เศรษฐีผู้ร่ำรวย เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - ตอนที่ 95 : เด็กน้อยป่วยหนัก
เมื่อหลินฟานได้ยิน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองยังต้นเสียง
ชายชราผมหงอกอายุเกินแปดสิบปีกำลังมองมาที่เขา
เขาไม่เหมือนคนแก่ธรรมดา ถึงร่างกายของเขาดูง่อนแง่น
แต่เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยอำนาจ หลังตรง และจังหวะลมหายใจ หลินฟานรู้ได้ทันทีว่าชายแก่คนนี้ไม่ธรรมดา
หลินฟานเหลือบมองไปที่การ์ดความปรารถนาในมือของชายชรา: สุขภาพแข็งแรงตลอดไป!
“ท่าทางการเคลื่อนไหว พลังงานที่ไหลเวียนอย่างราบรื่นและแข็งแกร่ง…สีหน้าและร่างกายของคุณดีมากเช่นกัน!”หลินฟานพยักหน้านิดหน่อยและพูด
“โอ้?” ชายชราเองก็อดไม่ได้ที่จะมองประเมินหลินฟานแล้วพูดว่า “เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้พบกับชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมแบบนี้! ไม่เลว!”

หลินฟานรู้สึกใกล้ชิดกับชายชราแปลกๆ
ทั้งสองจึงพูดคัยกันต่อ
“ผู้อาวุโสน่าจะไม่ใช่คนพื้นเมืองของเจียงเป่ย คุณมาเที่ยวที่เจียงเป่ยหรอ?” หลินฟานถาม
ชายชรามองเข้าไปในระยะไกลด้วยดวงตาของเขาแล้วพูดว่า “ฉันเป็นทั้งนักท่องเที่ยว แต่ก็เป็นคนพื้นเมืองของเจียงเป่ยเหมือนกัน”
หลินฟานรู้สึกแปลกเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำเหล่านี้
เป็นทั้งคนพื้นเมือง…แต่ก็เป็นนักท่องเที่ยวหรอ?
หลินฟานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บ้านเกิดของผู้อาวุโสอยู่ที่จังหวัดเจียงเป่ยหรอ?”
“ใช่! ฉันไม่ได้กลับมาหลายสิบปีแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย! ทั้งผู้คนและก็สิ่งต่างๆ!” ชายชราพูด
ซุนลูกั่ว และ ฟ่านเหวินเซียง ได้แขวนการ์ดอวยพรของพวกเขาแล้ว หลังจากได้ยินเสียงพูดคุยกันของหลินฟาน พวกเขาก็ค่อยๆหันกลับมา
แวบแรกนั้น พวกเขามองเห็นชายร่างกำยำสี่คนที่มีท่าทางแข็งแกร่ง
ทั้งซุนลูกั่วและฟ่านเหวินเซียงมาจากตระกูลใหญ่ พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่าชายทั้งสี่คนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ
จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่หลินฟานและชายชรา
เมื่อเห็นชายชรา รูม่านตาของซุนลูกั่วก็ถึงกับหดตัวลงอย่างกะทันหัน และความตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าทั้งสอง
ซุนลูกั่วสำเร็จการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยชิงหัว
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยชิงหัวได้จัดงานเลี้ยงรุ่น ในพิธีเปิดมีการเปิดวิดีโอแสดงความยินดีจากชายชราคนนี้
เขาคือเสาหลักของประเทศจีน!
และยังปรากฏต่อตัวหน้าเขาอีก?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีชายฉกรรจ์สี่คนยืนอยู่รอบชายชรา พวกเขาน่าจะเป็นคนปกป้องความปลอดภัยของชายชรา
ซุนลูกั่วกลืนน้ำลาย และทำอะไรไม่ถูก
ฉิวจือเฉียน หวงหลิง และคนอื่นๆไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางของซุนลูกั่วในตอนนี้เลย
พวกเธอก้มหัวลงไปมองเด็กชายที่อายุประมาณสิบปี ที่กำลังจับต้นขาของชายชราอยู่
คิ้วยาวของเด็กชายเรียวสวยเหมือนกับชายชรา เห็นได้ชัดว่าเขาน่าจะเป็นหลานชายของผู้อาวุโส
ฉิวจือเฉียนยืนมองเด็กชายที่ดูขี้กลัว ก่อนจะก้มตัวลงไปทักทายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีจ้า”

เด็กชายเกาศีรษะและบิดตัวด้วยท่าทางประหลาดๆ
จากนั้นเขาก็อ้าปากของเขาแล้วเริ่มปล่อยให้น้ำลายไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
ฉิวจือเฉียนเคยเห็นเด็กแบบนี้มาก่อน ความทรงจำเก่าๆผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
เธอเคยมีน้องชายที่เป็นออทิสติก
เขากลัวผู้คน และไม่ค่อยสื่อสารกับคนอื่น…
แต่ฉิวจือเฉียนก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับน้องชายของเธอ เธอสอนน้องชายร้องเพลงทุกวัน… แต่ละวันล้วนเต็มไปด้วยความสุข
แต่อยู่มาวันหนึ่ง น้องชายของเธอรีบวิ่งออกจากบ้าน
ในขณะนั้นรถบรรทุกคันหนึ่งก็ได้ผ่านมาพอดี
และหลังจากนั้น… โศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าก็ได้เกิดขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฉิวจือเฉียนก็แดงขึ้นเล็กน้อย
หวงหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ผู้อาวุโส เด็กคนนี้เป็นอะไรหรอ?”
ชายชราถอนหายใจ “เมื่อหนึ่งปีก่อน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเขาก็กลายเป็นแบบนี้”
ขณะพูด ชายชราก็มองลงไปยังเด็กน้อย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรัก
“ไม่ได้พาไปโรงพยาบาลหรอ?” หวงหลิงถามอีกครั้ง
“ฉันเคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลหลายแห่งแล้ว แต่ไม่เป็นผลเลย” ชายชราพูด
ทันใดนั้น ร่างของเด็กชายก็กระตุกขึ้นอย่างรุนแรง และเริ่มมีฟองออกมาจากปากของเขา
ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน “หมอมาดูเร็ว เกิดอะไรขึ้น!”
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหลังก็รีบก้าวมาข้างหน้าและพูดเสียงดัง “จับมือและเท้าของเขาไว้ อย่าปล่อยให้เขาขยับ!”
ชายร่างกำยำสองคนก็รีบกดแขนและขาของเด็กชายทันที
พลังของพวกเขาแข็งแกร่งมาก!
เมื่อพวกเขาช่วยกัน ต่อให้เป็นสิงโตตัวใหญ่ๆก็ไม่สามารถขยับได้แน่นอน แล้วนับประสาอะไรกับเด็กน้อยแบบนี้?
ชายร่างกำยำอีกสองคนระวังรอบข้างและห้ามมิให้ผู้อื่นเข้ามาใกล้
ชายวัยกลางคนรีบหยิบหลอดยาออกมาจากกระเป๋าและฉีดเข้าไปในแขนของเด็กชายอย่างรวดเร็ว
ยานั้นมีผลทันที ร่างของเด็กน้อยหยุดชักลงอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนเป็นหมอ
เมื่อเห็นแบบนั้น หมอวัยกลางคนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แต่ว่า ฟองที่ออกมาจากมุมปากของเด็กชายกลับไม่ลดน้อยลงเลย ตรงกันข้าม…ฟองเริ่มเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ!
จากนั้น การหายใจของเด็กน้อยก็ค่อยๆช้าลง และการเต้นของหัวใจของเขาก็ค่อยๆ อ่อนลง…
เมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของหมอก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เขารีบกดหน้าอกของเด็กชาย แล้วฉีดยาอื่น ๆ …
แต่ไม่มียาชนิดใหนได้ผลเลย!
เด็กน้อยอ่อนแรงลงเรื่อยๆ เหมือนกับเทียนไขที่อยู่ท่ามกลางสายลมแรงที่อาจจะดับลงได้ทุกเมื่อ
ชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามอย่างกังวล “หมอ เป็นยังไงบ้าง”
ตอนนั้นเอง หมอก็มีเหงื่อไหลออกมาจะท่วมตัวอยู่แล้ว
เขาตื่นตระหนกมาก “สถานการณ์ของหยูห่าวแย่มาก ฉันไม่มียาและอุปกรณ์ที่เพียงพอ ทางที่ดีที่สุดก็คือต้องพาเขาไปที่โรงพยาบาลโดยเร็ว มิฉะนั้น … ”
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นอีก
แต่ชายชราก็เข้าใจความหมายที่หมอตั้งใจจะสื่ออย่างชัดเจน
ชายชราหันกลับมามองไปที่ฝูงชนและรถที่แออัดใต้วัดพู
กว่าจะฝ่าผู้คนไปถึงลานจอดรถและขับรถไปที่โรงบาลก็เกรงว่าจะไม่ทันการแน่ เพราะมันเสียเวลา!
เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออกทันที
“หลานชายของฉันล้มป่วยอยู่ที่วัดพู ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับเราเร็ว!”
หลังจากพูดจบ เขาก็กดวางสายทันที
จากนั้นชายชราก็มองดูเด็กน้อยอีกครั้งด้วยสายตาแห่งความกังวลและห่วงใย
บรรยากาศในที่เกิดเหตุเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าชายชราจะไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
แต่มันกลับยิ่งทำให้หมอวิตกกังวลมากขึ้น
เขารู้จักตัวตนของชายชราเป็นอย่างดี และเด็กที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของผู้เฒ่า
ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้น ผลที่ตามมา…
แค่คิดก็มีเหงื่อไหลออกมาจากแผ่นหลังของหมอ
ผู้คนที่อยู่ห่างไกลก็สังเกตเห็นสถานการณ์ตรงนี้เช่นกัน
แต่พวกเขานั้นถูกชายร่างกำยำสองคนจ้องมอง ราวกับว่าพวกเขากำลังถูกสิงโตสองตัวจ้องมอง คนทั้งหมดเลยไม่กล้าเข้าไปใกล้เลย
ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อให้หมอมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการรักษา
แต่สุดท้ายก็เป็นไปตามที่หมอได้บอกไว้ ยาและอุปกรณ์มีน้อยเกินไปจริงๆ
ทันใดนั้น จู่ๆเด็กน้อยก็กลอกตาขึ้น ใบหน้าของเขาก็ซีดขาวไปหมด
“หยูห่าว!” ชายชราผู้นิ่งเหมือนกับภูเขาไท่ซานก่อนหน้านี้พังทลายลง ผู้เฒ่าอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
ฉิวจือเฉียนที่ยืนอยู่ข้างๆก็รู้สึกแบบเดียวกันและหลั่งน้ำตา
หลินฟานที่ไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่แรก ในที่สุดก็พูดขึ้น “ผมสามารถช่วยเขาได้!”