เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 301
“จะตายก็ต้องตายอย่างเข้าใจสิ?” ชีอ้าวชวางเบ้ปากมองเลนนี่ สิ่งที่ชีอ้าวชวางหมายถึงก็คือก่อนที่เลนนี่กับซิมิจะตายก็ควรจะบอกสิว่าทำไมถึงพุ่งเป้ามาที่นาง แต่พอประโยคนี้ไปอยู่ในความเข้าใจของสองคนนั้นกลับเข้าใจเป็นอีกแบบว่านี่เป็นความปรารถนาสุดท้ายของชีอ้าวชวาง
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้” แน่นอนว่าเลนนี่จะไม่พูดเรื่องน่าละอายนั้นซ้ำๆ และยิ่งให้ซิมิรู้เรื่องนี้ไม่ได้เลย ความหยิ่งผยองของนางไม่ยอมให้นางพูดออกไป
“เฮ้อ น่าเสียดายจริงๆ” ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ นางเห็นแรงสังหารในสายตาของทั้งสองคน ในเมื่ออีกฝ่ายโหดร้ายมากขนาดนี้ นางต้องใจดีกับพวกเขาอีกหรือ?
“ตายไปซะเถอะ!” ซิมิยิ้มน่ากลัวจนใบหน้าหล่อเหลานั้นบิดเบี้ยวไปหมด เขาร้องออกมา ไฟดวงหนึ่งพลันปรากฏอยู่ในมือ ทันใดนั้นซิมิก็ผลักไปไปทางของชีอ้าวชวางทันที เปลวไฟนั้นลุกโชนขึ้นแล้วกลายเป็นลูกศรเพลิงนับไม่ถ้วนเข้าโจมตีชีอ้าวชวาง ลูกศรเปลวเพลิงทั่วท้องฟ้าปิดกั้นไม่ให้ชีอ้าวชวางล่าถอยไปไหนได้เลย
ประกายร้ายกาจปรากฏขึ้นในแววตาของเลนนี่และนางก็ลงมือ เวทมนตร์นั้นโจมตีหินใต้เท้าของชีอ้าวชวาง จากนั้นมุมปากของนางก็โค้งขึ้นราวกับว่าได้เห็นชีอ้าวชวางกระเด็นออกจากหินและตกลงไปในสิ่งปฏิกูลจนสึกกร่อนแล้ว
ซิมิยังคงหัวเราะเยาะอย่างโหดเหี้ยมและมองไปที่ภาพตรงหน้าอย่างมีชัย แต่เพียงแค่กะพริบตาเขาก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ท้องฟ้าเต็มไปด้วยลูกศรเพลิงตกลงมาใส่สิ่งปฏิกูลจนกระเซ็นไปรอบๆ และเลนนี่ก็โจมตีหินนั้นแล้วด้วย แต่ไม่มีเงาของชีอ้าวชวางบนหินนั้นเลย! ไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องที่พวกเขาจินตนาการไว้
“เจ้ากำลังมองหาอะไรหรือ?” ทันใดนั้นเสียงที่เหมือนปีศาจของชีอ้าวชวางก็ดังขึ้นในหูของซิมิ
เวลาต่อมา ซิมิก็รู้สึกว่าที่คอมีอาการคันอย่างกะทันหัน พอเอื้อมมือไปแตะก็ร้อนและเหนียว แล้วก็มีเลือดกระจายอยู่ในอากาศ
ฝนเลือดสวยอะไรอย่างนี้…
นี่คือความรู้สึกสุดท้ายของซิมิ
จากนั้นร่างของซิมิก็ทรุดลงอย่างนุ่มนวล เผยให้เห็นใบหน้าเฉยเมยของชีอ้าวชวางที่ยืนอยู่ด้านหลังซิมิ
ในเวลานี้ เลนนี่รู้สึกเพียงว่าเลือดในตัวเย็นและแข็งตัวไปหมด
ตายแล้ว! ซิมิตายแล้ว!
เขาตายโดยไม่ทันต่อสู้เลย!
คนที่คุยกับนางเมื่อครู่นี้กลายเป็นศพไปแล้ว! ร่างของซิมิค่อยๆ ทรุดลง และเท้าก็ลื่นลงไปในสิ่งปฏิกูล จากนั้นเสียงกัดกร่อนไม่มีที่สิ้นสุดและกลิ่นฉุนก็ลอยอยู่ในอากาศ
เลนนี่ตัวแข็งทื่อ ในหัวแทบจะหยุดความคิดทุกอย่าง นางทำได้เพียงแค่มองใบหน้าเย็นชาของชีอ้าวชวาง “ใบหน้าที่สวยงามของเจ้าจะเป็นอย่างไรบ้างนะหากถูกสิ่งปฏิกูลพวกนี้กัดกร่อน” ชีอ้าวชวางหลุบตาลงมองกริชที่เปื้อนเลือดในมือแล้วถามพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ในที่แห่งนี้ การใช้เวทมนตร์รุนแรงเป็นสิ่งที่อันตรายมาก สิ่งปฏิกูลที่กระเซ็นก็ยิ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก แล้วยังเป็นการดึงดูดเหมาเหมาด้วย หลายคนจึงไม่ได้ใช้เวทมนตร์ ชีอ้าวชวางยิ้ม ในสถานที่แห่งนี้ นางผู้มีความเชี่ยวชาญในศิลปะการลอบสังหารดูเหมือนจะได้เปรียบมากทีเดียว
“ไม่ๆๆ!” ในที่สุดเลนนี่ก็ได้สติและส่ายหัวอย่างสิ้นหวั งนางมองชีอ้าวชวางที่กำลังยิ้มและกริชในมือด้วยความสยดสยองสุดขีด
“ไม่อะไรหรือ? ข้าถามเจ้าว่าทำไมเจ้าถึงอยากฆ่าข้าก่อน แต่เจ้าก็ไม่ตอบ” ชีอ้าวชวางถอนหายใจอย่างเสียใจ
“บอก ข้าจะบอก ข้าจะพูดทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้เลย” เลนนี่ตกใจมาก ผู้ชายผมแดงที่อยู่ข้างหน้านี้ฆ่าซิมิแล้ว แต่บนใบหน้ากลับยิ้มแย้มอย่างอันตรายและมีเสน่ห์ มันน่ากลัวมาก ลมหายใจที่หลั่งออกมาจากชายหนุ่มคนนี้ช่างเย็นชาและน่ากลัวมาก! ไม่อยากตาย! นางไม่อยากตายนะ!
“มันช้าไปแล้ว ข้าไม่อยากรู้แล้ว” ชีอ้าวชวางยักไหล่และพูดอย่างช่วยไม่ได้
“อย่าฆ่าข้านะ อย่าฆ่าข้าเลย ข้าสัญญากับเจ้าได้ทุกอย่างเลย เจ้าสั่งให้ข้าทำได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการเลย” ดวงตาที่สวยงามของเลนนี่มีน้ำตาไหลออกมาอย่างน่าสงสารมาก คำพูดเหล่านี้ ผู้ชายจะเข้าใจดีว่ามันหมายถึงอะไร ขอแค่ให้นางรอดไปได้ นางยอมทรยศต่อศักดิ์ศรีและร่างกายของนาง
ความรังเกียจปรากฏขึ้นในสายตาของชีอ้าวชวาง ในตอนที่เจอครั้งแรกผู้หญิงคนนี้หยิ่งยโสมาก แต่ตอนนี้นางกลับพูดแบบนี้ ผู้ชายหลายคนชอบผู้หญิงที่สวยแต่ไม่มีความคิดจริงหรือ?
พอชีอ้าวชวางเงียบ เลนนี่ก็ขยับมือขวาอย่างเงียบๆ นางค่อยๆ ฉีกม้วนเวทที่ทางสถาบันให้มาและจะออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
“หึ!” ชีอ้าวชวางส่งเสียงเย็นชาและยกมือขึ้น จากนั้นลมที่พัดอย่างแรงก็กระทบกับเลนนี่ที่กำลังจะค่อยๆ หายตัวไป
เลนนี่กรีดร้องแต่ก็หายไปในที่สุด
“เหอะ! ผู้หญิงคนนั้นหนีไปแบบนี้หรือ?” ฉางคงกระโดดออกจากร่างกายของชีอ้าวชวางแล้วตะโกน
“เจ้าไม่ได้ชอบผู้หญิงสวยหรอกหรือ? ผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็สวยนะ” ชีอ้าวชวางพูดติดตลก
“เหอะ! ข้าไม่ได้ตาถั่วขนาดนั้นหรอก ผู้หญิงแบบนี้ดูดีแค่ภายนอกเท่านั้นเอง” ฉางคงตอบโต้อย่างเหยียดหยาม ตั้งแต่การเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายสองคนนั้น จนถึงตอนที่ผู้หญิงคนนี้มีแรงสังหารต่อชีอ้าวชวาง ฉางคงรังเกียจทั้งหมด
ชีอ้าวชวางยิ้มและหันหลังลอยกลับไปที่ฝั่ง แต่มือกลับโจมตีหินที่เลนนี่และซิมิยืนอยู่เมื่อครู่จนหินและทุกอย่างจมลงไปในสิ่งปฏิกูลและถูกกัดกร่อนโดยทิ้งร่องรอยไว้เลย
“ผู้หญิงคนนั้นหนีไปแล้ว! ยุ่งแล้วทีนี้” ฉางคงกระโดดลงไปที่พื้นแล้วพูดอย่างดุดัน “นิสัยที่ร้ายกาจของนาง นางจะไม่มีวันปล่อยไปแน่ ไม่แน่นางอาจจะไปหาคนงี่เง่าสมองกลวงให้มาหาเรื่องเจ้าก็ได้ เจ้าจะปล่อยนางไปแบบนี้หรือ?! ปัญหาใหญ่ ปัญหาใหญ่มาก!”
“ไม่หรอก” ชีอ้าวชวางยิ้มจางๆ ไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย “เรื่องนี้พวกเขาเริ่มก่อน หากนางฉลาด นางจะไม่เอาเรื่องวันนี้ไปพูด อีกอย่าง ใครบอกว่าข้าปล่อยนางไปล่ะ?”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ฉางคงส่ายหัวและถามอย่างสับสน“ ตอนสุดท้ายเจ้าไม่ได้ฆ่านางนี่”
“ไม่ได้ตายในตอนนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ตายในอนาคตนะ” มุมปากของชีอ้าวชวางยกขึ้นเล็กน้อยและยิ้มอย่างชั่วร้าย ฉางคงเห็นรอยยิ้มนั้น หัวใจของเขาก็หวาดหวั่น ทำไมเขาถึงมักจะรู้สึกว่าแม้ว่าชีอ้าวชวางจะยิ้มแต่มันกลับดูเย็นชานะ? ทำไม?
“หมายความว่าอย่างไร?” ฉางคงไม่เข้าใจและถามไม่หยุด
“นางห่วงใบหน้าของนางมากที่สุดไม่ใช่หรือ? ก็ไปลงที่ใบหน้านั้นสิ?” ชีอ้าวชวางพูดสบายๆ “ถึงตอนนั้นหน้าของนางก็จะกลายเป็นเปาบุ้นจิ้น ไม่รู้ว่าจะมีผู้ชายที่ไหนมาชอบนางหรือไม่”
“อะไรนะ?” ฉางคงเริ่มกังวลมากขึ้นจนเกือบจะกระโดดขึ้นไปบีบคอของชีอ้าวชวางอยู่แล้ว เขาไม่เข้าใจที่ชีอ้าวชวางพูดเลย “เปาบุ้นจิ้นคืออะไร?”
“คือคนที่หน้าดำเหมือนถ่าน” ชีอ้าวชวางพูดอย่างเกียจคร้าน “ก่อนที่นางจะจากไป ข้ากระแทกลมร้ายเข้าไปในร่างกายของนาง ทันใดนั้นจะมีบางอย่างถูกกักไว้แล้วไหลไปทั่วร่างกายของนางช้าๆ ถึงเวลานั้น ไม่เพียงแต่ใบหน้าเท่านั้น แต่ผิวทั่วร่างกายก็จะค่อยๆ ดำขึ้นด้วย”
“ว้าว! เจ้านี่เหี้ยมโหดยิ่งกว่าข้าเสียอีก ข้าคิดเพียงแค่อยากจะฆ่านาง แต่เจ้ากลับทำลายจุดตายของนางเลยจริงๆ ดี ดีมากๆ! ข้าชื่นชมเจ้า ต่อไปเจ้ามาอยู่กับข้าเลย” ฉางคงพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดด้วยความตื่นเต้น
“เลิกพูดไร้สาระ เข้าไปข้างในได้แล้ว” ชีอ้าวชวางคว้าฉางคงแล้วผลักเขาเข้าไปในหน้าอกและเข้าสู่ร่างกายของชีอ้าวชวาง
“ดี รีบไปทำธุระให้เสร็จเถอะ แล้วไปหาผู้หญิงคนนั้นกัน ตื่นเต้นจัง” ฉางคงยังคงพึมพำอย่างตื่นเต้น
หลังจากหามุมที่เงียบสงบเพื่อนั่งสมาธิแล้ว ชีอ้าวชวางก็เชื่อมต่อทุกอย่าง นางค่อยๆ หลับตาลงและเริ่มพยายามเชื่อมตัวเองเข้ากับที่แห่งนี้
สภาพแวดล้อมมืดและเงียบลง
ระหว่างสวรรค์และโลก ทุกอย่างหายไปหมดแล้ว มีเพียงความมืดเท่านั้นที่ยังคงอยู่ สายลมอ่อนๆพัดกระทบใบหน้านางแผ่วเบาแล้วค่อยพัดผ่านไปด้านหน้า ชีอ้าวชวางหลับตาลง รู้สึกถึงลมที่หายไป และจิตของนางก็ค่อยๆ ไล่ตามไป
ทันใดนั้นก็มีแสงเล็กๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าและสว่างขึ้นเรื่อยๆ บริเวณโดยรอบก็ชัดเจนขึ้น ทุกอย่างประทับอยู่ในใจของชีอ้าวชวาง หนองน้ำที่มีฟองเล็กๆ ก้อนหินที่ลอยอยู่บนบึง…
อ๊าก…มีเสียงดังขึ้น จิตของชีอ้าวชวางยังคงเดินหน้าต่อไป เหมาเหมาหรือ? เหมาเหมาว่ายน้ำอย่างมีความสุขอยู่ในบึงและก่อกวนนักเรียนเหล่านั้น นักเรียนเหล่านั้นลำบากมาก ต้องตรวจสอบหินและป้องกันการโจมตีของเหมาเหมา ในหมู่พวกเขามีนักเรียนคนหนึ่งที่มือขวาพันผ้าพันแผลไว้แน่นและศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาน่าจะเป็นคนที่ถูกเหมาเหมาทำร้ายเมื่อครู่นี้และส่งเสียงร้องออกมา
จิตของชีอ้าวชวางยังคงก้าวไปข้างหน้า แต่กลับเห็นร่างที่ผ่อนคลาย นั่นคือโจนาธาน โจนาธานหยุดเดินและหาหินก้อนถัดไปได้อย่างรวดเร็ว
ก้าวต่อไปก็เห็นอีกร่างหนึ่ง ความเร็วของเขาเร็วยิ่งกว่าโจนาธานอย่างเห็นได้ชัด
ไดทันส์?
จิตของชีอ้าวชวางหยุดก้าวและรู้สึกได้ถึงไดทันส์ที่ก้าวไปข้างหน้า
ทันใดนั้นไดทันส์ก็หยุดลงและค่อยๆ หันมองไปมองข้างหลังเขานิ่ง
เกิดอะไรขึ้น? ชีอ้าวชวางสงสัยว่าทำไมไดทันส์ถึงหยุดกะทันหัน
วินาทีต่อมา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของไดทันส์ และเขาก็ยิ้มให้กับความว่างเปล่าที่อยู่ข้างหลัง
“เจ้าเก่งนี่”ไ ดทันส์พูดคำเหล่านี้เบาๆ กับความว่างเปล่าที่อยู่ข้างหลัง หลังจากยิ้มจางๆ เขาก็หันไปและไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ชีอ้าวชวางตกตะลึง
เจ้าเก่งนี่
ไดทันส์กำลังพูดกับนางอยู่หรือ?