เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 371
“สำหรับข้า นางแตกต่าง แค่นั้นก็พอแล้ว” เขาพูดเท่านี้แล้วไม่พูดอะไรอีก
“เช่นนั้นก็ดี นางต้องพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน เจ้าจะจัดการกับวินนี่อย่างไร?” ระหว่างทางที่มา อัลทิสก็เห็นวินนี่ที่ถูกจัดการไปจนเกือบตายนั่นแล้ว
“บอกให้คนส่งนางออกไปทันที ไม่อย่างนั้นข้าเกรงว่าข้าจะทนไม่ได้แล้วฆ่านางตอนนี้เลย” เสียงคำรามต่ำจากลำคอของโพ่เทียนมีกลิ่นอายกระหายเลือดแทรกซึมอยู่ในนั้นด้วย
อัลทิสเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ความกังวลแวบเข้ามาในแววตาของเขา
โพ่เทียนให้ความสำคัญกับลูกแมวตัวนี้มาก เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดีนัก
พอข้าตื่นมาอีกครั้งก็รู้สึกอบอุ่นมาก ข้าค่อยๆ ลืมตาขึ้น และเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของโพ่เทียน ร่างกายก็ไม่เจ็บปวดอีกต่อไป ข้ายกอุ้งเท้าขึ้นเบาๆ โอ้ ไม่เจ็บแล้ว เกิดอะไรขึ้นนะ?
โพ่เทียนถอนหายใจยาวแล้วลูบหัวข้าเบาๆ กระซิบ “อาเป่า เจ้าทำให้ข้าตกใจมาก โชคดีที่ในที่สุดเจ้าก็ตื่น”
เหมียว? มันเกิดอะไรขึ้น?
จริงด้วย! วินนี่ ผู้หญิงน่ากลัวคนนั้นล่ะ? ข้าสะดุ้งและมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง นางไปไหน? นางอยู่ที่ไหน? ข้าต้องระวังนาง
“อาเป่า ไม่เป็นไรแล้ว ปลอดภัยแล้ว ข้าอยู่ข้างเจ้านี่ไง” เสียงของโพ่เทียนแปลกๆ ดูเหมือนสั่นอยู่หน่อยๆ น้ำเสียงเหมือนกับแม่ข้าตอนข้าตกต้นไม้ขยับไม่ได้แล้วแม่รู้เข้าเลย
ใช่ โพ่เทียนอยู่ที่นี่แล้ว! ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่ นางก็ไม่กล้าทำอะไรข้า อีกอย่าง ดูเหมือนว่านางจะไม่อยู่แล้วนะ ข้ามองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นนางเลย
เหมียว โพ่เทียน เจ้าอยู่นี่ก็ดีเลย ข้าจะบอกเจ้าว่าผู้หญิงคนนั้นน่ากลัวมาก นางตีข้าและขโมยวงกลมนี้ของข้า ข้าพยายามทำท่าทางและเขย่าวงกลมรอบคอของข้า
“อาเป่า ไม่เป็นไร ข้ารู้หมดแล้ว” โพ่เทียนลูบหัวข้าเบาๆ และพูด “อาเป่า ไม่ต้องกลัวนะ มันจบแล้ว ต่อไป เจ้าต้องห้ามอยู่ห่างจากสายตาของข้าอีกนะ”
เหมียว? โพ่เทียน เจ้าหมายความว่าเจ้าจะไม่ทิ้งข้าไว้คนเดียวใช่หรือไม่? ต่อไปจะอยู่ข้างเจ้าได้ใช่หรือไม่? ว้าว เยี่ยมมาก เยี่ยมมากเลย! ข้าพยักหน้าอย่างมีความสุข
“ข้าจะไม่มีวันปล่อยผู้หญิงคนนั้นไป” เสียงของโพ่เทียนเย็นชามาก
อะไรนะ? โพ่เทียน เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?
ข้าเอียงหัวมองโพ่เทียน โพ่เทียนกำลังโกรธ? ทำไมล่ะ?
“อาเป่า ทำไมเจ้าไม่เรียกข้าตอนที่ตกอยู่ในอันตราย ข้าบอกว่าหากเจ้าตกอยู่ในอันตราย เจ้าใช้สิ่งนี้เรียกข้าให้ไปอยู่เคียงข้างเจ้าได้นี่” โพ่เทียนถามพลางเขย่าวงกลมรอบคอของข้าเบาๆ
หือ? มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? ข้ากะพริบตาและครุ่นคิดอย่างหนัก ดูเหมือนว่าจะเป็นตอนที่ข้าอยู่ที่ทะเลสาบ โพ่เทียนให้วงกลมนี้กับข้าและก็บอกข้าว่าใช้สิ่งนี้ช่วยข้าเมื่อตกอยู่ในอันตรายได้ ข้าลืมไปเลย!
ข้าลืม! โพ่เทียน เหมียว ลืมไปเลย ข้ามันโง่จริงๆ ข้าลืมไปเลย ข้าหงุดหงิดเลยใช้อุ้งเท้าข่วนปัดๆ หูตัวเอง รู้อย่างนี้ข้าก็ใช้วงกลมนี้เรียกโพ่เทียนซะ ข้าก็จะไม่ต้องถูกผู้หญิงเลวคนนั้นทุบตีแล้ว
โพ่เทียนหัวเราะและเอาอุ้งเท้าข้าออกแล้วพูดกับข้าเบาๆ ”อาเป่าโง่ คราวหน้าจำเอาไว้นะ ต้องเรียกข้าทันทีที่เจออันตรายเลย วงกลมมิตินี่จะส่งข้าไปหาเจ้าทันทีเลย”
เหมียว! อื้ม ข้าจำได้แล้ว โพ่เทียน! ข้าจะจำทั้งหมดเลย
อ้อ โพ่เทียน ข้าจำได้ว่าอาการข้าบาดเจ็บสาหัสมาก ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้วล่ะ ดูเหมือนว่าจะมีพลังมากเลยด้วย ข้าจำได้ว่าหางของข้ากำลังจะหัก แต่ตอนนี้ข้าสะบัดหางไปมาได้ ข้าสะบัดหางแล้วหันไปมอง อืม หางของข้ายังอยู่ดี แต่ข้ารู้สึกไม่สบายตัว ที่แท้ก็ยังมีเลือดติดอยู่บนร่างกายนี่เอง มันแห้งและจับตัวเป็นก้อนแล้ว
เหมียว? โพ่เทียน ทำไมข้าถึงดีขึ้นเร็วขนาดนี้? ข้าถามพลางเขย่าอุ้งเท้า
“อัลทิสช่วยเจ้าไว้ โชคดีที่เขาอยู่ในบ้านพอดี เจ้าขอบคุณเขาได้พรุ่งนี้นะ” โพ่เทียนเข้าใจข้อสงสัยของข้าและอธิบายให้ข้าฟัง
อะ อะไรนะ? ชื่อจำยากจัง แต่คนนี้ช่วยข้าไว้หรือ? พรุ่งนี้ข้าจะขอบคุณเขาอย่างดี แม่สอนข้าว่าต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณคน เรื่องนี้ข้าเข้าใจดี
แต่ตอนนี้ข้าอยากอาบน้ำมาก ไม่สบายตัวเลย
เหมียว ข้าอยากอาบน้ำ! ข้ายื่นอุ้งเท้าไปตรงหน้าโพ่เทียนแล้วชี้ไปที่ขนที่เหนียวๆ บนตัวของข้า ที่มันสีขาวบ้างสีแดงบ้างซึ่งน่าเกลียดมาก
“ไม่ได้ อาเป่า ตอนนี้เจ้ายังอาบน้ำไม่ได้ เจ้ายังอ่อนแรงอยู่” โพ่เทียนรู้สิ่งที่ข้าสื่อ แต่เขาปฏิเสธ
ไม่! ข้าอยากอาบน้ำ มันสกปรกมาก ตั้งแต่ข้าอยู่กับโพ่เทียน ข้าขออาบน้ำบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแปลกมากจริงๆ
อยากอาบน้ำ ข้าอยากอาบน้ำ ไม่อย่างนั้นข้านอนไม่หลับ!
ข้ากลิ้งไปมาบนเตียง กลิ้งไปมาและไม่ลุกไปไหน
โพ่เทียนมองข้าคล้ายหมดหนทาง ฮ่าๆ วิธีนี้ใช้ได้ผล ข้ากลิ้งต่อไปเรื่อยๆ…
“ก็ได้ กลัวเจ้าแล้ว ไปสิ ไปอาบน้ำกันเถอะ” โพ่เทียนถอนหายใจเบาๆ และก้าวมารับข้า จากนั้นก็ออกไปสั่งสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างนอกให้ไปเตรียมน้ำร้อน ข้าเห็นว่าข้างนอกมืดครึ้มและท้องฟ้าก็มีดวงดาว โอ้ ตอนนี้ดึกมากแล้ว โพ่เทียนอยู่เฝ้าข้าตลอดเลยหรือ?
โพ่เทียนดีจริงๆ ถ้าเจ้าบาดเจ็บในวันข้างหน้า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดและรอเจ้าตื่น สิ่งแรกที่เจ้าจะเห็นเมื่อตื่นขึ้นมาก็คือข้าเอง
คราวนี้ โพ่เทียนไม่ได้อาบน้ำกับข้า แต่วางข้าลงในอ่างน้ำอุ่นและอาบน้ำให้ข้าอย่างระมัดระวัง สบายมากเลย โพ่เทียนอาบน้ำให้สบายที่สุด
เกาตรงนี้ให้ข้าด้วย…ตรงนี้ด้วย ที่คางนี่ ข้ายื่นคางและเหลือบมองในขณะที่เพลิดเพลินกับโพ่เทียนที่กำลังเกาให้
ง่วงนอนจังเลย…
หาว อยากนอนแล้ว…
หลับแล้วข้าก็ไม่สนใจหรอกว่าโพ่เทียนอาบน้ำให้ข้าอย่างไร เช็ดตัวให้แห้งและอุ้มข้าไปนอน ข้าหลับไปจนเช้าและตื่นขึ้นท่ามกลางไออุ่นของท้องฟ้า
เหมียว หลับสบายมากเลย
ทันทีที่ข้าลืมตาขึ้น ข้าก็เห็นใบหน้ายิ้มแย้มที่อ่อนโยนของโพ่เทียน
“อาเป่า ตื่นเถอะ มากินของอร่อยเร็ว” โพ่เทียนดีจริงๆ รู้ด้วยว่าข้าหิวแล้ว
แต่บนโต๊ะนั่นมันของอะไรกัน!
ไม่มีเนื้อย่าง ไม่มีผลไม้หวานๆ! มีเพียงโจ๊กอ่อนๆ ที่เป็นน้ำทั้งหมด ที่ยิ่งโกรธคือโจ๊กจานนี้ไม่มีเนื้อสับเลยด้วย!
ไม่! ข้าไม่อยากกินอันนี้ ข้าอยากกินเนื้อย่าง! ข้าอยากกินผลไม้หวานๆ!
ข้าผลักจานออก โพ่เทียนก็ผลักกลับมาอีกครั้งและพูด ”อาเป่า เจ้ายังอ่อนแออยู่ อาการบาดเจ็บของเจ้าเพิ่งจะดีขึ้น ไม่เหมาะที่จะกินของที่หนักมากเกินไปนะ”
ไม่เอา ข้าจะกินเนื้อย่าง! อยากกินเนื้อย่างสดๆ นุ่มๆ อยากกินผลไม้หวานหั่นบางๆ! ข้าตะโกนเสียงดังและส่ายหัวอย่างแรง
“อาเป่าต้องเชื่อฟังนะ จะได้หายเร็วๆ นะ รู้หรือไม่?” เสียงของโพ่เทียนเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อย
ฮือๆ ก็ได้ ข้ามองโพ่เทียน ข้าจะกิน โพ่เทียนจะได้มีความสุข
แต่มันแย่มาก แหวะ…ไม่อร่อยเลย ไม่มีรสชาติเลยสักนิด ข้าแลบลิ้นออกไป แต่ก็ยังพยายามกินสิ่งเหล่านี้ ข้าไม่อยากให้โพ่เทียนไม่มีความสุข แม้ว่ามันจะไม่อร่อยเลยจริงๆ ข้าไม่ชอบเลยสักนิด
ข้ากินจนเสร็จและหันไปมองโพ่เทียน แต่เห็นว่าสีหน้าของโพ่เทียนแปลกไปเล็กน้อย ท่าทางแบบนี้พ่อกับแม่มักจะทำให้ข้าเห็น เลย์แลนด์บอกว่ามันเป็นการแสดงออกว่าปวดใจ
โพ่เทียนกำลังปวดใจ? ทำไม?
“อาเป่า มา ข้าอนุญาตเพียงนิดหน่อยเท่านั้นนะ รู้หรือไม่?” โพ่เทียนยื่นเนื้อย่างชิ้นเล็กๆ มาให้
ว้าว! กลิ่นหอมมาก! ข้ารีบวิ่งไปพร้อมกับร้องเหมียวและกลืนเนื้อชิ้นเล็กชิ้นนี้ไปในคำเดียวเลย เหมียว กลิ่นหอมมาก โพ่เทียน เจ้าช่างใจดีเหลือเกิน
โพ่เทียนยิ้มและลูบหัวของข้า
“อ้าว มาทำอะไรแต่เช้า?” เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น น้ำเสียงแบบนี้ฟังไม่สบายเลยจริงๆ น้ำเสียงนี้คล้ายกับคนในตระกูลของข้า คนที่ข้าเกลียดมาก คนคนนั้นที่เดินไปตามหุบเขาทั้งวันและคุยกับผู้หญิง ผู้หญิงหลายคนชอบอยู่กับเขา หลังจากที่เลย์แลนด์แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้แล้วนางก็ไปหาเขาเช่นกัน เลยแลนด์บอกว่าเขาหล่อมาก ถูกใจสาวๆ มาก แต่ข้าก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่จะต้องชอบเลย
เสียงนี้เหมือนกับเสียงของผู้ชายที่น่ารังเกียจคนนั้นเลย ดังนั้น ข้าไม่ชอบผู้ชายคนนี้ ยังไม่ได้เห็นตัวข้าก็ไม่มีความสุขแล้ว
“อัลทิส มากินอาหารกันเถอะ” โพ่เทียนพูดเบาๆ
อะไรนะ? คนที่ช่วยข้าที่โพ่เทียนเล่าให้ฟังหรือ?
อา…หากเป็นกรณีนี้ ข้าแทบจะไม่เกลียดเขาเลย เพราะเขาช่วยชีวิตข้าไว้ อืม ข้าควรจะขอบคุณเขา จะขอบคุณเขาด้วยอะไรดี? ข้ามองบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อยและลังเล โพ่เทียนไม่ยอมให้ข้ากินของพวกนี้ ข้าให้เขากินคงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง?
ข้าเดินไปที่จานขนมปังและเริ่มใช้อุ้งเท้าดันจานขึ้น
“อาเป่า เจ้ากินของพวกนี้ไม่ได้” โพ่เทียนหยุดข้าทันทีที่เห็น
ไม่ โพ่เทียน ข้าไม่ได้กินเอง
ข้าไม่ได้สนใจที่โพ่เทียนห้ามและผลักจานไปข้างหน้า ในที่สุดก็ผลักไปจนถึงหน้าเขา
เฮ้ อาอะไรซีนะ ชื่ออะไรสักอย่าง นี่ให้เจ้า ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ แม้ว่าข้าจะรู้ว่าแค่อาหารมันไม่เพียงพอที่จะขอบคุณ แต่ข้าจะขอบคุณอีกครั้งในอนาคต ข้าทำท่าทางไปให้เขาแล้วร้องเหมียว
“ให้ข้าหรือ?” เสียงของเขาดูแปลกใจแล้วถามด้วยการนิ้วชี้ไปที่ตัวเอง
อืม มอบให้เจ้า ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ ข้าพยักหน้าและมองคนตรงหน้า อืม หน้าตาดีนะ คนคนนี้หน้าตาดีมาก ดวงตาของเขาคล้ายกับผู้ชายที่ข้าเกลียดคนนั้น แต่เมื่อเทียบกับโพ่เทียนก็ยังห่างอยู่อีกไกลเลย!
โพ่เทียนของข้าหล่อที่สุดอยู่แล้ว ข้าทำท่าทางไปที่จานและพยักหน้าให้เขา จากนั้นก็หันหลังและเดินไปหาโพ่เทียน
จู่ๆ ที่แห่งนี้ก็เงียบลง ทำไมมันเงียบจัง?
ข้าเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปรอบๆ เห็นลีน่าอยู่ข้างๆ มองตรงมาที่ข้า ดูเหมือนจะมีดาวดวงเล็กๆ ในแววตาของนางนะ เกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนั้นที่ชื่อแวนซ์ก็จ้องมาที่ข้า อาซี (อัลทิส) ก็จ้องข้าแล้วมองจานขนมปังอย่างงุนงง แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมาน้อยๆ