เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 299
“ชีอ้าวชวาง ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมาถึงที่นี่ได้แน่นอน ข้ามองไม่ผิด” โจนาธานพูดอย่างภาคภูมิใจ
“แล้วอย่างไรเล่า?” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วมองโจนาธานที่ดูผ่อนคลาย นางรู้ว่าโจนาธานมาถึงที่นี่โดยไม่ได้ใช้แรงมากนัก เห็นได้ชัดว่าอันดับที่สองของโจนาธานนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่เหมือนกับของเลนนี่
“เหอะๆ ข้าจะเล่าเรื่องสนุกให้เจ้าฟัง” โจนาธานนั่งข้างชีอ้าวชวางและพูดอย่างดีใจ
“เลนนี่” ชีอ้าวชวางพูดออกมาโดยไม่ต้องคิดอะไร
โจนาธานตกใจแล้วมองไปที่ชีอ้าวชวางด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“เจ้าเยาะเย้ยนางอย่างรุนแรงและทำให้นางอับอายสินะ” ชีอ้าวชวางยังคงพูดคำเช่นนั้นต่อโดยไม่แสดงสีหน้าใด
“ว้าว! เจ้ารู้ได้อย่างไร?” โจนาธานตกใจมากจนดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นอีก
“ความทุกข์ของเลนนี่คือความสุขของเจ้าไม่ใช่หรือ?” ชีอ้าวชวางกระตุกมุมปากและพูดอย่างเฉื่อยชา
“หะ? ฮ่าๆๆๆๆๆ…” หลังจากได้ฟัง โจนาธานก็อึ้งแล้วหัวเราะดังลั่น
ชีอ้าวชวางไม่พูดอะไรและรอให้โจนาธานหัวเราะจนเสร็จ
“เจ้าก็รู้จักข้าดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆ ใช่ ข้ามีความสุขตอนนางเสียใจ และข้าก็มีความสุขตอนนางเจ็บปวด” โจนาธานยื่นมือออกมาตบไหล่ของชีอ้าวชวางพลางพูดอย่างมีความสุข
“ทำไมเจ้าถึงเกลียดนางมากขนาดนี้ล่ะ?” ชีอ้าวชวางค่อนข้างไม่เข้าใจว่าโจนาธานกับเลนนี่เกลียดอะไรกัน?
“ไม่ทำไม ก็แค่น่ารำคาญ เอาแต่คิดว่าตัวเองสวยตัวเองดีอยู่ตลอด สวยแล้วมันทำไมล่ะ? แค่สวยนี่คือที่สุดแล้วหรือ?” โจนาธานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม ความคิดของเขาใกล้เคียงกับชีอ้าวชวาง “ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจจะตาย ครั้งที่แล้วที่ผ่านระดับแปดก็พึ่งไดทันส์ ที่ได้อันดับสามนั่นคือการไปพูดคุยกับนักเรียนคนอื่นๆ เป็นการส่วนตัวนะ เจ้าคิดว่านางสูงส่งหรือ? นางคิดว่าข้ากับไดทันส์ไม่รู้ เราแค่ไม่อยากพูดต่างหาก”
ชีอ้าวชวางอึ้งไปชั่วขณะ นางไม่คิดเลยว่าเลนนี่จะขอร้องให้คนเหล่านั้นยอมอ่อนข้อให้นาง ตอนแรกคิดว่าคนเหล่านั้นยอมอ่อนข้อให้นางเอง
“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามอันดับแรกต้องทำร่วมกัน และสถาบันก็ให้รางวัลเป็นสถานที่ฝึกให้สามอันดับแรกได้ฝึกฝนร่วมกัน เลนนี่ยอมจ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับไดทันส์” โจนาธานดูถูกมากขึ้นเรื่อยๆ “เจ้าคิดว่าไดทันส์พานางมาด้วยทำไมล่ะ? เพราะไดทันส์ติดหนี้บุญคุณนาง เรื่องนี้นะต้องเริ่มพูดตั้งแต่แรกนู่น…”
ชีอ้าวชวางมองโจนาธานพูดและก็กระตุกมุมปาก ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะไม่เพียงแต่เป็นราชาลิ้นพิษเท่านั้น แต่เขายังขี้นินทาอีกด้วย!
“ไดทันส์น่ะมีพี่สาวแสนสวยซึ่งเป็นภรรยาของเจ้าเมืองจิ่วเทียน ครั้งหนึ่งพี่สาวของเขาถูกลอบสังหารและนางบังเอิญไปพบกับเลนนี่ที่นั่น เลนนี่จึงช่วยพี่สาวของเขาไว้ นั่นคือสิ่งที่เขาเป็นหนี้บุญคุณนาง จริงๆ แล้วข้าก็เพิ่งรู้เรื่องอย่างชัดเจนจากไดทันส์มาว่าตอนนั้นถึงจะไม่มีเลนนี่ พี่สาวของเขาก็ไม่ตกอยู่ในอันตรายหรอก แต่ตอนนนั้นเลนนี่ เหอะๆ เอาตัวเข้าไปเป็นโล่ขวางดาบให้พี่สาวของไดทันส์” โจนาธานเม้มปากและพูดอย่างเหยียดหยาม “นางจงใจไปพบกับพี่สาวของไดทันส์และพยายามเอาใจพี่สาวของไดทันส์จนในที่สุดก็มีโอกาสนี้ แน่นอนว่านางไม่ปล่อยมันไป”
ในที่สุดชีอ้าวชวางก็เข้าใจ ที่แท้ก็เป็นหนี้บุญคุณเช่นนี้เอง
“แม้ว่าตอนนั้นจะไม่มีเลนนี่ พี่สาวของไดทันส์ก็ไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอก แต่นิสัยของไดทันส์…เฮ้อ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาปล่อยให้เลนนี่ตามอยู่เคียงข้าง แล้วยังช่วยนางตั้งหลายครั้ง ทำแม้กระทั่งพานางผ่านการทดสอบระดับแปดด้วยซ้ำ” สายตาของโจนาธานมีแววดูถูกอยู่ลึกๆ แล้วเขาก็หัวเราะออกมา “แต่ตอนนี้ไดทันส์ไม่รับผู้หญิงคนนั้นอีกต่อไปแล้ว เขาน่าจะคิดได้ว่าบุญคุณจบไปแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆ…”
โจนาธานหัวเราะอย่างมีชัยและเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็หัวเราะอีก
เหมาเหมานอนอยู่ที่ฝั่งและจ้องไปที่โจนาธานด้วยสายตาไม่พอใจ
“จริงสิ ชีอ้าวชวาง เจ้าจะไม่ข้ามไปหรือ? ไปสิ ข้าจะพาเจ้าข้ามไป”โ จนาธานพูดอย่างตื่นเต้น
“ไม่ต้องหรอก” ชีอ้าวชวางส่ายหัวและพูดเบาๆ “ข้าไปเองได้”
“ก็จริง ข้ามีความสุขมาก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะผ่านไปได้อย่างแน่นอน” โจนาธานยิ้มสดใสและพยักหน้าอย่างหนักแน่น
ในเวลานี้มีอีกเสียงหนึ่งอยู่ข้างหลังพวกเขา นักเรียนคนอื่นๆ ก็มาที่นี่แล้วเช่นกัน หนึ่งในนั้นมีปีศาจชายที่ชีอ้าวชวางเคยเห็นที่ชั้นเจ็ดตอนที่ต้องผ่านพื้นที่ทั้งร้อนทั้งหนาวนั่น
“อ้าว พวกเจ้ามากันแล้วหรือ” โจนาธานยืนขึ้นและทักทายคนที่เข้ามา
“โจนาธาน” เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้น
“ฮ่าๆ ข้าก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็แมลงวันที่เอาแต่บินวนรอบเลนนี่ทั้งวันนี่เอง” โจนาธานกอดอกและมองไปอย่างเยาะเย้ย
ชีอ้าวชวางหันหน้าไปและเห็นชายห้าคนกำลังเดินเข้ามา คนที่เดินอยู่ในตอนท้ายคือปีศาจชายที่ชีอ้าวชวางเห็นอยู่ที่ชั้นเจ็ด ชายตรงหน้ามีใบหน้าที่เศร้าหมอง ใบหน้าของเขาถือว่าหล่อเหลา แต่ความโหดร้ายระหว่างคิ้วของเขาทำลายความหล่อเหลาไป แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับไดทันส์แล้วเขาแย่กว่าเล็กน้อย
“โจนาธาน! นอกจากเจ้าจะใช้คำพูดรังแกผู้หญิงแล้วเจ้าทำอะไรได้อีก?” ชายผู้นั้นพูดอย่างเย็นชา
“ฮ่าๆ ซิมิ ไม่เพียงแต่ข้าจะพูดได้เท่านั้นนะ ข้ายังเอาชนะเจ้าได้ด้วย ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูสิ ส่วนเรื่องที่เจ้าบอกว่าข้ารังแกผู้หญิง” จู่ๆ โจนาธานก็แสร้งทำเป็นครุ่นคิดและขมวดคิ้ว “ข้าก็เป็นมิตรกับผู้หญิงมากนะ ปฏิบัติกับพวกนางอย่างดี”
“เหอะ! เจ้าสนุกมากหรือ!” สีหน้าของคนที่ชื่อซิมิแดงขึ้น เขาไม่กล้ารับประโยคก่อนหน้านี้ของโจนาธาน เขาก็รู้ว่าโจนาธานมีความสามารถที่จะเอาชนะเขาได้จริงๆ ดังนั้นสิ่งเดียวที่ตามมาคือคำพูด “เจ้าปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างดีหรือ? เจ้ายังต้องให้ข้าบอกหรือไม่ว่าท่าทีของเจ้าที่มีต่อเลนนี่เป็นอย่างไร? อย่างที่ทุกคนรู้ว่าเจ้าทำให้เลนนี่ลำบาก และเมื่อครู่ก็ทำให้นางอับอาย เจ้าเป็นผู้ชายหรือไม่? เจ้าทำแบบนั้นกับเลนนี่ได้อย่างไร!” ซิมิพูดอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมแววตาร้ายกาจแต่เขาไม่กล้าลงมือทำอะไร
“หือ?” โจนาธานทำท่าทางสับสนและกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาแล้วพูด “เลนนี่เป็นผู้หญิงหรือ? นางเป็นผู้หญิงหรือ? ทำไมข้าไม่รู้?”
ซิมิมองปฏิกิริยาของโจนาธานแล้วแทบกระอักเลือดด้วยความโกรธ เขาชี้นิ้วและพูดไม่ออกไปเป็นเวลานาน “เจ้า เจ้ามันเป็นคนไม่มีเหตุผล!”
โจนาธานยักไหล่และพูดอย่างช่วยไม่ได้ “สายตาของเจ้านี่มันจริงๆ เลยนะ คนแบบนั้นยังชอบไปได้ เอาแต่คิดว่าตัวเอง…” โจนาธานพูดต่อ
“หุบปาก! อย่ามาดูถูกเลนนี่” ซิมิตะคอกด้วยความโกรธ สีหน้าย่ำแย่มาก
สีหน้าของโจนาธานก็นิ่งลง แต่มีรอยยิ้มและความชั่วร้ายฉายผ่านดวงตาของเขา เขาไม่ถือสาซิมิผู้น่ารังเกียจนี้สักนิด ฮ่าๆ!
“ซิมิ อย่า!” ทันใดนั้นก็มีเสียงมาหยุดการเคลื่อนไหวของซิมิ
ชีอ้าวชวางจำได้ว่าเสียงนี้คือเสียงเลนนี่ นางยังไม่ออกไปอีกหรือ? ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังนี่เอง
โจนาธานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองซิมิที่สีหน้าโกรธจัด แอบคิดในใจว่าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้ซิมิถึงตื่นเต้น รู้อยู่แล้วว่าสู้เขาไม่ได้แต่ก็ยังทำท่าจะกระโจนเข้ามา ที่แท้ก็อยากจะแสดงให้คนที่อยู่ในใจเห็นนี่เอง
“เป็นอย่างไร? เลนนี่ ที่ไม่ออกไปนี่หวังให้ใครพาเจ้าข้ามไปหรือ?” โจนาธานมองซิมิด้วยความรังเกียจและเย้ยหยัน “เจ้าหวังจะให้ซิมิพาเจ้าข้ามไป? ตัวเขาเองก็ยังแย่ จะให้พาเจ้าไปอีกหรือ? พวกเจ้าจะตายกันทั้งคู่น่ะสิ” ตอนนี้รอยยิ้มที่สดใสของโจนาธานอยู่ที่ไหนแล้ว? รอยยิ้มที่มุมปากของเขาตอนนี้ช่างชั่วร้ายมาก
ซิมิกำหมัดแน่นและมองโจนาธานนิ่ง หากแววตาของเขาฆ่าคนได้ โจนาธานคงตัวพรุนและตายไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่ดวงตาฆ่าคนไม่ได้ โจนาธานจึงยังคงยืนมองซิมิอย่างมีชัย ซิมิโกรธจัดจนแทบกระอักเลือด
เลนนี่กัดริมฝีปากและมองไปที่โจนาธาน แต่หัวใจของนางกำลังอ่อนแอ นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโจนาธาน ซิมิเองก็ไม่ใช่
คนอื่นๆ ต่างก็เงียบและดูการแสดงตรงหน้าพวกเขา ไม่มีใครพูดอะไร ชีอ้าวชวางเองก็นั่งเงียบๆ
แต่สายตาของเลนนี่กลับมองไปที่ชีอ้าวชวาง และแววตาของนางก็เต็มไปด้วยแรงสังหารและความแค้น
แรงสังหาร? ชีอ้าวชวางขมวดคิ้ว นางพูดถูก เลนนี่มองนางด้วยแรงสังหาร จะฆ่าตนเองหรือ? ทำไมล่ะ? ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วแต่ก็คิดไม่ออก ดูเหมือนจะไม่ได้ไปยุ่งกับเลนนี่เลยนะ?
ชีอ้าวชวางไม่รู้จิตใจของเลนนี่ เลนนี่ถูกไดทันส์กล่าวว่าโหดร้ายและไร้ความรู้สึกต่อหน้าชีอ้าวชวางนับเป็นความอัปยศอดสูอย่างมาก สำหรับนาง ความหลงใหลของนางถูกไดทันส์เหยียบย่ำอย่างไร้ความปรานีและไม่มีความรักต่อนางแม้สักนิด หากคุยกันเพียงลำพังส่วนตัวก็ยังดี แต่นี่พูดต่อหน้าชีอ้าวชวาง จะให้คนอื่นเห็นภาพที่น่าอับอายไม่ได้! นางเป็นใคร? นางคือเลนนี่ หนึ่งในสี่สาวงามของสถาบันนะ! นางคือหญิงสาวที่น่าภาคภูมิใจนะ!
จะให้คนอื่นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางและไดทันส์ไม่ได้ เพราะเรื่องนั้นมันน่าอายเกินไป จะให้ผู้หญิงที่เกลียดนางหัวเราะเยาะหลังจากรู้เรื่องงั้นหรือ? ไม่ได้! ด้วยนิสัยเย่อหยิ่งของนาง นางจะไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่!
เลนนี่รู้สึกดีที่เห็นว่าชีอ้าวชวางยังไม่ทันได้บอกโจนาธานว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนางกับไดทันส์ ไม่อย่างนั้นโจนาธานคงจะเยาะเย้ยไปแล้ว ยังมีเวลา! อย่าให้คนอื่นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้ โดยเฉพาะโจนาธาน!
เลนนี่มองตาของชีอ้าวชวางอย่างเย็นชา และตัดสินใจว่าเขาจะต้องถูกฆ่าที่นี่! เขาจะต้องตายในขณะที่เดินผ่านหนองน้ำ และจะไม่มีใครบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เลนนี่ไม่ได้ออกจากหอคอยแต่รอให้ซิมิผู้ชื่นชอบนางมาถึงก่อนแล้วขอให้เขาฆ่าชีอ้าวชวางอย่างแนบเนียนในระหว่างที่เดินข้ามหนองน้ำ