะกลมกล่อมมากกว่านี้”
บางคนชอบอวดความรู้และแสร้งทำเป็นรู้ทุกอย่าง
แต่ชูหยุนเยว่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเมื่อหลินฟานพูดเลยสักนิด
เขาชิมและพูดออกมาอย่างจริงใจเท่านั้น!
ชูหยุนเยว่จึงอดไม่ได้ที่จะแอบพูดในใจ: หลินฟานไม่เพียงแต่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในน้ำหอมเท่านั้น แต่เขายังมีความเข้าใจในไวน์อย่างลึกซึ้งอีกด้วย? มีอะไรที่เขาทำไม่ได้หรือเปล่านะ?
เขาเป็นแค่ชายหนุ่มอายุ 20 ปีจริงๆ งั้นหรอ?
ลึกลับมาก!
หลังจากนั้นไม่นาน ชูหยุนเยว่ก็กลับมารู้สึกตัวและพูดว่า “หลินฟาน ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่อยากเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิค”
“แต่ฝีมือการพัฒนาน้ำหอมเหลียนซินของคุณนั้นก็สำคัญสำหรับฮัวจือจริงๆ…ฉันจะโอนหุ้น 10% ของฮัวจือดีให้ ถือว่าเป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีและทักษะของคุณ ฉันหวังว่าคุณจะโอเคกับมัน”
หลินฟานอยากที่จะปฏิเสธ
เขาต้องการจะบอกเหตุผลว่าที่เขามาช่วยปรับปรุงน้ำหอมเหลียนซินของเธอนั้นจริงๆแล้วเพียงเพราะเขาคันมือและก็อยากลองทำน้ำหอมเพียงเท่านั้น
แต่เมื่อหลินฟานมองดูท่าทางที่จริงจังของชูหยุนเยว่ เขาก็ตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว