เศรษฐีผู้ร่ำรวย เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง - บทที่ 183
หลินฟานไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอุ๊ปส์กรุ๊ป
ตลอดสามวันที่ผ่านมานี้ เขากิน ไปเรียน และนอนตามปกติ…ชีวิตของเขาผ่อนคลายและสบายอย่างมาก
“กริ๊ง!”
เมื่อเสียงกริ่งของมหาวิทยาลัยดังขึ้น เสียงเตือนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในใจของเขาเช่นกัน
【ติ๊ง! ทำภารกิจลับสำเร็จ ได้รับความช่วยเหลือจากสหาย รับซองแดงสีเงิน 5 ซอง 】
เมื่อหลินฟานได้ยิน ใบหน้าแห่งความสงสัยก็ปรากฏขึ้นมาทันที
ภารกิจลับอะไร?
ได้รับความช่วยเหลือจากสหายงั้นหรอ?
เขายังไม่มีอะไรให้ใครต้องช่วยเหลือเลยนะ!
ภารกิจนี้มันสำเร็จได้ยังไง?
“ตึก ตึก!”ไอรีนโนเวล
ตอนนั้นเอล ซ่งเจียซินก็ได้เดินเข้ามาและพูดว่า “ฉัน หลิวหยูหาง ซุนลู่กั่ว ถานเซิงหยู่ ต้วนเฉียน และจางปิน ได้ร่วมมือกันจัดการกับอุ๊ปส์กรุ้ปจนล้มละลายไปแล้วนะ”
ซึ่งประโยคเหล่านี้ ก็ทำให้ใบหน้าของหลินฟานถึงกับต้องแสดงความงุนงงออกมา
และตอนนั้นเอง เขาก็เข้าใจทันทีเกี่ยวกับภารกิจนี้ ‘ได้รับความช่วยเหลือจากสหาย’ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
พวกเขาสั่งสอนเกาเจิ้นโปแทนฉันโดยการทำให้บริษัทของครอบครัวเขานั้นล้มละลาย?
ซึ่งถึงแม้ว่าซ่งเจียซินจะพูดออกมาเหมือนกับเป็นเรื่องง่ายๆ
แต่หลินฟานก็เข้าใจดีว่าพวกเขาใช้ความพยายามอย่างมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว บริษัทนี้ก็เป็นถึงบริษัทที่มีมูลค่าอยู่หลายพันล้านหยวน
หลินฟานจึงพูด “ขอบคุณสำหรับเรื่องที่จัดการเกาเจิ้นโปให้ เรียกทุกคนมารวมตัวกันเถอะ ฉันอยากจะขอบคุณพวกเขาด้วย”
“โอเค” ซ่งเจียซินพยักหน้า
…………
โรงแรมเจียงเป่ย
ห้อง 888
ทันทีที่ต้วนเฉียนและหลิวหยูหางเดินเข้ามา
ต้วยเฉียนก็อุทาน “ฉันเคยมาทานอาหารเย็นที่โรงแรมเจียงเป่ยหลายครั้ง … แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามีห้อง 888 อยู่ที่ชั้นบนสุด!”
“แถมของตกแต่งพวกนี้…ไฮเอนด์เกินไปแล้ว!”
หลิวหยูหางกล่าวว่า “นายไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก! เพราะห้อง 888 เปิดให้เฉพาะคนใหญ่คนโตเท่านั้น ฉันเคยมากินที่ห้องนี้กับผู้ว่าเจียงเป่ยอยู่ครั้งหนึ่ง”
“แถมห้อง 888 ไม่ได้มีเพียงแค่ของตกแต่งเท่านั้นที่สวยงาม แต่ยังมีจาน บุหรี่ และไวน์ที่เก็บรักษาไว้อย่างพิเศษอีกด้วย! มันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมมากเชียวล่ะ! ”
เมื่อต้วนเฉียนได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายและพูดอย่างตื่นเต้น “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันก็กำลังจะได้เพลิดเพลินไปกับมันน่ะสิ”
พวกเขาพูดคุยกันอยู่สักพัก
และไม่นานหลังจากนั้น จางปินกับถานเซิงหยู่ก็เดินเข้ามาข้างในห้อง ซึ่งพวกเขาก็ชื่นชมห้อง 888 เช่นกัน
และเมื่อซุนลู่กั่วที่สวมชุดสูทสีขาวเดินเข้ามา หลิวหยูหางก็ตะโกนทันทีว่า “ฉันกำลังคุยกันอยู่เลยว่าทำไมนายถึงมาสาย ปรากฎว่าเป็นเพราะชุดเห่ยๆนี้นั่นเอง!”
ซุนลู่กั่วเหลือบมองหลิวหยูหาง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
เนื่องจากฟังคำพูดถากถางแบบนี้มาอย่างยาวนาน เขาเลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก
หลินฟานพูดขึ้น “ในเมื่อทุกคนมาถึงกันหมดแล้ว ฉันก็จะบอกให้บริกรเอาอาหารมาเสิร์ฟเลยนะ”
พอพูดเสร็จ เขาก็กดปุ่มที่อยู่ข้างโต๊ะทันที
และหลังจากนั้นไม่นาน อาหารจำนวนมากมาย เหล้าเหมาไถและบุหรี่แบบพิเศษก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
จากนั้น หลินฟานก็กล่าวว่า “ฉันรู้ดีว่าพวกนายทุกคนพยายามอย่างมากเพื่อฉัน! และสำหรับฉัน พวกนายก็เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ฉันจะดื่มให้พวกนายเพื่อแสดงความขอบคุณ!”
เมื่อหลินฟานพูดจบ เขาก็ยกแก้วขึ้นและดื่มจนหมดในคราวเดียว
ในความเป็นจริง ด้วยความแข็งแกร่งของหลินฟาน การทำให้อุ๊ปส์กรุ้ปล้มละลายนั้นง่ายมาก
แต่การที่พวกเขาเข้ามาช่วยหลินฟาน ทำให้หลินฟานรู้สึกซึ้งใจ
ซึ่งในฉากนี้ ทุกคนก็เข้าใจโดยธรรมชาติทันทีว่าหลินฟานหมายถึงอะไร มันทำให้พวกเขามีความสุขอย่างมาก
จากนั้น พวกเขาก็ยกแก้วขึ้นและพูดว่า “พี่ฟาน พี่ไม่ต้องสุภาพกับพวกเราขนาดนั้นหรอก”
“ได้”
“พวกเราเริ่มทานอาหารกันเถอะ!”
ทุกคนทานอาหารมื้อนี้กันอย่างมีความสุข
จนถึงเวลาสามทุ่ม พวกเขาก็บอกลากัน ซึ่งทุกคนด็เดินเซออกจากโรงแรมเจียงเป่ย
แต่แน่นอนว่ายกเว้นหลินฟาน…
เพราะเขามีทักษะสุภาพบุรุษยอดนักดื่ม
ซึ่งเนื่องจากมันค่อนข้างดึกมากแล้ว หลินฟานจึงไม่ได้กลับไปที่มหาวิทยาลัยหรือชุมชนยี่เกอ เขากลับมาที่ปานหลงวิลล่าแทน
และเมื่อหลินฟานเปิดประตูเข้าไป เขาก็เห็นว่าซูหนิงจิงนั้นล้มลงไปกองกับพื้นเข้าพอดี
หลินฟานรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ซูหนิงจิง ซูหนิง!”
แต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่ตอบสนองเลย
หลินฟานจึงอุ้มเธอขึ้นมาและวางไว้บนโซฟา
ในเวลานี้ ซูหนิงจิงดูเหมือนจะได้สติกลับมาและค่อยๆลืมตาขึ้น
หลินฟานถามว่า “ซูหนิง ทำไมเธอถึงเป็นลมได้ล่ะ?”
หลังจากที่หลินฟานพูดถึงเรื่องนี้ ซูหนิงจิงก็นึกถึงเรื่องบางอย่างในทันที และจากนั้น น้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับพูดว่า “การผ่าตัดของคุณยายล้มเหลว ฉันอยากกลับไปหาคุณยาย…”
ขณะพูด ซูหนิงก็พยายามที่จะลุกขึ้นยืน
แต่หลังจากที่เธอหมดสติและล้มลง แขนกับขาของเธอก็ได้รับบาดเจ็บ และมันก็ทำให้เธอไม่มีแรงที่จะลุกขึ้น
หลินฟานพูด “บ้านของคุณยายณอยู่ที่ไหน ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเอง”
จากนั้น หลินฟานก็อุ้มซูหนิงขึ้นมาโดยที่ไม่รอฟังคำตอบจากเธอเลย
ซึ่งเดิมทีหัวใจของซูหนิงนั้นกำลังประหม่าและกระวนกระวาย
แต่เมื่อหลินฟานอุ้มเธอขึ้นมา ซูหนิงก็รู้สึกถึงอ้อมแขนที่แข็งแรงและอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา… แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เธอถึงรู้สึกโล่งใจมากขนาดนี้
ด้วยความรู้สึกนี้…
“ชุมชนลี่ซี ทางตอนใต้” ซูหนิงจิงพูด
“โอเค” หลินฟานตอบและวางซูหนิงลงบนที่นั่งข้างคนขับในรถปากานีเฟิงเสิน ในขณะเดียวกัน เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเช็ครอบบินอย่างรวดเร็ว
ซึ่งสาเหตุที่ต้องเดินทางโดยเครื่องบิน เป็นเพราะลี่ซีอยู่ห่างจากเจียงเป่ยมากกว่า 2,000 กิโลเมตรนั่นเอง
แถมการเดินทางด้วยเครื่องบินก็เร็วกว่ามาก
“หนึ่งชั่วโมงข้างหน้า มีรอบบินของลี่ซี!”
หลินฟานกดซื้อชั้นเฟิร์สคลาสมาสองห้องทันที
จากนั้นเขาก็เหยียบคันเร่งและตรงไปที่สนามบิน
และเนื่องจากถนนในตอนนี้โล่งอย่างมาก
ปากานีเฟิงเสินที่ขับโดยหลินฟานก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
และเมื่อหลินฟานขับมาถึงสนามบิน ก็เป็นเวลาตรวจตั๋วพอดี
“พึบ!”
หลังจากที่เครื่องบินติดเครื่อง มันก็ค่อยๆทะยานขึ้น และในที่สุด เครื่องบินก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำอันคืนมืดมิด
ซึ่งเมื่อเห็นใบหน้ากังวลของซูหนิง หลินฟานก็พูดเบาๆว่า “ไม่ต้องกังวล คุณยายของคุณจะต้องปลอดถัย”
ถ้าคนที่ไม่รู้จักพูดแบบนี้ ซูหนิงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายแค่พูดปลอบใจเธอเท่านั้น และมันก็จะไม่ช่วยอะไร
แต่เมื่อหลินฟานเป็นคนพูด…
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่สัญชาตญาณของซูหนิงจิงมันบอกให้เธอเชื่อ
ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ได้ลงจอดที่สนามบินลี่ซี และในเวลานี้ ก็ได้มีรถโตโยต้าคันหนึ่งจอดรออยู่แล้ว
นี่คือรถที่หลินฟานได้ทำการเช่าเอาไว้ก่อนขึ้นเครื่องบิน
และหลังจากแสดงใบขับขี่และพิสูจน์ตัวตนแล้ว เขาก็ขับรถพาซูหนิงไปยังโรงพยาบาลทันที
“ฉืด ฉืด!”
เมื่อได้กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาล ราวกับมันได้ช่วยรักษาแขนและขาของซูหนิง ทำให้เธอเร่งฝีเท้าต่อไปได้
ซึ่งในระยะไกล ก็มีเด็กหญิงอายุสิบสองหรือสิบสามขวบนั่งอยู่คนเดียวบนม้านั่ง แถมใบหน้าของเธอยังก็ผอมแห้งและซีดเผือดสุดๆ
ซูหนิงจิงพูด “อาเหม่ย!”
เด็กหญิงตัวน้อยรีบเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาว!”
เธอรีบวิ่งเข้าไปหาซูหนิงจิงอย่างรวดเร็ว
และทั้งสองก็กอดกันอย่างอบอุ่น
ตลอดสามวันที่ผ่านมานี้ เขากิน ไปเรียน และนอนตามปกติ…ชีวิตของเขาผ่อนคลายและสบายอย่างมาก
“กริ๊ง!”
เมื่อเสียงกริ่งของมหาวิทยาลัยดังขึ้น เสียงเตือนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในใจของเขาเช่นกัน
【ติ๊ง! ทำภารกิจลับสำเร็จ ได้รับความช่วยเหลือจากสหาย รับซองแดงสีเงิน 5 ซอง 】
เมื่อหลินฟานได้ยิน ใบหน้าแห่งความสงสัยก็ปรากฏขึ้นมาทันที
ภารกิจลับอะไร?
ได้รับความช่วยเหลือจากสหายงั้นหรอ?
เขายังไม่มีอะไรให้ใครต้องช่วยเหลือเลยนะ!
ภารกิจนี้มันสำเร็จได้ยังไง?
“ตึก ตึก!”ไอรีนโนเวล
ตอนนั้นเอล ซ่งเจียซินก็ได้เดินเข้ามาและพูดว่า “ฉัน หลิวหยูหาง ซุนลู่กั่ว ถานเซิงหยู่ ต้วนเฉียน และจางปิน ได้ร่วมมือกันจัดการกับอุ๊ปส์กรุ้ปจนล้มละลายไปแล้วนะ”
ซึ่งประโยคเหล่านี้ ก็ทำให้ใบหน้าของหลินฟานถึงกับต้องแสดงความงุนงงออกมา
และตอนนั้นเอง เขาก็เข้าใจทันทีเกี่ยวกับภารกิจนี้ ‘ได้รับความช่วยเหลือจากสหาย’ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
พวกเขาสั่งสอนเกาเจิ้นโปแทนฉันโดยการทำให้บริษัทของครอบครัวเขานั้นล้มละลาย?
ซึ่งถึงแม้ว่าซ่งเจียซินจะพูดออกมาเหมือนกับเป็นเรื่องง่ายๆ
แต่หลินฟานก็เข้าใจดีว่าพวกเขาใช้ความพยายามอย่างมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว บริษัทนี้ก็เป็นถึงบริษัทที่มีมูลค่าอยู่หลายพันล้านหยวน
หลินฟานจึงพูด “ขอบคุณสำหรับเรื่องที่จัดการเกาเจิ้นโปให้ เรียกทุกคนมารวมตัวกันเถอะ ฉันอยากจะขอบคุณพวกเขาด้วย”
“โอเค” ซ่งเจียซินพยักหน้า
…………
โรงแรมเจียงเป่ย
ห้อง 888
ทันทีที่ต้วนเฉียนและหลิวหยูหางเดินเข้ามา
ต้วยเฉียนก็อุทาน “ฉันเคยมาทานอาหารเย็นที่โรงแรมเจียงเป่ยหลายครั้ง … แต่ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามีห้อง 888 อยู่ที่ชั้นบนสุด!”
“แถมของตกแต่งพวกนี้…ไฮเอนด์เกินไปแล้ว!”
หลิวหยูหางกล่าวว่า “นายไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก! เพราะห้อง 888 เปิดให้เฉพาะคนใหญ่คนโตเท่านั้น ฉันเคยมากินที่ห้องนี้กับผู้ว่าเจียงเป่ยอยู่ครั้งหนึ่ง”
“แถมห้อง 888 ไม่ได้มีเพียงแค่ของตกแต่งเท่านั้นที่สวยงาม แต่ยังมีจาน บุหรี่ และไวน์ที่เก็บรักษาไว้อย่างพิเศษอีกด้วย! มันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมมากเชียวล่ะ! ”
เมื่อต้วนเฉียนได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายและพูดอย่างตื่นเต้น “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันก็กำลังจะได้เพลิดเพลินไปกับมันน่ะสิ”
พวกเขาพูดคุยกันอยู่สักพัก
และไม่นานหลังจากนั้น จางปินกับถานเซิงหยู่ก็เดินเข้ามาข้างในห้อง ซึ่งพวกเขาก็ชื่นชมห้อง 888 เช่นกัน
และเมื่อซุนลู่กั่วที่สวมชุดสูทสีขาวเดินเข้ามา หลิวหยูหางก็ตะโกนทันทีว่า “ฉันกำลังคุยกันอยู่เลยว่าทำไมนายถึงมาสาย ปรากฎว่าเป็นเพราะชุดเห่ยๆนี้นั่นเอง!”
ซุนลู่กั่วเหลือบมองหลิวหยูหาง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
เนื่องจากฟังคำพูดถากถางแบบนี้มาอย่างยาวนาน เขาเลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก
หลินฟานพูดขึ้น “ในเมื่อทุกคนมาถึงกันหมดแล้ว ฉันก็จะบอกให้บริกรเอาอาหารมาเสิร์ฟเลยนะ”
พอพูดเสร็จ เขาก็กดปุ่มที่อยู่ข้างโต๊ะทันที
และหลังจากนั้นไม่นาน อาหารจำนวนมากมาย เหล้าเหมาไถและบุหรี่แบบพิเศษก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
จากนั้น หลินฟานก็กล่าวว่า “ฉันรู้ดีว่าพวกนายทุกคนพยายามอย่างมากเพื่อฉัน! และสำหรับฉัน พวกนายก็เป็นเพื่อนที่ดีมากเลย ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ฉันจะดื่มให้พวกนายเพื่อแสดงความขอบคุณ!”
เมื่อหลินฟานพูดจบ เขาก็ยกแก้วขึ้นและดื่มจนหมดในคราวเดียว
ในความเป็นจริง ด้วยความแข็งแกร่งของหลินฟาน การทำให้อุ๊ปส์กรุ้ปล้มละลายนั้นง่ายมาก
แต่การที่พวกเขาเข้ามาช่วยหลินฟาน ทำให้หลินฟานรู้สึกซึ้งใจ
ซึ่งในฉากนี้ ทุกคนก็เข้าใจโดยธรรมชาติทันทีว่าหลินฟานหมายถึงอะไร มันทำให้พวกเขามีความสุขอย่างมาก
จากนั้น พวกเขาก็ยกแก้วขึ้นและพูดว่า “พี่ฟาน พี่ไม่ต้องสุภาพกับพวกเราขนาดนั้นหรอก”
“ได้”
“พวกเราเริ่มทานอาหารกันเถอะ!”
ทุกคนทานอาหารมื้อนี้กันอย่างมีความสุข
จนถึงเวลาสามทุ่ม พวกเขาก็บอกลากัน ซึ่งทุกคนด็เดินเซออกจากโรงแรมเจียงเป่ย
แต่แน่นอนว่ายกเว้นหลินฟาน…
เพราะเขามีทักษะสุภาพบุรุษยอดนักดื่ม
ซึ่งเนื่องจากมันค่อนข้างดึกมากแล้ว หลินฟานจึงไม่ได้กลับไปที่มหาวิทยาลัยหรือชุมชนยี่เกอ เขากลับมาที่ปานหลงวิลล่าแทน
และเมื่อหลินฟานเปิดประตูเข้าไป เขาก็เห็นว่าซูหนิงจิงนั้นล้มลงไปกองกับพื้นเข้าพอดี
หลินฟานรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ซูหนิงจิง ซูหนิง!”
แต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่ตอบสนองเลย
หลินฟานจึงอุ้มเธอขึ้นมาและวางไว้บนโซฟา
ในเวลานี้ ซูหนิงจิงดูเหมือนจะได้สติกลับมาและค่อยๆลืมตาขึ้น
หลินฟานถามว่า “ซูหนิง ทำไมเธอถึงเป็นลมได้ล่ะ?”
หลังจากที่หลินฟานพูดถึงเรื่องนี้ ซูหนิงจิงก็นึกถึงเรื่องบางอย่างในทันที และจากนั้น น้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับพูดว่า “การผ่าตัดของคุณยายล้มเหลว ฉันอยากกลับไปหาคุณยาย…”
ขณะพูด ซูหนิงก็พยายามที่จะลุกขึ้นยืน
แต่หลังจากที่เธอหมดสติและล้มลง แขนกับขาของเธอก็ได้รับบาดเจ็บ และมันก็ทำให้เธอไม่มีแรงที่จะลุกขึ้น
หลินฟานพูด “บ้านของคุณยายณอยู่ที่ไหน ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเอง”
จากนั้น หลินฟานก็อุ้มซูหนิงขึ้นมาโดยที่ไม่รอฟังคำตอบจากเธอเลย
ซึ่งเดิมทีหัวใจของซูหนิงนั้นกำลังประหม่าและกระวนกระวาย
แต่เมื่อหลินฟานอุ้มเธอขึ้นมา ซูหนิงก็รู้สึกถึงอ้อมแขนที่แข็งแรงและอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา… แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เธอถึงรู้สึกโล่งใจมากขนาดนี้
ด้วยความรู้สึกนี้…
“ชุมชนลี่ซี ทางตอนใต้” ซูหนิงจิงพูด
“โอเค” หลินฟานตอบและวางซูหนิงลงบนที่นั่งข้างคนขับในรถปากานีเฟิงเสิน ในขณะเดียวกัน เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเช็ครอบบินอย่างรวดเร็ว
ซึ่งสาเหตุที่ต้องเดินทางโดยเครื่องบิน เป็นเพราะลี่ซีอยู่ห่างจากเจียงเป่ยมากกว่า 2,000 กิโลเมตรนั่นเอง
แถมการเดินทางด้วยเครื่องบินก็เร็วกว่ามาก
“หนึ่งชั่วโมงข้างหน้า มีรอบบินของลี่ซี!”
หลินฟานกดซื้อชั้นเฟิร์สคลาสมาสองห้องทันที
จากนั้นเขาก็เหยียบคันเร่งและตรงไปที่สนามบิน
และเนื่องจากถนนในตอนนี้โล่งอย่างมาก
ปากานีเฟิงเสินที่ขับโดยหลินฟานก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
และเมื่อหลินฟานขับมาถึงสนามบิน ก็เป็นเวลาตรวจตั๋วพอดี
“พึบ!”
หลังจากที่เครื่องบินติดเครื่อง มันก็ค่อยๆทะยานขึ้น และในที่สุด เครื่องบินก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำอันคืนมืดมิด
ซึ่งเมื่อเห็นใบหน้ากังวลของซูหนิง หลินฟานก็พูดเบาๆว่า “ไม่ต้องกังวล คุณยายของคุณจะต้องปลอดถัย”
ถ้าคนที่ไม่รู้จักพูดแบบนี้ ซูหนิงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายแค่พูดปลอบใจเธอเท่านั้น และมันก็จะไม่ช่วยอะไร
แต่เมื่อหลินฟานเป็นคนพูด…
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่สัญชาตญาณของซูหนิงจิงมันบอกให้เธอเชื่อ
ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ได้ลงจอดที่สนามบินลี่ซี และในเวลานี้ ก็ได้มีรถโตโยต้าคันหนึ่งจอดรออยู่แล้ว
นี่คือรถที่หลินฟานได้ทำการเช่าเอาไว้ก่อนขึ้นเครื่องบิน
และหลังจากแสดงใบขับขี่และพิสูจน์ตัวตนแล้ว เขาก็ขับรถพาซูหนิงไปยังโรงพยาบาลทันที
“ฉืด ฉืด!”
เมื่อได้กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาล ราวกับมันได้ช่วยรักษาแขนและขาของซูหนิง ทำให้เธอเร่งฝีเท้าต่อไปได้
ซึ่งในระยะไกล ก็มีเด็กหญิงอายุสิบสองหรือสิบสามขวบนั่งอยู่คนเดียวบนม้านั่ง แถมใบหน้าของเธอยังก็ผอมแห้งและซีดเผือดสุดๆ
ซูหนิงจิงพูด “อาเหม่ย!”
เด็กหญิงตัวน้อยรีบเงยหน้าขึ้นและพูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาว!”
เธอรีบวิ่งเข้าไปหาซูหนิงจิงอย่างรวดเร็ว
และทั้งสองก็กอดกันอย่างอบอุ่น