เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 321
การประชุมจบลงไปอย่างราบรื่นและสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปแล้ว แต่ทุกเรื่องนี้ไม่มีสิ่งใดที่ชีอ้าวชวางกังวลเลย สิ่งที่นางสนใจในตอนนี้คือสิ่งที่พาริน่าขอให้ทำ การค้นหาจุดประสงค์ที่แท้จริงของสถาบันดวงดาวและช่วยพี่ชายของนาง
เมื่อชีอ้าวชวางกลับไปที่สถาบัน หลังจากไปรายงานตัวที่ห้องผู้อำนวยการพร้อมกับไดทันส์กับโจนาธานแล้วออกจากห้องมาก็ได้พบกับใครบางคนที่ทางเดิน
นั่นก็คือหญิงสาวแสนเย้ายวนคนนั้นอีกแล้ว นางยิ้มทอประกายเย้ายวนออกมาขณะที่พิงเสามองมาที่พวกของชีอ้าวชวาง
“ชีอ้าวชวาง เราพบกันอีกครั้งแล้วนะ” อาซาเนียยิ้มอย่างอ่อนโยน
ชีอ้าวชวางไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของไดทันส์ค่อยๆ เย็นชาและไม่พูดอะไรเช่นกัน ส่วนโจนาธานรู้สึกประหม่าเล็กน้อยและเข้าไปดึงอาซาเนียออกไปทางอื่น
ชีอ้าวชวางไม่พูดอะไรและเดินต่อไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ ไดทันส์เหลือบมองโจนาธานกับอาซาเนียที่กำลังเดินห่างออกไปโดยไม่พูดอะไรแล้วก็เดินไป
“อาซาเนีย เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” โจนาธานรีบลากอาซาเนียเดินออกไปทันที
“เจ็บนะ ปล่อยข้า!” อาซาเนียสะบัดมือโจนาธานอย่างโกรธจัด
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” โจนาธานถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“นี่ เจ้านี่ถามแปลกๆ นะ! ข้าก็เป็นนักเรียนของสถาบันดวงดาวเหมือนกันนะ แค่ปกติแล้วข้าไม่ค่อยอยู่ที่สถาบันเท่านั้นเอง” อาซาเนียตอบอย่างไม่พอใจขณะที่ถูข้อมือที่โจนาธานดึงมาเมื่อกี้ไปด้วย
“โธ่ เจ้าอยากตายหรือ? เจ้าไปยั่วยุชีอ้าวชวางทำไมกัน? เจ้าไม่รู้หรือว่าไดทันส์คอยดูแลเขาอยู่” โจนาธานพูด
อาซาเนียส่งเสียงเย็นชาและถูข้อมือของตัวเองต่อโดยไม่ตอบโจนาธาน จนโจนาธานเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ นางจึงเหลือบมองและพูดอย่างเคร่งขรึม “ข้าสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง ข้าสงสัยในตัวตนของชีอ้าวชวาง” อาซาเนียพูด
“อะไรนะ? หมายความว่าอะไร? ตัวตนของเขาเรียบง่ายมากเลย เขาเริ่มจากระดับล่างแล้วมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าเมืองเทียนเป่า ได้เข้าสำนักเทียนต้าวเพราะอัลทิสจัดการให้ จากนั้นก็ผ่านการประเมินได้เข้าสถาบันไง” โจนาธานขมวดคิ้วและเล่าประวัติของชีอ้าวชวางด้วยเสียงเรียบ
“หึ! สมกับที่เป็นคนกระจายข้อมูลจริงๆ” อาซาเนียพูด แต่ท่าทางของนางดูไม่พอใจมาก แต่พอเห็นสีหน้าของโจนาธานเปลี่ยนไปก็พูดเสริม “เอาเถอะ ข้าจะบอกความสงสัยของข้าก็แล้วกัน”
“พูดมา มันเรื่องอะไรกันแน่?” โจนาธานไม่เคยรู้สึกว่าชีอ้าวชวางน่าสงสัยมาก่อนเลย และเขาก็ไม่ได้สนใจคำพูดของอาซาเนียมากนักอยู่แล้ว
“ข้าสงสัยว่าชีอ้าวชวางจะไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง!” อาซาเนียพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม
โจนาธานเบิกตากว้างและยิ้มเยาะอย่างรำคาญ “ขอร้องล่ะนะ เจ้าน่ะ พอเขาไม่สนใจเจ้าก็พูดเช่นนี้ เจ้าจะทำให้ข้าหัวเราะจนตายไปเลยหรือไง!”
“ให้ตายสิ! เจ้าอยากตายหรือ! ข้าดูเป็นคนแบบนั้นหรือ? ในโลกนี้จะมีใครรู้จักผู้ชายดีกว่าข้าล่ะ? ข้าอ่านคนมานับไม่ถ้วนแล้ว ข้าจะไม่รู้หรือว่าอีกฝ่ายเป็นชายหรือหญิงกันแน่? เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าผู้หญิงคนไหนเข้าใจผู้ชายดีกว่าข้า ข้าจะไปกระโดดลงแม่น้ำทันทีเลย!” อาซาเนียแผดเสียงด้วยความโกรธ แต่ในน้ำเสียงของนางก็เจือความภาคภูมิใจตัวเองอยู่ด้วย
“หือ?” โจนาธานลูบคางและเหลือบมองอาซาเนียอย่างพิจารณาแล้วพูด “ก็จริงนะ เจ้าคือผู้หญิงที่รู้จักผู้ชายดีที่สุดในโลกนี้ ผู้ชายบางคนยังไม่รู้จักตัวเองเท่าเจ้าเลย ใครๆ ถึงได้บอกว่าเจ้าแสนรู้ไง”
“นี่! เจ้าชมหรือด่าข้ากันแน่?” อาซาเนียพูดอย่างไม่พอใจ
“ก็ครึ่งๆ แล้วกัน แต่ที่เจ้าบอกว่าชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิง มันตลกจริงๆ นะ” โจนาธานขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจและในแววตาของเขาก็ยังคงมีแววของการดูถูกอยู่
“ข้ายังไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน สิ่งที่ข้าพูดก็คือข้าสงสัยว่าร่างของชีอ้าวชวางจะเป็นผู้หญิง” อาซาเนียระงับความโกรธและพูดอย่างจริงจัง
“หมายความว่าอย่างไร?” โจนาธานขมวดคิ้ว
“เจ้าก็รู้ว่ามีสมบัติบางอย่างที่เปลี่ยนเพศของร่างกายได้ ข้าคิดว่าชีอ้าวชวางก็น่าจะทำแบบนั้น แต่ต่อมาข้าก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ถ้าอยากรู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือไม่ ลองใช้กระจกแห่งความจริงส่องดูเดี๋ยวก็รู้” สีหน้าของอาซาเนียจริงจังขึ้นเรื่อยๆ
“ให้ตายสิ! เจ้ามีของอย่างกระจกแห่งความจริงหรือ? เจ้าพูดจริงหรือ?” โจนาธานแทบคลั่งเลยเมื่อได้ยินชื่อกระจกแห่งความจริง นั่นคือสิ่งประดิษฐ์ที่มองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนได้ ยัยนี่มีของล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างไร?
“แน่นอนว่าไม่จริง” อาซาเนียพูดเบาๆ
โจนาธานเบ้ปากพูดไม่ออกเลย
“ของที่ข้ามีไม่ใช่กระจกแห่งความจริงของแท้ แต่เป็นของเลียนแบบที่ดีที่สุด แม้ว่าเจ้าจะมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังรู้คร่าวๆ ได้ ถึงอย่างไรชีอ้าวชวางก็ไม่ใช่ผู้ชาย” อาซาเนียพูดอย่างโกรธเคือง “ในโลกนี้ผู้ชายที่เห็นข้าแล้วไม่หวั่นไหวมีอยู่ไม่กี่ประเภทหรอก ประเภทแรกคือมีคนในใจอยู่แล้ว อีกประเภทคือคนที่ไม่เห็นผู้หญิงอยู่ในสายตาอย่างเช่นไดทันส์ ส่วนประเภทสุดท้ายก็คือผู้หญิง! ชีอ้าวชวางจัดอยู่ในสองประเภทแรกหรือไม่ล่ะ?”
โจนาธานแตะคางครุ่นคิดและมองไปที่อาซาเนียอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูด “ชีอ้าวชวางเป็นคนใจดีและชอบธรรม ข้ามั่นใจในเรื่องนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเจอเขาข้าก็รู้ทันทีเลย”
“ดังนั้นเจ้าเลยเห็นเขาเป็นเพื่อนของเจ้าสินะ” อาซาเนียเบ้ปาก “ถ้าเช่นนั้นเขาปฏิบัติกับผู้หญิงเหมือนกับที่ทำกับข้าหรือไม่?”
“ไม่เลย เขาอ่อนโยนกับพาริน่าและศิษย์พี่ของเขามาก ดังนั้นตัดเรื่องประเภทที่สองที่เจ้าพูดถึงได้เลย ส่วนเรื่องมีคนในใจ ข้ายังไม่รู้สึกว่าเขาสนใจใครนะ แม้ว่าเขาจะดีกับผู้หญิงสองคนนั้น แต่ก็ยังรักษาระยะห่างอยู่ตลอด มันไม่น่าจะเป็นความรู้สึกแบบนั้นแน่นอน”
“เช่นนั้นก็แปลว่าไม่ใช่ทั้งประเภทที่หนึ่งและสองน่ะสิ? เช่นนั้นก็ต้องประเภทที่สาม เอากระจกของข้าไปส่องดูเดี๋ยวก็รู้! ไม่ว่าจะเป็นสมบัติใดที่ทำให้นางเปลี่ยนเพศได้ก็ต้องเปิดเผยออกมาแน่นอน!” อาซาเนียพูดอย่างเย็นชา
“เหอะๆ เจ้าระวังตัวไว้เถอะ! ไม่ใช่ว่าเพราะเขาไม่แยแสเจ้าหรอกหรือ เจ้าถึงเป็นเช่นนี้?!” โจนาธานพูดออกไป แต่ในใจกลับสงบสติอารมณ์ไม่ได้ ชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิงหรือ? ผู้หญิงงั้นหรือ?! ได้หรือ? มันเป็นไปได้อย่างไร? ถ้าชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิงจริงๆ…
โจนาธานเหม่อไปเล็กน้อยและไม่สนใจเสียงของอาซาเนียที่อยู่ข้างๆ เขาอีกต่อไป
“เขาจะต้องเป็นผู้หญิงแน่นอน ต้องเป็นผู้หญิง โจนาธาน! เอากระจกไป เจ้าหาโอกาสให้ข้าได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของชีอ้าวชวางด้วยนะ!” อาซาเนียส่งกระจกในมือไปให้โจนาธาน จากนั้นโจนาธานก็กลับมามีสติอีกครั้ง
“เขาต้องเป็นผู้หญิง ต้องเป็นผู้หญิงแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะเมินข้าทำไม!” อาซาเนียพูดอย่างขมขื่นและมองค้อนโจนาธาน “เจ้าเด็กตัวเหม็น หลังจากรู้ผลแล้วต้องบอกข้าทันทีนะ กระจกนั่นเอาไว้ที่เจ้าก่อนเลย ใช้เสร็จแล้วค่อยเอามาคืนข้า ถ้าไม่คืนข้าจะตัดขาเจ้า”
“ว้าว เจ้าทนได้หรือ? ข้าเป็นน้องชายคนเดียวของเจ้านะ” โจนาธานร้องลั่น แต่ดึงกระจกมาไว้ในมือแน่นจากนั้นก็เก็บไป
“เหอะ! ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเจ้ามานานแล้ว หากเจ้าตายข้าก็จะมีความสุข!” อาซาเนียบ่นออกมา แต่ดวงตาของนางมีความอ่อนโยนอยู่ในนั้น น้องชายเพียงคนเดียวคนนี้ แม้จะเป็นสมาชิกของครอบครัวนั้น แต่ก็เป็นญาติคนเดียวที่นางยอมรับ
“ชิ…ปากไม่ตรงกับใจ เช่นนั้นก็ไปเถอะ ข้าจะหาโอกาสดู” โจนาธานพยักหน้า
พออาซาเนียไปแล้ว โจนาธานหยิบกระจกออกมาแล้วมองตัวเองในกระจกอย่างว่างเปล่าพลางพึมพำว่า “ผู้หญิงงั้นหรือ? เขาจะเป็นผู้หญิงหรือ? เป็นไปได้หรือ? ไม่น่านะ? หรือว่าเป็นไปได้?” โจนาธานมึนงงกับอารมณ์ของเขาไปชั่วครู่ มันมีทั้งมีความตกใจ ความประหลาดใจ ความคาดหวัง และเหลือเชื่อ…อารมณ์ที่ซับซ้อนครอบงำเขาไว้เกือบหมด เมื่อสัมผัสกระจกในมือ จิตใจของโจนาธานก็ย้อนไปที่ภาพนั้นที่เขาเจอชีอ้าวชวางเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มที่มีท่าทีนิ่งเงียบและไม่แยแสอะไร เปิดประตูมาอย่างเงียบๆ ครั้งแรกที่แสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้ตนเอง ครั้งแรกที่แสดงท่าทีจนใจกับตนเอง และครั้งแรกที่ตนเองโอบไหล่เขา…ยังมีอีกมากมายเลย!
ความตื่นเต้นเกิดขึ้นในใจของโจนาธานแล้วเขาก็นึกบางอย่างได้
ตอนที่เขาเอาแขนโอบไหล่ของชีอ้าวชวางครั้งแรก สายตาของผู้ติดตามที่อยู่ข้างๆ ชีอ้าวชวางดูราวกับประกายไฟเลย เขามองที่มือของตนเองบนไหล่ของชีอ้าวชวางเขม็ง! สายตานั้นผิดปกติมาก! ผู้ชายโอบไหล่กันมันเป็นเรื่องที่ปกติมาก! แต่ทำไมเขาถึงมองอย่างนั้นล่ะ? สายตาแผดเผาที่จ้องอยู่ที่มือของตนเองนั้น ผิดปกติ! ผิดปกติแน่นอน! ผู้ติดตามคนนั้นชอบผู้ชายหรือ? เฮ้ย! โจนาธานรู้สึกไม่ดีกับการคาดเดาของเขาเอง ถ้าเช่นนั้นก็ต้องความเป็นไปได้อื่น!
ชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิงหรือ? จะเป็นไปได้หรือไม่? ถ้าใช่ล่ะ…
โจนาธานว้าวุ่นอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน ใบหน้าของเขาสับสนไปหมดและสุดท้ายเขาก็เก็บกระจกแล้วหันหลังเดินจากไป
หอพักของชีอ้าวชวางถูกเปลี่ยนเป็นหอพักเดี่ยวแล้ว นักเรียนระดับแปดดาวอาศัยอยู่ที่ชั้นเก้าซึ่งทั้งหมดเป็นหอพักเดี่ยวที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี ชีอ้าวชวางได้อาศัยอยู่ระหว่างโจนาธานและไดทันส์ พอชีอ้าวชวางกลับมาที่ห้องและเพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใคร” ชีอ้าวชวางถาม
“ข้าเอง” โจนาธานบีบกระจกในมือจนฝ่ามือชื้นเหงื่อ
“เข้ามาสิ” ชีอ้าวชวางนั่งลงและพูด
โจนาธานเปิดประตูแล้วก็เห็นชีอ้าวชวางที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมสีแดงเพลิงของชีอ้าวชวางยุ่งเหยิงกระจัดกระจายอยู่บนไหล่ของเขาและหยดน้ำก็หยดลงมาจากปลายผม ดวงตานั้นเผยให้เห็นความงามที่น่าหลงใหล โจนาธานเห็นแบบนั้นก็ตะลึงไปจนลืมจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ไปเลย