เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 291
ชีอ้าวชวางรู้ดีว่าเรื่องนี้จะไม่จบลงแค่นี้สองคนนั้นจะต้องหาโอกาสมาสร้างปัญหาให้กับนางอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ชีอ้าวชวางไม่ได้สนใจเรื่องนี้แล้วเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วถ้าสองคนนั้นตามมาก็อย่ามาหาว่านางไม่เกรงใจแล้วกันหลังจากที่นางไม่รู้สึกถึงลมหายใจของคนข้างหลังแล้วชีอ้าวชวางจับฉางคงที่อยู่บนไหล่นางแต่ยังหันไปมองด้านหลังอยู่ออกมา
“ทำอะไร เจ้าจะทำอะไร” ฉางคงเตะแขนขาและดิ้นไปมา
“อย่าสร้างปัญหาให้ข้าอีก เริ่มตอนนี้เลย เข้าไปซะ” ชีอ้าวชวางพูดกับฉางคงอย่างโหดเหี้ยม
“อย่านะ…” ฉางคงพูดอย่างน่าสงสาร
“เข้าไป!” ชีอ้าวชวางพูดอย่างดุร้าย
“เข้าไปก็ได้ หากมีสาวสวยข้าก็เห็นอยู่ดี ถึงอย่างไรร่างกายของเจ้าก็ถือว่าเป็นบ้านของข้าแล้ว ข้ากลับไปพักผ่อนในบ้านก็ได้”ฉางคงยกมุมปากแล้วออกจากมือของชีอ้าวชวางและพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของชีอ้าวชวางจากนั้นก็หายไปในอากาศและเข้าสู่ร่างกายของชีอ้าวชวางดังเดิม
ชีอ้าวชวางเหลือบมองทันทีที่ฉางคงเข้ามาในร่างกายของนาง นางก็จมอยู่กับความพิศวงที่ไม่อาจอธิบายได้ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจหายไปแล้วตอนนี้ตั้งแต่ที่ชีอ้าวชวางได้พบกับฉางคงก็ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้พักผ่อนเลยจึงเหนื่อยเล็กน้อยแต่ตอนนี้ต้นกำเนิดลมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ความเหนื่อยล้าเหล่านั้นก็หายเป็นปลิดทิ้งต้นกำเนิดลมเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ
ชีอ้าวชวางพบทางเข้าชั้นสามได้อย่างง่ายดาย นางพุ่งเข้าไปในนั้นทันทีและสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็คือทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดทรายสีเหลืองกำลังปลิวอย่างดุเดือดอยู่บนท้องฟ้า ทางออกของชั้นนี้อยู่ที่ไหนนะ
“ชีอ้าวชวาง ข้าจะไปนอนก่อน ถ้ามีสาวงามอยู่ตรงหน้าก็อย่าลืมเรียกข้าด้วย” เสียงของฉางคงดังขึ้นในความคิดของชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางกระตุกมุมปาก เจ้าชู้จริงๆ! จะพักผ่อนก็ยังคงคิดถึงสาวงามอีก
ทรายสีเหลืองปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้าบางส่วนก็หมุนวนไปตลอดทางแต่เมื่อชีอ้าวชวางก้าวเข้ามาในทะเลทรายแห่งนี้ ทรายสีเหลืองก็ดูเหมือนจะมากขึ้นและพัดผ่านตัวนางออกไปด้านข้างเมื่อเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ก็เห็นนักเรียนบางคนที่เข้ามาในทะเลทรายก่อนหน้านี้หลายคนสวมเสื้อคลุมหนักๆ และเดินไปข้างหน้า แต่ก็มีคนอย่างชีอ้าวชวางที่ไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันใดๆ เลยเหมือนกันพวกเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและแน่นอนว่าเป็นคนส่วนน้อย
ขณะที่ชีอ้าวชวางกำลังคิดว่าทางออกอยู่ทางไหนก็มีเสียงแปลกๆ ดังมาจากด้านหลัง “เ ฮ้ชีอ้าวชวาง เจ้าเดาออกหรือไม่ว่าทางออกในชั้นนี้อยู่ที่ไหน เจ้าไม่รู้แน่นอนเลย ข้าจะพาเจ้าไปเอง”
ชีอ้าวชวางหันไปรอบๆ อย่างสงสัย เสียงนี้ไม่คุ้นเคยเลย นางไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่อีกฝ่ายเรียกชื่อนางผู้ชายคนนี้เป็นใคร
พอชีอ้าวชวางหันหน้ามาสบตากับคนผู้นั้นก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากและจากไปอย่างรวดเร็ว
“ชีอ้าวชวาง รอข้าด้วย! เจ้าจะทิ้งผู้หญิงที่อ่อนแออย่างข้าไว้ในสถานที่อันตรายนี้หรือ” หญิงสาวร่างเล็กรีบวิ่งเข้ามาและจับเสื้อของชีอ้าวชวางไว้ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น นางคือพาริน่าที่ปลอมตัวมาน้ำเสียงก็เปลี่ยนไป รูปลักษณ์ก็เปลี่ยนไป แต่เสน่ห์ในแววตาของนางปกปิดไม่ได้เลย
สีหน้าของชีอ้าวชวางมืดลงและหันไปพูดอย่างเย็นชา “ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย! ข้าอยากไปกับเจ้า” ชุดของพาริน่าเหมือนจะปิดบังตัวตนของนางไว้เพื่อไม่ให้คนรู้ว่านางสามารถผ่านชั้นสองมาได้ดูเหมือนว่านางจะยังตั้งใจเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของนางไว้อยู่และเป็นนักเรียนสองดาวต่อไป
“โอ้ สาวงาม นั่นมันสาวงาม!” ทันใดนั้นฉางคงก็ออกมาจากอ้อมแขนของชีอ้าวชวางอย่างกะทันหัน เฟร์ริตตัวน้อยสีขาวราวกับหิมะปรากฏตัวขึ้นและก็กระโดดไปบนไหล่ของพาริน่า
ชีอ้าวชวางรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจะมีปัญหา
“ให้ตายเถอะ ชีอ้าวชวาง มีผู้หญิงสวยมาเจ้าไม่เรียกข้าเลย เมื่อครู่ข้าบอกเจ้าไม่ใช่หรือว่าถ้ามีผู้หญิงสวยมาก็อย่าลืมเรียกข้าด้วย” ฉางคงกระโดดบนไหล่ของพาริน่าและตำหนิชีอ้าวชวางด้วยความไม่พอใจและดวงตาก็กลอกไปมาเรื่อยๆ “สาวงาม เจ้าต้องเป็นสาวงามแน่นอนแต่ทำไมเจ้าถึงต้องปิดบังใบหน้าของเจ้าด้วยล่ะ”
พาริน่าตะลึงและยังอึ้งอยู่นางหันไปมองตัวเฟร์ริตสีขาวตัวน้อยบนไหล่ เป็นเวลานานเลยกว่าจะกลับมามีสติและถามออกไปอย่างแปลกใจ “นี่สัตว์เลี้ยงของเจ้าหรือพูดได้ด้วย?”
“ใช่” ชีอ้าวชวางตอบและยื่นมือออกดึงฉางคง
“สาวงาม เจ้าชื่ออะไร ถ้าเจ้าไม่รังเกียจไปกับพวกเราเถอะ แม้ว่าทัศนคติของผู้ติดตามข้าจะดูหยาบคายแต่ความแข็งแกร่งนั้นดีมากจนสามารถปกป้องเจ้าได้อย่างแน่นอน”หางของฉางกงถูกชีอ้าวชวางดึงไป ทั้งตัวของเขาห้อยลงแต่เขาก็ยังคงพูดโดยไม่อายเลย
“ดีสิ ดีเลย” พาริน่ากระตือรือร้นและก็รีบเห็นด้วยอย่างมีความสุข
“เจ้าบอกว่าใครเป็นผู้ติดตาม ใครขอให้เจ้าตอบรับ”ชีอ้าวชวางเต็มไปด้วยความโกรธและคว้าหางของฉางกงมาเขย่า
“ข้าผิดไปแล้วข้าคือผู้ติดตามของเจ้า” ฉางคงรีบอ้อนวอนขอความเมตตา “เจ้าเป็นเจ้านายสาวงามผู้นั้นอยู่กับเราได้แล้วใช่หรือไม่”เมื่อตกที่นั่งลำบากย่อมต้องยอมถอย อีกอย่างสาวงามผู้นี้ดูเหมือนจะมุ่งมาหาชีอ้าวชวางดังนั้นควรทำให้ชีอ้าวชวางพอใจก่อนดีกว่า
ชีอ้าวชวางโกรธ! นี่มันต้นกำเนิดลมอะไรกัน! ชีอ้าวชวางกำลังจะโจมตีแล้ว แต่เสียงของต้นกำเนิดลมก็เข้ามาในความคิดของนางก่อน“เสี่ยวชีชี อย่าโกรธข้าเลย มันเป็นแค่งานอดิเรก แค่งานอดิเรกเท่านั้นเอง…โปรดตามใจข้าหน่อยนะ…ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเจ้าในการฝึกแน่นอน”
ชีอ้าวชวางแทบจะกระอักเลือดอาเจียนด้วยความโกรธ ตัวเล็กนี่รู้จักว่าเมื่อไหร่ที่ต้องยอมอ่อนลงให้นี่คือต้นกำเนิดลมหรือแค่งานอดิเรกหรือ! พอเจอสาวงามก็ลืมไปหมดทุกสิ่งเลยนะ!
“พาข้าไปด้วยเถอะ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเดือดร้อนแน่นอน อีกอย่างข้าก็รู้ทางด้วย” เมื่อเห็นท่าทีของชีอ้าวชวางพาริน่าก็รู้ว่าเจ้าเฟร์ริตตัวน้อยน่าจะพูดในสิ่งที่ดีต่อตัวนางเองแน่ๆ
“ไปเถอะ” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา จากนั้นก็หมุนตัวเดินไป
“เสี่ยวชีชี…” ฉางคงพูดออกมาอย่างน่าสงสารหางของเขายังคงอยู่ในมือชีอ้าวชวางอยู่เลย
“เฮ้อ!” ชีอ้าวชวางขนลุกกับคำว่าเสี่ยวชีชีมากนางรู้เจตนาของฉางคงจึงสะบัดมือเหวี่ยงฉางคงที่อยู่ในมือไปข้างหลัง พาริน่าจึงรีบยื่นมือออกไปรับฉางคงทันที
“พี่สาวคนสวย…” ฉางคงรีบหดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของพาริน่าอย่างมีความสุข
“เด็กดี…” พาริน่าลูบหัวเล็กๆ ของฉางคง แต่แววตาของนางไม่เคยละสายตาจากแผ่นหลังของชีอ้าวชวางเลยฉางคงเงยหน้าขึ้นมองและเห็นรอยยิ้มเยือกเย็นที่มุมปากของพาริน่า จากนั้นความรู้สึกไม่ดีบางอย่างก็พุ่งเข้ามาในใจของเขาทำไมถึงรู้สึกว่าพี่สาวคนสวยคนนี้อันตรายนะทำไมแววตาของนางดูเหมือนนักล่าที่มองเหยื่อเลย แถมยังดูหิวโหยมากด้วย…
“ชีอ้าวชวางเดินตรงไปทางทิศตะวันตก เจ้าจะพบปรากฏการณ์ภาพลวงตากลางทะเลทราย หากเห็นภาพลวงตาก็แสดงว่าใกล้ถึงทางออกแล้ว”พาริน่าตามไปเดินเคียงข้างชีอ้าวชวางและพูด
ชีอ้าวชวางไม่พูดอะไรและยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
“ชีอ้าวชวาง ทำไมเจ้าถึงอยากมาที่สถาบันดวงดาวล่ะ เพราะอยากเหนือกว่าคนอื่นงั้นหรือ” พาริน่าพูดไม่หยุด
ชีอ้าวชวางก็ยังคงไม่แยแสอยู่ดี
“ชีอ้าวชวางชื่อของเจ้าคล้ายชื่อผู้หญิงมากเลย ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่หรือ” พาริน่ายังคงถามต่ออย่างไม่ยอมแพ้
คำตอบของพาริน่าก็คือเสียงลมพัด
พาริน่าเม้มริมฝีปากและบ่นในใจว่าทำไมนิ่งจังนะ ไม่พูดอะไรสักคำเลยจริงๆ
ฉางคงเหลือบมอง เขาอยู่ในอ้อมกอดของพาริน่าอย่างมีความสุขและสัมผัสถึงความนุ่มจากหน้าอกของพาริน่าได้อย่างพอดิบพอดี
ตรงไปทางทิศตะวันตกก็ได้เห็นภาพลวงตาลอยอยู่ในอากาศอยู่ไกลๆ มันเป็นโอเอซิสเล็กๆ ที่มีต้นไม้ขึ้นรอบๆ นั้น
“เดินไปที่ภาพลวงตาก็จะเป็นเนินทรายที่เนินทรายนั้นจะมีถ้ำอยู่ ตราบใดที่เจ้าผ่านถ้ำพวกนั้นได้อย่างปลอดภัยเจ้าก็จะไปถึงทางออกได้”พาริน่าอธิบายอยู่ข้างๆ
จากนั้นท่าทีของชีอ้าวชวางก็ยังคงนิ่งอยู่
“เฮ้ เจ้าจะไม่ถามหน่อยหรือว่ามีอะไรอยู่ในถ้ำนั้น มันมีอันตรายอะไรหรือไม่” พาริน่าพูดอยู่นานแต่ชีอ้าวชวางไม่ตอบเลย นางจึงถามด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าไม่มีอันตรายก็ไม่เรียกว่าทดสอบสิแบบนั้นต้องเรียกว่าเที่ยวชมเมือง” ชีอ้าวชวางตอบเบาๆ
“เจ้าเด็กน่าเกลียดนี่ จริงๆ แล้วถ้ำนั้นคือเขาวงกตและมีแมลงชนิดหนึ่งอยู่ในนั้นแมลงนั้นสามารถคายกรดออกมากัดกร่อนทุกอย่างได้” พาริน่าพูดอย่างไม่พอใจ “ข้าอยากจะบอกเจ้าด้วยความหวังดี แต่เจ้ากลับมีท่าทีแบบนี้!”
“ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็ผ่านไปได้อย่างปลอดภัยอยู่แล้ว” ชีอ้าวชวางมองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่มั่นคง มีอะไรต้องกลัวล่ะ นี่เป็นเพียงชั้นที่สามเท่านั้นเอง แน่นอนว่าการทดสอบเหล่านี้จะต้องผ่านไปได้อยู่แล้ว
“เจ้า!” พาริน่ากระทืบเท้าตามไปด้วยความโกรธ นิสัยของผู้ชายคนนี้แข็งกระด้างจริงๆ เลย มั่นใจในตัวเองเหลือเกิน นางอยากเห็นนักว่านักเรียนใหม่คนนี้จะไปได้ถึงกี่ชั้น! แต่ความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมในสายตาของผู้ชายคนนี้มาจากไหนกันหรือว่าเขาจะแข็งแกร่งมากจริงๆ
ลมพัดจนผมของชีอ้าวชวางปลิวไปหมด แต่ทรายที่ปลิวอย่างบ้าคลั่งนั้นกลับแหวกทางให้ชีอ้าวชวางพาริน่ามองไปที่ร่างของชีอ้าวชวางมองลมที่พัดผมของเขาแล้วก็เห็นต่างหูสีม่วงแวววาวสวยงามบนติ่งหูก็ตะลึงไปเล็กน้อย
“ชีอ้าวชวาง ต่างหูของเจ้าสวยมากเลย เจ้าเป็นผู้ชายทำไมถึงใส่ต่างหูด้วยล่ะ” พาริน่ามองไปที่ต่างหูของชีอ้าวชวางและพูด “ผู้ชายอะไรใส่ต่างหู เอามาให้ข้าจะดีกว่าหรือไม่”
พาริน่าเอียงหัวมองชีอ้าวชวางเวลาต่อมา ใบหน้าที่เฉยเมยของชีอ้าวชวางก็มืดครึ้มลงทันทีและหันไปมองพาริน่าด้วยสายตาเย็นชายิ่ง แม้ตอนนี้จะอยู่ในทะเลทรายร้อนระอุแต่พาริน่ารู้สึกราวกับว่านางอยู่ในธารน้ำแข็งหนาวยะเยือก จากนั้นแรงกดดันที่บรรยายไม่ได้ก็ห่อหุ้มร่างกายจนทำให้หลังของนางค่อยๆ มีเหงื่อเย็นผุดออกมาแรงกดดันที่น่าสะพรึงนี้มาจากชีอ้าวชวาง