เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 302
ชีอ้าวชวางตกใจ! ไดทันส์รู้สึกถึงจิตของนางได้หรือ?! จะเป็นไปได้อย่างไร? แต่ข้อเท็จจริงมันก็อยู่ตรงหน้าแล้ว ไดทันส์…ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจหยั่งรู้ได้เลยจริงๆ
เปลือกตาของชีอ้าวชวางสั่นเล็กน้อยและเรียกจิตคืนมา
ชีอ้าวชวางลืมตาขึ้นช้าๆ หายใจเข้าลึกๆ ยืนขึ้นและเดินไปที่ฝั่งอย่างสงบ เมื่อครู่นางเพิ่งรู้สึกถึงทุกอย่างเกี่ยวกับหนองน้ำนี้ทั้งหมดไป รวมถึงความเป็นจริงทั้งหมดของหินเหล่านี้ด้วย
ชีอ้าวชวางกระโดดเบาๆ และไปยืนอย่างมั่นคงบนหินที่อยู่ใกล้ฝั่งที่สุดแล้วก็ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุด
พอชีอ้าวชวางตามมาทัน นักเรียนทุกคนก็มองไปที่ชีอ้าวชวางด้วยความประหลาดใจ ชีอ้าวชวางเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วบนหินเหล่านั้นโดยไม่ลังเลใจหรือหยุดเลย ในพริบตาก็ทิ้งห่างพวกเขาไปแล้ว เหมาเหมากะพริบตาและมองชีอ้าวชวางด้วยความลังเลเล็กน้อยก่อนจะว่ายน้ำตามไป
นักเรียนคนอื่นๆ โล่งใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ ตราบใดที่สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวไม่โจมตีพวกเขามันก็จะง่ายขึ้นมาก แต่ผู้ชายผมแดงคงจะต้องลำบากแน่ ความคิดนี้อยู่ในใจของทุกคน
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจต่อไปก็คือ สัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวในสายตาของพวกเขาไม่ได้โจมตีชีอ้าวชวาง แต่มันว่ายน้ำอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆ อีกทั้งยังว่ายน้ำไปทางซ้ายและขวาตามอย่างใกล้ชิด ไม่ได้จะโจมตีชีอ้าวชวางแต่อย่างใด ดูเป็นมิตรมาก!
“เกิดอะไรขึ้น?” นักเรียนคนหนึ่งมองไปที่ชีอ้าวชวางและเหมาเหมาที่กำลังไปข้างหน้าด้วยความประหลาดใจ
คนอื่นๆ ก็ดูสับสนเช่นกัน
“คนคนนั้นคือม้ามืดของปีนี้เลย เจ้าคิดอย่างไรกับความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขา?” ตอนนี้ปีศาจชายก็พูดขึ้น
“เร็วมากๆ เร็วกว่าโจนาธานอีก” นักเรียนอีกคนตอบ
“หมายความว่าอย่างไร?” นักเรียนปีศาจพูดออกมาเบาๆ
จากนั้นสีหน้าของคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไป ทุกคนมองหน้ากันและต่างก็เห็นความตกตะลึงในดวงตาของกันและกัน
“คนๆ นี้แข็งแกร่งมาก” นักเรียนปีศาจพูดสรุปช้าๆ
“แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่ท่าทีของสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็แปลกจริงๆ! มันไม่ได้ตามโจมตีไดทันส์และโจนาธานเป็นเพราะมันเสียเปรียบพวกเขา ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงพวกเขา แต่ทำไมสัตว์ประหลาดถึงไม่หลีกเลี่ยงผู้ชายผมแดงคนนี้ล่ะ? แถมมันยังเข้าไปทักทายเขาอีก? แม้กระทั่ง…” คนนี้ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม แต่ทุกคนก็รู้ดีสัตว์ประหลาดนั้นกำลังเอาใจ
ผู้ชายผมแดงคนนั้นแข็งแกร่งกว่าโจนาธานและไดทันส์หรือ???
เป็นไปไม่ได้!
ทุกคนปฏิเสธความคิดในใจทันที
แต่เกิดอะไรขึ้น ทำไมสัตว์ประหลาดถึงไปตามเขาอย่างมีความสุขแบบนั้นล่ะ?
“อย่าคิดมากเลย รีบไปกันเถอะ” นักเรียนปีศาจชายเตือนทุกคนให้รีบ
“อืม” ชายที่มีบาดแผลที่มือพยักหน้าทันที สัตว์ประหลาดตัวนั้นทรงพลังและน่ากลัวจริงๆ ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไรมันก็ไม่ตาย แม้ว่ามันจะตายไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็จะมีชีวิตอีกครั้งทันทีที่สัมผัสกับหนองน้ำแห่งนี้
เวลานี้ชีอ้าวชวางก็ยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้า
“กูๆ? กูๆๆๆ!?” เหมาเหมาร้องอยู่ข้างๆ ชีอ้าวชวาง
“เหมาเหมาถามเจ้าว่าเจ้าหาหินที่รับน้ำหนักได้พบได้อย่างไร? เขาบอกว่าเจ้าเแข็งแกร่งมาก” ฉางคงแปลให้ฟัง
“ข้ารู้สึกถึงมันได้เอง” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ จากนั้นเงยหน้าขึ้นไปมองข้างหน้าและขมวดคิ้ว “หนองน้ำนี้ใหญ่แค่ไหน? ต้องใช้เวลาเดินนานแค่ไหน?”
“กูๆๆๆ…กูๆ!” เหมาเหมาส่ายหัวและร้อง
“แม้ว่าจะเป็นความเร็วของเจ้าในตอนนี้ไปตลอดทางมันก็จะใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน” ฉางคงหาว “ข้าง่วง ข้าจะไปนอนก่อน ดังนั้นเจ้าก็รีบไปเถอะ”
“กูๆ…” เหมาเหมาพึมพำแล้วหัวใหญ่โตของมันก็จมลงไป
“เหมาเหมาก็จะกลับบ้านพักผ่อนแล้ว” ฉางคงพึมพำเสียงต่ำ จากนั้นเสียงของเขาก็เบาลงเรื่อยๆ “บ้านของเขาอยู่ใต้หนองน้ำนี้…”
มากกว่าหนึ่งวัน? ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วเล็กน้อย หากใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันโดยไม่หยุดเลย บึงนี้จะใหญ่ขนาดไหนกันนะ? เมื่อครู่นี้ตอนนี้จับความรู้สึกก็จับรู้สึกได้เพียงว่าไดทันส์ก้าวไปโดยไม่เห็นข้างหน้าเลย หากใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในความเร็วนี้ คนอื่นๆ ก็จะยิ่งใช้เวลานานกว่าอีกน่ะสิ
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะยืนหยัดอยู่ในที่สภาวะเลวร้ายแบบนี้เป็นเวลาสองสามวันและต้องป้องกันการโจมตีจากเหมาเหมาผู้น่ากลัวอีก นี่ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทดสอบทางจิตใจด้วย คนที่ผ่านไปได้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ
ชีอ้าวชวางยังคงเดินหน้าต่อไปและเห็นเงาที่คลุมเครือแสนคุ้นเคยอยู่ด้านหน้า
นั่นคือโจนาธาน
ชีอ้าวชวางยืนนิ่งมองโจนาธานที่ยืนอยู่บนหินข้างหน้า เขาไม่ได้ทำอะไรแต่ก้าวต่อไป หลังจากหยุดเพียงไม่นานก็กระโดดขึ้นไปบนก้อนหินที่อยู่ข้างหน้าต่อ ชีอ้าวชวางคิดสักพักหนึ่งแล้วก็ไม่ได้เร่งขึ้นไป นางทำเพียงแค่ตามอยู่ข้างหลังเท่านั้น
แต่โจนาธานสังเกตเห็นความผิดปกติที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างรวดเร็วแล้วหันไปมองด้านหลัง พอเขาเห็นร่างที่อยู่ข้างหลัง โจนาธานก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น “ชีอ้าวชวางไม่ใช่หรือ? ชีอ้าวชวาง!”
ชีอ้าวชวางยกริมฝีปากขึ้นและขยับขึ้นไปด้านหน้า
“ฮ่าๆ ชีอ้าวชวาง ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องทำได้ แต่…” ทันใดนั้นโจนาธานก็ขมวดคิ้วมองไปที่ชีอ้าวชวางด้วยความสับสนจากนั้นก็อ้าปากค้างและพูดด้วยความประหลาดใจ “ไม่จริงน่า เจ้าเร็วกว่าข้าอีก! เจ้าออกเดินทางทีหลังข้า แต่ตอนนี้กลับตามทันแล้ว”
“แค่โชคดีน่ะ” ชีอ้าวชวางมองโจนาธานที่เอะอะโวยวายและพูดอย่างสบายๆ “ข้าเพิ่งจะรับรู้ความเป็นจริงของหินเหล่านี้ได้ ดังนั้นข้าเลยโชคดีมาได้เร็ว”
“โอ้ งั้นหรือ?” โจนาธานลูบคางและเอียงหัวมองไปที่ชีอ้าวชวางแล้วกะพริบตา ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ รีบผ่านที่นี่ไปเร็วๆ” ชีอ้าวชวางมองโจนาธานที่ยังมึนงงและพูดเตือน
“อื้มๆ” โจนาธานพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วและถามอย่างจริงจัง “เจ้ารับรู้ความเป็นจริงของหินพวกนี้ แถมความเร็วก็เร็วกว่าข้าด้วย ใช่หรือไม่?”
ชีอ้าวชวางไม่รู้ว่าโจนาธานถามขึ้นเพราะอะไร แต่เมื่อเห็นความจริงจังของโจนาธาน นางก็เลยพยักหน้า
“เยี่ยมมาก เจ้าบอกทางให้ข้าด้วย เจ้าไปได้เร็วเจ้าก็ช่วยบอกอีกทางให้ข้าไปด้วยเลย แบบนี้จะเร็วกว่านะ” โจนาธานพูดประโยคนี้อย่างจริงจัง
มุมปากของชีอ้าวชวางกระตุกขึ้น ไม่เคยเห็นคนจริงจังที่ไร้ยางอายเช่นนี้เลย
“เจ้าไปเองสิ” ชีอ้าวชวางพูดคำนี้อย่างไม่พอใจแล้วเดินไปข้างหน้า
“อ้าว! อย่าเพิ่งสิ รอก่อน เจ้าเดินไปคนเดียวจะเหงานะ บึงนี้ใหญ่มาก ทั้งเหงาอ้างว้างว่างเปล่าด้วย ไปด้วยกันนะ เราจะได้คุยกันด้วย” โจนาธานพูดพลางตะโกนไล่หลัง
“ข้าไม่เหงา ไม่อ้างว้าง ไม่ว่างเปล่าด้วย!” ชีอ้าวชวางตอบโต้ทั้งฉุนทั้งขำ “เอาเถอะ กลัวเจ้าแล้ว อย่าเหมือนพระถังซัมจั๋งเลย ไปด้วยกันก็ได้”
“พระถังซัมจั๋งนั่นใคร? เหมือนข้าหรือ เขาเป็นผู้ชายหล่อหรือ?” โจนาธานมองชีอ้าวชวางอย่างคาดหวังและพูดเช่นนี้
ชีอ้าวชวางพูดไม่ออก มีเพียงความคิดเดียวในใจของนางในขณะนี้นั่นก็คือไม่ต้องมองหน้าของผู้ชายคนนี้และเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
“รอข้าด้วย!” โจนาธานรีบวิ่งตาม
ทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
“ชีอ้าวชวาง พูดตามตรงเลยนะ เจ้าให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจริงๆ ข้ามองไม่ผิดจริงๆ เจ้าเป็นคนที่สองที่ผ่านการทดสอบระดับแปดหลังจากเข้าร่วมการประเมินในครั้งแรก” โจนาธานเดินตามชีอ้าวชวางและยังคงพูดพล่ามอยู่ข้างหลัง
“คนแรกคือไดทันส์ใช่หรือไม่?” ชีอ้าวชวางถามโจนาธานอย่างผ่อนคลาย เห็นได้ชัดว่าโจนาธานพูดเช่นนี้เพียงเพราะเขาต้องการให้ถามว่าใครเป็นคนแรก
“อื้ม ใช่ แต่ก่อนหน้าพวกเจ้าสองคนมีใครบางคนที่ผ่านการทดสอบระดับแปดตั้งแต่ครั้งแรก แต่เขาถูกไล่ออกจากสถาบันและก็ไม่ถูกนับว่าเป็นนักเรียนของสถาบัน แน่นอนว่าบันทึกของเขาก็ไม่มีในนี้” โจนาธานตอบอย่างเฉื่อยชาและไม่ไยดี “ที่จริงแล้วในใจของนักเรียนน่ะ คนผู้นั้นมีสามารถที่สุดยอดของสถาบันเลย เพียงแต่ว่าสถาบันห้ามไม่ให้พูดถึงเขา”
“หืม?” ชีอ้าวชวางเริ่มสนใจมากขึ้นเมื่อได้ยินโจนาธานพูดแบบนี้ “ทำไมถึงถูกไล่ออกล่ะ? ทำไมต้องห้ามพูดถึง?”
“เพราะว่าเขาเกือบจะทำลายหอคอยดวงดาว ผู้อำนวยการและผู้อาวุโสหลายคนได้รับบาดเจ็บกัน น่าตกใจใช่หรือไม่? ประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้านี้ห้ามกล่าวถึงในสถาบันโดยเด็ดขาดเลย คนในภายหลังจึงรู้น้อยลงเรื่อยๆ” โจนาธานเหม่อไปเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังระลึกถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่
“เจ้าเห็นหรือ?” ชีอ้าวชวางถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่หรอก ตอนนั้นข้ายังเป็นนักเรียนใหม่อยู่ ข้าได้เห็นหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว ผู้อำนวยการและผู้อาวุโสเสียชีวิตไปครึ่งหนึ่ง หอคอยดวงดาวพังทลาย และกำแพงรอบหอคอยก็พังทลายด้วย” โจนาธานยักไหล่ ดูเหมือนจะเสียดายที่ไม่ได้เห็นฉากการต่อสู้ในตอนนั้น
“ข้าอยากจะถามว่าปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่?” ชีอ้าวชวางนึกถึงคำถามนี้ทันทีเลย
“ไม่ถามอายุสิ อายุของผู้ชายเป็นความลับนะ” โจนาธานยิ้มเจ้าเล่ห์แต่ปฏิเสธที่จะบอกอายุของเขา
“ผู้เฒ่า…” ชีอ้าวชวางพึมพำเบาๆ
“อย่างข้านี่เรียกว่าชายหนุ่ม! ชายหนุ่ม เข้าใจหรือไม่? ”โจนาธานได้ยินคำพูดของชีอ้าวชวางก็รีบโต้กลับทันที
ชีอ้าวชวางเงียบ นี่แสดงให้เห็นว่าอายุของผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ก็ไม่แปลกใจเลย โลกแห่งนี้เป็นสถานที่ที่แปลกมาก จากการฝึกฝนที่ลึกซึ้ง ร่างกายจึงแข็งแรงพอที่จะไม่แก่ ความเยาว์วัยนั้นจึงคงอยู่ตลอดไป และอายุก็เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วย
ตอนเที่ยงของวันถัดไป ทั้งสองข้ามบึงได้สำเร็จและผ่านการทดสอบระดับที่แปด ส่วนไดทันส์ผ่านไปนานแล้ว