เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 297
ทันใดนั้นปากของสัตว์ประหลาดก็อ้าออกกว้างและกลืนขาหมูที่ใหญ่กว่าทั้งตัวของมันเข้าไปในคำเดียว ปากของมันขยายใหญ่ขึ้นอย่างน่าประหลาด! ที่แปลกไปกว่านั้นคือหลังจากที่มันกลืนขาหมูชิ้นใหญ่เข้าไปแล้ว ตัวของมันก็ยังเล็กและน่าสงสารเท่าเดิม ไม่รู้ขาหมูที่มันกลืนหายไปไหน
สัตว์ประหลาดกลืนขาหมูไปแล้วก็จ้องมาที่ชีอ้าวชวางนิ่ง
นี่คือสิ่งมีชีวิตชนิดใดกัน? ชีอ้าวชวางเหงื่อตก มันอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนี้ และปากของมันก็ขยายได้มากในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นมันจึงกลืนคนได้แน่นอน ยิ่งไม่ควรต่อสู้กับมันเลย หากเจ้านี่กระโดดแล้วสิ่งปฏิกูลสีดำนั้นกระเซ็นไปทั่วก็คงจะแย่แน่ๆ
ชีอ้าวชวางคาดการณ์ไม่ผิดเลย มีปรมาจารย์หลายคนเกลียดที่นี่ บางคนหาหินมั่นคงไม่เจอก็ตกลงไปตาย บางคนก็ถูกสัตว์นี้กลืนลงไป หลายคนต้องมาทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่ แม้ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนหรือมีของล้ำค่า แต่หากโดนสิ่งปฏิกูลนี้เข้า ถ้าไม่ตายก็เสียผิวหนังไปเลย
หินจำนวนมากที่ลอยอยู่บนหนองน้ำสั่นไปมา และไม่มีทางที่จะมองเห็นได้เลยว่าก้อนไหนใช่หรือก้อนไหนที่ไม่ใช่ แถมยังมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและแปลกประหลาดตัวนี้จ้องมองอยู่อีก ชั้นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
ชีอ้าวชวางนั่งลงตรวจสอบสถานที่ที่น่ากลัวแห่งนี้พลางคิดหามาตรการรับมือไปด้วย
สัตว์ประหลาดที่ลอยอยู่ด้านข้างจ้องมาที่ชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางและสัตว์ประหลาดมองกันและกันไม่ขยับไปไหน
จะผ่านชั้นนี้ไปได้อย่างไรกันนะ?
ชีอ้าวชวางจ้องสัตว์ประหลาดตัวนั้นไม่ขยับ สัตว์ตัวนั้นก็ไม่ไปไหน มันลอยอยู่บนหนองน้ำและจ้องชีอ้าวชวางตาไม่กะพริบ จะจัดการมันไม่ใช่เรื่องง่าย
“มองอะไร? ไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยหรือ ไม่สิ ไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อหรือ” ชีอ้าวชวางคิดจนแทบแย่ แต่ก็ยังคิดวิธีที่จะข้ามหนองน้ำนี้อย่างปลอดภัยไม่ออก พอเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นยังมองนางอยู่ก็อดตะโกนใส่ไม่ได้
“กูๆ…กูๆ…” สัตว์ประหลาดร้องใส่ชีอ้าวชวาง แต่ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่
“พูดอะไรน่ะ?” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วมองไปที่เจ้านั่น เจ้าตัวที่ใช้ชีวิตอยู่รอดได้ในสภาพพื้นที่น่ากลัวเช่นนี้จะเป็นสิ่งที่จัดการได้ง่ายหรือ? เพียงแค่ส่วนหัวที่ใหญ่โตและปากที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างน่ากลัวนั้นก็ทำให้ผู้คนรู้สึกสยองได้
“จี๊ดๆ?” เวลานี้ฉางคงก็กระโดดออกจากร่างของชีอ้าวชวางแล้วกระโดดไปตรงหน้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นและส่งเสียงร้อง
“กูๆ…”
“จี๊ดๆ?”
“กูๆ! กูๆๆๆ!”
“จี๊ดๆ…จี๊ดๆ…”
ทั้งสองเริ่มคุยกันด้วยภาษาที่ชีอ้าวชวางไม่เข้าใจ
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงโครมครามขึ้น สัตว์ประหลาดกระโดดขึ้นมา ทำให้สิ่งปฏิกูลกระเซ็นออกไปทุกที่ ได้ยินเสียงสึกกร่อนที่พื้นและหินลอยที่อยู่ใกล้ๆ และพื้นที่ที่ถูกน้ำนั้นกระเซ็นใส่ก็สึกกร่อนไปหมด แต่สัตว์ประหลาดกลับส่งเสียงดังแล้วก็กระโดด ดูเหมือนว่ามันจะกำลังมีความสุขนะ?
“จี๊ดๆ! จี๊ด…” ฉางคงกระโดด ดูเหมือนจะรำคาญเล็กน้อย เหมือนว่าจะกำลังตำหนิ?
“กู…” สิ่งที่ทำให้ชีอ้าวชวางประหลาดใจก็คือสัตว์ประหลาดตัวนี้เหมือนเด็กที่ทำอะไรผิด มันว่ายน้ำอย่างเชื่อฟังและไปลอยอยู่ขอบหนองน้ำแล้วจ้องมองฉางคง
สิ่งที่ทำให้ชีอ้าวชวางงุนงงก็คือในสายตานั้นดูเหมือนจะมีความหมายที่น่าสงสาร ราวกับว่ามันกำลังขอร้องให้ฉางคงให้อภัยเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เฮ้ ชีอ้าวชวาง…” ฉางคงกระโดดกลับไปที่ข้างๆ ชีอ้าวชวาง
“เจ้าทำอะไร?” ชีอ้าวชวางมองฉางคงด้วยความสับสน “เจ้าเข้าใจที่เจ้าตัวนั้นพูดหรือ?”
“เขาชื่อเหมาเหมา เจ้าต้องการจะผ่านสถานที่นี้ไปใช่หรือไม่? ถ้ามีเขานำทางไปจะไปได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น เจ้าแค่ต้องจ่ายเงินค่าผ่านทางเท่านั้น” ฉางคงพูดและยิ้มอย่างมีความสุข
ชีอ้าวชวางอึ้ง จากนั้นก็เริ่มคิด
เหมาเหมา? สัตว์ประหลาดตัวนี้ยังมีชื่อเลย แล้วยังเป็นชื่อแบบนี้ด้วย? แถมยังจะเอาค่าผ่านทางอีก?
“อะไรกัน? ทำไมต้องจ่ายค่าผ่านทางด้วย?” ชีอ้าวชวางรู้สึกว่าลิ้นพันกันไปหมดเลย
“ง่ายๆ เลยนะ เหมาเหมาบอกว่าเนื้อที่เจ้าโยนให้นั้นอร่อย ดังนั้นให้เพิ่มอีกสักหน่อยสิ จากนั้นข้าก็บอกเขาว่าเจ้าทำให้อร่อยได้มากกว่านี้อีก เขาเลยบอกว่าจะไม่เพียงแต่ปล่อยเจ้าไป แต่ยังจะช่วยให้เจ้าผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัยด้วย” ฉางคงพูด จากนั้นก็พูดเสริม “เหมาเหมาเป็นเจ้าถิ่นที่นี่ พื้นที่นี้คืออาณาเขตของเขา”
ปากของชีอ้าวชวางกระตุกอยู่นาน พูดไม่ออกเลย ที่แห่งนี้ เหล่าคนก่อนหน้านั้นผ่านไปได้อย่างไรกัน? ชีอ้าวชวางไม่ได้สนใจว่านางจะผ่านการทดสอบเหล่านี้หรือไม่ สิ่งที่นางสนใจก็คือรางวัลสำหรับการผ่านการทดสอบต่างหาก!
ว่ากันว่าผู้ที่ผ่านการทดสอบระดับแปดจะได้ฝึกฝนในสถานที่ลับที่รับพลังได้เร็วขึ้นและเข้าถึงมิติสูญสลายได้เร็วขึ้น เพื่อรางวัลนี้ ชีอ้าวชวางจะต้องหาทางผ่านชั้นนี้ไปให้ได้!
“กูๆๆๆ…” เหมาเหมาเริ่มกรีดร้องอีกครั้งและดูท่าทางจะเริ่มกังวลมากขึ้นด้วย
ฉางคงรีบแปลอย่างคล่องแคล่ว “มนุษย์ เจ้าทำของอร่อยๆ ให้ข้าสิ ข้าไม่เคยได้กินอิ่มเลย อีกอย่าง เนื้อพวกนั้นก็ไม่อร่อยสุดๆ เจ้าเอาอาหารอร่อยมาให้ข้ากิน ข้าก็จะทำให้เจ้าผ่านที่นี่ไปได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เจ้าต้องรู้นะว่าแม้ว่าคนเหล่านั้นจะผ่านที่นี่ได้ แต่เร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาสองสามวันเลย”
ชีอ้าวชวางเหงื่อตก และเนื้อที่ไม่อร่อยสุดๆ อย่างที่เหมาเหมาบอก เกรงว่าจะเป็นพวกคนที่เข้าร่วมการทดสอบแล้วอยากจะผ่านทางนี้ไปน่ะสิ แน่นอนว่าเนื้อคนน่าจะไม่อร่อย แถมยังดิบอีก!
เหมาเหมาได้กินหมูเป็นครั้งแรกก็เลยรู้สึกว่ามันรสชาติดีกว่าเนื้อมนุษย์อยู่แล้ว แถมยังมีต้นกำเนิดลมที่เข้าใจเขาได้อีกด้วย
หน้าผากของชีอ้าวชวางตึงไปหมด ที่แท้วิธีที่จะผ่านสถานที่อันตรายนี้ได้ก็คือติดสินบนเหมาเหมานี่เอง! ถ้าคนก่อนหน้านั้นรู้วิธีนี้เข้า ก็คงไม่ต้องกล้ำกลืนอยู่ที่นี่หรอก แต่แม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่มันจะมีสักกี่คนที่จู่ๆ ก็โยนเนื้อหมูให้เหมาเหมากินล่ะ อีกอย่าง จะมีใครที่บังเอิญมีต้นกำเนิดลมอยู่ที่ตัวแล้วสื่อสารกับเหมาเหมาได้? ชีอ้าวชวางคงจะเป็นคนแรกที่มีทั้งสองเงื่อนไขนี้อยู่ในตัวคนเดียว
“เนื้อย่างหรือ?” ชีอ้าวชวางมองดวงตากลมโตของเหมาเหมาที่จ้องมาที่ตัวเองแล้วก็เกาหัว จากนั้นก็หยิบเครื่องมือทำเนื้อย่างทั้งหมดออกมาแล้วก็เอาเนื้อสดออกมา
“กูๆ! กูๆ!” เหมาเหมาตื่นเต้นแล้วเคลื่อนไหวอยู่ในหนองน้ำ สุดท้ายก็เอนหัวที่ใหญ่โตน่าเกลียดของมันกับขอบหนองน้ำและจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือของชีอ้าวชวางจากนั้นก็ส่งเสียงคำราม ฉางคงหันไปพูดกับเหมาเหมา แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไร
“เหมาเหมากำลังกลืนน้ำลายแล้ว” ฉางคงอธิบายกับชีอ้าวชวางถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ชีอ้าวชวางพูดไม่ออกเลย นางทำได้เพียงแค่เร่งความเร็วขึ้น และหลังจากที่ย่างชิ้นหนึ่งเสร็จแล้วก็โยนมันให้กับเหมาเหมา เหมาเหมาเองก็ไม่เกรงใจ อ้าปากกว้างกลืนลงไป เนื้อหลายชิ้นหายไปหมดในทันที
“ฉางคง เหมาเหมานี่กลืนเนื้อไปไว้ที่ไหน? ตัวเล็กขนาดนั้น…” ชีอ้าวชวางงุนงง
“เขาสร้างพื้นที่ได้ด้วยตัวเอง และกลืนมันลงในช่องว่างในปากของเขาชั่วคราว จากนั้นก็จะสำรอกออกมากิน” ฉางคงอธิบาย
เก่งขนาดนั้นเลย? ชีอ้าวชวางเหงื่อออก นิสัยนี้เหมือนกับนิสัยของแฮมสเตอร์เลย แต่เจ้าตัวนี้สร้างพื้นที่ในร่างกายได้หรือ นี่คือสิ่งมีชีวิตชนิดใดกัน?
หลังจากที่ย่างเนื้อจากในแหวนมิติของชีอ้าวชวางไปเกือบหมดแล้ว เหมาเหมาก็หรี่ตาลงด้วยความพึงพอใจและทุบปากอย่างสบายๆ จากนั้นมันก็ว่ายไปรอบๆ แล้วขยิบตาให้ชีอ้าวชวาง
“เหมาเหมาบอกว่าตอนนี้จะนำทางให้เจ้าแล้ว” ฉางคงกระโดดไปที่ไหล่ของชีอ้าวชวางและพูด
“อืม” ชีอ้าวชวางพยักหน้าและพูดกับเหมาเหมา “ถ้าอย่างนั้นรบกวนเจ้าด้วยนะ”
“กูๆ! กูๆ…กู….” เหมาเหมาส่งเสียง
“เจ้าจ่ายค่าผ่านทางแล้วไม่ต้องขอบคุณหรอก” ฉางคงเป็นนักแปลที่มีความสามารถจริงๆ
ในขณะนี้มีเสียงแผ่วเบาอยู่ในระยะไกล
“กูๆๆๆ… ” จู่ๆ เหมาเหมาก็ร้อง
“มีใครบางคนกำลังมา” ฉางคงพูดประโยคนี้และกระโดดกลับเข้าไปในร่างของชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางอึ้งแล้วหันกลับไป ใครกันที่มา?
เสียงแผ่วเบาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“เจ้าเองหรือ?!”เสียงแหลมดังขึ้นอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย คนที่พูดก็คือเลนนี่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ นางขมวดคิ้วและมองไปที่ชีอ้าวชวาง
ข้างๆ เลนนี่คือไดทันส์ที่มีใบหน้าสงบ มีเพียงแค่การแสดงออกของเลนนี่ที่ดูเหนื่อยเล็กน้อย แต่จิตวิญญาณของไดทันส์นั้นยังมีอยู่ดีมาก จากจุดนี้จะเห็นความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างคนทั้งสอง เห็นได้ชัดเลยว่าเลนนี่ใช้ความพยายามอย่างมากในการทดสอบนี้ แต่ไดทันส์ผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย
แต่โจนาธานดูเหมือนจะไม่ได้อยู่กับพวกเขา?
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เลนนี่จ้องชีอ้าวชวางและถามอย่างไม่สนใจ
ชีอ้าวชวางไม่สนใจเลนนี่ นางเพียงแค่มองไปที่พวกเขาสองคน จากนั้นก็หันกลับไปนั่งที่เมื่อครู่
เลนนี่อึดอัดอยู่ในใจ ทุกครั้งผู้ชายผมแดงจะไม่เคยมองนางเลย แน่นอนว่าคนที่อยู่ใกล้กับโจนาธานมักไม่ใช่คนดี! หึ ทั้งสองคนเป็นพวกไม่มีการศึกษา
“ไม่มีมารยาท ข้าถามเจ้าอยู่นะ” เลนนี่ยังคงรู้สึกอึดอัดอยู่เลย
“น้ำเสียงที่เจ้าถามไม่เห็นจะมีมารยาทเลย คนอื่นจะไม่ตอบก็เป็นเรื่องปกติ” ไดทันส์พูดเบาๆ แต่สายตาของเขาอยู่ที่ร่างของชีอ้าวชวาง เขาไม่แปลกใจเลยที่เด็กคนนี้มาถึงที่นี่ได้ จากจุดเริ่มต้น ลมหายใจที่แผ่ออกมาจากชายหนุ่มคนนี้ทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา แน่นอนว่าส่วนหนึ่งย่อมมาจากการที่ได้เห็นเขาที่นี่ในตอนนี้ และเห็นท่าทางผ่อนคลายของเขา อีกทั้งเขายังมาถึงที่นี่ได้เร็วขนาดนี้ด้วยท่าทีราวกับผ่านมาอย่างสบายๆ อีก