เศรษฐีผู้ร่ำรวย เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - บทที่ 172 : ซางหยูคาร์นิวัล
“ติ๊งตอง!”
หลินฟานที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ก็มองไปยังโทรศัพท์ที่ส่งเสียงออกมา
ปรากฎว่ามีคนเพิ่มเพื่อนในวีแชทของเขา
หมายเหตุ: พี่ฟานฉันชื่อ เจิ้งซื่อลี่ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนร่วมห้องของคุณ เจิ้งจินเป่า
เห็นได้ชัดว่าเธอกังวลว่า หลินฟานจะจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร
เธอจึงเพิ่มข้อความหมายเหตุมาด้วยตอนเพิ่มเพื่อน
หลินฟานจำเจิ้งซื่อลี่ได้ เขาจำได้ว่าเธอเป็นนักไลฟ์สตรีม
ครั้งแรกที่หลินฟานพบกับเธอก็คือตอนที่อยู่หน้าร้านอาหารฉินเฟิง ขณะนั้นเธอกำลังไลฟ์สดอยู่หน้ารถลัมโบกินีของเขา
ครั้งที่สอง ก็ตอนที่เจิ้งจินเป่าพาเพื่อนในหอพักทั้งหมดไปทานอาหารด้วยกัน
เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนร่วมห้อง หลินฟานจึงกดรับเพื่อนทันที
เกือบจะทันทีที่หลินฟานกดรับเพื่อน เจิ้งซื่อลี่ก็ส่งข้อความมาหา
เจิ้งซื่อลี่: สวัสดีค่ะ เศรษฐีต้าจงเหริน!
หลินฟาน: แล้วเธอล่ะ…การถ่ายทอดสดช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
หลินฟานถามอย่างเป็นกันเอง
เมื่อเจิ้งซื่อหลี่เห็นว่าหลินฟานถามเกี่ยวกับสถานการณ์การถ่ายทอดสดของเธอ เจิ้งซื่อหลี่ก็พิมพ์ข้อความตอบอย่างกระตือรือร้น
เจิ้งซื่อลี่: เดี๋ยวนี้ในไลฟ์ของฉันมีผู้คนหลายแสนคนเข้ามาดูในแต่ละวัน! ยิ่งกว่านั้น พวกคนรวยหลายคนก็มักจะส่งของหวัญให้ฉันด้วย!
เจิ้งซื่อลี่: ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเศรษฐีต้าจงเหริน!
คำขอบคุณออกมาจากใจของเจิ้งซื่อลี่
เหตุผลที่เธอได้รับความนิยมสูงเช่นตอนนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะหลินฟานปรากฏตัวในสตรีมของเธอ
เกือบทุกวัน ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ถามหาเศรษฐีต้าจงเหรินในสตรีมของเธอ
หลินฟาน: ทั้งหมดมันเป็นเพราะความพยายามของคุณ มาขอบคุณผมทำไม?
เจิ้งซื่อลี่: อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มสตรีมซางหยูกำลังจะจัดงานคาร์นิวัลขึ้นที่เจียงเป่ยในวันพรุ่งนี้ ถึงเวลานั้น นักสตรีมดังๆจะมากันเกือบหมด พี่ต้องการที่จะมาร่วมงานด้วยกันไหม?
พรุ่งนี้วันเสาร์ หลินฟานเองก็ไม่มีอะไรทำพอดี
ซางหยูคาร์นิวัล ก็ฟังดูดีนะ
แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ตอบตกลงในทันที
หลินฟาน: ฉันไม่ใช่นักไลฟ์สตรีมของซางหยูนะ จะไปได้หรอ?
เจิ้งซื่อลี่: แน่นอน พี่มาได้แน่นอน! แม้ว่าพี่จะไม่ใช่นักไลฟ์สตรีมของซางหยู แต่ชื่อเสียงของพี่มากกว่านักไลฟ์สตรีมพวกนั้นเยอะเลย
หลินฟาน: จริงหรอ? โอเค พรุ่งนี้ฉันจะไป
เจิ้งซื่อลี่: จริงเหรอ? เยี่ยมเลย!
…………
หลังจากที่หลินฟานคุยกับเจิ้งซื่อลี่เสร็จแล้ว เขาก็นอนบนเตียงและเล่นโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหลับตาลงและหลับไป
…………
ขณะนี้มีกลุ่มวีแชทที่ชื่อ ‘ดาวแห่งซางหยู’ ถูกสร้างขึ้นมา
เสี่ยวลี่: ฉันเชิญเศรษฐีต้าจงเหรินมาร่วมงานด้วย!
หลังจากข้อความนี้ถูกส่งเข้าไปในกลุ่ม ‘ดาวแห่งซางหยู’ ทันใดนั้นบรรยากาศในกลุ่มก็เดือดขึ้นมาในทันที
เซียงเซียง: จริงเหรอ? เศรษฐีต้าจงเหรินจะมาที่งานซางหยูคาร์นิวัลในวันพรุ่งนี้จริงๆหรอ?
เสี่ยวลี่: ถูกต้อง! เขาสัญญากับฉันว่าพรุ่งนี้เขาจะมา
โมโมะ: ว้าว!
เสี่ยวอ้าย: เยี่ยมมาก! ฉันอยากเห็นเศรษฐีต้าจงเหรินด้วยตาตัวเองมาตลอดเลย ในที่สุดวันพรุ่งนี้ฉันก็จัดได้เห็นแล้ว
จิ่วยี่ไค: ไม่มีทาง ไม่มีทางหรอก! เศรษฐีต้าจงเหรินจะมาจริงๆหรอ? ในที่สุดฉันก็มีโอกาสดึงดูดต้าจงเหรินคนนี้ซะที!
จิ่วยี่ไค: หล่อนว่าพรุ่งนี้ฉันจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนเพื่อดึงดูดต้าจงเหรินคนนี้ดี? ชุดกระโปรง? หรือว่าสายเดี่ยวดี?
เสี่ยวอ้าย: จิ่วยี่ไค อย่าพูดอะไรอีกนะ แค่ฉันนึกภาพพวกนั้น…ฉันก็รู้สึกเหมือนท้องไส้มันปั่นป่วนแล้ว
เซียงเซียง: น่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว วันนี้ฉันต้องนอนไม่หลับแน่นอน
โมโมะ: ฉันอยากจะให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆจัง
…………
วันถัดไป
ดวงอาทิตย์ขึ้นสูง
หลังจากที่หลินฟานออกมาจากห้อง ก็มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เกี๊ยวทอด นมถั่วเหลือง ข้าวโพด และอาหารอื่นๆรออยู่บนโต๊ะแล้ว
“รสชาติดีมาก!” หลินฟานอุทานหลังจากกินเข้าไปสองสามคำ
ในไม่ช้าอาหารทุกอย่างบนโต๊ะก็หมด
ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนี้ ซูหนิงก็เก็บจานและตะเกียบไปทำความสะอาด
“คุณยังไม่ได้กินข้าวหรอ?” หลินฟานถาม
ซูหนิงพยักหน้า
หลินฟานพูด “คราวหน้าคุณกินก่อนได้เลย และถ้าไม่มีเวลาจริงๆ คุณก็สามารถมานั่งกินกับผมได้นะ”
ซูหนิงก้มศีรษะไม่ยอมตอบ
หลินฟานทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ว่านี่คือนิสัยของเธอ
เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยของเธอได้ในเวลาอันสั้น
หลินฟานจึงหยิบกุญแจรถและเดินออกไปข้างนอก
“บี๊บ!”
ด้วยการกดเบา ๆ ไฟรถยนต์ของปากานี เฟิงเสินก็สว่างขึ้น
หลินฟานเหยียบคันเร่งและรถก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
…………
ซางหยูคาร์นิวัล เป็นงานใหญ่ประจำปีของซางหยูไลฟ์
ในปีนี้ โดยใช้ประโยชน์จากความเติบโตของการประชุมทางอินเทอร์เน็ต ได้มีการจัดเตรียมโรงแรมเผิงไหลไว้แล้ว
และในโรงแรมเผิงไหลทั้งหมดก็ถูกซางหยูไลฟ์จองไว้ พรมแดงนุ่มๆถูกปูไว้อย่างสวยงาม โลโก้ของซางหยูไลฟ์ถูกติดไว้ทุกที่ เครื่องประดับรูปฉลามถูกเอามาประดับตกแต่งไปทั่ว… ลักษณะโดยรวม เรียกได้ว่าเป็นงานระดับไฮเอนด์ หรูหรา และยังคงมีกลิ่มอายของซางหยูไลฟ์ไปในตัว
นักไลฟ์สตรีมที่แต่งตัวเรียบร้อยก็ก้าวขึ้นไปบนพรมแดงและเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
“โมโมะ เธอดูสวยกว่าในไลฟ์สตรีมซะอีก!”
“เสี่ยวอ้าย เธอก็เหมือนกันนะ”
…………
นักไลฟ์สตรีมต่างพูดชมกันและกัน แต่ดวงตาของพวกเธอกลับมองไปรอบๆตลอด เหมือนกับกำลังกำลังมองหาใครสักคนอยู่
ในไม่ช้าพวกเธอก็หันไปสนใจผู้หญิงชุดสีดำที่กำลังเดินเข้ามา
“เสี่ยวลี่ เธอมาถึงแล้ว!”
“เศรษฐีต้าจงเหรินอยู่ที่ไหน?”
“ใช่ เศรษฐีต้าจงเหรินจะมาจริงๆหรือเปล่า?”
นักไลฟ์สตรีมต่างพากันถามทีละคนและพยายามมองไปที่ข้างหลังของเจิ้งซื่อลี่
น่าเสียดายที่ไม่มีใครอยู่ด้านหลังของเจิ้งซื่อลี่
เจิ้งซื่อหลี่กล่าวว่า “เขาบอกว่าเขากำลังขับรถมา น่าจะมาถึงในไม่ช้านี้แหละ”
“ตึก ตึก ตึก!”
คำพูดของเธอดูเหมือนจะส่งผลทันที เพราะทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากระยะไกล
ผู้ชายร่างสูงค่อยๆ เดินเข้ามา
เมื่อเห็นร่างนี้ เจิ้งซื่อลี่ก็พูดอย่างตื่นเต้น “นั่นไง เศรษฐีต้าจงเหรินมานั่นแล้ว!”
ทันทีที่เจิ้งซื่อลี่พูดจบ ทุกคนก็มองไปที่ร่างๆนั้นพร้อมกับกลั้นหายใจ
“ว้าว! เขาคือเศรษฐีต้าจงเหรินหรอ? หล่อมาก!”
“หล่อกว่าที่คิดอีก!”
“เจ๋ง!”
เมื่อนักไลฟ์สตรีมพูดจบ พวกเธอก็รีบเข้าไปทักทายหลินฟานทันที
“สวัสดีค่ะ เศรษฐีต้าจงเหริน!” โมโมะพูด
“เศรษฐีต้าจงเหริน คุณจำฉันได้ไหม” เสี่ยวอ้ายถาม
เซียงเซียงพูดว่า “เศรษฐีต้าจงเหริน สวัสดีค่ะ”
…………
หลินฟานถูกล้อมรอบด้วยนักไลฟ์สตรีมที่สวยงามจำนวนมาก และอดไม่ได้ที่จะพูดตอบกลับพวกเธอ
หลินฟานยิ้มแล้วพูด “สวัสดี โมโมะ”
“แน่นอน ว่าฉันต้องจำเสี่ยวอ้ายได้”
“เซียงเซียง คุณก็เหมือนกัน”
…………
เมื่อเห็นว่าหลินฟานยังจำตัวเองได้ นักไลฟ์สตรีมสาวทุกคนก็เผยรอยยิ้มอันแสนหวานออกมา
ตอนนั้นเอง จิ่วยี่ไคที่ยืนอยู่ข้างๆก็ถามขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “ขอถามอะไรหน่อย เศรษฐีต้าจงเหริน ในอนาคตนายจะเป็นนักไลฟ์สตรีมหรือเปล่า?”
หลินฟานพูด “ไม่”
“อา… เยี่ยมมาก!” จิ่วยี่ไคตบหน้าอกแล้วพูดด้วยสีหน้าโล่งใจ “ฉันพูดเสมอว่าฉันคือผู้ชายที่งามที่สุดของซางหยู ถ้าเนายมาเป็นนักไลฟ์สตรีมละก็ ตำแหน่งนั้นคงจะต้องถูกนายเอาไปอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดของจิ่วยี่ไค ทุกคนก็หัวเราะออกมาอย่างตลกขบขันทันที