เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 308
“บางทีนางอาจจะกลับไปที่สถาบันก่อนแล้ว” ไดทันส์พูดอย่างเฉยเมย
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เด็กคนนั้นจะไปโดยไม่บอกข้า” เอลิซ่าปฏิเสธทันที
“แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร? ข้าจะกลับไปที่สถาบันก่อน ข้ามีการแข่งขันหลังการทดสอบ เอาไว้จบเรื่องนี้แล้วข้าจะกลับมา” ไดทันส์ไม่อยากยุ่งกับปัญหาเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว
“ไดทันส์…” เอลิซ่าชะงักคำพูด
“ไปแล้วนะ” ไดทันส์พยักหน้าและโค้งเบาๆ แล้วหันหลังเดินออกไป
ชีอ้าวชวางกับโจนาธานก็โค้งลาและจากไป
เอลิซ่าอ้าปากพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง ในที่สุดก็เงียบแล้วมองแผ่นหลังของไดทันส์ที่เดินหายไปจากประตู ทุกครั้งที่ไดทันส์จะไป เขาจะไปด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เอลิซ่าไปส่ง เอลิซ่ายืนหน้ามุ่ยมองประตูว่างเปล่าอยู่ตรงนั้น
ไดทันส์ เด็กคนนี้เหมือนใครกันนะ? บางครั้งก็รู้สึกว่าเขาน่ากลัวและเยือกเย็นมาก
ทั้งสามคนกลับไปที่สถาบัน ส่วนเลนนี่ก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย
หลังจากกลับมาที่สถาบัน ชีอ้าวชวางก็กลับมาที่หอพักและพบว่าเวนส์กลับมาแล้ว
“ชีอ้าวชวาง เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา? เจ้าเพิ่งกลับมาจากหอคอยหรือ?” เวนส์ทักทายอย่างมีความสุข พร้อมกับดาวสีทองดวงเล็กๆ หกดวงที่ติดอยู่บนชุดนักเรียนของเขา
“ไม่ใช่หรอก ข้าไปที่เมืองจิ่วเทียนมา” ชีอ้าวชวางนั่งลงและพูดกับเวนส์ด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วย เจ้าได้เป็นนักเรียนระดับหกดาวแล้ว”
“เหอะๆ ทั้งหมดนี้ถือเป็นความดีความชอบของเจ้าเลย ขอบคุณที่สอนข้า” เวนส์เทน้ำหนึ่งแก้วส่งให้ชีอ้าวชวางและพูดอย่างมีความสุข
“ถ้าข้าจำไม่ผิด เบธฟินนีย์ก็หกดาวเช่นกันนี่” ชีอ้าวชวางหยิบน้ำขึ้นมาจิบแล้วพูด
“แหะๆ… ” เวนส์เกาหัวด้วยความอายเล็กน้อย แต่ระหว่างคิ้วมีความพึงพอใจและความสุขมาก
“จริงสิ ชีอ้าวชวาง ทำไมเจ้าถึงไปที่เมืองจิ่วเทียนล่ะ? ไปกลับก็ใช้เวลาตั้งนาน แบบนี้แสดงว่าเจ้าออกมาจากหอคอยนานแล้วหรือ? ข้าเพิ่งออกมาแค่สัปดาห์เดียวเอง เจ้าไปเมืองจิ่วเทียนกลับมาแล้วหรือ?! เจ้า เจ้าได้กี่ดาวเนี่ย?” เวนส์ถามอย่างตื่นเต้น
“แปดดาว” ชีอ้าวชวางตอบเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
“อ้า! ฮ่าๆ! สุดยอดไปเลย!” เวนส์หัวเราะอย่างตื่นเต้น เขามองชีอ้าวชวางและตะโกนอย่างมีความสุข “ข้ารู้อยู่แล้วเชียว เจ้าไม่ธรรมดาเลย เจ้าเก่งจริงๆ ข้าได้ยินมาว่ามีนักเรียนใหม่คนหนึ่งที่เข้าร่วมการทดสอบนี้ครั้งแรกก็ได้รับดาวแปดดาวเลย คิดไม่ถึงว่าเป็นเจ้า ไม่สิ คิดเอาไว้แล้ว! เจ้าเก่งขนาดนี้ ไม่แปลกเลย”
ชีอ้าวชวางยิ้มและไม่พูดอะไรอีก นางรู้สึกได้ว่าเวนส์ยินดีกับนางจริงๆ
“ชีอ้าวชวาง การแข่งขันจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งเดือน ข้าคิดว่าเจ้าจะได้รางวัลที่ดีแน่ ฮ่าๆ บางทีเจ้าอาจจะเอาชนะไดทันส์ก็ได้นะ” เวนส์พูดอย่างตื่นเต้น “เจ้าเป็นม้ามืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปีนี้เลยรู้หรือไม่? มีเพียงไดทันส์เท่านั้นที่เป็นคนแรกที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งแรกก็ไปถึงระดับแปดดาว เจ้าคือคนที่สอง เจ้าแซงหน้าเขาได้อย่างแน่นอน” เวนส์รู้สึกตื่นเต้นมากในขณะที่พูด
ชีอ้าวชวางยิ้ม ส่ายหัวและพูด “เวนส์ มีสองสิ่งที่เจ้าพูดผิดนะ”
“ห้ะ? มีอะไรหรือ?” เวนส์สงสัย
“ประการแรก ข้าตระหนักเป็นอย่างดีถึงช่องว่างระหว่างข้าและไดทันส์ ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย ประการที่สอง ข้าไม่ใช่คนที่ได้รับการจัดอันดับแปดดาวหลังจากเข้าร่วมเป็นครั้งแรกคนที่สองหรอก ก่อนหน้าไดทันส์มีอีกหนึ่ง”
“อะไรนะ? ใคร?” เวนส์มองไปที่ชีอ้าวชวางด้วยความประหลาดใจ “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย ไม่มีใครรู้ แม้แต่รุ่นพี่ที่คุยกันก็ไม่รู้” จากนั้นก็พูดเสริม “ตอนนี้ข้าเป็นนักเรียนหกดาวแล้ว หลายๆ คนยินดีที่จะเป็นมิตรกับข้า ความแข็งแกร่งทำให้ข้าดีขึ้นมากจริงๆ”
“ความรู้สึกของมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ หลายคนเหยียบที่ต่ำและปีนขึ้นไปสูง” ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็พูดด้วยเสียงทุ้ม “ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่ผ่านชั้นที่แปดของหอคอยเป็นคนแรก ตอนนี้สถาบันก็ห้ามพูดถึงคนคนนี้ เจ้าอย่าไปถามคนอื่นเลยจะดีที่สุด อย่ามีปัญหาเลย”
“อื้ม” เวนส์พยักหน้าและหยุดถามเรื่องนี้
“เตรียมตัวให้ดี มุ่งมั่นเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีในหมู่นักเรียนหกดาวด้วย บางทีเจ้าอาจจะได้พบกับเบธฟินนีย์ ถ้านางเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร?” ชีอ้าวชวางหัวเราะและพูดเล่นกับเวนส์
“ห้ะ? เรื่องนั้น ถ้าเป็นแบบนั้น…” ใบหน้าของเวนส์แดงก่ำทันที เขาเกาหัวและไม่รู้จะทำอย่างไร
ชีอ้าวชวางมองเวนส์อย่างขบขัน นิสัยขี้อายง่ายเช่นนี้จะทำให้เขาคว้าใจเบธฟินนีย์ได้อย่างราบรื่นจริงหรือ? ดูเหมือนว่านางจำเป็นจะต้องช่วยเขาแล้ว
ในหนึ่งเดือน ไดทันส์และโจนาธานมักจะมาหาชีอ้าวชวาง จากนั้นทั้งสามคนก็จะปรากฏตัวในโรงอาหาร ห้องสมุด และสนามฝึกซ้อมของมหาวิทยาลัย…ทั้งสามคนดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน ผู้ชายสามคนที่มีความโดดเด่น ผู้หญิงจำนวนนับไม่ถ้วนก็ยิ่งอยากเข้าใกล้มากขึ้น
นักเรียนชายจำนวนมากคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดเลนนี่ที่เคยอยู่กับไดทันส์และโจนาธานจึงหายตัวไป แล้วแทนที่ด้วยผู้ชายผมแดงคนนี้
จนกระทั่งสิ้นสุดช่วงฝึกฝนหนึ่งเดือน ทันทีที่สิ้นสุดการทดสอบ หลังจากประกาศรายชื่อ จู่ๆ ทุกคนก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
ผู้ชายผมแดงผ่านระดับแปดไปแล้วจริงๆ หลังจากเข้าร่วมการทดสอบเป็นครั้งแรกและคว้าอันดับสองในการแข่งขันครั้งต่อมาด้วยเขาเอาชนะนักเรียนแปดดาวคนก่อนทั้งหมด รวมทั้งโจนาธานด้วย! แต่ที่หนึ่งยังคงเป็นไดทันส์อยู่
พอประกาศรายชื่อก็เดือดกันทั้งสถาบันเลย ทุกคนต่างแข่งกันค้นหาว่าใครคือชีอ้าวชวาง เขาเอาชนะโจนาธานและคนอื่นๆ ได้ และได้รับรางวัลที่สองในระดับแปดดาวด้วย!
“ใครคือชีอ้าวชวาง?”
“อันดับสองไม่ใช่โจนาธาน แต่เป็นชีอ้าวชวางคนนั้น เขาเป็นใครกัน?”
“ใครกันแน่ที่ดึงโจนาธานลงจากหลังม้าได้ เก่งขนาดนั้นเลย”
“ชีอ้าวชวาง ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย ใครกัน?”
“ใช่ ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมการทดสอบแต่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้!”
มีการพูดคุยกันมากมาย
ทารีน่ายืนอยู่ที่เสาประกาศและมองชื่อของอันดับสองในรายการใหญ่อย่างว่างเปล่า ไม่ขยับเป็นเวลานาน
“ไม่แปลกใจเลยที่เขาหยิ่ง ที่แท้เขาก็เก่งจริงๆ” ยูเนียยืนอยู่ข้างๆ ทารีน่าและพูดอย่างค่อนข้างซับซ้อน สถานการณ์ที่น่าอับอายในวันนั้นชัดเจนมาก นางคิดว่าชีอ้าวชวางเนรคุณ แต่เขากลับขอให้ผู้หญิงคนนั้นช่วยพวกเขา เขาผ่านการทดสอบชั้นแปดของหอคอยได้ในคราวเดียว และกลายเป็นอันดับที่สองในสถาบันโดยไม่คาดคิด ไม่แปลกใจที่เขานิ่งและสงบมากเมื่ออยู่ในโรงอาหารตอนนั้น
ทารีน่ามองคำว่าชีอ้าวชวางในรายการนั้นแล้วหัวใจก็ซับซ้อนมาก ปรากฏว่าช่องว่างระหว่างนางกับเขานั้นใหญ่มาก เขาเป็นระดับแปดดาวแล้ว แต่นางได้แค่ห้าดาวเอง
“ฮ่าๆ ชีอ้าวชวาง ข้ารู้ว่าเจ้าทำได้แปดดาว แปดดาว! ฉลอง แบบนี้ต้องฉลอง” เสียงที่ร่าเริงและอ่อนหวานดังไปถึงหูของทุกคน
มองตามเสียงไปก็เห็นหญิงสาวไร้เดียงสาที่ดูอ่อนหวานกำลังเขย่าแขนของชีอ้าวชวางอยู่
นางพูดอย่างมีความสุขมาก ผู้หญิงคนนั้นคือใคร?
“นั่นมันพาริน่า หนึ่งในสี่สาวงามของสถาบันนี่” ยูเนียกระซิบ
ทารีน่ามองชีอ้าวชวางในระยะไกล เมื่อทุกคนได้ยินชื่อชีอ้าวชวาง พวกเขาทั้งหมดก็หันไปมองดูกันว่าม้ามืดที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้จะเป็นอย่างไร
“อย่าเป็นแบบนี้ เจ้าดูสิ ผู้ชายผมแดงนั่นหน้าเขาเต็มไปด้วยความรำคาญ ทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบที่เจ้าคิดหรอก” เมื่อเห็นทาริน่าเป็นเช่นนี้ ยูเนียก็รีบปลอบโยน
“เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? พวกเขาเกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ?” ใบหน้าของทารีน่าผิดปกติและก็รีบปฏิเสธ
“พอได้แล้วน่า ไม่ใช่ว่าข้าไม่มีตานะ เจ้าคิดว่าข้าไม่เห็นว่าท่าทีของเจ้าที่มีต่อเด็กคนนั้นว่าเป็นอย่างไรหรือ?” ยูเนียส่ายหัวและถอนหายใจ
ทารีน่าเงียบและหยุดพูด นางเพียงแค่มองไปที่ชีอ้าวชวางและพาริน่าจากระยะไกล
“ไม่ว่าง ไม่มีเงินด้วย” ชีอ้าวชวางดึงมือของพาริน่าที่จับแขนออกและพูดอย่างเย็นชา
“นี่ อย่าลืมสิ เจ้าเป็นหนี้บุญคุณข้าอยู่นะ!” เมื่อพาริน่าเห็นท่าทีของชีอ้าวชวางนางก็ไม่พอใจและพูดขึ้นทันที อะไรคือไม่มีเงิน! ผู้ชายน่ารังเกียจผู้นี้ พูดออกมาแบบนี้ไม่อายคนอื่นหรือไง?
ชีอ้าวชวางเงียบไป
“เจ้าไม่มีเงิน ข้าเลี้ยงเจ้าก็จบแล้วนี่? ถือว่าแสดงความยินดี ไป ไปกินข้าว!” พาริน่าวางแขนบนแขนของชีอ้าวชวางอีกครั้ง
“ถ้าตอบแทนบุญคุณด้วยการกินได้ก็ไปสิ” ชีอ้าวชวางสะบัดมือของพาริน่าอีกครั้งและเดินไปข้างหน้าอย่างรำคาญ
“เฮ้ ฝันไปเถอะ! ข้าเป็นคนเลี้ยงข้าวเจ้านะ เจ้าคิดว่าตอบแทนกันง่ายขนาดนี้เลยหรือ?” พาริน่ารีบวิ่งไล่ตามไป
ทารีน่ามองดูทั้งสองออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ผู้ชายที่อยู่รอบๆ มองดูแผ่นหลังของชีอ้าวชวางด้วยความอิจฉาและเกลียดชัง พาริน่าผู้เป็นดาวสถาบันเข้าไปหาเขาเอง แต่เขายังผลักไสอีก แม้ว่าจะไม่พอใจกับพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งของชีอ้าวชวาง แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปยุ่ง ก็ใครใช้ให้ตอนนี้เขากลายเป็นอันดับสองในสถาบันเล่า? สายตาของสาวๆ โดยรอบที่มองชีอ้าวชวางเต็มไปด้วยความปรารถนาทั้งสิ้น
“ทารีน่า เจ้านี่มันจริงๆ ถ้าชอบก็เริ่มสิ เจ้ายังมีโอกาส ดูชีอ้าวชวางนะ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจพาริน่า” ยูเนียมองท่าทางเศร้าของทารีน่าแล้วพูด
“ข้า…” ทารีนาหลุบตาลงพูดอะไรไม่ออก
“พวกเจ้ามาจากสำนักเดียวกัน เขาขอให้คนช่วยเจ้า นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าท่าทีของเขาที่มีต่อเจ้านั้นแตกต่าง เจ้าต้องฉวยโอกาสนี้ ลองคิดดูนะ รูปลักษณ์ของเขาโดดเด่น และตอนนี้เขาได้รับผลลัพธ์ที่ดีเช่นนี้แล้ว ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงอีกกี่คนที่กำลังมองเขาอยู่” ยูเนียเกลี้ยกล่อม
“หยุดพูดได้แล้ว ยูเนีย ข้ารู้แล้ว” สีหน้าของทารีน่าดูซับซ้อนขึ้น