เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 332
“ไม่ไกลแล้ว” ชีอ้าวชวางตอบ จากนั้นเงยหน้าขึ้นและเห็นไดทันส์ที่อยู่ไกลๆ สายตาของชีอ้าวชวางเย็นชาทันที แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะเหงาและเศร้า แต่ไม่ใช่คนที่อยู่ในโลกเดียวกับนาง ไปผูกมิตรกับคนที่น่าหวาดระแวงคนนี้ไม่ได้หรอก ไม่ทางตลอดไป
ไดทันส์ได้ยินเสียงของทั้งสองคนนั้นจึงหยุดอยู่ที่เดิม รอให้พวกเขาเดินมา
ชีอ้าวชวางและโจนาธานเองก็หยุดเช่นกัน ทั้งสามคนมองหน้ากันและนิ่งเงียบไป
“ชีอ้าวชวาง…” หลังจากนั้นไม่นานไดทันส์ก็พูดก่อน เขาเรียกชื่อชีอ้าวชวาง นี่เป็นการพูดคุยกันแบบเห็นหน้ากันครั้งแรกระหว่างทั้งสองหลังจากออกจากสำนักเทียนต้าววันนั้น
โจนาธานมองชีอ้าวชวางอย่างกังวล จากนั้นก็มองไดทันส์ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนลดลงจนถึงจุดที่เยือกเย็นใส่กันตั้งแต่ที่กลับมาจากสำนักเทียนต้าวและพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่ตอนนี้กลับมาเผชิญหน้ากัน จะเกิดอะไรขึ้นนะ?
ชีอ้าวชวางมองไดทันส์อย่างเย็นชาและพูดอย่างเคร่งขรึม “มีอะไร?”
“ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?” เดิมทีสิ่งที่ไดทันส์กังวลก็คือเรื่องนี้ เขากังวลว่าตอนนี้ชีอ้าวชวางรู้สึกอย่างไร พูดง่ายๆ คือไปพัฒนาไปไกลแค่ไหนแล้วนั่นเอง
“ก็จะบรรลุก่อนเจ้าได้” ชีอ้าวชวางพูดออกมาอย่างไม่เกรงใจ
“ดี ดีมาก ก่อนหน้าข้า คนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าก็ไม่ต้องตาย แต่ถ้าบรรลุไปพร้อมกับข้า พวกเขาก็ยังต้องตาย การดำรงอยู่ของคนเหล่านั้นจะขัดขวางการเลื่อนขั้นของเจ้า…” ไดทันส์ยังพูดไม่ทันจบก็มีลมพายุพัดมารอบๆ และลมพายุที่บ้าคลั่งนั้นก็พัดเสื้อผ้าและผมปลิวไปหมด
จุดศูนย์กลางของสิ่งนี้อยู่ที่ชีอ้าวชวาง ลมแรงจำนวนมากพุ่งออกมาจากร่างของชีอ้าวชวางอย่างบ้าคลั่งและกระจายไปโดยรอบ สีหน้าของชีอ้าวชวางเรียบนิ่ง และสายตาก็เย็นชามาก นางมองไดทันส์อย่างเย็นชา ลมพัดอย่างแรงจนเกิดรอยเลือดบนใบหน้าที่หล่อเหลาของไดทันส์ และเลือดที่น่าตกใจนั้นก็ค่อยๆ ไหลออกมา
ไดทันส์ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เขาทำเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ และมองไปที่ชีอ้าวชวางอย่างมั่นคง
บรรยากาศเริ่มแข็งกร้าวจนถึงขีดสุดแล้ว รอบๆ มีเพียงแค่เสียงลมที่พัดไปมาเท่านั้น
ฝ่ามือที่กังวลของโจนาธานชื้นเหงื่อ ทั้งสองคนจะต่อสู้กันแบบนี้ไม่ได้ แม้ว่าชีอ้าวชวางจะพัฒนาขึ้นมากในช่วงเวลานี้ แต่คู่ต่อสู้นั้นคือไดทันส์ เขาไม่อยากให้เกิดอะไรกับชีอ้าวชวางแม้แต่การบาดเจ็บเล็กน้อย
“ชีอ้าวชวาง แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วนี่” หลังจากที่ไดทันส์พูด ลมก็หยุดลงทันที บริเวณโดยรอบเงียบลงและไดทันส์ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาหันหลังกลับและเดินจากไปตามลำพัง
ชีอ้าวชวางยืนนิ่ง แต่สายตากลับเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
นางเข้าใจดีว่าการต่อสู้กับชายผู้นี้คงอยู่ไม่ไกลนักแล้ว
“ชีอ้าวชวางๆ เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” โจนาธานถามอย่างเป็นห่วง
“ข้าจะเป็นอะไรได้ล่ะ!” ชีอ้าวชวางตอบอย่างขุ่นเคืองแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าสงบ
โจนาธานเย็นลงและรีบตามไปทันที
หลังจากแลกเปลี่ยนความคิดกับบริลแล้ว ชีอ้าวชวางและโจนาธานก็ออกมาอีกครั้ง แต่ชายลึกลับชุดขาวคนนั้นกลับยังไม่ปรากฏตัวอีกเลย เรื่องนี้ทำให้ชีอ้าวชวางกลุ้มใจมาก คนคนนั้นกำลังทำอะไรกันแน่? ทำไมเขาไม่ปรากฏตัวอีกเลยล่ะ?
เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ชีอ้าวชวางนั่งอยู่บนเตียงหลับตาเพื่อสัมผัสถึงความรู้สึกแปลกๆ ที่หายวับไปเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าการบรรลุจะอยู่ไม่ไกลแล้ว พรุ่งนี้นางจะไปที่หอคอยดวงดาวอีกครั้ง และตรงไปที่ชั้นเก้า
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ชีอ้าวชวางค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับความสงสัยในแววตา ใครกัน?
พอเปิดประตู นางก็เห็นท่าทีเหนื่อยล้าของพาริน่า ดวงตาแดงก่ำ รอยคล้ำใต้ตารุนแรงและสีหน้าซีดเซียว แต่สายตาของนางกลับแข็งกร้าวมาก
“พาริน่า? เป็นอะไรไป? ถ้าเจ้าจะมาถามเกี่ยวกับพี่ชายของเจ้าล่ะก็ ไม่ต้องกังวลนะ ตอนนี้พี่ชายของเจ้าสบายดี” ชีอ้าวชวางไม่ได้หลีกทางให้ แต่ยืนขวางประตูและพูดไปแบบนั้น
“จริงหรือ? ขอบใจเจ้านะ วันนี้ที่ข้ามาเพราะมีเรื่องอยากมาหาเจ้า” พาริน่าเม้มปากน้อยๆ ราวกับกำลังรวบรวมพลังให้ตัวเองอยู่
“เรื่องอะไร?” ชีอ้าวชวางถามเรียบๆ นางรู้ดีว่าจะให้ความหวังแก่คนตรงหน้านี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นมันจะจบลงด้วยความสิ้นหวังที่ไม่รู้จบ
“คืนนี้เจ้ามาที่ป่าริมทะเลสาบที่เราเคยพบกัน เจ้าต้องมานะ ข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้า” พาริน่าเงยหน้าขึ้น กัดริมฝีปากจนซีดและพูดอย่างจริงจัง
“มีเรื่องอะไรพูดที่นี่ไม่ได้หรือ?” ชีอ้าวชวางหันไปพูดแบบนี้โดยไม่มองตาของพาริน่า
“พูดที่นี่ไม่ได้ มันเป็นเรื่องสำคัญมาก!” พาริน่ายืนกรานแล้วหันหลังวิ่งออกไป หลังจากวิ่งไปสองสามก้าวก็หันมาพูดเสริม “ข้าจะไปรอเจ้าที่นั่น มันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ เจ้าต้องมานะ!”
จากนั้นพาริน่าก็สิ่งไปโดยไม่รอให้ชีอ้าวชวางได้ตอบสนองอะไร
ชีอ้าวชวางมองแผ่นหลังของพาริน่าและคิดว่าอะไรกันที่ทำให้พาริน่ามีปฏิกิริยาเช่นนี้ เรื่องสำคัญจริงหรือ? หรือจะเกี่ยวกับแผนการร้ายเบื้องหลังของสถาบันดวงดาว? เมื่อคิดได้เช่นนี้ สีหน้าของชีอ้าวชวางก็ดูเคร่งขรึมขึ้น หากเป็นเช่นนี้ คืนนี้ก็จำเป็นต้องไปพบพาริน่าเพื่อถามให้ได้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ ชีอ้าวชวางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ปิดประตู
สิ่งที่ชีอ้าวชวางไม่เห็นอย่างแน่นอนก็คือภายในห้องพักของไดทันส์นั้น ไดทันส์เดิมทีกำลังนั่งหลับตาอยู่บนเตียงนั้นลืมตาขึ้นทันที และในแววตาของเขาก็ความโกรธอยู่ในนั้นด้วย
ในตอนกลางคืน ชีอ้าวชวางและโจนาธานออกมาจากโรงอาหารหลังอาหารเย็น จากนั้นชีอ้าวชวางก็หันไปหาโจนาธานและพูด “เจ้ากลับไปก่อน ข้ามีธุระนิดหน่อย”
“ธุระอะไร? เจ้าจะไปไหน?” โจนาธานรีบถามทันที
“เรื่องเล็กน้อยน่ะ เจ้ากลับไปก่อนได้เลย” ชีอ้าวชวางไม่พูดอะไรอีกแล้วหันหลังเดินออกไปทันทีทิ้งโจนาธานไว้ตรงนั้น
“เฮ้ อ้าวชวาง อ้าวชวาง…” โจนาธานเรียกชีอ้าวชวางจากด้านหลัง แต่ชีอ้าวชวางก็เดินต่อไปเรื่อยๆ โจนาธานยืนครุ่นคิดอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน จากนั้นก็เดินออกไป
ชีอ้าวชวางก้าวไปข้างหน้าช้าๆ จนมาถึงป่าที่เงียบสงบ ในความมืดนั้น ป่าก็ยิ่งดูเงียบสงบยิ่งขึ้นอีก มีเพียงแมลงที่ส่งเสียงอยู่เป็นครั้งคราวเท่านั้น ในตอนกลางคืนไม่มีใครสนใจที่นี่ มันจึงเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและดีมาก
ชีอ้าวชวางนั่งลงรอพาริน่า จากนั้นใบไม้ก็ร่วงปลิวลงมา ชีอ้าวชวางเอื้อมมือออกไปจับใบไม้แล้วถูมันเบาๆ
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นในป่า ชีอ้าวชวางไม่ได้ขยับตัว นางรู้ว่าฝีเท้านั้นเป็นของพาริน่า หลังจากนั้นไม่นาน ร่างของพาริน่าก็ปรากฏขึ้นในสายตาของชีอ้าวชวาง
“ชีอ้าวชวาง เจ้ามาแล้ว…ข้าขอร้อง เจ้าจึงมาใช่หรือไม่?” พาริน่าเดินเข้าไปหาชีอ้าวชวางอย่างช้าๆ แต่ในสายตาของนางกลับมีประกายมีอธิบายไม่ได้อยู่ในนั้น
“เจ้ามีเรื่องอะไร พูดมาสิ มันเกี่ยวกับแผนการร้ายเบื้องหลังของสถาบันดวงดาวหรือไม่?” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและไม่ตอบคำของพาริน่าแต่ถามประโยคนั้นไปอย่างเฉยเมย
“เจ้ามาเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องนั้นหรือ?” ใบหน้าของพาริน่ามีร่องรอยของความผิดหวังอยู่
“ไม่อย่างนั้นเจ้าคิดว่าอะไรล่ะ? ข้าคิดว่าข้าพูดไว้แล้วนะว่าระหว่างข้ากับเจ้ามันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน” สีหน้าของชีอ้าวชวางเริ่มเย็นชาขึ้น ถ้าพาริน่าเรียกมาเพื่อพูดเรื่องพวกนี้ นางก็มาเสียเวลาแล้ว! ชีอ้าวชวางพูดเสียงเย็นชาจบและกำลังเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน! ชีอ้าวชวาง ที่ข้าเรียกให้เจ้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจริงๆ นะ มีความลับอยู่เบื้องหลังของสถาบันดวงดาว” เมื่อเห็นชีอ้าวชวางกำลังจะเดินจากไป พาริน่าก็รีบพูดออกมาทันที
แน่นอนว่าการแสดงออกของชีอ้าวชวางดูประหลาดใจและหันไปหาพาริน่าด้วยท่าทางกังวลและพูด “เรื่องอะไร?”
“สัตว์คู่หูของข้าได้ยินการโต้เถียงระหว่างผู้อำนวยการและผู้อาวุโส ดูเหมือนพวกมันจะไม่ใช่คนของโลกแห่งนี้ พวกเขามาที่โลกแห่งนี้เพื่อทำเรื่องบางอย่างเพื่อใครบางคนหรือพลังบางอย่าง” พาริน่ามองชีอ้าวชวาง พูดถึงสิ่งที่ค้นพบอย่างเร่งรีบและกังวล
ชีอ้าวชวางขมวดคิ้ว สีหน้าก็เคร่งเครียดยิ่งขึ้นและค่อยๆ เดินกลับมานั่งลง จากนั้นก็ตบที่ตำแหน่งข้างกายและพูดกับพาริน่า “มานั่งลงคุยกัน”
“อืม” ใบหน้าของพาริน่าปรากฎรอยยิ้มและรีบเดินไปนั่งลงทันที จากนั้นก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการโต้เถียงระหว่างผู้อำนวยการและผู้อาวุโสในห้องทำงานของผู้อำนวยการ
หลังจากที่ชีอ้าวชวางฟังจบ ใบหน้าก็ดูเคร่งขรึมมากขึ้นอีก เรื่องที่พาริน่าได้รับมานั้นน่าตกใจมาก แต่พอคิดดูดีๆ แล้วก็ไม่น่าแปลกใจ ส่วนคนที่ผู้อำนวยการพูดถึง คนที่ผู้อาวุโสปล่อยไปคนนั้น หรือว่าจะเป็นชายลึกลับชุดขาวคนนั้น? ชายชุดขาวก็เป็นเหยื่อของพวกเขาเช่นกัน แต่ผู้อาวุโสก็ปล่อยไป ในเวลานั้นเกรงว่าอาจจะเป็นการต่อสู้ที่ถึงขั้นทำลายโลกได้ถึงทำให้หอคอยดวงดาวสั่นสะเทือนได้ ชายชุดขาวรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้อำนวยการหรือ?
พวกเขาไม่ได้อยู่ในโลกแห่งนี้ แต่เข้ารับตำแหน่งที่สถาบันดวงดาวเพียงเพื่อจะกลับไปยังบ้านเกิดเดิมของพวกเขาอย่างนั้นหรือ? บ้านเกิดของพวกเขาอยู่ที่ไหนกัน? อยู่ในมิติแห่งนั้นหรือ? เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของชีอ้าวชวางก็จมดิ่งลง คนหรือกองกำลังที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังอาจไม่ธรรมดาอย่างนั้นแน่ๆ โลกแห่งความวุ่นวายนี้อยู่ในกำมือของคนหรือพลังนั้น นึกภาพออกเลยว่าพลังของคนคนนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน!
“ชีอ้าวชวาง ชีอ้าวชวาง?” พาริน่าเรียกชีอ้าวชวางอย่างระมัดระวัง
“หืม?” ชีอ้าวชวางเรียกสติกลับมาและมองพาริน่าที่มีความหวังด้วยรอยยิ้มจางๆ “พาริน่า ขอบคุณสำหรับข่าวนี้ มันสำคัญและมีประโยชน์มากสำหรับข้า”
“ถ้ามันมีประโยชน์กับเจ้าก็ดีเลย” พาริน่ายังคงยิ้มอยู่ ตอนนี้ใบหน้าที่ซีดเซียวของนางดูดีขึ้นเล็กน้อย จินตนาการออกเลยว่าช่วงเวลาหลังจากที่ถูกชีอ้าวชวางปฏิเสธไปนั้นนางแย่แค่ไหน