เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 375
“เจ้า เจ้า…” ในที่สุดโพ่เทียนก็ตื่น โพ่เทียนมองข้าแล้วอ้าปากค้าง แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
“เหมียว? โพ่เทียนเป็นอะไรไป?” ข้าเข้าไปใกล้โพ่เทียน แต่เห็นเงาของคนคนหนึ่งจากแววตาของเขา เหมียว สวยมาก! คนที่สวยงามขนาดนี้อยู่ในแววตาของโพ่เทียนได้อย่างไร สวยกว่าพี่เฉว่คนสวยของเผ่าเราเสียอีก ไม่ใช่สิ! โพ่เทียนกำลังมองมาที่ข้า นี่คือข้าไม่ใช่หรือ? ข้าสวยกว่าพี่เฉว่อีก…ว้าว! จริงหรือเนี่ย? ข้าจ้องคนที่อยู่ในแววตาของโพ่เทียนแล้วโบกมือ คนในแววตาของเขาก็โบกมือเช่นกัน เหอะๆ นั่นคือข้าหรือ?
“เหมียว โพ่เทียน ข้าเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์แล้ว เหมียว!” ข้ากระโดดไปข้างหน้าอย่างมีความสุขและกอดโพ่เทียนไว้ เอ่อ ดูเหมือนจะแตกต่างไปนะ โพ่เทียนตัวเล็กลงไปเลย
“อา อาเป่า?” น้ำเสียงของโพ่เทียนดูแปลกๆ ทำไมเขาถึงตัวแข็งแบบนี้ล่ะ?
“โพ่เทียนหนาวหรือ?” ข้าหันไปมองด้วยความสงสัย ใช่สิ ข้าเอาผ้าห่มออกหมดเลย โพ่เทียนคงจะหนาวแน่ๆ
โพ่เทียนยังคงอ้าปากค้างและไม่พูดอะไร
“เหมียว โพ่เทียน คลุมไว้จะได้ไม่หนาวนะ” ข้าผละจากโพ่เทียนแล้วเดินไปหยิบผ้าห่ม แต่กลับพบเรื่องแปลก ข้ารู้ว่าด้านบนของผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน ด้านบนของผู้หญิงจะมีเนื้อนุ่มๆ สองชิ้น ผู้ชายจะไม่มี แต่ว่าด้านล่างก็ไม่เหมือนกันด้วยหรือ?
ข้าเคยเห็นเลย์แลนด์อาบน้ำ ด้านล่างก็เป็นแบบนั้น ข้าก้มลงมองตัวเองก็เหมือนกับเลย์แลนด์ จากนั้นก็หันไปมองด้านล่างของโพ่เทียน มันมีเสื้อบางขวางขวางอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่ามันยื่นออกมา
“เหมียว นี่คืออะไร?” โพ่เทียนซ่อนอะไรไว้ด้านล่างหรือ?
“เหมียว! โพ่เทียน อันนี้?” ข้าหันไปมองโพ่เทียนอย่างสับสน แต่ก็แปลกใจที่พบว่าหน้าของโพ่เทียน เปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ว
“อาเป่า!” เอ๋ อุณหภูมิของโพ่เทียนสูงมากหรือ? ทำไมร่างกายของโพ่เทียนถึงสั่นล่ะ?
แย่แล้ว! เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะไม่สบายเพราะว่าข้าเปิดผ้าห่ม และตอนนี้ก็เป็นไข้! แย่แล้ว แบบนี้ลำบากแน่ เจ้าต้องกินสมุนไพรที่มีรสชาติแปลกๆ นะ เหมียว มันรสชาติแย่มาก เป็นความผิดข้าเองที่ทำให้โพ่เทียนไม่สบาย
“โพ่เทียน เจ้าไม่สบาย แย่แล้ว รีบนอนลงแล้วห่มผ้าห่มนะ ข้าจะไปเรียกลีน่า” ข้ารีบคว้าผ้าห่มมาห่มบนตัวของโพ่เทียน จากนั้นก็กำลังจะกระโดดลงจากเตียงไปหาลีน่า
“หยุด อาเป่ากลับมา!” เสียงของโพ่เทียนดูโกรธเล็กน้อย เขาคว้าแขนข้าแล้วดึงข้ากลับไป โพ่เทียนโกรธข้าแล้ว เหมียว ไม่เอานะ
“โพ่เทียน ขอโทษ เหมียว ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าไม่สบาย ขอโทษนะ ฮือๆๆ อย่าโกรธข้าเลย” ข้าหันไปมองโพ่เทียนอย่างกังวล โพ่เทียนจับมือข้าและดึงข้ากลับไปบนเตียง
“ไม่ใช่! อาเป่า ข้าจะโกรธเจ้าได้อย่างไรกัน” เสียงของโพ่เทียนอ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่หน้าเขาแปลกๆ นะ แดงขนาดนี้เลย? แถมยังหายใจหอบด้วย? อาการป่วยมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ!
“เหมียว ไม่ได้โกรธข้าหรือ? จริงหรือ?” ข้าหันไปมองโพ่เทียน แต่เห็นว่าใบหน้าของโพ่เทียนอยู่ใกล้ข้ามากกว่าเมื่อก่อนมาก
“อืม ข้าจะโกรธได้อย่างไร แต่อาเป่า เจ้าจะเดินเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้าแบบนี้ไม่ได้นะ” โพ่เทียนหน้าแดงมาก ฮือๆ ข้าเป็นห่วงจัง อาการป่วยนี้จะแย่ลงไปอีกหรือไม่?
“โพ่เทียน เจ้าไม่สบายหนักเลย ข้าขอโทษ ทุกอย่างเป็นเพราะข้าเอง” ข้านึกถึงมันอีกครั้ง แต่กลับถูกโพ่เทียนห่อด้วยผ้าห่มไว้มิดชิดและแยกจากร่างของโพ่เทียน ฮือๆๆ เขาบอกว่าเขาไม่ได้โกรธแต่เขาไม่ยอมกอดข้าแล้ว
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ป่วย” โพ่เทียนดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่ป่วยหรือ?” ข้าไม่เชื่อ หน้าแดงมากขนาดนั้น เมื่อกี้ก็ตัวร้อนด้วย
“อาเป่า เจ้ากลายเป็นมนุษย์ได้อย่างไร? ดูเหมือนเจ้าจะมีพลังไม่พอนี่ ตอนนี้เจ้าก็พูดได้แล้วด้วย” เสียงของโพ่เทียนสั่นเล็กน้อย เขามองตรงมาที่ข้า ข้าใจสั่นและกลัวอยู่ในใจ
“ข้า ข้าก็ไม่รู้ ตื่นมาก็เป็นแบบนี้แล้ว” ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอาละ อาเป่า เจ้าหยุดเคลื่อนไหวก่อน ข้าจะขอให้ลีน่ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” โพ่เทียนพูดจบก็จะลุกขึ้น
เหมียว! โพ่เทียนโกรธแล้ว ฮือๆๆ โพ่เทียนไม่สนใจข้าแล้ว ทุกครั้งเวลาตื่นเขาจะต้องอุ้มข้าไปด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับทิ้งข้าไว้แล้วไปคนเดียว!
“โพ่เทียน ข้าขอโทษ ฮือๆๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าป่วย เจ้าอย่าเมินข้าได้หรือไม่?” ข้าเศร้ามาก เขาไม่สนใจข้าอีกต่อไปแล้ว เขาไม่กอดข้าอีกต่อไปแล้ว
“ไม่ใช่นะ อาเป่า อย่าร้องไห้สิ” โพ่เทียนนั่งลงบนเตียงอีกครั้งและเอื้อมมือของเขามาเหมือนว่าเขาอยากจะลูบหัวข้า แต่ก็หยุดไปอีกครั้ง ไม่ได้วางมือลงมา
“ฮือๆ โพ่เทียน เจ้ายังบอกว่าเจ้าไม่โกรธอีกหรือ เจ้าไม่ลูบหัวข้าแล้ว” ข้าเศร้ามากจนน้ำตาไหลออกมาเต็มไปหมด ใจก็รู้สึกปวดร้าว “ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้าป่วยนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ข้าขอโทษ โพ่เทียน อย่าโกรธข้าเลยนะ… ” โพ่เทียนเมินข้า ข้ารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งโลกทิ้งข้าไปแล้ว ข้าจะต้องเหลือตัวคนเดียวอีกครั้ง
“อาเป่า อาเป่า…อย่าร้องสิ ไม่ต้องร้องนะ คนโง่ ข้าจะโกรธเจ้าได้อย่างไรกัน?” เสียงของโพ่เทียนดูสั่นเครือเหมือนว้าวุ่นอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นน้ำเสียงที่ปวดใจด้วย? โพ่เทียนปวดใจหรือ?
“แต่ แต่โพ่เทียนไม่ลูบหัวข้าแล้ว เมื่อก่อนเจ้าจะลูบหัวข้าอย่างอ่อนโยนเสมอเลย” ข้าเงยหน้าขึ้นมองโพ่เทียนด้วยสายตาพร่ามัวจากน้ำตา
“อาเป่า อย่าร้องเลยนะ มาสิ ข้าลูบหัวๆ” โพ่เทียนเอามือมาลูบหัวข้าเบาๆ
เหมียว อบอุ่นจัง นี่คือโพ่เทียน นี่สีคือโพ่เทียนที่ข้าคุ้นเคย ข้ากระโดดขึ้นและกำลังจะกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของโพ่เทียน
แต่เรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น! โพ่เทียนหลบออกไปอย่างรวดเร็ว ข้ากระโดดใส่อากาศและล้มตัวลงนอนบนเตียง จากนั้นโพ่เทียนก็รีบหยิบผ้าห่มมาให้ข้า
น้ำตาข้าไหลออกมาอีกครั้ง
โพ่เทียนไม่ชอบข้าแล้ว เขาไม่ปฏิบัติกับข้าเหมือนเคย เขาโกรธและไม่ชอบข้าอีกต่อไปแล้ว บางทีข้าอาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังแล้วข้าก็ต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง
อะไรคือที่บอกว่าให้อยู่กับเขาตลอดไป อะไรคือที่บอกว่าอย่าหายไปจากสายตาของเขาอีก ทั้งหมดนี้เป็นของปลอม ไม่ใช่เรื่องจริงเลย!
ข้าเงียบ ไม่เห็นอะไรในสายตาแล้ว
“อาเป่า? อาเป่า…” เสียงต่ำของโพ่เทียนพูดขึ้น มีความกังวลอยู่ในเสียงนั้นด้วย ปลอม ปลอมทั้งหมด!
ข้าเงียบและนั่งลงเช็ดน้ำตา จากนั้นก็ลุกจากเตียงแล้วเดินออกไป ในเมื่อโพ่เทียนไม่ต้องการข้าแล้ว ข้าจะไปหาจิงเฟิง
“อาเป่า เจ้าจะไปไหน? กลับมาก่อน เจ้ายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย เจ้าออกไปแบบนี้ไม่ได้” โพ่เทียนรีบวิ่งตามไปโดยที่ยังถือผ้าห่มอยู่ในมือ
“เอาเกล็ดของจิงเฟิงคืนมา” ข้าหันไปมองโพ่เทียน แต่โพ่เทียนเอาห่มผ้ามาคลุมข้าไว้ เจ้ากำลังทำอะไร! ในเมื่อไม่สนใจข้าแล้ว ยังจะมาห่มผ้าอะไรอีก?
“เป็นอะไรไปอาเป่า?” น้ำเสียงของโพ่เทียนเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น แต่ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาสับสนอะไร? ในเมื่อเจ้าไม่สนใจข้า ทำไมเจ้าถึงยังมีท่าทีเช่นนี้อยู่?
“ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการข้าแล้ว ข้าจะอยู่ที่นี่ไปทำไม? จิงเฟิงบอกว่าข้าไปหาเขาได้ ตอนนี้เขาเป็นญาติคนเดียวของข้า” ข้าพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา
“อาเป่า!” จู่ๆ เสียงของโพ่เทียนก็ดังขึ้น เขารีบวิ่งเข้ามาจับไหล่ข้าแล้วถามอย่างร้อนใจ “เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?”
“เจ้าไม่ลูบหัวหรือกอดข้าแล้ว” ข้าทนไม่ไหวและร้องไห้ออกมา พอยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งเสียใจ ทำไมเจ้าถึงไม่ต้องการข้าแล้วล่ะ?
“อาเป่า ฟังข้านะ ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น จริงๆ นะ! เพราะว่าเจ้ากลายเป็นมนุษย์อย่างกะทันหัน ดังนั้น ดังนั้น…” โพ่เทียนยืนตรงหน้าข้าและพูดอย่างตะกุกตะกัก
“เจ้าไม่ลูบหัวข้าแล้วก็ไม่กอดข้า ทั้งๆ ที่เจ้ากอดข้าทุกวัน” ข้าเสียใจ ข้าเสียใจมาก
“อาเป่า ฟังข้านะ มันไม่ใช่แบบนั้น เจ้าคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับข้านะ” โพ่เทียนดูกังวลมาก
“สำคัญ?” ข้ามองโพ่เทียน แต่กลับเห็นหน้าของเขาแดงก่ำ
“ใช่ อาเป่า ข้าไม่กอดเจ้าเพราะเจ้าเป็นผู้หญิงแล้วก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้า รู้หรือไม่? ข้า ข้าเป็นผู้ชาย ข้าทำแบบนี้ไม่ได้รู้หรือไม่? แม่ของเจ้าสอนไว้หรือไม่? ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายทำแบบนี้ไม่ได้” โพ่เทียนเริ่มกังวลมากขึ้นแล้ว
“ข้ารู้ แต่ข้าสัญญาว่าจะแต่งงานกับเจ้าแล้ว และเจ้าก็ช่วยข้าอาบน้ำและนอนกับข้า ทำไมเจ้าถึงกอดข้าไม่ได้ล่ะ?” ข้าไม่เข้าใจ ข้าก็บอกไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือว่าจะแต่งงานกับเจ้า?
“หา?” โพ่เทียนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
“ไม่ใช่หรือ เจ้าบอกว่าอยากให้ข้าอยู่กับเจ้าตลอดไปแล้วข้าก็สัญญาว่าตราบใดที่เจ้าอาบน้ำให้ข้า ให้อาหารอร่อยๆ กับข้า กอดข้านอน ข้าก็จะอยู่กับเจ้าแล้วก็แต่งงานกับเจ้าไง” ข้ากังวลและแสดงท่าทางออกไป
“อ่า…” สีหน้าของโพ่เทียนดูแปลกๆ “แต่อาเป่า เจ้าเพิ่งพูดได้วันนี้ไม่ใช่หรือ? ข้าไม่เคยได้ยินที่เจ้าพูดมาก่อนเลย…”
อะไรนะ? ข้าอึ้ง ทำไมข้าถึงลืมได้นะว่าข้าเคยพูดไม่ได้ ข้าบอกว่าข้าจะแต่งงานกับโพ่เทียน แต่โพ่เทียนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เช่นนั้นก็แสดงว่าโพ่เทียนไม่เคยเห็นด้วยหรือ? เขาไม่ได้คิดที่จะแต่งงานกับข้าหรือ?
ข้าตกใจและสะอื้นออกมา ”เช่นนั้น เช่นนั้นโพ่เทียนก็ไม่ชอบข้าและไม่อยากแต่งงานกับข้าใช่หรือไม่?”
“หา?” โพ่เทียนตะลึงไปอีกครั้ง
“โพ่เทียนไม่ชอบข้าแล้ว…” ข้า ข้าควรทำอย่างไร?
“ไม่ใช่นะ อาเป่า ข้าชอบอาเป่าที่สุด อาเป่าไม่ร้องไห้นะ” โพ่เทียนเดินเข้ามาหาข้าและเอื้อมมือออกมาจะกอดข้า แต่ชะงักไปก่อน