เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 359
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า” สีหน้าของพระบิดาเริ่มเย็นชา ที่เขาและพระมารดาต้องแสดงตัวในรูปแบบตอนนี้ ไม่ใช่เพราะงานอดิเรกแปลกๆ ของพวกเขา แต่เพราะเขาสูญเสียพลังมากเกินไปเพื่อช่วยพระมารดา การอยู่ในรูปแบบนี้เป็นเพียงการลดการใช้พลังลงเท่านั้น
“จะตายหรือมอบตัวชายผู้นั้นมา?” ชิงฮวาก้าวไปข้างหน้า และพลังอันน่ากลัวที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของนางก็พุ่งตรงไปที่พระบิดา
ลมปราณที่น่ากลัวทำให้ใบหน้าของพระบิดาเปลี่ยนไปทันที เขาก้าวไปข้างหน้า ขมวดคิ้ว และปล่อยพลังปราณของเขาออกไปทันที
ปราณทั้งสองปะทะกันในอากาศ จากนั้นทุกคนก็ตกใจเมื่อเห็นว่าปราณของพระบิดาถูกพลังของชิงฮวาทำลายไปในพริบตา จากนั้นปราณของชิงฮวาก็กระแทกเข้าร่างของพระบิดาอย่างไม่มีอุปสรรคใดๆ เลย
“เจ้า…” สีหน้าของพระบิดาเปลี่ยนไป เขาเอื้อมมือไปกุมที่หน้าอกและมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าวและรีบเอื้อมมือไปจับเก้าอี้เพื่อประคองร่างของเขาให้มั่นคง
การปะทะกันของพลังทั้งสองนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันมากราวกับว่าเรือลำหนึ่งกำลังอยู่ในพายุ สั่นคลอนไม่มั่นคง หัวใจที่ถูกแรงกดดันเมื่อครู่ทำให้ทุกคนต่างสั่นสะท้านและยืนเงียบๆ พวกเขารู้ว่าการเผชิญหน้ากันของอำนาจแบบนี้ พวกเขาเข้าไปแทรกแซงไม่ได้เลย ที่ยืนดูอยู่ตรงนี้ก็โชคดีมากแล้ว การปะทะกันระหว่างพระเจ้ากับพระเจ้านั้น เมื่อครู่ก็แค่ทั้งสองลองปล่อยพลังออกมาหยั่งเชิงกัน พวกเขาทุกคนก็แทบจะรับไม่ไหวแล้ว
สายตาของชิงฮวาเริ่มเย็นชาลงเรื่อยๆ นางใกล้จะหมดความอดทนแล้ว
“จะตายหรือจะแลกเปลี่ยน?” ชิงฮวาพูดอย่างหมดความอดทน
“พลังของข้าหายไปมากเกินไป…” พระบิดามองชิงฮวาอย่างไม่พอใจและพูดออกมา แต่ก่อนที่คำพูดจะจบลงก็ถูกชิงฮวาตัดบทเสียก่อน
“ต่อให้เจ้าจะสู้ในตอนที่พลังของเจ้าเต็มเปี่ยม เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก” ชิงฮวาเยาะเย้ย “ข้าไม่อยากฆ่าเทพเจ้าแห่งโลกนี้ รีบมอบเขาให้กับพวกเรา”
พระบิดาไม่พูดอะไร แต่ค่อยๆ หันไปมองพระมารดาที่หลับใหลอยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก ความไม่พอใจ และเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้น
“ความตั้งใจของนางที่อธิษฐานขอความตายได้รับการตัดสินแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะให้พลังไปมากเท่าไหร่ นางก็ไม่กลับมา อย่าทำอะไรที่ไร้ประโยชน์และน่าเบื่อเลย” ชิงฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไม่อดทน “ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องตาย เจ้าจะเลือกตายตอนนี้หรือตายทีหลัง? หากตายตอนนี้ ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างน่าอนาถ และทำให้นางตายอย่างน่าอนาถยิ่งกว่า”
เหลิ่งหลิงยวิ๋นขมวดคิ้ว นางยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเลย นางจะมีอำนาจอยู่เหนือกว่าเสมอและจะมีน้ำเสียงที่ดุดันอยู่เสมอ นางยังคงไม่เข้าใจว่ารักคืออะไร นางรู้แต่เพียงแต่การครอบครอง การครอบครองเท่านั้น…
การแสดงออกของพระบิดาเริ่มโศกเศร้ามากขึ้นเรื่อยๆ เขาเอื้อมมือออกไปลูบใบหน้าซีดเซียวของพระมารดาอย่างอ่อนโยน จากนั้นริมฝีปากของเขาก็ขยับเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ แต่ไม่มีใครได้ยินที่เขาพูดอะไรสักคำเลย
“ตกลง เจ้าพาเขาออกไปเลย” พระบิดาค่อยๆ คุกเข่าลงตรงหน้าพระมารดาและซบลงบนตักของพระมารดาอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็พูดอย่างแผ่วเบา
“หึ! น่าเบื่อ!” ชิงฮวาสะบัดแขนเสื้อเบาๆ แล้วคริสตัลแหลมคมที่ตรึงแขนขาของคามิลล์ก็หายไปในทันที ร่างของคามิลล์ค่อยๆ ลอยขึ้นไปในอากาศและค่อยๆ ตกตรงหน้าของชีอ้าวชวาง ชีอ้าวชวางยื่นมือออกไปจับคามิลล์ไว้ จินเหยียนเองก็ก้าวไปข้างหน้า ถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้คามิลล์ แขนขาของคามิลล์ที่ถูกแทงด้วยคริสตัลแหลมคมนั้นไม่มีเลือดแม้แต่น้อย ในขณะนี้ บาดแผลเหล่านั้นค่อยๆ หายเป็นปกติแล้ว เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หัวใจของชีอ้าวชวางก็ปล่อยวางได้ในที่สุด คามิลล์ไม่เป็นไร โชคดีที่มาทันเวลา
“คามิลล์…” ชีอ้าวชวางกระซิบที่ข้างหูของคามิลล์ แต่คามิลล์ยังคงสลบอยู่
“ไป” ชิงฮวาพูดอย่างเฉยเมยและหันหลังเดินออกไป
จินเหยียนก้าวเข้ามาแบกคามิลล์ขึ้นบนหลังของเขา หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้าให้ชีอ้าวชวางและก็ก้าวไปข้างหน้า ชีอ้าวชวางก็พยักหน้าเบาๆ และเดินตามหลังไป
ทุกคนเดินออกไปเงียบๆ ชีอ้าวชวางเดินตามหลังจินเหยียนและมองคามิลล์ที่อยู่ด้านหลังของเขาด้วยความเศร้าและไม่สบายใจ สายตาของชีอ้าวชวางค่อยๆ เคลื่อนไปที่เฟิงอี้เซวียน นางมองไปที่แผ่นหลังของเฟิงอี้เซวียนเป็นเวลานานแล้วค่อยๆ เคลื่อนสายตาไปที่ร่างของจินเหยียนอีกครั้ง จากนั้นก็มองทุกคนทีละคน และในที่สุดก็หันไปสบตากับเหลิ่งหลิงยวิ๋นที่เดินอยู่ข้างๆ
สายตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นล้ำลึกมาก เขามองชีอ้าวชวาง ชีอ้าวชวางเองก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ ท่าทีของชีอ้าวชวางยิ่งทำให้การแสดงออกของเหลิ่งหลิงยวิ๋นจริงจังมากขึ้นอีก
ทุกคนเดินออกจากวังด้วยกัน ชิงฮวาที่เดินอยู่ข้างหน้ายืนนิ่งและหันกลับมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็มองไปยังชีอ้าวชวางด้วยรอยยิ้มเย็นชา ”ชายผู้นี้จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ เขาไม่เป็นอะไร” นางพูดถึงคามิลล์
ชีอ้าวชวางพยักหน้าน้อยๆ เดินไปข้างๆ จินเหยียนและยื่นมือออกมาปัดผมที่หน้าผากของคามิลล์อย่างอ่อนโยนแล้วถอนหายใจเบาๆ
“ถึงเวลาแล้ว” สายตาของชิงฮวาเย็นชาและขึ้นเสียงเตือนชีอ้าวชวางอย่างใจร้อน
“อืม” ชีอ้าวชวางตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็หันไปมองไดทันส์และโจนาธานแล้วยิ้ม “ไดทันส์ โจนาธาน ข้าดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับพวกเจ้านะ ไดทันส์ พลังที่เจ้าแสวงหา มันทำให้เจ้ามองข้ามหลายสิ่ง ในความเป็นจริง เวลาที่คนเรามีสิ่งที่ต้องปกป้อง พวกเขาจึงจะแข็งแกร่งขึ้น โจนาธาน เจ้าอยู่กับไดทันส์มาหลายปีแล้ว มันคงยากสำหรับเจ้าจริงๆ”
“ข้ามีทางเลือกที่ไหนล่ะ ข้าก็ต้องอยู่กับเขาต่อไปนี่แหละ” โจนาธานยักไหล่และยกมุมปากเหมือนจะบอกว่าช่วยไม่ได้
ไดทันส์มองชีอ้าวชวางอย่างลังเลและขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่ากำลังคิดถึงคำพูดของชีอ้าวชวางอยู่
“หลิงยวิ๋น ข้าขอโทษ ขอบคุณเจ้านะ” ชีอ้าวชวางเดินไปหาเหลิ่งหลิงยวิ๋นด้วยรอยยิ้มเศร้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดในใจ ชายคนนี้เสียสละเพื่อนางมามาก แต่สุดท้ายนางก็ตอบสนองต่อความปรารถนาของเขาไม่ได้ เหลิ่งหลิงยวิ๋นเป็นคนดี เป็นผู้ชายที่ดีมากๆ เลย…
สายตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นล้ำลึก แต่เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ เพียงแต่มีบางอย่างที่มั่นคงอยู่ในแววตาของเขา
เฟิงอี้เซวียนยืนอยู่ที่เดิม มองชีอ้าวชวางที่เดินเข้ามาใกล้เขา จากนั้นชีอ้าวชวางก็กางแขนทั้งสองข้างออกแล้วกอดเฟิงอี้เซวียนและกระซิบที่ข้างหูเขา ”อี้เซวียน ข้าชอบเจ้า” คำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่เหมือนมีก้อนหินนับพันก้อนกดเข้าไปในหัวใจของเฟิงอี้เซวียน หัวใจของเฟิงอี้เซวียนเกือบจะหยุดเต้น นี่เป็นครั้งแรก นี่เป็นครั้งแรกที่ชีอ้าวชวางพูดความรู้สึกของนางออกมาอย่างตรงไปตรงมา เป็นครั้งแรกที่ตอบรับเขาต่อหน้า
ชีอ้าวชวางผละออก นางยิ้มและมองเฟิงอี้เซวียนเงียบๆ คนตรงหน้าได้เข้ามาอยู่ในใจนางตั้งแต่เมื่อไรกันนะ? ไม่รู้เลย บางทีอาจจะตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นเขาทำท่าทางเย่อหยิ่งแต่ผลสุดท้ายกลับถูกนางเหยียบเขา บางทีอาจจะเป็นตอนที่นางเจอนักเวทแห่งความมืดแล้วเขาก็ปรากฏตัวมาตอนนั้นพอดี บางทีอาจจะเป็นตอนที่เขาปรากฏตัวหลังจากที่มีการต่อสู้กับเทพีแห่งแสงก็ได้…เยอะมากเลย เยอะมากๆ ช่วงเวลาเหล่านี้ มีแต่ภาพอดีตอยู่ในหัวของชีอ้าวชวางเต็มไปหมด
“อ้าวชวาง เจ้า…” ความไม่สบายใจของเฟิงอี้เซวียนเพิ่มขึ้นเรื่อยแล้วในตอนนี้
ทันใดนั้นชิงฮวาก็ก้าวออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกมาวางบนหน้าผากของเฟิงอี้เซวียน เฟิงอี้เซวียน ตกใจ และทันใดนั้นเขาก็หยุดนิ่งอยู่กับที่
เมื่อชีอ้าวชวางหันไปมอง นางเห็นความเย็นชาและความโกรธจางๆ บนของใบหน้าของชิงฮวา
“ไม่ใช่ของเจ้า อย่าหน้าด้านมายุ่ง” เสียงเย็นชาของชิงฮวาเต็มไปด้วยความร้อนใจและรำคาญ
ชีอ้าวชวางมองการเคลื่อนไหวของชิงฮวาแล้วมองเฟิงอี้เซวียนที่ถูกทำให้ตัวแข็งก็รู้สึกตื่นตระหนกในใจ นางรู้ว่าชิงฮวากำลังฟื้นฟูความทรงจำของเฟิงอี้เซวียน…แต่เป็นความทรงจำของซื่อหั่ว
มือของเหลิ่งหลิงยวิ๋นที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของเขากำแน่น เขามองการเคลื่อนไหวของชิงฮวาอย่างเคร่งขรึมและจดจ่ออยู่กับปฏิกิริยาของเฟิงอี้เซวียน
“นางกำลังทำอะไร?” ไรลี่ย์ถามจินเหยียน
“ฟื้นความทรงจำที่ลึกที่สุดของนายน้อยเฟิง เป็นความทรงจำของซื่อหั่ว” หัวใจของจินเหยียนรู้สึกซับซ้อนมาก เขาเดาทุกอย่างจากคำพูดของชีอ้าวชวางและชิงฮวา ทุกการตัดสินใจของคุณหนู เขาเคยบอกแล้วว่าจะสนับสนุนเสมอ เขาจะสนับสนุนโดยไม่มีเงื่อนไขตลอดไป แต่คุณหนูเสียสละตัวเองเพื่อช่วยคามิลล์ เรื่องนี้เขาต้องสนับสนุนหรือ? ถ้าเขาต่อสู้กับชิงฮวา ผลของมันล่ะ ก็คงจะเป็นการทำให้ชิงฮวาโกรธแล้วทุกคนในที่นี้ยกเว้นเฟิงอี้เซวียนกับเหลิ่งหลิงยวิ๋นก็คงจะถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้สัมผัสนิสัยของชิงฮวา จินเหยียนก็รู้นิสัยของชิงฮวาแล้ว เย็นชา โหดร้าย โหดเหี้ยม และมักจะอยู่เหนือกว่าใครเสมอ
สายตาของไดทันส์จมดิ่งลง เขามองทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าไหล่ของเขาลดลง จากนั้นก็มีความอบอุ่นที่ไหล่ของเขา เมื่อหันไป เขาก็เห็นโจนาธานเอามือวางบนไหล่ ยิ้มให้เขาและพยักหน้าอย่างหนักแน่น ไม่รู้เพราะอะไร มันทำให้หัวใจของไดทันส์อุ่นขึ้นทันที จากนั้นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก็เต็มหัวใจของเขาและค่อยๆ ปกคลุมร่างกายของเขาไปด้วย นี่คือความรู้สึกอะไรกัน? ไดทันส์ ตะลึง จากนั้นก็หันไปมองชีอ้าวชวาง สิ่งที่ชีอ้าวชวางพูดก่อนหน้านี้ยังคงฝังลึกอยู่ในใจของเขา ครอบครัว มิตรภาพ ความรัก…ไดทันส์ค่อยๆ ยื่นมือออกมา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งและสุดท้ายก็กดมือของเขาลงบนหลังมือของโจนาธาน โจนาธานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรอยยิ้มที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างช้าๆ อย่างน้อยไดทันส์ก็เริ่มต้นก้าวแรกแล้ว แม้ว่าจะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสก้าวต่อไปในอนาคตหรือไม่ก็ตาม
ในเวลาต่อมา ชิงฮวาดึงมือของนางออกและหันไปมองชีอ้าวชวางพร้อมพูดอย่างเย็นชา “เร็วเข้า ทำตามสัญญาของเจ้าสิ!”
ชีอ้าวชวางมองเฟิงอี้เซวียนที่ยังคงตัวแข็งค้างอยู่ จากนั้นรอยยิ้มจางๆ ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนางและก็พยักหน้า ”ลงมือเลย” นางหันไปมองทุกคน ”นี่คือข้อตกลงของข้ากับนาง พวกเจ้าไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว อย่าเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะมีชีวิตที่ดีนะ…”
“คุณหนู!” จินเหยียนกัดฟันและจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ชีอ้าวชวางส่ายหัวอย่างหนักแน่นหยุดจินเหยียนไว้ด้วยสายตาของนาง